หากพูดถึงการเีรียนถ่ายภาพแล้ว คนส่วนใหญ่ก็ต้องนึกถึง DSLR กันเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นกล้องชั้นดี
แต่ ณ ปัจจุบันนี้ มีกล้อง Mirrorless เพิ่มเข้ามา ซึ่งไฟล์ภาพระดับเดียวกับกล้อง DSLR กันเลยทีเดียว ยิ่ง NEX ของ Sony นั้นเซนเซอร์ขนาดเดียวกับ DSLR DX Format ซะด้วยสิ
ยังงี้เราซื้อกล้อง Mirrorless มาเรียนถ่ายภาพดีไหม?
คำตอบก็คือ ต้องถามว่าจะเรียนถ่ายภาพแนวไหน?
ถ้าเรียนแนว Abstract เรียนด้านการสื่อความหมายจากภาพ เรียนการถ่ายภาพเชิงศิลป์ เน้นมุมกล้อง เน้นอารมณ์
อย่างนี้ใช้กล้องอะไรก็ได้ครับ ใช้ Mirrorless ได้เลยไม่มีปัญหาครับ
...
แต่ถ้าเรียนเพื่อฝึุกวัดแสง ทำความรู้เกี่ยวกับการเพิ่มลดการวัดแสงต่างๆให้ได้ภาพในแบบต่างๆกัน เพื่อให้สามารถต่อยอด นำไปใช้กับกล้องระดับโปรสุดๆได้ในอนาคต อันนี้แนะนำว่าควรใช้ DSLR ครับ
ไม่ใช่ว่า Mirrorless ไม่ดี แต่มัน "สำเร็จรูปกว่า DSLR" ครับ
ซึ่งจะทำให้คนใช้ Mirrorless เคยตัวและขี้เกียจวัดแสงได้น่ะครับ เพราะผลลัพธ์ของสภาพแสงที่แสดงผ่าน LCD นั้น เป็นแบบ real time ครับ!! หากคุณวัดแสงอันเดอร์ หน้าจอ LCD ก็จะแสดงภาพที่อันเดอร์ทันที หากคุณค่อยๆชดเชยแสงให้สว่างขึ้น หน้าจอก็จะแสดงภาพที่ค่อยๆสว่างขึ้นทีละนิดทีละน้อยตามที่คุณชดเชย real time เลยล่ะครับ
ดังนั้น หากใช้ Mirrorless คุณจะวัดแสงไม่เป็น เพราะความเคยตัวนั่นเอง
แต่กับ DSLR นั้น คุณต้องฝึกวัดแสงให้คล่อง เพราะถ้าคุณวัดแสงไม่เป็น ชดเชยไม่เป็น ถ่ายออกมาภาพมืดเกินหรือสว่างเกิน ผลลัพธ์อยู่ที่ภาพถ่ายหลังกดชัตเตอร์เท่านั้นครับ ซึ่งปัจจุบันนี้ ค่ายกล้องยังไม่จับเทคโนโลยีระดับ Fullframe หรือ Medium Format ลงกล้องแบบ mirrorless น่ะครับ ยังอัดเทคโนโลยีลง DSLR รุ่นท๊อปๆเท่านั้น
หากคุณเรียนการวัดแสงจาก mirrorless พอคุณไปต่อยอดใช้ DSLR รุ่นท๊อป คุณจอดไม่ต้องแจว
ที่พูดมาทั้งหมดนั้น ต้องเรียกว่า "ข้อดีของ mirrorless ที่กิน DSLR" เลยล่ะครับ
แต่ข้อดีนั้น มันไม่เหมาะกับการเรียนรู้นั่นเอง
แต่ถ้าอนาคต ค่ายต่างๆจับเทคโนโลยีและเซนเซอร์ใหญ่ๆยัดลง mirrorless ความรู้ในการวัดแสงอาจจะไม่จำเป็นมาก แต่ความสามารถเชิงศิลป์จะสำคัญกว่านั่นเองครับ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เวลานั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ (ค่ายกล้องกั๊กกันจะตายครับ ไม่ให้กล้องไปกินฐานลูกค้ากันเอง ทั้งๆที่จริงๆจะทำ mirrorless แบบ FX format ก็ทำได้ครับ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น