ถนนคนเดินเชียงใหม่ มีที่ไหนบ้าง? เปิดวันไหน? โรงแรมอะไรใกล้?

ถนนคนเดินเชียงใหม่ มีเปิดอยู่ด้วยกัน 4-5 แห่งได้มั้งครับ แต่ที่ขึ้นชื่อจริงๆจังๆ ว่าไปเที่ยวเชียงใหม่แล้วต้องแวะนั้น ก็มีดังๆอยู่ 2 แห่งครับ คือถนนคนเดินท่าแพ และ ถนนคนเดินวัวลาย ครับ ^ ^

ทำเลที่ตั้ง
ทำเลที่ตั้งของถนนคนเดินท่าแพ กับถนนคนเดินวัวลาย ก็ดูตามรูปเลยครับ ... ใครที่จำได้ว่าตัวเมืองหลักของเชียงใหม่ เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส ที่เป็นคูน้ำล้อมรอบ (ส่วนใหญ่จะเรียกกันว่า "เขตเมืองเก่า") จะเห็นภาพแผนที่ถนนคนเดินแล้วร้องอ๋อทันทีจ้า (แต่ถ้าไม่รู้ ภาพแผนที่อาจจะช่วยอะไรไม่ได้มากอ่ะนะ เหอๆ ดู GPS แทนดีกว่าจ้า)
ถนนคนเดินท่าแพ จะเริ่มจากประตูท่าแพ (ประตูทางทิศตะวันออกของสี่เหลี่ยมเมืองเชียงใหม่) ยาวตลอดถนนราชดำเนินเลยครับ ดังนั้นถ้าจะหาจาก GPS ก็ดูคำว่า ถนนราชดำเนิน ก็ได้ครับ (ราชดำเนินในเชียงใหม่นะ ไม่ใช่กทม. เหอๆๆ)
ถนนคนเดินวัวลายนั้น จะอยู่นอกกรอบสี่เหลี่ยมครับ แต่ก็เรียกได้ว่าติดล่ะครับ ทางเข้าจะอยู่เยื้องๆกับทางประตูเชียงใหม่ ทางทิศใต้ของสี่เหลี่ยมเชียงใหม่เจ้า ^ ^ (ปล. ความยาวของด้านแต่ละด้านของสี่เหลี่ยมเชียงใหม่คือ 1,500 เมตรครับ)

ถนนคนเดินเชียงใหม่เปิดวันไหน? เวลาเท่าไหร่?
1. วันเสาร์ = ถนนคนเดินวัวลาย เปิดปิดเวลาประมาณ 17.00 น. - 22.00 น.
2. วันอาทิตย์ = ถนนคนเดินท่าแพ เปิดปิดเวลาประมาณ 17.00 น. - 22.00 น.

ถนนคนเดินที่ไหนดังกว่าใหญ่กว่า?
หากคุณวางแผนเที่ยว โดยมีเวลาขลุกอยู่ในย่านเมืองเชียงใหม่ช่วงเย็นได้เพียงแค่วันเดียว การที่จะเลือกว่าอยู่วันอาทิตย์ หรือวันเสาร์ ก็สำคัญเหมือนกัน เพราะถนนคนเดินทั้ง 2 แห่งเปิดกันคนละวันและเวลา ต้องเลือกที่ใดที่หนึ่ง ... ก็ขอบอกเลยว่า ถนนคนเดินท่าแพ จะดังกว่าและใหญ่กว่าครับ (แต่ก็จัดว่าดังและใหญ่ทั้งสองแห่งครับ ถ้าปรับวันไม่ได้ ถนนคนเดินไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละครับ สำหรับผม ^ ^)

ถนนคนเดินทั้งสองแห่งต่างกันอย่างไร
ทั้งสองแห่งนั้น หลักๆจะคล้ายๆกัน แต่รายละเอียดปลีกย่อยจะต่างครับ ในถนนคนเดินท่าแพ จะมีอะไรที่เป็นสินค้าพื้นเมือง สินค้าเพื่อการท่องเที่ยว โชว์ และการแสดง ที่ทำให้ดูมีความเป็น "ถนนสายวัฒนธรรม" แทรกเข้าไปด้วยนอกจากการวางขายสินค้า ... ส่วนถนนวัวลายนั้น ก็มีสินค้าพื้นเมืองและสินค้าเพื่อการท่องเที่ยวเช่นกัน แต่ก็จะมีสินค้าประเภทใช้ได้จริง หรือของช้อปทั่วๆไปเช่นเสื้อผ้า ของกิน อะไรแบบนี้เป็นหลักๆครับ ทำให้มีกลิ่นสไตล์ตลาดคลองถมแทรกเข้าไปเยอะ สำหรับถนนวัวลายครับ

โรงแรมรีสอร์ทอะไรบ้าง ที่อยู่ติดหรือใกล้ถนนคนเดินเหล่านี้
1. ถนนคนเดินท่าแพ ยกตัวอยางดังนี้ครับ (จริงๆมีมากกว่านี้ครับ แต่นึกไม่ออก)
- โรงแรมอิมม์ ท่าแพ
- Hotel M เชียงใหม่
- โรงแรมแทมมารีน วิลเลจ
- วิลล่าดวงจำปา
- โรงแรม U Chiangmai
- โรงแรมเวียงมันตรา
2. ถนนคนเดินวัวลาย นึกได้ตามนี้ครับ
- โรงแรมตรีญาณรส
- โรงแรม B2 ทิพเนตร
- โรงแรมเชียงใหม่เกต
- โรงแรมสไมล์เฮาส์บูติค

ที่พอจะนึกได้เกี่ยวกับถนนคนเดินเชียงใหม่ ก็ประมาณนี้ครับ
ก็หวังว่าข้อมูลพอจะช่วยเหลือเหล่านักเที่ยวได้นะครับ ^ ^

รีวิว Asiatique เอเซียทีค จะเที่ยวไกลกรุงไปทำไม!!

Asiatique เอเซียทีค สถานที่ท่องเที่ยวที่คนไทยชอบและแห่แหนไปเที่ยวกันที่นี่ เป็นอะไรที่แบบว่าตอบโจทย์ได้ดีมากๆ สำหรับคนที่ไม่อยากหรือขี้เกียจจะไปเที่ยวไกลกทม.จนเกินไปนัก
เพราะจ้า Asiatique แห่งนี้นั้น ... มันกว้าง มันน่ารัก มันวินเทจ มันช้อปได้ มันถ่ายรูปเพลิน มันเติมท้องได้ และเดินได้นานโดยไม่เบื่อ!! ตอบทุกโจทย์เทรนด์การเที่ยวยุคนี้จริงๆครับ

ว่าแล้วก็ขอพาชมเจ้า Asiatique ในมุมกว้างๆกันดูหน่อย ... รูปที่หยิบมาเป็นส่วนน้อยนะครับ จริงๆแล้วถ่ายรูปเยอะมากๆครับ
อ้อ ก่อนอื่น ใครไม่รู้ว่าเดินทางไป Asiatique อย่างไร อ่านได้ที่นี่ครับ "การเดินทางไป Asiatique" ครับ
ที่ Asiatique นั้น เป็น Outdoor Shopping Mall ที่กว้างขวาง ดัดแปลงมาจากโกดังท่าเรือเก่าที่มีสไตล์มากๆครับ ประหนึ่งห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆห้างนึงแหละครับ แต่ไม่ใช่อารมณ์ตัวอาคาร และได้อารมณ์ท่องเที่ยว ออกเดท มากกว่าที่จะมาช้อปปิ้งเพียงอย่างเดียวครับ

จุดเด่นที่คุณจะเห็น Asiatique ได้ตั้งแต่ระยะไกลๆ ก็คือชิงช้าสวรรค์ Big Wheel ตัวนี้ ... กระเช้าติดแอร์ และกว้างครับ เข้าได้กระเช้าละ 4 คน ไม่เบียดเสียด ไม่แออัด ไม่ยัดเยียดครับ
ดู "รีวิวชิงช้าสวรรค์ที่ Asiatique" ได้ที่นี่ครับ ^ ^
ขอนำภาพบางส่วนที่คุณจะได้เห็นจากการนั่งกระเช้าที่ Asiatique มาให้ชมสักหน่อยครับ (ผมว่าถ้ากะเวลาขึ้นตอนพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าได้ จะดีมากๆเลยครับ)
ว่าแล้วก็เดินไปชมย่านต่างๆของเอเซียทีคกันเลยดีกว่า
ร้านอาหารร้านนี้ ถ้าจำไม่ผิดชื่อว่าบ้านขนิษฐา ... ตกแต่งแนวไทยวินเทจ นึกว่าเดินอยู่วังที่ชะอำซะอีก!!
... เอาแค่ร้านอาหารร้านเดียว ก็ได้ทั้งกิน ได้ทั้งถ่ายรูปเล่นแล้วล่ะครับ
เดินมาทางซุ้มทางเข้า Asiatique ซุ้มนี้อยู่ทางด้านข้างครับ ... แต่ซุ้ม ก็ถ่ายรูปเล่นได้เช่นกัน
เดินชมบรรยากาศทั่วๆไปของเอเซียทีคครับ ของขายเยอะแยะ
หลายๆคนน่าจะอยากรู้ว่าของขายใน Asiatique แพงไหม? (คาดว่าหลายๆคนต้องเดาว่าแพงแน่ๆ)
ขอบอกเลยว่า "ไม่แพงครับ" (แต่ก็ขึ้นกับร้านด้วยนะ) หลายๆร้านขายของนี่แบบว่าราคาอนุสาวรีย์ชัยเลยครับ บางร้านก็อัพราคาบ้าง ... แต่รวมๆ ไม่มีร้านที่อัพหรือโก่งราคาจนดูเว่อร์เลยครับที่นี่ ขอรับรองว่าที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ถ่ายรูป แต่เดินช้อปปิ้งก็ได้ครับ ^ ^ (บรรยากาศแบบ Outdoor ด้วย)
การแบ่งโซนของที่ Asiatique เค้าจะแบ่งเป็นโกดังๆครับ อย่างในรูปด้านล่างคือโกดัง 5 ครับ ... แต่ละโกดัง สินค้าก็จะแตกต่างกัน บางโกดังก็เน้นร้านอาหารล้วนๆครับ (ร้านอาหารคนเยอะมาก เห็นแล้วจะนึกเดาเอาว่าอร่อยเว่อร์ทุกร้าน ... แต่ผมไม่ได้ชิม เหอๆ)
ใครที่แบบว่า ซื้อกล้อง DSLR หรือ Mirrorless มาใหม่ อยากลองเลนส์ใหม่ อยากไปออกเดทถ่ายรูปน่ารักๆกับคุณแฟน กระหนุงกระหนิง ... ไม่ต้องวางแผนไปไกลครับ นัดมาเจอกันที่ Asiatique นี่ได้เลย ... ดูรูปเอาเองครับ มุมสวยๆเยอะมาก ผมถ่ายมาให้ดูแบบว่าเน้นความครอบคลุมครับ แต่เหล่าตากล้องทั้งหลาย เค้นมุมของท่านกันเอาเองครับ ^ ^ (ประสบการณ์อีกอย่างที่จะได้ฝึกคือ ฝึกถ่ายรูปในที่ที่คนเยอะๆ 555+)
ภาพด้านล่างนี้คือโกดัง 6 ครับ เป็นร้านขายของกิน ... แล้วจะนั่งตรงไหนดีล่ะเนี่ย!!
มุมนี้ คนเดินเหมือนจะน้อย แต่มองเข้าไปในร้าน คนแน่นและเต็มทุกร้านเลยครับ
หิวจัง หิวจริง ... อย่ามา Asiatique สายนะครับ เพราะบางร้านคอยคิวนานเลยล่ะ ไม่เหมาะกับผู้ที่หิวมากๆครับสำหรับ Asiatique
ยังไม่หยุดให้ดูมุมของกินครับ คนอะไรจะเยอะปานนี้!!
คือแบบว่าตอนไปก็อยากหาอะไรกินเหมือนกัน แต่แบบว่าหมดรมณ์เลย คนเยอะเว่อร์!!
จุดนัดพบของที่นี่อีกจุดก็คือ หอนาฬิกาครับ
เด่นเป็นสง่า เหมาะแก่การเป็นจุดนัดพบ เพราะมันอยู่โซนกลางๆ ทำให้แต่ละคนไม่ลำบากในการเดินมาที่นี่ (ถ้านัดเจอริมน้ำหรือที่ชิงช้าสวรรค์ คนที่อยู่ฟากตรงข้ามจะเดินไกลน่ะครับ)
เดินเข้ามาโซนหอนาฬิกาอีกหน่อย
มุมนี้มีจุดให้ถ่ายรูปเล่นด้วยนะครับ
ดูรูปกันไปเรื่อยๆครับ เสาไฟกับป้ายบอกทาง ... เอาจริงๆจะถ่ายรูปเล่นกับมันก็ได้นะครับ ถ้าบ้าถ่ายรูปมากๆ ที่นี่ถ่ายรูปได้ทุกจุดที่มันสร้างขึ้นมาครับ
แกร่วไปแกร่วมา เอ้าถ่ายรูปหน้าร้านนี้
แล้วก็ร้านนี้ ... ร้านนี้ชุดสวยน่ารักแบบเรียบๆคุณหนูๆครับ
สวยดีเหมือนกัน เหมาะกับคุณภรรยาของผมมากๆครับชุดแบบนี้ 555+
เดินมาอีกฟากย่านริมน้ำ ... คนเต็มทุกโต๊ะเหมือนเดิม -*-
ช่วงปีใหม่ หรือคริสมาสต์ ที่เอเซียทีคเป็นอะไรที่น่าเที่ยวครับ เพราะจะมีต้นคริสมาสต์ประดับเพิ่มเข้ามา (ซึ่งจากเดิมก็มีมุมถ่ายรูปเยอะอยู่แล้ว)
ใครที่บ้านั่งรถราง ก็มีรถให้นั่งนะเออ (ระยะสั้นๆ นั่งพอขำๆครับ)
โซนประตูอีกสักมุมครับ (ภาพนี้ ทำไมพออัพลง blogger แล้วภาพมันแตกลายงาขนาดนี้เนี่ย!!)
เดินไปด้านหน้าทางเข้าที่ติดกับถนน ที่ไม่ใช่ริมน้ำ ก็มีน้ำพุไฟเปลี่ยนสี
และอีกจุดเด่น หันไปทางไหน ก็หนีไม่พ้้นชิงช้าสวรรค์
เดินไปเดินมา ... เดินไปเดินมา ... เดินทั่วหรือยังหนอ? กว้างเหมือนกันครับที่นี่
มาโผล่อีกที่ เห็นชิงช้าสวรรค์สวยๆอีกแล้ว เอ้า อีกสักรูป!!
อันนี้เป็นโลโก้ปิดท้ายรีวิวครับ ไม่รู้จะรีวิวอะไรละ
ขอโทษด้วยที่ดูรีวิวลวกๆไปนิด ... เพราะถ้ารีวิวเอาละเอียด คงจะยาวมากๆ เพราะมันหยิบมารีวิวได้เยอะมากๆ ... เอาลวกๆแบบนี้ละกันครับ ^ ^"

สรุป ไม่รู้จะเที่ยวไหน เวลาว่างไม่มี ... ก็ลองเอเซียทีคดูซิ ... รับรองว่ามันไม่ได้แค่แก้ขัดแน่นอนครับ ^ ^

สุริยันจันทรา เชียงใหม่ รีวิวทำเลใหม่ไฉไลกว่าเดิม!!

ร้านสุริยันจันทรา ที่เคยอยู่ในถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 1 เชียงใหม่นั้น ... บัดนี้ได้ย้ายทำเลไปแล้วครับ (ผมเดินไปดูที่นิมมานฯ ซอย 1 มีป้ายติดไว้ว่าย้ายร้าน)
ผมก็เลยเดินนน ตามไปดูหน่อย ว่าร้านสุริยันจันทราที่ผมเคยแวะมาเที่ยวชมเมื่อประมาณ 2 ปีก่อนนั้น ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ร้านสุริยันจันทรา ทำเลใหม่อยู่ที่ถนนศิริมังคลาจารย์ ซอย 11 ครับ (อยู่ด้านหลังนิมมานฯซอย 17 เดินไม่ไกลครับ)
เมื่อเดินมาถึงก็พบว่า ... ตัวร้านกลายเป็นอาคาร 2 ชั้นไปแล้ว ด้านหน้าก็ดูฟู่ฟ่ากว่าเดิมครับ ... มีช้างตัวใหญ่กับตัวเล็ก(สีชมพู) ด้วย
หันมาอีกทาง หาทางเข้าร้าน ...
จะพบว่า ซุ้มประตูเดิมๆของร้านสุริยันจันทรา ที่เป็นเอกลักษณ์สะดุดตาตั้งแต่แรกเข้าของที่นี่ ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมครับ ไม่ผิดร้านแน่นอนครับ กับร้าน "สุริยันจันทรา"
เดินเข้าไปในร้าน ... ขอบอกว่าร้านกว้างกว่าทำเลเดิมเยอะมากๆ ของขายมากกว่าเดิมเยอะมาก ทุกอย่างมากกว่าเดิมทั้งหมดครับ!! ... และสำหรับคนที่ไม่รู้จักร้านนี้มาก่อน ขอบอกล่วงหน้าก่อนเลยว่า ของในร้านนี้ ขายทุกชิ้น!! สอบถามราคาได้เลยครับ ชอบชิ้นไหน อยากได้ ถามราคาเลยครับผม ^ ^ (บางคนอาจจะคิดว่าประดับมั้ง ป่าวเลย ขายจ้าขาย 555+)
มุมนี้ขายพวกดินหอมกับน้ำมันหอมครับ มี tester ให้ลองครับ
และที่สำคัญที่เป็นจุดเด่นของร้านนี้ มุมถ่ายรูปสวยๆเพียบ!!
มีซีดีเพลงที่หาซื้อตามร้านซีดีทั่วๆไปได้ยากยิ่ง มาขายด้วยครับ ราคาก็ไม่แรงด้วย ใครชอบเพลงคลาสสิก เรียกได้ว่าที่นี่เป็นสวรรค์เลย ... ผมเองชอบฟังโซโลเปียโน ศิลปินที่ผมชอบคือ Martha Argerich, Evgeny Kissin, Valentina Lisitsa, Krystian Zimerman ... ถ้าหาเจอคงได้ซื้อไปแล้ว (เจอของ Yuja Wang ด้วยล่ะ คนนี้กำลังมาแรง)
ชมอีกมุมครับ มุมนี้โทนฟ้าน้ำทะเล สวยมาก ซีดีที่วางขายอยู่ มีอีกจุดนึงที่มุมนี้ และที่เดินคือ มีเครื่องเสียงให้ลองด้วย หยิบไปเปิดฟังได้เลยครับ!!
หันกลับมาอีกมุม ... มุมนี้ก็สวย

อย่างนึงที่อยากบอกก็คือ ภาพวาดในร้านนี้ ไม่ใช่ภาพวาดไก่กาอาราเล่ หรือภาพแบบว่าพอจะวาดเก่งหน่อย อะไรแบบนั้น หรือเป็นภาพเช่นว่าเอามาประดับพอเป็นพิธีไม่ ... ภาพวาดแต่ละภาพระดับมืออาชีพแท้ๆทั้งนั้น!! ไม่ต้องถามราคาครับแพงแน่นอน (ว่าแต่เค้าขายป่าวหนอ? ผมว่าขายนะ เห็นขายทุกอย่าง)
และอีกที่ที่อยากจะกรี๊ด ... ห้องน้ำ!! นี่คือทางเดินไปห้องน้ำ กรี๊ด!! สวยเกิน!!
ตู้กระจกหน้าห้องน้ำ ...
และสุขภัณฑ์ที่ ... นั่งปลดทุกข์ไปท่ามกลางลำแสงออโรร่าครับ!!
ใครไม่เคยปลดทุกข์ ไม่ว่าจะหนักจะเบา ท่ามกลางลำแสงออโรร่า ไม่ต้องบินไปต่างประเทศให้เมื่อย มีที่ร้านสุริยันจันทราครับ (ฮา ... รึเปล่า)
อีกมุม ... ถ้าเป็นโรงแรมนะ จะกวาด amenities ให้เรียบเลย!!
เดินมาอีกหน่อย มี upright piano ตั้งอยู่ตัว โซฟาเอย อะไรเอย น่ารักจุ๊กจิ๊ก โอ้ยยย!!
จากห้องด้านบน จะมีทางเชื่อมไปยังสวนด้านนอก ... สวนสวย กว้าง ที่ถ่ายรูปเพียบ!! (อีกแล้ว)
มุมนี้ก็น่ารัก
มุมนี้ก็เท่ดูดี
มุมนี้ก็แหม อ๊ะ บันไดวนไปชั้นสอง!! อะไรๆมันก็ลงตัวไปซะหมดครับ ร้านสุริยันจันทราเนี่ย (มันดูมั่วๆนะครับ แต่โคตรลงตัว)
เดินแว่บเข้ามาอีกห้อง ...
มาอีกห้อง ... เอาเข้าจริงๆ ถ้ามัวดื่มด่ำกับบรรยากาศที่นี่แบบจริงๆจังๆ เผลอๆไม่ได้ออกจากร้านอ่ะครับ มุมหนึ่งๆของร้านเค้ามันแบบว่าเก๋ไก๋มีสไตล์ทุกมุมอ่ะ ห้องนึงถ่ายรูปเล่นได้หลายสิบรูปเลยนะ ถ้าเอาจริงๆ
เดินมาอีกมุม โซฟาดูดีมากๆ ... อ๊ะ ด้านบนโซฟา!! ... งานศิลป์ครับงานศิลป์ ^ ^"
ถัดมาอีกห้อง ... ภาพกลุ่มกุหลาบชมพูเหล่านี้ที่แปะเกือบเต็มผนังนั่น!! อลังการครับ สวยมากๆ (ภาพนี้ขายเท่าไหร่เนี่ย)
เดินมาอีกห้อง ...
หันกลับไปดูอีกมุมของห้อง ... คือห้องนึง ถ้าเผลอชะงักดูนิดเดียว จะเห็นว่าไม่ว่าทิศเหนือ ทิศตะวันตกตะวันออกหรือทิศใต้ ... มันน่ามองและน่าถ่ายรูปทุกมุม
จากนั้นก็เดินออกมาจากร้านแบบงงๆครับ เพราะมันละลานตามากๆ ถ้ามีเงินถุงเงินถังพกไปเที่ยว สงสัยไม่ได้ออกมาจากร้านครับ
...
แต่ ก็ได้เจ้ากระต่ายตัวนี้ติดมือมาตัวนึงครับ ^ ^ เลือกกับคุณภรรยาอยู่นาน ^ ^
กระต่ายตัวนี้ถ่ายให้ดูด้านเดียวแต่อีกด้านนึงเป็นอีกสีและอีกหน้าครับ อีกด้านจะหน้าบึ้งหน่อย ^ ^"
จบรีวิวร้านสุริยันจันทราครับ
ผมเคยรีวิวร้านสุริยันจันทรามาก่อนหน้านี้หนนึงแล้วครับ ครั้งก่อนก็ชอบและประทับใจร้านนี้มากอยู่แล้ว มาครั้งนี้ ยิ่งประทับใจมากเข้าไปอีก
ครั้งก่อนเจอเจ้าของร้าน(หรือเปล่า) ที่เป็นพี่ผู้ชายใส่แว่นคนเดียว ครั้งนี้เจอสมาชิกในร้านเพิ่มอีก 2 คน บริการดีเหมือนกันทุกคนครับร้านนี้ ใครไปเที่ยวเชียงใหม่ ก็อย่าลืมแวะร้านสุริยันจันทราล่ะครับ ร้านเล็กๆ แต่เดินเข้าไปแล้ว กว่าจะได้ออก นานมาก ขอบอก 555+