Edge of Tomorrow VS All you need is kill แตกต่างกันอย่างไร?

Edge of Tomorrow หนังฮอลลีวูด กับ All you need is kill การ์ตูนมังงะ ... ต่างกันอย่างไร? ... ขอบอกว่าต่างกันเยอะครับ เพิ่งไปดู Edge of Tomorrow มาหลังจากอ่านมังงะจบไม่กี่วันเองครับ ก็เลยขอมา spoil ความต่างของสองเวอร์ชั่นให้กับคนที่อยากรู้ครับ (ปล. แต่ผมไม่เคยอ่านเวอร์ชั่นนิยายที่เป็นต้นฉบับจริงๆนะครับ)

ไม่ Spoil
ตรงนี้หลายๆคนคงอยากรู้ว่า หนังเหมือนกับการ์ตูนไหม? ดูการ์ตูนก่อนจะดูหนังสนุกไหม? หรือดูหนังก่อน จะอ่านการ์ตูนสนุกไหม? ... ขอบอกว่าแบบไหนก็สนุกเหมือนกันครับ!! เพราะเนื้อเรื่องค่อนข้างจะต่างกันเยอะ แม้ธีมหลักๆของเรื่องจะเหมือนกันก็ตาม

Spoil แล้วนะ
ทั้งการ์ตูนและหนัง เหมือนกันคือมีการวนลูป ตายแล้วย้อนกลับไปใหม่เหมือนกัน และต้องสู้กับ Mimic เหมือนๆกัน ... แต่ลักษณะการดำเนินเรื่องและตอนจบต่างกันโดยสิ้นเชิง

1. การ์ตูนมีการนำเสนอสภาพจิตของพระเอก (คิริยะ เคย์จิ) ค่อนข้างเยอะในช่วงแรกๆ ... แต่กับเวอร์ชั่นหนัง พระเอก (William Cage) ค่อนข้างจะดูชิวๆไปหน่อย ... ตรงนี้จะชอบเวอร์ชั่นการ์ตูนมากกว่า เพราะการต้องตายซ้ำไปซ้ำมาและต้องเจ็บปวดก่อนตายนั้น พระเอกในเวอร์ชั่นการ์ตูนจะแทบบ้าและสภาพจิตย่ำแย่มากในช่วงแรก (มีลองฆ่าตัวตายด้วย) ... แต่ในหนังจะดูชิลล์ๆ และออกแนวแค่รู้สึก "งง" ว่าทำไมตัวเองตายแล้วย้อนกลับมาได้เท่านั้นในช่วงแรก ... แต่ก็เข้าใจคนทำหนังนะ ว่าจะมาเจาะประเด็นความรู้สึกพระเอกมากไม่ได้ เพราะหนังที่มีเวลาจำกัดในเวลาประมาณ 2 ชม. คงจะบีบหลายๆอย่าง

2. การ์ตูนนั้นนางเอกเก่งเทพมากๆ เพราะผ่านการวนลูปย้อนไปย้อนมาหลายครั้ง จนสามารถสู้กับ Mimic ได้สบายๆด้วยตัวคนเดียว จนมีที่มาของฉายา Full Metal Bitch ... ส่วนพระเอกในเวอร์ชั่นการ์ตูนนั้น หลังจากได้สู้และตายมาร้อยกว่าครั้ง ก็เก่งเทพเช่นกัน เรียกว่าทั้งคู่เหมือนไม่ใช่มนุษย์ และใช้ขวานเพียงอันเดียวสู้กับ Mimic ... แต่เวอร์ชั่นหนัง นั้น แม้จะเก่งขึ้น แต่ก็ยังไม่เกินมนุษย์มนาเท่าไหร่ การต่อสู้เน้นปืน โดยในตอนแรกของหนังนั้น นางเอกก็ตายง่ายๆเหมือนกัน ทำให้ประเด็นตรงนี้ จะรู้สึกเหมือนหนังทำได้ดีกว่า

3. Mimic ในหนัง จะมีความสามารถในการรีเซ็ท ซึ่งการ์ตูนจะมีความสามารถเดียวกัน ... แต่ตัวเซิร์ฟเวอร์หลัก(หนังเรียก Omega) ของการ์ตูน จะเผยตัวร่วมสู้ในแก๊ง Mimic ด้วย ... แต่ของหนังนั้น Omega จะไปซ่อนตัวที่อื่น และต้องหาเพื่อกำจัด

4. หนังจบ Happy Ending ส่วนการ์ตูนจบนางเอกตาย แถมตายเพราะสู้กันเองกับพระเอกแล้วโดนพระเอกฆ่าตายซะอีก ... ซึ่งการดัดแปลงตรงส่วนนี้ ทำให้เนื้อเรื่องโดยรวมของหนังและการ์ตูนค่อนข้างต่างกันเยอะ ... ส่วนสาเหตุที่การ์ตูนต้องมาสู้กันเองนั้น เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการหลุดจาก loop (ส่วนหนังเรียกว่าการ reset) ซึ่งทั้งตัวพระเอกและนางเอกเองนั้น ต่างก็กลายเป็น server หลัก (หนังเรียกว่า omega) ของ mimic ไปด้วย เพื่อให้ตัวเองพ้น loop หรือหลุดจากการ reset จึงต้องมาฆ่ากันเองอย่างเลี่ยงไม่ได้ (ทำให้การ์ตูนได้ชื่อเรื่องว่า All you need is kill ส่วนหนังได้ชื่อว่า Edge of tomorrow ซึ่งนับว่าชื่อเข้ากับเนื้อเรื่องของใครของมันครับ) ... สาเหตุที่หนังนั้นไม่ต้องฆ่ากันเอง ก็เพราะตัวพระเอกคนเดียวที่เป็นเซิร์ฟเวอร์ครับ นางเอกหลุดจากการเป็นเซิร์ฟเวอร์ไปแล้วตั้งแต่แรก

5. การ์ตูนปูเนื้อเรื่อง ที่มาของพระเอก และปูพื้นถึงอดีตของนางเอกค่อนข้างเยอะ ตลอดจนความสัมพันธ์ของทั้งสองคน ... เพื่อบิวท์ดราม่าในตอนจบที่ต้องมาฆ่ากันเอง ... ส่วนหนังจะไม่มีการดำเนินเนื้อเรื่องตรงนี้ แต่มีการแสดงความสัมพันธ์ที่ค่อยๆคืบหน้าหลังจากเจอกันเข้าไปแทน ซึ่งทั้งสองเวอร์ชั่นก็ทำได้ดีในแบบของตน

6. ในหนัง Mimic เป็นตัวที่มีหนวดเยอะๆ แล้วใช้หนวดโจมตี ส่วนการ์ตูน เป็นตัวกลมๆที่มีเกราะหุ้มแล้วยิงหนามออกมาทางปาก

... คร่าวๆก็เท่านี้ครับ สำหรับความแตกต่าง ส่วนตัวแล้วผมชอบทั้งสองอัน ดีคนละแบบครับ
ใครชอบการ์ตูนก็ดูหนังได้ครับ ไม่เสียอรรถรส ส่วนคนชอบหนังก็ไปลองอ่านการ์ตูนได้ครับ คนละแบบกันจริงๆ ^ ^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น