เปลี่ยนยางรถยนต์นั้น เป็นอะไรที่เป็นหลายกระแสมากครับ เชื่อไหมว่าแต่ละอันก็เป็นความรู้ที่ดูเป็นทางการทั้งนั้น แล้วจะแยกแยะอย่างไรว่าอะไรถูกต้อง
ยกตัวอย่างเช่น ควรเปลี่ยนยางทุกๆ 2 ปี ... มีการนำข้อมูลนี้ไปอ้างอิงกว้างขวาง แต่บางกระแสก็บอกว่า ไม่จริ๊งงง นั่นมันประโยคหากินของร้านยางต่างหาก ... ดูข้อมูลในเอกสารบางแห่งก็สองปี บางแห่งก็ 5 ปี บางแห่งก็บลาๆ -*-
ส่วนตัวผมแล้ว ขอทิ้งตำราไปชั่วครู่ และคิดว่าควรจะเปลี่ยนยางดังนี้ครับ
1. ดอกยางสึกถึงเ้ส้นสะพานของร่องดอกยาง
ในร่องของดอกยางนั้น(ร่องลึกๆตรงกลางเส้นยางน่ะครับ จะมีเส้นที่นูนๆขึ้นมาเป็นบางช่วงสั้นๆ) ปกติเส้นนี้จะตื้นกว่าร่องของดอกยางกว่าปกติประมาณ 1-2 มม. ถ้าดอกยางสึกจนถึงเส้นสะพานนี้ ก็ถือว่าดอกยางหมดไปเยอะแล้ว ควรเปลี่ยนยางครับ
2. ยางเป็นคลื่น
รถที่มีปัญหาโช้คเรื้อรัง มักจะมีผิวสัมผัสของยางกับถนนเป็นคลื่นๆครับ มองเปล่าๆก็เห็นได้บ้าง แต่ถ้าเอามือสัมผัสจะเห็นง่ายที่สุด
ในกรณี้นี้ แม้ดอกยางจะเหลือเยอะ ก็ควรเปลี่ยนยางอยู่ดีน่ะครับ
3. ยางแตกลายงา
แม้ดอกยางจะไม่สึกมาก คลื่นบนผิวสัมผัสของยางกับถนนก็ไม่มี ก็ใช่ว่าจะเบาใจได้
บางทียางเรื่อกรอบแกรบ จะมีรายแตกลายงาเหมือนผิวสาวๆที่เห็นรอยตีนกาได้ ถ้าเป็นแบบนี้ก็เปลี่ยนได้ครับ
4. ขับรถแล้วมีเสียงดังระดับหนวกหู
บางคนบอกว่ายางเก่าแล้ว เริ่มมีเสียงดังขึ้นมาบ้าง ก็ไปเปลี่ยนแล้ว จริงๆไม่ต้องขั้นนั้นครับ นั่นก็ต้องการความเพอร์เฟคเกินไป เพราะยางปกติใช้ไปพักใหญ่ๆแม้จะยังไม่หมดอายุก็จะเริ่มบดถนนมีเสียงบ้างแล้ว
ควรจะเป็นเสียงดังจนรำคาญ กวนใจมากๆนั่นล่ะครับ ค่อยไปเปลี่ยน
5. มีรอยปะที่แก้มยาง
ถ้าไปประสบอุบัติเหตุ ยางรั่วบริเวณแก้มยาง อย่าทนฝืนปะยางเลยครับ เปลี่ยนใหม่เลยดีกว่า ยอมเสียเงินหน่อย
แต่ถ้ารั่วในผิวสัมผัสของยางกับถนนแล้วปะ จะพอใช้งานได้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่เต็มร้อยนะครับ
ก็เท่านี้แหละครับ สำหรับความเห็นส่วนตัวผม
บางคนใช้แค่ 1 ปี ก็ควรเปลี่ยนแล้วก็มี ยกตัวอย่างกรณีที่ 5 น่ะครับ ต่อให้เพิ่งออกยางมาใหม่ๆก็ควรเปลี่ยนครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น