Eminem "The Monster" (2nd) ft. Rihanna

นานๆจะได้เห็นนะครับ กับนักร้องที่ featuring กันมากกว่า 1 เพลงจากมากกว่า 1 อัลบั้ม และเป็นเพลงฮิต!!
ตอนนี้ Eminem ก็ได้ปล่อย audio ของเพลงใหม่ในชื่อว่า The Monster ออกมาครับ ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่ featuring กับ Rihanna อีกครั้ง!!

ซึ่งก่อนหน้านี้ คงจำกันได้ กับเพลงที่ดังมากๆ นานหลายเดือน ยอดวิวกว่า 600 ล้านใน Youtube อย่าง Love the way you lie
เพลงนี้ก็คือเพลงที่ Eminem ft. Rihanna ที่ดังมากๆที่หลายคนจำได้แม่นยำ (จริงๆผมไม่ใช่ทั้งแฟนเพลงของทั้ง Eminem หรือ Rihanna นะ แต่ Love the way you lie นี่คงไม่มีใครไม่รู้จัก)
แต่นานๆทีจะเห็นนะ ที่จะมา ft. ซ้ำกันอีกครั้ง!! (ส่วนใหญ่ก็ไม่ featuring กันข้ามอัลบั้มอ่ะ)

ลองฟังดูครับ Eminem - The Monster ft. Rihanna
ตัวนี้ยังเป็นคลิป Audio ล้วนๆนะครับ รอดู Official Music Video อีกทีครับ ว่าจะทำออกมาดีแค่ไหน
และเพลงนี้จะดังเท่า Love the way you lie หรือไม่นั้น ... ผมว่าไม่น่าจะดังเท่า เพราะเพลงเดิมไต่อันดับไว้ดีมากจริงๆ (คือไม่ใช่แค่อันดับดี แต่อันดับดีและดีคงตัวนานเป็นเดือนๆ) แต่เพลงนี้ก็น่าจะทำอันดับได้ดีมากๆเช่นกันครับ แต่จะได้นานแค่ไหน รอดูกันอีกทีครับ ^ ^

รีวิว 239 ร้านอาหาร กาแฟ เบเกอรี่ จ.นครสวรรค์ ^ ^

ร้าน 239 เป็นร้านอาหารที่เคยเห็นกับคุณภรรยาครั้งหนึ่งครับ อยู่ในปั้ม ESSO ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านเวดดิ้งมายเดียร์น่ะครับ กะว่าว่างๆก้น่าจะมาลองทานดู เพราะดูจากภายนอกแล้ว ร้าน 239 เป็นร้านที่ดูสวยน่านั่งดี
แต่เนื่องจากร้านมันซ่อนแอบอยู่ ... ก็เลยลืมไปเลยว่ามีร้านนี้อยู่ ... จนได้มีโอกาสเข้าไปนครสวรรค์ แล้วน้องที่ไปด้วยเสิร์ชเจอ ก็เลยลองไปกินกันดูตอนนั้นเลย ... ก็เลยเป็นที่มาของรีวิวร้าน 239 แห่งนี้ครับ ^ ^

บรรยากาศในร้านครับ ดูดีทีเดียว
อีกสักมุม ^ ^
ร้านนี้ขายทุกอย่างครับ เมนูหลักๆเป็นเครื่องดื่มครับ ... จึงน่าจะเรียกได้ว่า ร้าน 239 เป็นร้านกาแฟ
แต่มันก็มีอาหาร มีเบเกอรี่อยู่อีกจำนวนไม่น้อยครับ!! ... ร้านนี้จึงเป็นทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านเบเกอรี่ไปในตัว ครบครันมากๆครับ

สั่งเสร็จ เมนูเครื่องดื่มก็มาถึงก่อนครับ อร่อยดีครับ แก้วส้มๆทางขวาคือน้ำแครอทคัดเอากากทิ้งน่ะครับ สีดูเข้มข้นมากๆ
ส่วนอาหารนั้น มีทั้งอาหารจานเดี่ยวและกับข้าวครับ เมนูไม่เยอะมาก แต่ก็มีครบทุกๆแนวครับ
อย่างจานนี้ สปาร์เก็ตตี้ผัดพริกสด + เบคอนครับ อร่อยดี
จานนี้ข้าวแพนงหมู จานนี้ไม่ได้ชิม แต่ก็เห็นบอกว่าอร่อยดีเช่นกัน
จานนี้ข้าวผัดพริกเผาอะไรสักอย่าง รสชาติดีครับ จืดนิด แต่เครื่องเทศเข้มข้น ซึ่งเหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่มาทานอาหารร้านนี้อยู่แล้ว (น้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพ) แต่โดยส่วนตัวนั้น ผมว่ารสชาติดีสำหรับผมครับ ไม่จืด (ได้ชิมไปช้อนนึง)
นอกนั้น ของกินเล่นก็มีโรตี ให้มาสองชั้นงี้เลย!!
มีสโคน ... นอกจากนี้ก็มีเค้ก มีขนมปังอื่นๆอีกเยอะครับ
ลองดูครับ มีบราวนี่ มีฟรุตเค้ก เค้กโน้นนี่ มีสโคน มีขนมปังสังขยาด้วย
แล้วก็นี่ครับ เมนูน้ำผลไม้ของเค้าครับ
โดยรวม ร้าน 239 เป็นร้านที่ดีทั้งความน่านั่ง และรสชาติของตัวอาหารครับ นอกจากนั้นอาหารยังมีครบทุกแนว อยากจิบกาแฟเย็นๆ ไม่ได้หิวมาก ก็ไปนั่งได้ หรือหิวๆ อยากทานอาหารเต็มๆจาน ก็เหมาะเช่นกันครับ ^ ^

พาชม Centara Grand Phratamnak Pattaya เซ็นทาราเปิดใหม่ ที่พัทยา!!

ในที่สุดก็เผยโฉมออกมาจนได้ครับ กับ Centara Grand Phratamnak Pattaya - เซนทาราแกรนด์พระตำหนักพัทยา
... มีชื่อว่า Grand แบบนี้ แสดงว่าเป็นรีสอร์ทตัวใหญ่ของเซ็นทาราเค้าล่ะครับ ... จะน่าสนใจแค่ไหน ลองมาดูรูปโรงแรมรีสอร์ทเปิดใหม่จากเครือเซ็นทาราแห่งนี้กันครับ ^ ^

เริ่มด้วยภาพบางส่วนจากวิวของสระว่ายน้ำดาดฟ้า ที่ได้ชมวิวทะเลจากเขาพระตำหนักเต็มๆครับ!!
ตัวรีสอร์ทของ Centara Grand Phratamnak Pattaya นั้น ไม่ติดทะเลนะครับ แต่ก็เกือบติดล่ะครับ!! เดินด๊อกแด๊กแป๊บเดียว ก็ถึงชายหาดแล้วจ้า (ไม่ถึง 100 เมตรด้วยซ้ำมั้งครับ)
ซึ่งวิวที่เห็นก็เป็นตัวยืนยันได้ครับ

ว่าแล้วก็มาดูห้องพักกันบ้าง โดยสำหรับห้องพักของ Centara Grand Phratamnak Pattaya นั้น จะออกแนวหรูหรา โทนโกลเดนท์ครับ
สไตล์ลักซูรี่แบบผู้ใหญ่ๆครับ ที่นี่จะคนละอารมณ์กับ Centara Grand Mirage Beach Resort โดยสิ้นเชิงครับ เน้นความหรูหราสงบเงียบ ดื่มด่ำกับบรรยากาศเน้นๆครับ (ที่มิราจจะเหมาะกับทุกวัย มีสีสันสดใส มีสระว่ายน้ำที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ประมาณนั้น)
จากห้องน้ำครับ ... เปิดโล่งเต็มๆบานเลยครับ!! -*-
เทรนด์เดี๋ยวนี้ นับวันจะยิ่งเปิดยิ่งโล่งกว่าเดิม ... ใครไม่ใช่คู่รักหรือไม่ถนัดก็ปิดม่านเอาละกันจ้า
วิวนั้น จะได้เห็นเขาพระตำหนักและโรงแรมคอนโดต่างๆของเขาพระตำหนัก พร้อมมีฉากของทะเลอยู่ลิบๆครับ
ย้อนกลับมาที่วิววสระว่ายน้ำอีกที ผมว่าสวยนะครับ เรียบง่ายแต่ดูดีหรูหราเอาการ
อันนี้เค้าบอกว่าห้องอาหารครับ โซนล็อบบี้ก็แต่งประมาณนี้ครับ โทนดีพบลู จำลองภายใต้ทะเลอันหรูหราครับ ตัดกับโทนทองคำอร่าม
เห็นมีรูปนี้อยู่ในเวบ Official ของเซ็นทาราด้วยครับ น่าจะมีโซนเล็กๆของเซ็นทาราไปตั้งบริเวณชายหาดเขาพระตำหนักด้วย เพราะแม้ตัวรีสอร์ทจะไม่ติดหาด แต่ก็เดินใกล้มากจริงๆครับ
เป็นอีกรีสอร์ทที่น่าสนใจมากๆในทำเลของพัทยาครับ เพราะที่ผ่านมานั้น ทางเซ็นทารามิราจเองก็สร้างชื่อไปเยอะ มีมาเปิดเพิ่มอีกแห่งแบบนี้ คนต้องสนใจแน่นอน
ดูรายละเอียดของ Centara Grand Phratamnak Pattaya เพิ่มเติมได้จากเวบ official ที่ http://www.centarahotelsresorts.com/centaragrand/CGPX/ ได้เลยครับ ^ ^

Central Plaza Nakhon Sawan เซ็นทรัลนครสวรรค์ เปิดแน่!!

ข่าวลือข่าวเล่ามานานครับ กับ Central Plaza Nakhon Sawan ว่าห้างเซ็นทรัลจะมาเปิดแน่ๆที่นครสวรรค์ ซึ่งไม่รู้ลือมาจากไหน
... แต่ตอนนี้ "คอนเฟิร์ม" แล้วครับ!! ว่า Central Plaza Nakhon Sawan มาแน่นอน!! แต่ทำเลนั้น ผิดจากข่าวลือไปเยอะล่ะครับ ^ ^
จากข่าวลือนั้น บอกว่าอยู่ในตัวเมือง ... จนบางคนคิดว่า The Walk ที่กำลังสร้างอยู่น่ะ คือเซ็นทรัล ... ไปซะงั้น

แหล่งข่าวยืนยันแล้วครับ ว่าเซ็นทรัลนครสวรรค์ อยู่ทางไปทางมหาวิทยาลัยเจ้าพระยาครับ
แต่จะอยู่ฝั่งเดียวกับม.เจ้าพระยา หรืออยู่ฝั่งตรงข้าม อยู่ใกล้ม.เจ้าพระยาไหม? ห่างเมืองไกลไหม? หรือไม่ไกลมาก (ไม่ไกลแบบโลตัส) ... ตรงนี้ยังบอกไม่ได้ครับ ทำเลยังไม่แน่นอนขนาดนั้น!!
แต่ที่แน่ๆ อยู่ทางเส้นนั้น แน่นอนครับ!! ไม่ได้อยู่ในเมืองที่เค้าลือกันว่าซื้อที่คนนั้นคนนี้อะไรแต่อย่างใดนะจ้ะ (ปล. ในเมืองจะเป็นเซนทาราแทนครับ แต่ยังอุบไว้ก่อนครับ ว่าตรงไหนอย่างไร)

Updated!!
ตกลงพอจะทราบสถานที่แล้วครับ ห้างเซ็นทรัลนครสวรรค์ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับม.เจ้าพระยาครับ โดยจะอยู่ติดๆใกล้ๆกับ 3 แยก ถนนเลี่ยงเมืองครับ!! (ทางที่ไป Global House) ตามในรูปครับ
คิดว่าคงดูออกนะครับ (คนนครสวรรค์คงดูออกแหละ) พื้นที่ตั้งของเซ็นทรัลนครสวรรค์จะประมาณๆในวงกลมสีชมพูครับ ^ ^

รีวิว บ้านเคียงน้ำ ร้านอาหารริมแม่น้ำจังหวัดตาก

สำหรับจังหวัดตากที่มีแม่น้ำปิงไหลพาดผ่านตัวอำเภอเมืองนั้น แน่นอนว่าร้านอาหารริมแม่น้ำ ต้องมีให้เลือกหลากหลายแน่นอนสำหรับทำเลแบบนี้
ร้านนึงที่ได้ไปชิมมาก็คือร้านที่ชื่อว่า "บ้านเคียงน้ำ" ครับ
ลองมาชมกันครับ ว่าร้านบ้านเคียงน้ำ จ.ตาก เป็นอย่างไรบ้าง ^ ^

ก่อนอื่นเลยครับ เมื่อทำเลของร้านอาหารร้านนี้ ติดอยู่ริมแม่น้ำ ความสวยงามจากการนั่งทานอาหารพร้อมๆวิวแม่น้ำ ย่อมสำคัญ ... ลองดูวิวกันก่อนครับ ^ ^
หรือจะนั่งแบบนอกชานยื่นออกไปแบบนี้ก็มีครับ ... ตอนไปเห็นมีบางมุมกำลังปรับปรุงด้วย
ว่าแล้วก็มาดูเมนูกันเลยดีกว่า ไปทานกับคุณภรรยาแค่สองคนครับ ... สังกับข้าวไป 3 อย่าง
แล้วก็ต้องตกใจกับจานแรก ปลา...ปลาอะไรไม่รู้ จำชื่อไม่ได้ เป็นปลาทับทิมที่เอามาทอดแบบ fish & ship ครับ ชุบเกล็ดขนมปังทอดด้วยนะเนี่ย
ถัดมาคือต้มครับ เป็นต้มยำไก่บ้านใส่ใบมะขามอ่อนครับ ได้เห็ดฟางมาเยอะเหมือนกัน ส่วนเนื้อไก่ก็ไม่เหนียวเกินไป กำลังดีครับ อร่อยครับเมนูนี้
สุดท้ายก็คือผัดฉ่าปลาเนื้ออ่อน เมนูนี้ก็ทำอร่อย
สรุปแล้ว ทั้ง 3 เมนู กินดี กินได้ อร่อยดีทั้ง 3 เมนูครับ รสชาติออกแนวน่าจะถูกปากคนทุกคน แต่ก็ไม่ลดความจัดจ้านนะครับ

ส่วนข้าวสวยที่สั่งมา 1 จาน ได้มาเป็นถ้วยดินเผาแบบนี้ครับ
มีนักร้องมาร้องเพลงด้วย ... เพลงรุ่นป้าแต่เป็นแนวที่ฟังได้ทุกวัยน่ะครับ คล้ายๆไทยเดิม (มั้ง)
พอเริ่มมืด ก็จะเห็นสะพานแขวนสมโภชน์รัตนโกสินทร์ 200 ปี ที่ส่องแสงเปลี่ยนสีเรืองรองที่แม่น้ำครับ
สรุปแล้ว ผ่านครับ อร่อยดี ทำดีทุกเมนู คอยไม่นานด้วยครับ แม้แขกจะเยอะ วิวก็ได้ตามที่คาดหวัง
ใครสนใจก็ไปแวะทานเส้นริมน้ำได้ครับ (อีกฝากของตัวเมืองตากนะครับ) บริเวณนั้นมีหลายร้านเลยครับ ร้านบ้านเคียงน้ำก็หาไม่ยากครับ เพราะป้ายร้านเด่นชัดอยู่ครับ ^ ^

สะพานแขวน จังหวัดตาก แลนมาร์คที่ห้ามพลาด!!

สะพานสมโภช กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี จังหวัดตาก หรือที่รู้จักกันในนามของสะพานแขวน ที่อยู่ที่อ.เมืองตากนั้น เป็นแลนด์มาร์คหลักๆ ถ้าได้มาท่องเที่ยวหรือพักผ่อนที่อ.เมืองตากเลยล่ะครับ
สะพานสมโภช กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี นี้ เป็นสะพานแขวนแท้ๆด้วยนะครับ แขวนจริงจัง เดินโยกและแกว่งเลยครับ ไม่ใช่อย่างสะพานบางแห่ง ที่บอกว่าเป็นสะพานแขวน แต่พื้นเป็นคอนกรีตเชื่อมกันทั้งหมด แล้วเอาลวดมาขึงด้านบนแล้วบอกว่านี่แหละ สะพานแขวนนะจ้ะ

มาดูกันครับ สะพานแขวนแท้ๆ และยาวข้ามแม่น้ำกว้างๆครับ
ผมไปกับคุณภรรยา ตอนประมาณเกือบๆ 5 โมงเย็นครับ ถ่ายมาดูมืดๆ แต่จริงๆยังไม่มืดครับ เพราะผมถ่ายย้อนแสงแล้ววัดแสงที่ท้องฟ้าน่ะครับ
มาตอนเย็น บรรยากาศสบายๆ มีคนมาเดินเล่นที่สะพานกันเยอะเลย สไตล์นักท่องเที่ยวก็เยอะครับ
มองไปทางลานกิจกรรมที่อยู่ใกล้ๆสะพานที่ยื่นไปที่กลางน้ำครับ
มองหันหลังกลับไปแบบไม่ย้อนแสงดูหน่อยสิ ท้องฟ้าสีสวยดีจังเลยครับ ไม่ได้แอบเร่งสีท้องฟ้าเลยนะครับ
มองไปไกลๆ เห็นสะพานที่ข้ามมาจังหวัดตากด้วยครับ
ท้องฟ้าสวยมากๆครับ วันนั้น บรรยากาศบนสะพานดีมากๆ
ลองถ่ายดูพื้นสะพานซะหน่อย ... พื้นเป็นไม้ครับ รถจักรยานวิ่งผ่านได้ครับ ใครเช่นจักรยานมาปั่นผ่านบริเวณนี้ก็ชิวดีครับ อีกอย่างก็คือ ถนนเมืองตากมีรถไม่เยอะครับ ปั่นจักรยานได้ไม่ต้องกลัวรถราอะไรนัก
ดูโครงเสาที่เป็นแกนหลักของสะพานแขวนกันหน่อย
ท้องฟ้าเป็นใจ เข้ากับสะพานดีมากๆครับ เมฆสวยเลยเชียว
เดินกลับมาแล้ว ... กะรอจะชมพระอาทิตย์ตกดิน สีแดงเฉิดฉาน แต่อดครับ เมฆเยอะ ฟ้าเลยเป็นสีฟ้าอยู่อย่างนี้แหละครับ ^ ^"
มาดูวิวด้านข้างสะพานกันบ้าง
จากนั้นก็เดินไปทางท่าน้ำที่เค้าใช้ทำกิจกรรมกัน อยู่ใกล้ๆกับสะพานครับ เดินไปได้ ทางเดินก็มีดอกอะไรไม่รู้หล่นอยู่เต็มไปหมด สวยดีครับ
มองสะพานแขวนในอีกมุม ^ ^
ใครไปเมืองตาก ห้ามพลาดครับ กับสะพานแขวนแห่งนี้ มันเป็นแลนมาร์คที่เด่นสุดในตัวอำเภอเมืองจังหวัดตากแล้วครับ
นอกจากนั้น ในบริเวณนี้ยังเป็นแหล่งรถเข็นขายของกินยามเย็นจนถึงค่ำคืนด้วยครับ ของกินเยอะแยะมากมายครับ น่าอร่อยทั้งนั้น ใครมาเที่ยวตาก ไงๆก็ต้องเจอที่นี่ครับ ^ ^

รีวิว ส้มตำ 100% ร้านอาหารจังหวัดตาก ^ ^

หากใครกระสันอยากจะกินส้มตำจัดๆแบบว่าอยากกินส้มตำมากๆ ... และขณะนั้น คุณอยู่อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก
แนะนำให้ลองไปทานร้านที่ชื่อว่า ส้มตำร้อยเปอร์เซ็นต์ดูครับ!! คนกินกันเยอะ แล้วเท่าที่ได้ลองทานก็จัดว่าอร่อยดีครับ ก็เลยเอามาบอกต่อกันจ้า

ดูรูปเลยครับ คนกินกันตรึม!! คนเยอะมากๆครับร้านนี้ เต็มร้านนั่นล่ะครับ
ป้ายหน้าร้านครับ ส้มตำ 100%
หลังจากได้สั่งเมนูต่างๆครบแล้ว ก็เอาผักเคียงมาก่อนครับ ... มาถึงตรงนี้ก็ปกติดีไม่ได้มีอะไรพิเศษ
ด้านข้างๆของร้านส้มตำร้อยเปอร์เซ็นต์ มีร้านกาแฟและเครื่องดื่มขายด้วย ... น้องคนขายยังเด็กๆ น่าจะม.ต้น แต่ก็ชงได้ดีนะครับ
และแล้ว เมนูแรกก็มา ต้มแซบกระดูกหมูอ่อน ... อร่อยมากๆครับ แซ่บอีหลีประหนึ่งกระดูกหมูต้มซุปเปอร์ แต่นี่คือต้มแซ่บครับ
อีกเมนู ง่ายๆครับ ลาบหมู ... อันนี้ก็กินดีครับ อร่อยผ่าน
และสุดท้าย เมนูที่คุณภรรยาผมชอบทานเป็นพิเศษ ส้มตำปูม้าครับ แต่ปกติผมไม่กิน ไม่ชอบปูไม่สุก
ตอนแรกคุณภรรยาบอกว่า ว้าาา หวานไปนิด ลืมบอกเลยไม่ให้หวาน ... แต่เท่าที่ผมชิมเส้นมันดู ... ก็กลมกล่อมกำลังดีนะครับ ผมว่าโอเคเลยล่ะ แต่แบบว่าคุณภรรยาชอบเปรี้ยวนำเยอะๆ บางทีไม่ต้องใส่น้ำตาลเลยก็ได้
...
ไปๆมาๆ เห็นคุณภรรยากินปูเรียบเลย -*-
คุณภรรยาน่ะ ปากบอกไม่ถูกใจ แต่ดูทีไร กินเรียบทุกที -*-
สรุปแล้ว ผมว่าอร่อยโอเคครับ คนอื่นๆก็น่าจะโอเคเหมือนกัน คนเยอะดีครับ
ดังนั้น หากคุณอยู่จังหวัดตาก อยากหาส้มตำ หรืออาหารอีสานอร่อยๆทาน แนะนำส้มตำ 100% ครับ ^ ^

เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท กับรถไฟความเร็วสูง ดีเสียอย่างไร มองอย่างเป็นกลาง

เรื่องเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท กับรถไฟความเร็วสูงนั้น เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ค่อนข้างจะไร้ความเป็นกลางในสังคมไทย
เสื้อแดงบอกว่ากู้ 2.2 ล้านล้านบาทดีแน่นอนไม่ได้มีอะไรเสียเลย ส่วนเสื้อเหลือง(ตอนนี้ใส่หน้ากาก)บอกว่าคนไทยเป็นหนี้ทั้งชาติไม่ได้มีอะไรดี มีแต่เสีย
วันนี้เลยขอพิมพ์อะไรที่จะพยายามทำให้อ่านง่ายๆ ได้ลองอ่านกันดูครับ ว่าแท้จริงแล้ว รถไฟความเร็วสูงและเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท มีดี มีเสียอย่างไร?

1. เรื่องการใช้หนี้เงินกู้ ที่หลายคนกังขา
การใช้หนี้นั้น รัฐบาลก็ต้องนำรายได้ของรัฐบาล ซึ่งมาจากภาษีประชาชนเป็นหลัก ไปใช้หนี้ครับ
ดังนั้น มองกันผิวเผิน จุดนี้จะเหมือนกับว่าประชาชนต้องเป็นหนี้ตามไปด้วย!! ซึ่งมันก็จริงครับ และจุดนี้คือสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลหยิบมาหลอกฝ่ายที่เกลียดรัฐบาล
ทว่า ... อย่าลืมครับ ว่าการกำหนดภาษีที่ประชาชนต้องจ่าย ไม่เกี่ยวกับหนี้ที่รัฐบาลมี!!
ภาษีที่เราต้องจ่าย ขึ้นกับ "รายได้" ของเราครับ เค้าคิดจากฐานเงินได้และหักออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์
  • รายได้เยอะ = จ่ายภาษีเยอะ
  • รายได้น้อย = จ่ายภาษีน้อย หรือไม่ต้องจ่าย
ดังนั้น กรณีที่รัฐบาลจะเก็บภาษีเราได้มากขึ้น ก็คือกรณีที่ "เรามีรายได้เพิ่มขึ้น" นั่นเองครับ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลมีหนี้เพิ่ม ก็มาเก็บภาษีเพิ่มหรอกนะครับ
สรุปคือ ไม่ว่าจะยังไง รัฐบาลจะหนี้สินอีรุงตุงนังแค่ไหน เราก็เสียภาษีเท่าเดิมถ้ารายได้เราเท่าเดิมครับ
และสิ่งที่รัฐบาล "ลงทุน" เอาไว้จากการกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท ก็คือการทำให้ประชาชน มีรายได้เพิ่มขึ้น!! นั่นเอง
... แต่ถ้าอ่านแค่นี้ ก็อาจจะคิดว่า 2.2 ล้านล้านบาท มีแต่ดีงั้นหรือ? ... อ่านข้อต่อไปครับ ^ ^

2. ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นมันจะไปช่วยเรื่องหนี้ 2.2 ล้านล้านบาทจริงหรือ?
ตรงนี้แหละครับ ที่จะเป็นตัวพิสูจน์ว่า 2.2 ล้านล้านบาท จะอยู่หรือจะรอด
เพราะ!! ไม่เพียงแค่รายได้ต้องเพิ่มขึ้นแล้ว มันต้องเพิ่มมากพอในระดับที่จะเก็บภาษีได้มากขึ้นจนเอาส่วนต่างนั้น ไปใช้หนี้ในแต่ละปีได้!!
ยกตัวอย่างดังนี้ครับ (ตัวเลขสมมุติเพื่อให้เข้าใจง่ายนะครับ)
  • A ปกติ รัฐบาลเก็บภาษีได้ 1,000,000 บาท ไม่ต้องนำเงินส่วนนี้ไปใช้หนี้อะไร เอาไปพัฒนาประเทศได้เต็มที่เต็มวงเงิน 1,000,000 บาท
  • B รัฐบาลเป็นหนี้ ต้องใช้ปีละ 200,000 บาท ดังนั้นหากรัฐบาลเก็บภาษีได้เท่าเดิมที่ 1,000,000 บาท ก็จะเหลือเงินพัฒนาประเทศเพียง 800,000 บาท
  • C รัฐบาลเป็นหนี้ ต้องใช้ปีละ 200,000 บาท แต่ถ้าเก็บภาษีได้มากกว่าเดิม เป็น 1,300,000 บาท ก็จะเหลือเงินพัฒนาประเทศ 1,100,000 บาท
...
จากข้อ B และ C
จะเห็นว่า ข้อ B แปลว่าขาดทุน!! และข้อ C แปลว่ากำไร!!
ดังนั้น ถ้าประชาชนรายได้มากขึ้น มากพอจะทำให้เก็บภาษีมากกว่าหนี้ที่ต้องชำระรายปี โครงการ 2.2 ล้านล้านบาทจะเป็นโครงการที่ดีมากๆ
แต่ถ้าประชาชนรายได้เท่าเดิม หรือมากขึ้นไม่พอจะเอาภาษีที่ต้องจ่ายเพิ่มไปใช้หนี้ได้ งบพัฒนาประเทศก็จะน้อยลงกว่าเดิมเพราะโดนหักไปใช้หนี้

3. แล้วมีรถไฟความเร็วสูง มันจะทำให้เรามีรายได้ดีขึ้นอย่างไร?
คนที่จะมีรายได้มากขึ้น จะเป็นคนเฉพาะกลุ่มครับ และจะชัดเจนในจังหวัดที่มีเจ้ารถไฟความเร็วสูงนี้ผ่านครับ
เช่น ธุรกิจโรงแรม ร้านค้าต่างๆ คนที่ทำธุรกิจค้าขายแทบทุกประเภทในจังหวัดที่มีรถไฟความเร็วสูง กลุ่มนี้น่าจะรายได้มากขึ้นชัดเจน ไม่น่าจะถึงกับคนไทยทั้งประเทศครับ
โรงแรมก็จะมีคนเข้าพักมากขึ้น ธุรกิจท่องเที่ยวก็จะบูมขึ้น คนก็เข้าออกจังหวัดที่มีรถไฟเพิ่ม การค้าขายดีขึ้น
หรือต่อให้กรณีขนผักที่เป็นประเด็น ถ้าขนทางรถกระบะ ใช้งบ 1,000 ผักเสียหายเป็นมูลค่า 500 เท่ากับใช้ทุนขนส่ง 1,500 บาท
แต่ถ้าขนทางรถไฟฟ้าใช้งบ 1,250 บาท ผักไม่เสียหาย เท่ากับทุนขนส่ง 1,250 บาท ... แบบนี้คนปลูกผักก็กำไรครับ และต้องจ่ายภาษีเพิ่มเพราะกำไรเพิ่ม
แล้วรัฐบาลก็บอกไว้ชัดเจนครับ ว่าเงิน 2.2 ล้านล้านบาทนี้ ไม่ได้ลงทุนแค่รถไฟความเร็วสูง
...
แต่ถ้าอ่านแค่นี้ เราอาจจะคิดว่า อ้าวว!! คนได้ผลประโยชน์มีน้อยนี่นา นี่ทำเพิ่อเอื้อต่อคนบางกลุ่มหรือเปล่า? แล้วชาวไร่ชาวนาล่ะ จะได้ด้วยหรือ?
...
จริงๆคือเราไม่ต้องสนหรอกครับ ว่าใครรายได้เพิ่ม ต่อให้คนที่ได้เงินมากขึ้นมากที่สุดคือเจ้าของห้างพารากอน คนที่จะจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นก็คือเจ้าของห้างพารากอนนั่นเอง!!
และหากรายได้ของรัฐบาลจากภาษีทะลุเป้าตามข้อ C ที่ผมพิมพ์ไว้ในข้อ 2. ... ประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่รถไฟความเร็วสูงผ่าน ก็จะได้ประโยชน์ไปด้วย เพราะงบพัฒนาประเทศเพิ่ม รายได้ที่ถูกส่งไปพัฒนาชุมชนก็จะเพิ่มตาม
...
แต่!! ต้องย้ำจริงๆว่า ภาพแบบนี้จะเกิดได้ ภาษีรายปีที่เก็บได้เพิ่มจากรายได้ที่เพิ่มนั้น ... มันต้องมากกว่าจำนวนหนี้ที่ต้องผ่อนรายปีของรัฐบาลนะจ้ะ ^ ^"

4. สรุป ตกลงมันดีหรือไม่ดี?
สรุปคือ มันเป็นได้ทั้งดี และไม่ดีครับ!! ไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆอย่างที่เสื้อแดงว่า และไม่ได้มีแต่เรื่องร้ายๆอย่างที่เสื้อเหลืองว่า
ดีก็คือได้กำไร ไม่ดีก็คือขาดทุน

5. แลัว มันมีโอกาสจะขาดทุน หรือกำไรมากกว่ากัน
ส่วนตัวมองดังนี้
  • 5.1 ช่วงปีที่ประเทศกู้เงินมาแล้ว แล้วยังสร้างรถไฟไม่เสร็จ รวมทั้งกิจกรรมต่างๆยังไม่เสร็จ = ขาดทุนล้านเปอร์เซ็นต์
  • 5.2 หลังจากสร้างรถไฟเสร็จแล้วช่วง 1-5 ปี แรก = น่าจะยังคงขาดทุนอยู่ครับ
  • 5.3 หลังจากสร้างรถไฟเสร็จแล้วปีที่ 6 เป็นต้นไป = น่าจะเริ่มได้กำไรครับ
...
ดังนั้น หากมองระยะยาว ผมว่ารถไฟความเร็วสูงมีประโยชน์ แต่มันขึ้นกับความสามารถในระยะสั้น!!
การจะให้ในระยะยาวมีประโยชน์นั้น ในระยะสั้น ต้อง "ไม่ล้ม" ครับ ทรุดได้ แต่ต้องไม่ล้ม!! เพราะถ้าถึงขั้นล้มล่ะก็ มันยืนยาก!!
ยกตัวอย่างดังนี้ครับ
ถ้าช่วงที่ประเทศขาดทุน บริหารไม่ดี ไปกู้เพิ่ม เพิ่มหนี้ พัวพันอีรุงตุงนังหนักกว่าเดิม กว่าจะฟื้นได้ คงหลายสิบปีเลยครับ
แต่ถ้าช่วงประเทศขาดทุน ประคองไว้ได้ พอเริ่มเข้าสู่ช่วงกำไร ก็จะผ่านฉลุยครับ

6. สิ่งที่เราต้องจับตาคืออะไร
ถ้าอ่านมาทั้งหมด คงจะรู้แล้ว ว่ามันจะเป็นได้ทั้งกำไรและขาดทุน แล้วเราจะต้องจับตาดูอะไรบ้าง เพื่อให้มัน "กำไร"
  • 6.1 อย่าไปกู้เพิ่มนะเว้ยยย จับตาดูไว้ กู้ตั้ง 2.2 ล้านล้าน ... อย่าไปแสล๋นกู้เพิ่มในเร็ววันล่ะ บริหารดีๆประคองเอาไว้
  • 6.2 อย่าแอบเพิ่มอัตราเก็บภาษีนะเว้ยยย
  • 6.3 จริงๆแล้วจะเพิ่มภาษีก็ได้ แต่ควรจะเพิ่มภาษีในกลุ่มคนรวย เช่นรายได้เกิน 1,000,000 บาทต่อปี เพราะโดยปกติคนที่ได้ประโยชน์จากรถไฟความเร็วสูงก็มักจะเป็นคนกลุ่มนี้อยู่แล้ว ก็สมเหตุสมผลดี ... แต่ถ้าลดฐานที่ต้องเสียภาษีไปหาคนยากจนด้วย จะล้มกันทั้งประเทศ
  • 6.4 โครงการจาก 2.2 ล้านล้านบาท ทำให้มันดีๆ ถนนอย่าเหมือนที่อบต.ทำ แบบว่าสร้างเสร็จ 1 เดือน ก็ได้เวลาซ่อมแล้ว แบบนี้ไม่เอา
  • 6.5 ดูการรถไฟแห่งประเทศไทยให้ดีๆครับ เพราะเท่าที่เห็นมา ไม่เคยสร้างความเจริญอะไรให้ นอกจากย่ำอยู่กับที่ ถ้าเป็นไปได้ รัฐบาลควรจะตั้งหน่วยงานใหม่ มาดูแลรถไฟความเร็วสูงครับ
ก็หวังว่าพอจะมีประโยชน์ให้กับคนที่สงสัยกับเรื่องการกู้ 2.2 ล้านล้านบาทครับ
ใครรายได้ไม่พอเสียภาษี ก็ไม่ต้องไปตีโพยตีพาย พูดเท่ๆว่า "ภาษีตูนะเว้ย ตูไม่ยอมให้รัฐบาลเอาเงินตูไปถลุงหรอก" กับใครเค้าล่ะครับ -*- (อันนี้ผมเห็นเยอะ เอวังมากๆ)
ส่วนใครจ่ายภาษีเพิ่มเพราะรายได้เพิ่ม ก็ต้องเข้าใจหน่อยอ่ะนะ ว่ารายได้เพิ่มอ่ะ -*- (อันนี้ก็เห็นเยอะ บ่นว่าภาษีโดนเก็บเพิ่ม ... อยากเสียภาษีน้อยลงเพราะรายได้ลดไหมล่ะ โถ่ๆๆ)
เสื้อแดงก็เข้าใจหน่อยนะ ว่ามันอาจจะเจ๊งก็ได้ธุรกิจระดับประเทศ ไม่ใช่ง่ายๆ ... ดูแลรัฐบาลที่คุณรักไว้ให้ดีๆเถอะนะ อย่าเอาแต่โอ๋
เสื้อเหลืองก็เข้าใจหน่อยนะ ว่ามันมีช่องทำกำไรและประเทศพัฒนาได้ ... หยุดโดนคนเป่าหูเรื่องภาษีหรือหนี้สาธารณะได้แล้ว

Meija Bulgaria โยเกิร์ตเมจิบัลแกเรีย ทำไมฮิตจัง? ต้องลองชิม ^ ^

บอกตรงๆเลยว่า ซื้อมาลองชิมเพราะ "เห่อ" ตามชาวบ้านชาวช่องเค้าน่ะครับ ^ ^"
ก็ตอนเนี๊ยะ ไม่ว่าจะไปเซเว่นสาขาไหนๆ ช่องวางของโยเกิร์ต Meiji Bulgaria นั้น ... หมดตลอด!! ซื้อไม่ทันสักที!!
ตอนแรกก็ไม่ได้อยากกินหรอกนะ แต่เห็นมันหมดๆๆ หมดจนเกิดอยากจะกินขึ้นมาซะงั้น -*-
... พอดีไปเจอเค้าเพิ่งวางใหม่ ก็เลยได้โอกาส ซื้อมากินซะเลย!! ^ ^ ... ก็ได้กินทั้งสองรสเลยครับ ทั้งรสธรรมชาติและรสกลมกล่อม (ตอนไปซื้อนะ กลมกล่อมเหลือกล่องเดียวเอง)

และกล่องที่ตัดริ้วด้วยสีน้ำเงินเข้ม คือรสธรรมชาติครับ
และกล่องสีฟ้าอ่อนๆนี้ก็คือรสกลมกล่อม
เค้าว่ากันว่า รสกลมกล่อมกินง่ายกว่า ส่วนรสธรรมชาติกินยากกว่าครับ
ว่าแล้วก็เลยขอกินรสกลมกล่อมก่อนแล้วกัน ว่ารสชาติเป็นอย่างไร
เนื้อของรสกลมกล่อมจะนิ่มตักมาจะได้เนื้อหยุ่นๆ มีความเป็นเจลลี่นิดๆ กินแล้วรสชาติเปรี้ยวนำ หวานตามมานิดๆ แต่ไม่หวานเยอะ คนไม่ชอบของหวานมากๆก็ชอบครับ เจ้าตัวรสกลมกล่อมนี่อร่อยดี
ถัดมา ลองดูเจ้ารสธรรมชาติกันบ้าง
เนื้อของรสธรรมชาตินั้น ต่างจากรสกลมกล่อมครับ!! รสธรรมชาติเนื้อแน่นและหนักกว่า หนึบๆแน่นๆ ส่วนเจ้าตัวกลมกล่อมจะออกแนวเจลลี่มากกว่านิดหน่อย คนละเนื้อครับ
และพอชิมรสธรรมชาติแล้ว ก็จริงอย่างที่เค้าว่าครับ มันเปรี้ยวๆ แปร่งๆ ไม่อร่อยแบบรสกลมกล่อมครับ แต่ผมว่ารสมันคล้ายๆกับโยเกิร์ตโฮมเมดที่เคยไปทานที่โรงแรมอะไรสักอย่างน่ะครับ กินยากกว่า แต่ได้รสโยเกิร์ตแท้ๆไร้การปรุงแต่ง แล้วที่ฝากล่องเค้าบอกว่ากินกับน้ำผึ้งและผลไม้ได้ ... ซึ่งผมคิดว่า ตัวรสธรรมชาตินั้น ถ้านำไปทานกับน้ำผึ้งหรือผลไม้ น่าจะออกมาเข้ากันมากๆครับ

สรุปแล้ว ... ก็พอจะเข้าใจว่าเค้าเห่ออะไรกัน ผมชอบนะ อร่อยดี ^ ^
ครั้งหน้าว่าจะลองรสธรรมชาติกินกับน้ำผึ้งดูซะหน่อย เพราะว่ามีน้ำผึ้งอยู่พอดี (แต่ตอนนั้นมัวแต่ชิมรสเพียวๆน่ะครับ เลยไม่ได้ลองกับน้ำผึ้ง) ... แต่กว่าจะได้ซื้อมาลองอีกที ต้องรอชาวบ้านเค้าหายเห่อกันก่อน หาซื้อยากมากๆครับตอนนี้ -*-