โตนเลสาป คือชื่อของทะเลสาปน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเซียครับ โดยคำว่าสาปก็มาจากทะเลสาปนั่นเอง ^ ^ ดังนั้นหากจะเรียกโตนเลสาปแบบไทยๆ ก็สามารถเรียกได้ว่า ทะเลสาป โตนเล ครับผม ^ ^
ชื่อแบบภาษาอังกฤษก็เขียนได้ว่า Tonle Sap หรือ Tonlesap ครับ บ้างก็เรียกว่า Tonle Sap Lake
สำหรับเจ้าโตนเลสาปนี้ หากย้อนไปสมัยเด็กๆ เวลาครูสอนเรื่องจังหวัดและภาคต่างๆในประเทศไทย แผนที่ที่เอามาสอนน่ะ มักจะติดประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า ลาว กัมพูชา และมาเลเซียอยู่ด้วย ... ซึ่งในส่วนของประเทศกัมพูชานั้น จะมีแหล่งน้ำหน้าตาเหมือนพารามีเซียมขนาดใหญ่อยู่ในประเทศกัมพูชาด้วย ... เรียกว่า "เด่น" เลยล่ะ ... แต่ครูก็ไม่ได้สอนนะ ว่านั่นคือโตนเลสาป (เพราะสอนแค่ในประเทศไทยก็กระอักแล้ว -*-)
ว่าแล้วก็ลองดูแผนที่ใน google map ดูหน่อย ... ก็จะเห็นโตนเลสาปเด่นเป็นสง่าเช่นกัน!!
ในวงกลมนั่นล่ะครับ คือโตนเลสาป ซึ่งทางเหนือของโตนเลสาปจะติดกับจังหวัดเสียมเรียบ
ดังนั้น หากพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวของเสียมเรียบกัมพูชานั้น เจ้าโตนเลสาปก็เลยได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเช่นกัน สาเหตุก็เพราะความใหญ่โตของมันนั่นเอง (ในประเทศไทยเรา แค่เขื่อนก็ดูยิ่งใหญ่ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้แล้ว มีหรือโตนเลสาปที่ดูใหญ่อลังการแบบนั้น คนจะไม่เที่ยวกัน ^ ^)
แต่การที่เราจะไปเที่ยวยังโตนเลสาปได้นั้น เราต้องไปที่ท่าเรือก่อนครับ ซึ่งเราจะต้องแล่นเรือไปตามคลอง จนกระทั่งออกสู่โตนเลสาปอีกทีหนึ่ง (ยังไม่มีถนนลาดยางดีๆที่พาไปชิดถึงโตนเลสาปน่ะครับ เพราะว่าหน้าแล้งกับหน้าฝน ระดับน้ำต่างกันมาก ขนาดของโตนเลสาปก็จะต่างกันมาก จนไม่รู้ว่าจะทำถนนไปสิ้นสุดแค่ไหนดี ... ไปๆมาๆ นั่งเรือไปจากคลองจะง่ายกว่า)
อันนี้เป็นรูปท่าเรือครับ
ซื้อตั๋วเสร็จก็เดินลงบันไดไปที่เรือ ... ผมไม่รู้ราคาค่าตั๋วเหมือนกัน เพราะลืมใส่ใจไปหน่อย แบบว่าไปกับทัวร์น่ะครับ ทางไกด์เค้าจัดการให้เสร็จสรรพ
จากท่าเรือ เราจะแล่นเรือไปตามคลอง จนกระทั่งถึงโตนเลสาปครับ ระยะทางก็ไกลเหมือนกัน นั่งเรือหลายนาทีเชียวล่ะ
ซึ่งตอนที่ผมไปเที่ยวนั้น เป็นหน้าแล้งครับ คลองก็ตื้นเขินมากๆ ดังนั้นเวลาเรือที่พานักท่องเที่ยวขากลับ สวนกับขาไป เรือแทบจะเบียดกันเลย เพราะว่าช่องที่น้ำลึกและเรือแล่นผ่านได้ มันแคบมากๆนั่นเอง
จากในรูปที่เห็น จะเห็นว่าแล่นสวนกันห่างเหมือนกัน แต่มีบางช่วงที่สวนกันแคบมากๆครับ ห่างกันแค่คืบเดียวเอง!! คนขับเรือเทพมากๆ ... ช่วงแรกๆคนบนเรือก็กรี้ดกร้าดกันใหญ่ แบบว่ากลัวเรือจะชนกัน แต่พอผ่านไปหลายๆลำ ก็เริ่มจะชินๆกันแล้ว ^ ^
ทว่า ... ระหว่างนั่งเรือ อยู่ๆก็มีเรือลำเล็ก แล่นมาชนกับเรือที่ผมนั่งอยู่ ทำให้เหล่าสาวๆบนเรือกรี้ดกันอีกครั้ง ... แต่ที่ไหนได้ เรือที่มาชนนั้น จงใจเอามาชน เพื่อให้คนอีกคน กระโดดขึ้นมาขายของได้!! ฝีมือคนขับเรือเทพอีกแล้ว!!
ในรูปเป็นตอนที่ขายของเสร็จแล้ว (มีคนซื้อแค่คนเดียว เพราะขายแพงเหลือเกิน กระป๋องละ 40 แน่ะ) แล้วก็กระโดดกลับเรือลงไปครับ ฝีมือคนกระโดดก็เทพครับ เพราะว่ามือหนึ่งต้องถือถาดใส่น้ำอัดลมกระป๋องด้วย
...
ระหว่างที่นั่งเรือมาเรื่อยๆ และแล้วก็ผ่านพ้นช่วงของลำคลองเข้าสู่ตัวโตนเลสาปซะที!!
ทะเลสาปสีโคลนสุดลูกหูลูกตา ^ ^" ตอนนี้ที่สีน้ำเป็นแบบนี้เพราะว่าเป็นช่วงที่ตื้นมากๆพอดีน่ะครับ แค่เมตรเดียวเอง (ดูภาพแล้ว ตอนแรกก็ไม่เชื่อว่าตื้นแค่เมตรเดียว จนกระทั่งเห็นเด็กชาวเวียดนามเดินลุยน้ำเข้ามาดื้อๆนี่แหละ ถึงได้เชื่อ)
ถ้าเป็นช่วงฤดูฝนหรือช่วงที่เก็บน้ำได้มากๆจนลึกเกือบ 10 เมตร ไกด์บอกว่าจุดที่ยืนอยู่นี้จะใส มองเห็นปลาแหวกว่ายกันเลยทีเดียว (แต่ตอนผมไป ขุ่นครั่กเลย -*-)
ในโตนเลสาปนี้ จะมีหมู่บ้านของชาวเวียดนามอยู่ด้วยครับ มีโรงเรียน มีโบสถ์ของชาวคริส ดูๆแล้วคล้ายๆเกาะปันหยีเลยครับ แต่ไม่ติดกันถี่แบบนั้น
เรือที่นั่งมาก็จะมาจอดบนแพที่ขายของน่ะครับ พูดง่ายๆคือเตรียมไว้รับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะเลย
ก็จะมีของขายแบบนี้ (ราคาของเท่าๆกันกับที่อื่นๆในเสียมเรียบครับ แต่ต้องต่อราคาเยอะๆหน่อยนะ)
นอกจากนั้น ก็มีจระเข้ให้ดูด้วย -*-
นอกจากนั้น ก็จะมีชาวเวียดนามมาร้องขอเงินอยู่ตรงนี้ด้วย อันนี้เป็นเด็กชาวเวียดนามที่เอางูเหลือมมาพันรอบๆตัว ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป ถ่ายเสร็จก็จะร้องเอาเงิน แม่เด็กจะเป็นคนพายเรือมาน่ะครับ ร้องเรียกกันใหญ่เลยเชียว -*-
จะให้เงินก็ได้นะครับ ตอนนั้นผมเองไม่ได้ให้ไป แต่มานึกๆดูแล้ว อย่างน้อยก็ไม่ใช่ขอทานซะหน่อย เค้าก็มีลูกเล่นเหมือนกัน อุตส่าห์เอางูมาพันคอให้ถ่ายรูปด้วยแน่ะ!! 20 บาทก็ได้จ้า ^ ^
...
หลังจากดูและถ่ายรูปเล่นจนเบื่อก็นั่งเรือกลับครับ ไม่มีอะไรแล้ว
แต่รู้สึกว่าขามานี่น้านนนน นานนนนน
แต่ขากลับไวชะมัด ... ^ ^
...
ก็เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่เสียมเรียบที่น่าสนใจเหมือนกันครับ แต่ถ้าเวลาไม่ค่อยมี ผมว่าตัดทิ้งแล้วดูแต่พวกปราสาทดีกว่า แต่ถ้าเวลามีก็ควรจะมาน่ะครับ (ความเห็นส่วนตัวนะ ^ ^)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น