ฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วย DVD ต้องเลือก "เรื่อง" ด้วยนะครับ ^ ^

การฝึกพูดภาษาอังกฤษนั้น เป็นการฝึกที่การ "อ่านหนังสือ" แทบไม่ช่วยอะไรเลย ไม่ว่าจะเก่งแกรมม่าแค่ไหน หัดอ่านมามากแค่ไหน มันก็ช่วยได้เพียงนิดหน่อย
ใจความสำคัญสำหรับการฝึกพูดนั้น มันต้องฝึกฝนบ่อยๆ อย่างที่เค้าชอบพูดกันว่า practice, practice, and practice นั่นล่ะครับ
แล้วการฝึกฝนการพูดนั้น ไม่ใช่ว่าจะมาพูดลอยๆคนเดียวหน้ากระจก มันไม่ต่างจากการอ่านหนังสือหรอก
คุณต้องคุยโต้ตอบโดยตรงกับคนที่พูดภาษาอังกฤษจริงๆบ่อยๆเท่านั้น ... ซึ่งมันก็มีปัญหาว่า แล้วจะไปหาคนแบบนั้น ให้เรามาพูดด้วยบ่อยๆน่ะ มาจากไหน? (ใครหาได้ก็โชคดีไป แต่ส่วนใหญ่คนไทยหาคนแบบนั้นได้ยากยิ่ง)
ดังนั้น ทางลัดที่ดูจะมีภาษีดีกว่าเค้าหน่อย ก็คือเปิด DVD แล้วดู Subtitle ภาษาอังกฤษนั่นเอง

วิธีการฝึก
1. คุณต้องดูหนังให้จบเรื่องด้วย subtitle ภาษาไทยก่อน (เสียงอังกฤษ)
บางคนที่มี level สูงในระดับหนึ่งแล้ว ให้ข้ามตรงนี้ไปครับ แต่ถ้าใครไม่สูงพอ ควรจะดูภาษาไทยให้จบ
เหตุผลก็คือ เพื่อให้เข้าใจเรื่องราวได้ถ่องแท้สุดๆ แบบเข้าถึงเส้นไปเลย ... เพราะถ้าไม่เก่งพอ แล้วอ่านอังกฤษไปด้วย มันจะเข้าถึงเนื้อเรื่องไม่เต็มที่ ทำให้ไม่เข้าใจประโยคสนทนาและสิ่งที่ตัวละครต่างๆพยายามจะสื่อ
2. ดูหนังซ้ำอีกครั้ง ด้วย Subtitle ภาษาอังกฤษ
ตรงนี้ให้พูดไปด้วย ฝึกด้าน pronunciation ไปพร้อมๆกันเลยครับ
ตรงนี้ดูวนไปวนมาได้หลายๆครั้งครับ
3. พอฝึกจากข้อ 2. จนคล่อง ให้ปิด Subtitle
จากนั้นก็พูดตามสดๆ ไม่ต้องมี Subtitle ครับ

จาก 3 ข้อด้านบนนั้น ... ไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆนะครับ เพราะหนังเรื่องๆหนึ่ง ยาวประมาณ 2 ชม.
ทำ 3 อย่างรวมๆกันก็เกิน 6 ชม.เข้าไปแล้ว
ดังนั้น มันต้องมีอะไรที่เป็นแรงบันดาลใจมากๆอยู่ด้วย ซึ่งตัวหนังนั้น เราก็ต้องเลือกด้วยครับว่าจะเรื่องไหนอะไรยังไง ที่จะเกิดประโยชน์สูงสุด
ก็มีวิธีเลือกหนังเพิ่มมาดังนี้ครับ

1. ควรเป็นหนังที่ใช้ชีวิตประจำวันเป็นพื้นฐาน
หนังที่ใช้ชีวิตประจำวันเป็นพื้นฐานในการดำเนินเรื่อง มักจะเป็นหนังแนวดราม่าหรือโรแมนติกครับ เช่น เป็นเรื่องราวของคนสองคนเจอกันในออฟฟิส รักกัน มีปัญหากันแต่สุดท้ายก็แฮปปี้เอ็นดิ้ง อะไรแบบนี้ก็ได้
เพราะถ้าดูหนังไซไฟ หรือแอคชั่น คุณจะได้ยินแต่ประโยคสั้นๆ ง่ายๆ และไม่ค่อยได้ใช้บ่อยมากนัก เช่น หนังเกี่ยวกับทหารบู๊กัน ก็ได้ยินแต่ GO GO!! Run Run!! อะไรแบบเนี้ยะไปซะเยอะ แล้วฉากบู๊ก็เยอะ แทบไม่ได้พูดเลยครับ ... แต่ถ้าแนวดราม่ากับโรแมนติก การพูดจะเป็นใจความสำคัญในการดำเนินของเรื่องครับ
เรื่องที่แนะนำก็เช่น Love Actually ครับ พูดเยอะ และมีตัวละครหลายแนว หลายกลุ่ม เนื้อเรื่องสนุกกุ๊กกิ๊กไม่น่าเบื่อมาก

2. ควรเป็นหนังที่เราชอบ
คิดง่ายๆ ว่าต้องดูอย่างต่ำ 3 รอบ ถ้าไม่ชอบ จะมีกำลังใจดูหรือ? ไม่มีทางครับ
ซึ่งสุดท้าย คุณไม่ชอบหนังดราม่าหรือโรแมนติก แต่ชอบบู๊แอคชั่นจริงๆ ก็ช่วยไม่ได้ครับ ... เพราะถ้าได้ดูหนังที่ชอบ ความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้มันผิดกับดูหนังน่าเบื่อๆครับ

หลักการฝึกพูดด้วย DVD + Subtitle ก็มีเท่านี้จ้า หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อใครหลายๆคนนะครับ ^ ^
ใครที่ฝึกเพื่อหวังได้คะแนน TOEFL หรือ IELTS สูงๆ ก็ขอให้คะแนนตามที่หวังกันนะครับ ^ ^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น