อาการของโรคเอดส์ มีอะไรบ้าง?

หากพูดถึงโรคเอดส์หรือโรคติดเชื้อเอชไอวีแล้ว หลายๆคนคงจะนึกถึงคนผอมๆ ตัวดำๆ ลิ้นเป็นฝ้าขาวๆ อย่างที่คนส่วนใหญ่เล่าลือหรือพูดต่อๆกันมา ซึ่งจริงๆแล้วก็ถูกแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นครับ จริงๆแล้ว อาการของโรคเอดส์มีอะไรบ้างนั้น ต้องขอบอกว่า อาการของโรคเอดส์จะขึ้นกับระยะของการติดเชื้อหรือป่วยด้วย ตามนี้ครับ

1. ระยะไม่มีอาการ
ช่วงนี้คนที่ติดเชื้อเอชไอวี (จะไม่ินิยมเรียกว่่าผู้ป่วยเอดส์ แต่เป็นผู้ติดเชื้อ เพราะติดเชื้อแล้วแต่ยังไม่ป่วย) จะไม่มีอาการอะไรเลย!! ถ้าผิวขาว ก็จะขาวผุดผ่อง หล่อ สวย ใส อ้วนท้วนสมบูรณ์เหมือนเดิม ... แต่สามารถแพร่กระจายเชื้อติดผู้อื่นได้ ... ส่วนใหญ่แล้ว ระยะนี้กินเวลานานถึง 6 ปี!! ขอเน้นย้ำว่า 6 ปี ครับ ^ ^"

2. ระยะมีอาการ
ต่อจากระยะไม่มีอาการแล้ว เมื่อเข้าสู่ปีที่ 7 ก็จะเริ่มมีอาการบ้าง จนถึงหนักเลย ระยะมีอาการนี้ก็เลยแบ่งออกเป็นอีก 2 ระยะคือ
2.1 ระยะเริ่มปรากฎอาการ ช่วงนี้อาจจะแบบว่ามีไข้บ่อยๆ เป็นๆหายๆ อยู่ๆก็ท้องเสีย ท้องเสียเล็กๆน้อยๆแต่ก็เรื้อรังไม่หายเสียที ลิ้นเป็นฝ้าขาวๆเพราะเชื้อราขึ้นก็มี
2.2 ระยะโรคเอดส์ เป็นช่วงที่ภูมิต้านทานเหลือน้อยมาก ไม่พอรับมือกับโรคภัยต่างๆ ดังนั้นพอมีเชื้อโรคอะไรเข้ามาในร่างกายก็จะป่วยแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ป่วยหนักตลอด โรคที่เป็นกันมากก็คือ วัณโรคปอด ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (ช่วงนี้จะไม่เรียกว่าผู้ติดเชื้อแล้ว แต่จะเรียกว่าผู้ป่วยเอดส์ครับ) หากรักษาโรคที่ป่วยให้หายทันท่วงทีและดูแลตัวเองดีจริงๆ บางคนก็กลับไปอยู่ระยะไม่มีอาการได้เหมือนกันนะครับ แต่ต้องดูแลตัวเองดีมากๆจริงๆ

จะเห็นว่าโรคเอดส์นั้น ช่วงไม่มีอาการนานถึง 6 ปี (6 ปีนี่คือเฉลี่ยนะครับ คนที่ร่างกายแข็งแรงจริงๆ 10 ปีหรือมากกว่านี้ก็มีมาแล้ว)
ดังนั้นเราไม่สามารถจะบอกว่าใครคนนั้นติดหรือไม่ติดเอดส์จากภายนอกได้เลยครับ เว้นแต่ว่าจะตรวจเลือดก็เท่านั้น ^ ^"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น