ซื้อรถยนต์ ยี่ห้ออะไรดี?

ช่วงนี้มีคืนภาษีตั้ง 100,000 บาทแน่ะ จะหมดเขตเมื่อใดก็มิอาจรู้ (แต่คาดว่าในเวลาอันใกล้ -*-)
หลายๆคนที่ยังไม่เคยมีรถเป็นของตัวเอง ย่อมต้องอยากจะซื้อรถมาใช้ช่วงนี้แน่ๆ เพราะเป็นช่วงน้ำขึ้นต้องรีบตักสำหรับการซื้อรถจริงๆครับ
โดยสิ่งที่หลายๆคนกำลังเก็งๆกันอยู่ก็คือ "จะซื้อรถ ยี่ห้ออะไรดี?"
เพราะหากเอื้อนเอ่ยถึงยี่ห้อรถยนต์ในขณะนี้ที่มีขายเป็นทางการ มีศูนย์รถชัดเจน ก็มีหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะ โตโยต้า - Toyota, ฮอนด้า - Honda, อีซูซุ - Izusu, มิตซูบิชิ - Mitsubishi, มาสด้า - Mazda, ฟอร์ด - Ford, โปรตอน - Proton, เชฟโรเลต - Chevrolet, ซูซูกิ - Suzuki, ทาทา - Tata ไม่นับพวกยี่ห้อนำเข้าจากยุโรปอื่นๆอีก -*-
ซึ่งมันก็นะ ของหลักแสน ซื้อทั้งทีก็ต้องอยากได้ที่ดีๆหน่อย
...
ส่วนตัวนั้น มีหลักคร่าวๆเบื้องต้นคือ คุณต้อง "สำรวจตัวเอง" ก่อน ^ ^
ทำไมต้องสำรวจ? ก็เพื่อให้รู้ความต้องการตนเอง และได้รถที่ถูกใจไงครับ
เพราะไม่มีรถยี่ห้อไหนที่จะเทพขนาดได้ตามความต้องการของคุณไปทุกๆอย่าง!!
หากคุณตั้งเป้าว่า "ต้องเน้นประหยัด" คุณก็เพ่งเล็งไปที่อัตราการซดน้ำมันของรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆเทียบกันไปเลย ว่ายี่ห้อไหนประหยัดน้ำมันที่สุด
ทว่าบางยี่ห้อ อาจจะประหยัดน้ำมันเทพ แต่ขับขี่อาจจะไม่ได้ดีไปซะเท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่น Eco-Car แน่นอนว่าประหยัดน้ำมันเทพมากๆ ราคาเพียงครึ่งล้าน แต่จะหวังให้ขับดีและนั่งสบายเท่ากับรถยนต์รุ่นราคาเกือบล้าน มันก็คงจะไม่ได้ ^ ^"
แต่ถ้าคุณคิดว่าตนเองไม่เน้นขับเร็ว ไม่ต้องเดินทางไกลมากๆบ่อย อาจจะนานๆที การเลือก Eco Car ก็จะกลายเป็นตัวเลือกที่ดีได้เพราะความประหยัดและตอบสนองการขับรถของคุณได้
แต่ถ้าคุณอยากได้ประหยัดๆ แต่ดันชอบซิ่ง ขับเร็ว เดินทางไกลบ่อยๆ ก็อาจจะต้องยอมลดความประหยัดลงไปนิดหนึ่ง เรียกว่าเดินกันคงละครึ่งทาง ยอมซื้อรถยนต์ที่กว้างขึ้น นั่งสบายขึ้น เดินทางไกลได้ดีขึ้น แลกกับอัตราความประหยัดที่ลดลงในจุดที่เดินทางเข้าหากันแล้วโอเค รับได้
...
หากคุณเป็นประเภทเน้นรูปร่าง ขอให้สวยถูกใจ อย่างอื่นเป็นอย่างไรช่างมัน ก็ซื้อรถยนต์รุ่นที่สวยที่สุดสำหรับใจคุณไปเลยครับ อย่าไปคิดมากกับเรื่องอื่นๆ เพราะไม่เช่นนั้น เวลาคุณไปขับรถติดไฟแดงที่ไหน หรือเดินอยู่แถวไหน แล้วดันไปเจอยี่ห้อในดวงใจคุณ แต่คุณดันไม่ได้ซื้อ? มันจะเจ็บจี๊ดดด!! ในใจครับ
...
หากคุณเป็นประเภทต้องการของตลาดๆ ขายต่อราคาดี อะไหล่หาง่าย ก็ลุยยี่ห้อที่มีชื่อเสียงด้านนี้เลยครับ เพราะถ้าเกิดรถมีปัญหาติดขัดอะไรอย่างไร คุณก็จะไม่เจ็บใจว่ารู้งี้ซื้อยี่ห้อตลาดเสียก็ดีหรอก
...
สรุปคือ ถ้าคุณรู้ความต้องการของตนเอง คุณจะเลือกรถยนต์ยี่ห้อในดวงใจสำหรับคุณได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องแคร์สื่อใดๆทั้งสิ้น!!

แต่ทว่า หากคุณยังตอบความต้องการของตัวเองไม่ได้ หรือเถียงกับความเห็นของผมด้านบนในใจว่า ... "ก็ชั้นตอบตัวเองไม่ได้นี่นาว่าต้องการอะไร รู้แค่ว่าอยากได้รถดีๆสักคัน จะให้ทำยังไง"
ก็มีหลักการเลือกซื้อรถยนต์สำหรับผู้ที่ค้นหาตนเองไม่เจอ ดังนี้ครับ

1. เลือกรถยนต์ที่มีศูนย์บริการใกล้ๆบ้าน และมีชื่อเสียงที่ดี
เพราะการซื้อรถนั้น ใช่ว่าซื้อแล้วซื้อเลย ส่วนใหญ่ก็ต้องไปติดต่อ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตรวจเช็คต่างๆตามอายุการใช้งานที่ศูนย์บริการตลอด คงไม่สนุกถ้าไปศูนย์บริการทีหนึ่งๆต้องขับรถไกลอ้อมเกือบร้อยกิโล หรือฝ่าดงรถติดไปที่ศูนย์บริการนั้นๆ
ทว่า ... แม้จะเลือกศูนย์บริการใกล้บ้านแล้ว คุณก็ควรเช็คประวัติศูนย์บริการนั้นๆด้วย ใช้ิวิธีเสิร์ชใน Google นี่แหละครับ พิมพ์ยี่ห้อรถ พร้อมศูนย์บริการเข้าไป ถ้าเคยมีประวัติฉาวโฉ่ ต้องมีคนมาโวยวายบ่นในเนทบ้างล่ะครับ ... หากไม่พบอะไรที่ไม่ดี อย่างน้อยก็พอรับประกันได้บ้างล่ะครับ (แต่บางศูนย์ที่แย่ๆ แต่ประวัติยังไม่เป็นข่าวก็มีนะ อันนั้นก็ต้องแล้วแต่โชคจริงๆ ถือว่าเราได้พยายามแล้ว)

2. ไปเดินดูของให้ครบทุกยี่ห้อ
พยายามไปเดินดูรถตัวจริง ตัวเป็นๆ ลองนั่ง ลองขับ ให้ครบทุกๆยี่ห้อครับ แม้คุณจะได้ไปลองรถยนต์ยี่ห้อ A แล้ว และถูกใจแล้ว ยังไงๆก็ลองไปดูยี่ห้อ B และ C ให้ครบไว้ก่อนดีกว่าครับ ลองแล้วไม่ชอบ ก็ถือว่าได้ลองแล้ว เดี๋ยวจะเสียดายทีหลังนะครับ ^ ^

3. ดูเซลล์ที่นิสัยดี ไม่หน้าไหว้หลังหลอก
เซลล์ก็มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือเราหลังซื้อรถในหลายๆด้าน
เซลล์หลายๆคนเปลี่ยนไป หลังจากขายรถได้แล้ว วิธีสังเกตง่ายๆก็คือพวกพินอบพิเทาเว่อร์ๆครับ พวกนี้หน้าไหว้หลังหลอก พวกประโยคเลี่ยนๆเช่น "ผมรักลูกค้าครับ" อะไรแบบนั้นให้หลีกเลี่ยงแต่ไกล แต่ให้เน้นพวกคุยเคลียร์ๆ ตอบกระจ่างชัด จะดีกว่า
ทว่า ... ถ้าเจอพูดไม่ดีตั้งแต่ยังไม่ได้ซื้อ อันนี้เรียกว่าเลวร้ายที่สุด แม้คุณชอบยี่ห้อนี้แค่ไหน ก็ควรเปลี่ยนศูนย์ครับ
แน่นอน ว่าถ้าได้นามบัตรเซลล์มาแล้ว จะเสิร์ชหาข้อมูลประวัติที่คนพูดถึงเซลล์คนนี้ผ่าน Google ดูก็ได้ครับ ถ้าเลวร้ายมากๆก็มักจะมีคนบรรยายความเลวร้ายเอาไว้ในเนทแน่ๆ

4. อย่าเห็นแก่ของแถม
ถ้าศูนย์ไม่ดี คนบ่นเพียบ เซลล์หน้าไหว้หลังหลอกชัดเจน
แต่ดั๊น!! ใช้ของแถมมาล่อ!! ... ขอบอกไว้ก่อนว่าคิดดีๆครับ ของแถมกับบริการหลังการขายจะเอาอะไร?
แต่ถ้าศูนย์ประวัติดี เซลล์ดี ของแถมก็เยอะอีก อันนี้ก็ตัดสินใจง่ายเลยครับ ^ ^

คร่าวๆส่วนตัวก็มีเท่านี้ล่ะครับ สำหรับหลายๆท่านที่กำลังหาคำตอบอยู่ว่า จะซื้อรถยนต์ยี่ห้ออะไรดี ^ ^
ก็ลองพิจารณากันดูนะครับ ก็เป็นอีกหนึ่งความเห็นครับ อาจจะผิดพลาดหรือตกหล่นอยู่บ้าง ก็คอมเมนต์แนะนำกันได้ครับ ^ ^