ถูกยุงกัด ติดเอดส์ได้หรือไม่!!? ยุงเป็นพาหะนำโรคเอดส์ได้จริงหรือ?

เอดส์หรือการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีนั้น แม้ปัจจุบันจะมียาต้านช่วยเหลือในการรักษาแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
เอดส์จึงยังเป็นโรคที่คนกลัวและเกรงกันอยู่เยอะ
หากพูดถึงการติดต่อของโรคเอดส์แล้ว ก็คงจะทราบกันดีว่ามีการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทางเลือด และจากแม่สู่ทารกในครรภ์
...
พอมาพูดถึงการติดต่อทางเลือดแล้ว ... เอ๊ะ!! แล้วถ้ายุงที่กัดคนติดเชื้อเอดส์แล้วมากัดเราอีกทีล่ะ เราจะติดเชื้อเอดส์ไหม?? ถ้าโดนยุงกัดแล้วติดเอดส์เนี่ย? แล้วจะหลีกเลี่ยงอย่างไร?

ก็ต้องขอบอกว่า โดนยุงกัด ไม่ติดเอดส์ นะครับ ^ ^
สาเหตุก็คือ

1. เชื้อ HIV นั้น มีชีวิตอยู่ในตัวยุงไม่ได้ครับ พอยุงดูดเอาเลือดที่มีเชื้อเอชไอวีเข้าไป เชื้อในเลือดที่อยู่ในตัวยุงก็จะตายในเวลาไม่นานครับ

2. เชื้อ HIV แบ่งตัวเพิ่มจำนวนหรือเพาะพันธุ์ในตัวยุงไม่ได้(ตายก่อน) จึงไม่มีเชื้อไวรัสเข้าไปอยู่ในส่วนอื่นๆของตัวยุง โดยเฉพาะในต่อมน้ำลายครับ ดังนั้น ต่อให้ยุงบ้วนน้ำลายออกมาก็ไม่มีเชื้อเอดส์ติดมาด้วยครับ (ยุงมันจะปล่อยสารกันเลือดแข็งตัวออกมาก่อนที่จะดื่มเลือดน่ะครับ สารนั้นไม่มีเชื้อไวรัสเอดส์ปนเปื้อนแน่นอนจ้า)

3. ปากยุงเล็กมากกกกกๆๆๆ เวลาไปดูดเลือดทีหนึ่งๆเนี่ย มีเลือดติดปากน้อยมากๆ การที่จะมีเชื้อไวรัสเอดส์ปริมาณมากพอที่จะทำให้ติดได้ ยิ่งน้อยไปใหญ่ แถมเวลาที่แทงปากลงไปในรูขุมขน เลือดที่ติดภายนอกก็โดนขอบของรูขุมขน(ซึ่งเลือดก็แทบจะไม่มีติดอยู่แล้ว)

ดังนั้น ยุงกัดไม่ติดเอดส์แน่นอนจ้า ไว้ใจได้ ^ ^
หากต้องอยู่ใกล้ๆหรืออยู่ในห้องในอาคารเดียวกันกับผู้ติดเชื้อเอดส์ ก็ไม่ต้องกลัวติดเพราะยุงเป็นพาหะจ้า ^ ^
(ถ้ายุงเป็นพาหะได้จริง รับรองคนติดเต็มบ้านเต็มเมืองแล้วครับ คิดง่ายๆ ^ ^)

1 ความคิดเห็น: