ซึ่งบทความนี้คัดลอกมาจากล็อคอินท่านหนึ่งในพันทิปที่ชื่อว่า ยืมล็อกอินเค้ามาโพสต์ (I-FEEL-BLUE) น่ะครับ
เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์เลยขอก๊อปข้อความมาบอกกล่าวในบล็อคไว้บ้างครับ
ตามนี้เลยครับ ^ ^
-------------------------------------------------------------
1. เมื่อยังไม่ได้ออกตั๋ว จะเป็นการสำรองที่นั่งไว้เฉยๆ เพื่อดูราคา หรือ hold ที่
จนกว่า visa จะออก โดยมากคุณจะได้เป็นรหัสการจอง ตัวเลข+ตัวอักษรภาษา
อังกฤษ 6 หลัก ที่เรียกว่า PNR เช่น 6RV4GA
2. PNR หรือใบจองที่ปริ๊นท์ออกมาให้ดู (itinerary) ยังไม่นับเป็นตั๋วเพื่อใช้ขึ้นเครื่องได้
3. สายการบินจะเป็นผู้กำหนด Deadline หรือระยะเวลาว่าต้องออกตั๋วไม่เกินวันที่เท่าไหร่
ถ้าไม่ออกภายในวันนั้นๆ สายการบินจะทำการยกเลิกที่นั่งที่ได้สำรองไว้
ซึ่งแม้จะกำหนดวันไว้ชัดเจนแต่สายการบินมีสิทธิ์ยกเลิกที่นั่งได้ตลอดเวลา
4. สำหรับบางเอเจ้นท์ อาจจะยกเลิกที่นั่งที่ได้จองไว้ หาก deadline กระชั้นเข้ามาและไม่มีวี่
แววว่า ลูกค้าจะเข้ามาชำระเงิน เนื่องจากหากไม่ยกเลิกที่นั่ง ทำให้เกิดการกันที่นั่งในระบบของ
สายการบิน และอาจโดนเรียกเก็บค่าธรรมเนียมย้อนหลังได้
5. หลังจากคุณชำระเงินออกตั๋วแล้ว สิ่งที่คุณ "ต้องได้รับ" คือ หมายเลขตั๋ว 13 หลัก
3 หลักเเรก เป็นรหัสสายการบิน เช่น การบินไทย จะขึ้นด้วย 217-XXXXXXXYYY
สายการบินเดลต้า จะขึ้นด้วย 006 ตัวอย่าง 006-1234567890
6. สิ่งที่คุณต้องทำคือ หลังจากวันออกตั๋ว 1 วัน โทรเช็คกับสายการบิน หมายเลขตั๋ว 13 หลักนี้
มีอยู่จริงหรือไม่ ผู้โดยสารชื่อนี้หรือไม่ ใช้เดินทางได้ตามวันเวลานี้หรือไม่
7. ถ้าคุณไม่มั่นใจเอเจ้นท์ ซื้อตรงกับสายการบินเถอะ บางครั้งแพงกว่า แต่มีหลายๆ ครั้ง
ที่มีโปรโมชั่น ที่ถูกจนแม้แต่เอเจ้นท์ก็ไม่อยากเสียเวลาขายให้ (ได้คอมน้อยมาก)
8. ถ้าต้องพึ่งมืออาชีพในการแนะนำสายการบิน ให้เลือกเอเจ้นท์ที่มั่นใจได้ มีที่อยู่แน่นอน
มีหน้าร้าน มีจำนวนพนักงานพอสมควร เปิดมานาน มีหลักฐานให้ดูได้ถ้าคุณร้องขอ
เลขบัญชีควรเป็นชื่อบริษัท แต่ถ้าเป็นชื่อบุคคล ควรตรวจสอบก่อนว่าเกี่ยวข้องเป็นอะไรกับบริษัท
-------------------------------------------------------------
ยังไงจะจองตั๋วผ่านเอเย่น ก็ต้องระวังกันนิดครับ แม้มันจะถูกกว่า แต่โดยรวมก็ต้องบอกว่า ราคามันยังแพงอยู่ดี
ระวังและป้องกันไว้ก่อนเป็นดีครับ ^ ^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น