Banyan Leaf Resort - บันยันลีฟ รีสอร์ท สวนผึ้ง เป็นรีสอร์ทเปิดใหม่ที่ยังไม่ค่อยเห็นรีวิวมากนัก
แต่เท่าที่เห็นรีวิวมา กับเห็นของจริง ขอบอกว่าของจริงสวยกว่าในรูปเยอะครับ เพราะที่นี่โอบล้อมด้วยภูเขา ตัวรีสอร์ทก็อยู่บนเนิน ทำให้มิติภาพที่ได้ตอนไปสัมผัสจริง สวยกว่าตาเห็นมากครับ
นอกจากนั้น ในตัว Banyan Leaf Resort เอง ยังครบเครื่องในหลายๆอย่าง โดยเฉพาะ Facilities เช่นฟาร์มแกะของทางรีสอร์ทเอง และสระว่ายน้ำขนาดที่ใหญ่กำลังดีเลยเชียวครับ ^ ^
ว่าแล้วก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงเยอะครับ ขอพาชมบันยันลีฟรีสอร์ทที่สวนผึ้งกันเลยดีกว่าครับ
ตัว Lobby หรือ reception ของ Banyan Leaf Resort จะอยู่ด้านหน้าและถึงก่อนครับ ไปถึงก็จอดรถที่นี่ก่อนเลยครับ ติดต่อเข้าพักที่นี่จ้า ^ ^
แค่เข้ามาถึงโซน Reception ก็เริ่มจะเห็นถึงความแนวในการตกแต่งของเค้าแล้วครับ
แค่ผ่าน Reception มา ก็กดชัตเตอร์เล่นไปหลายรูปแล้วล่ะครับ แต่ที่เอามาให้ชมนี่แค่นิดๆหน่อยๆเองครับ
หลังจาก Check-In เสร็จ เค้าก็จะให้กุญแจ, WiFi password ฟรี, คูปองอาหารเช้า มาครับ
จากนั้นก็ขับรถไปจอดที่หน้าห้องพักได้เลย เค้าทำที่จอดรถไว้สำหรับห้องพักแต่ละหลังเอาไว้ด้วยล่ะครับ เจ๋งป่าวล่ะ
ห้องที่ผมได้เข้าพักก็คือบ้านหุ่นยนต์ครับ แต่ไปกันเป็นกลุ่มครอบครัวน่ะครับ ก็เลยพัก 2 หลัง คือบ้านหุ่นยนต์กับบ้านขนมชั้น
ก็ขอพาชมบ้านขนมชั้นสีส้ม (ติดกับบ้านหุ่นยนต์) ก่อนแล้วกันครับ ^ ^
ภายในห้องพักบ้านขนมชั้นสบายตาและสวยกว่าที่เห็นภายนอกมากๆครับ ภายในสวยดูดีมากๆ
ห้องนี้เพิ่มเตียงเสริมเข้ามาด้วยครับ เค้าก็เตรียมไว้ให้เป็นอย่างดี
ตกแต่งสบายๆง่ายๆ แต่แฝงความน่ารักๆเอาไว้
หันมาทางมินิบาร์ ทีวีและโต๊ะเครื่องแป้งของบ้านขนมชั้นครับ
หัวเตียงกันหน่อย
และพอเปิดเข้าห้องน้ำ ... มีอ่างอาบน้ำให้ด้วย ตกแต่งสวยงามครับ
หันไปทางตู้ และอ่างล้างหน้า ก็จะเห็นว่าที่นี่มีเทียนหอมไว้ให้ด้วยครับ สำหรับคนชอบความโรแมนติก
มีเสื้อคลุมอาบน้ำ แล้วก็มีผ้าเช็ดตัวสำหรับนำไปว่ายน้ำด้วยครับ
หลังจากบ้านขนมชั้นแล้ว
ก็ขอพาชมบ้านหุ่นยนต์อีกแห่งครับ
ซึ่งจะมีข้อเหมือนกันอยู่อย่างคือ ภายนอกดูไม่ออกว่าภายในสวยครับ แต่ข้างในเค้าสวยจริงๆครับ
อันนี้เป็นห้องชั้นล่างของบ้านหุ่นยนต์ครับ ห้องนี้เหมาะกับคู่สวีทสุดๆครับ ตกแต่งแบบว่าแดงขาวตัดกัน แล้วก็มีหัวใจที่หัวเตียง
ทางด้านซ้ายทำวงจรเทียมๆเอาไว้ ประหนึ่งว่าเราอยู่ในตัวหุ่นยนต์จริงๆนะ
หันไปทางทีวี และมินิบาร์ครับ
จากนั้นก็เข้าไปชมห้องน้ำครับ ห้องน้ำมีระแนง ช่วยเพิ่มความสวยคลาสสิกเข้ามาอีกหน่อย ผมชอบห้องน้ำห้องนี้มากกว่าของบ้านขนมชั้นครับ เป็นการส่วนตัว
ส่วนของใช้ต่างๆในห้องน้ำก็เหมือนกันกับบ้านขนมชั้นครับ
ออกจากห้องชั้นล่างของบ้านหุ่นยนต์ ก็ไปชมห้องชั้นบนของบ้านหุ่นยนต์กันบ้าง จะทำเป็นทางขึ้นไปเป็นบันไดแบบนี้ มีชานพักที่มีโต๊ะเก้าอี้ด้านหน้าด้วยนะครับ
เปิดประตูเข้าไปก็ยังไม่เจอห้องเลยนะครับ เจอห้องโถงขนาดย่อมๆก่อนครับ ดีไซน์นี่เป็นบ้านจริงๆได้เลยครับที่นี่
ห้องชั้นบนของบ้านหุ่นยนต์จะเรียบๆครับ ส่วนตัวมองว่าสวยน้อยสุดในกลุ่มห้องที่ไปพักทั้งหมด
ห้องน้ำของห้องชั้นบนบ้านหุ่นยนต์ครับ ไม่มีอ่างอาบน้ำ แต่มีตู้ Shower ให้แทน
หลังจากพาชมห้องพักเสร็จแล้ว ก็ขอพาชมบริเวณต่างๆของ Banyan Leaf Resort กันต่อเลยครับ ^ ^
อย่างที่เกริ่นแต่ต้นครับ วิวที่เห็นในรูป ขอให้หารสองไว้ก่อนเลยครับ ของจริงสวยกว่าครับ
ในภาพนี้เป็นสภาพเชื่อมระหว่างโซนบ้านพักบนเนินกับโซนร้านกาแฟและร้านอาหาร จุดชมแกะด้านหน้ารีสอร์ทครับ
เดินขึ้นเนินมาแล้ว ... เห็นใจคนตัดหญ้าเลยครับ เหอๆ เนินชันเหมือนกัน แต่ก็เดินได้นะ แต่จะให้มาตัดหญ้านี่คงแบบว่าไม่ไหวแน่ๆ พื้นที่ทำเป็นสนามหญ้ากว้างด้วยนะครับ ไม่งกพื้นที่มากนักเพื่อให้ได้วิวที่สวยงาม
แล้วระหว่างทางเดินในรีสอร์ทนั้น ก็จะมีมุมนั่นนี่จุ๊งจิ๊งน่ารักหลายแห่งให้ถ่ายรูปเล่นครับ
ตอนผมไปหน้าฝนพอดี เมฆเต็มท้องฟ้า แต่ก็ยังพอจะได้ภาพสวยๆอยู่บ้าง เพราะเค้าทำสวยจริงๆครับ
เดย์เบดคู่ใกล้ลำธารน้ำครับ
อันนี้คือสะพานเชื่อมที่บอกก่อนหน้านี้ครับ ที่เชื่อมโซนร้านอาหารกับบ้านพักครับ
วิวต่างๆในรีสอร์ท จะเห็นว่าสนามหญ้าทำดีมากๆ วิวสวย ถ่าย Prewedding ได้เลยนะครับเนี่ยในหลายๆมุม
มุมตู้โทรศัพท์และม้านั่งสีแดง
ที่นั่งเป็นรูปนกฮูกเท่ดี
ตรงนี้ก็มีอีกมุม
อย่างที่บอกครับ ว่ามีอะไรให้ถ่ายเล่นเยอะ ผมนำมาให้ดูนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเองครับ
เดย์เบดริมลำธารน้ำที่ถ่ายจากบนสะพานครับ
และ ... สระว่ายน้ำครับ
หากใครมองหารีสอร์ทโรงแรมที่พักในสวนผึ้งที่มีสระว่ายน้ำ ก็ขอแนะนำที่ Banyan Leaf ไปเก็บพิจารณาครับ สระว่ายน้ำเค้ากว้างนะครับ แล้วก็มีสระเด็กด้วย มีสไลเดอร์ ทำให้รีสอร์ทแห่งนี้เหมาะสำหรับพักแบบครอบครัว หรือกึ่งๆหมู่คณะ(คณะเล็กๆไม่เกิน 10 คน)
เดย์เบดที่สระว่ายน้ำครับ ที่บันยันลีฟสวนผึ้งจะใช้เดย์เบดสไตล์นี้ครับ
มาถ่ายจากทางฝั่งสระเด็กครับ เค้ามีบาร์ริมสระด้วยนะครับ
แต่วันที่ผมไปพักเป็นวันพฤหัส แล้วก็ฤดูฝนด้วย เลยออกแนวครองรีสอร์ทนิดนึงครับ
และนี่คือสไลเดอร์ที่ว่าครับ มีลูกมีหลานมาเที่ยวด้วย คงจะชอบน่าดูครับ ^ ^
แถวสระว่ายน้ำสวยดีครับ ก็เลยถ่ายหลายภาพหน่อย ^ ^
ภาพนี้จะเห็นว่ามีบ้านพักที่อยู่ใกล้หรือเกือบจะติดกับสระว่ายน้ำอยู่ด้วย ^ ^
ถัดจากสระว่ายน้ำก็ขอพาชมฟาร์มแกะของทางรีสอร์ทครับ มีแกะจำนวนมากโอเคเลยครับ ดูสุขภาพดีโอเคดีด้วยครับ
มีจุดยืนให้อาหารแกะโดยเฉพาะด้วย สำหรับคนที่ไม่ชอบเข้าไปสัมผัสแกะด้านในโดยตรง
แต่จะเข้าไปก็ได้นะครับ ผมก็เข้าไป ตอนแรกถืออาหารไปด้วย แกะรุมกันใหญ่เลยครับ ^ ^"
ต้องรีบเอาอาหารไปเก็บ ไม่งั้นมันกระโจนโถมตัวเข้าใส่เลยล่ะ ตัวเดียวไม่เท่าไหร่ หลายๆตัวก็ไม่ไหวเหมือนกัน
ดังนั้น เราต้องให้อาหารให้เสร็จก่อน แล้วค่อยเข้าไปด้านในสัมผัสมัน ^ ^
ตัวนี้เชื่องมากๆครับ จับเล่นไม่หนีเลย หลายๆตัวหนีเหมือนกันครับ แล้วก็มีตัวสีขาวตัวใหญ่อีกตัวที่เห็นคนแล้วชอบมาคลอเคลียเหมือนแมวด้วยครับ
เอาอาหารใส่มือ แล้วแกะมันจะมากินบนมืออย่างนี้เลย ไม่ต้องกลัวโดนกัดครับ
ถัดจากฟาร์มแกะ ก็มีหงส์ถีบเล่นในสระน้ำด้วยครับ ติดๆกับจุดชมแกะแหละครับ
จบทางด้าน facilities ต่างๆแล้ว ก็ขอพาชมบ้านพักประเภทอื่นๆบ้างแล้วกันครับ
เริ่มด้วยบ้านแคปซูลสีส้ม
หลังนี้เจ๋งดีครับ
ด้านหน้าเป็นวิว ด้านหลังเป็นสระว่ายน้ำใกล้ๆครับ ผมว่าน่าพักมากๆ
อันนี้บ้านแคปซูลบ้านม่วงติดๆกับบ้านแคปซูลส้ม
เดินเลาะไปเรื่อยๆ ไปส่องบ้านสีแดง
ขอบอกว่าปกติคงไปเดินถ่ายเล่นขนาดนี้ไม่ได้ แต่วันที่ไป นอกจากกลุ่มผม มีแขกแค่หลังเดียวเองครับ
ก็เลยเดินไปส่องห้องอื่นๆได้ตามใจชอบเลย
ห้องสีฟ้า ที่ติดกับสีแดงครับ ห้องนี้พักได้ 5 คนเลยมั้ง (จากจำนวนเตียง)
แล้วห้องนี้ก็ติดกับสีแดง ถ้ามาเป็นกลุ่ม จะจองทั้งฟ้ากับแดงเลยก็ได้ครับ
วิวสวยมากๆครับ สำหรับพวกบ้านแคปซูล
อย่างไรก็ตาม บ้านแคปซูลยังมีโซนทำเลที่ใกล้สระว่ายน้ำด้วย (แต่จะเสียวิวหน่อย)
ตอนผมไปยังสร้างไม่เสร็จดีเลยครับ
แต่ถ้าเสร็จแล้ว แล้วอยากพักบ้านหลังที่ใกล้หรือไปสระว่ายน้ำง่าย ก็หลังนี้เลยครับ
แล้วก็มีหลังนี้อีกหลังที่ใกล้สระว่ายน้ำครับ ซึ่งคงจะเห็นแล้วจากวิวที่สระว่ายน้ำ
ถัดมาจากบ้านแคปซูลก็เป็นบ้านบ๊อกซ์ครับ อันนี้เป็นสไตล์เทรนด์นิยมของโซนสวนผึ้งครับ
ดังนั้น ถ้าคุณชอบแบบนี้ ที่บันยันลีฟก็มีให้ แต่ถ้าชอบแปลกๆไม่เหมือนใคร ก็บ้านแคปซูลเลยครับ ^ ^
บ้านบ๊อกซ์นั้น จะมีดาดฟ้าที่ทำมาอย่างดี ไม่ได้แค่ตกแต่งง่ายๆ เราสามารถไปนั่งทานอาหารข้างบนได้ครับ ซึ่งเราสามารถโทรสั่งอาหารของทางรีสอร์ทให้มาส่งที่ห้องได้ครับ
จากบ้านบ๊อกซ์ก็กลับมาบ้านขนมชั้นกันต่อ ... สีอื่นๆบ้างครับ
มีสีชมพูน่ารักด้วยนะครับ ^ ^
ย้อนมาบ้านบ๊อกซ์ใกล้ๆอีกรูป
จบโซนบ้านพักแล้วครับ
ไปดูร้านอาหารกับร้านกาแฟของทางรีสอร์ทกันบ้าง
อันนี้ร้านกาแฟครับ ชื่อว่า Coffee Nest ครับ
มุมทานกาแฟ จะใช้เก้าอี้สไตล์รังนกตามชื่อ Coffee Nest ทั้งหมดเลยครับ
วิวและบรรยากาศก็สวยดีครับ กับร้านกาแฟ ^ ^
นอกจากขายกาแฟแล้ว ก็ยังมีของที่ระลึกด้วยนะครับ
ส่วนโซนอาหารเช้าเราจะมาทานที่ครัวระเบียงไทรแห่งนี้ครับ
เค้าทำเป็นแบบที่นั่งล้อมรอบต้นไทรครับ สวยเก๋ดี
วิวตรงนี้ จะตอนกลางวันหรือยาวเช้ายามเย็น ก็ได้วิวสวยๆจากจุดทานอาหารเหมือนกัน
ก็ใกล้มืดแล้วครับ เดี๋ยวพาชมบรรยากาศยามค่ำคืนอีกหน่อยแล้วกัน ^ ^
ตอนกลางคืนที่นี่ก็สวยดีครับ แต่ของจริงไม่สว่างเท่าในรูปนะครับ
จุดนี้ตอนกลางวันจะเป็นน้ำตกครับ พอกลางคืนก็ปิดน้ำตก แต่เปิดไฟส่องเข้ามาแทน
บริเวณรีสอร์ทมีต้นยางอยู่ด้วย ต้นไหนที่สวยๆ ทำเลเหมาะๆก็จะมีการประดับประดาไฟเข้าไปด้วย
หลังจากที่นอนหลับกันเต็มอิ่ม ตื่นมาได้เวลาอาหารเช้า
ตอนที่ไปมีแค่กลุ่มผม แล้วก็แขกอีกห้องเองมั้ง อาหารเช้าเลยไม่ได้เป็นบุฟเฟ่ต์ (เดาเองว่าถ้าแขกพักเต็มคงจะทำแบบบุฟเฟ่ต์ เพราะเหมือนมีที่วางอาหารอยู่ด้วย)
และนี่คือรายการอาหารเช้าครับ
ถ้าสั่ง ABF หรือ American Breakfast ก็จะได้แบบนี้ครับ ขนมปัง และไข่ดาวคนละ 2 เลย
ส่วนข้าวต้ม ออกมาแบบนี้ครับ
และอีกเมนูที่อร่อยน่าสนก็คือข้าวคลุกกะปิครับ
แต่ละคนนั้น จะได้น้ำเปล่าหนึ่งแก้ว น้ำส้มอีกแก้ว แล้วก็เซ็ทผลไม้อย่างนี้ทุกคนเลยนะครับ
ก็ขอจบการพาชมรีสอร์ท The Banyan Leaf Resort แห่งนี้ครับ ^ ^
รวมๆแล้วแนะนำครับ ของจริงสวยกว่าในรูป แล้วก็มีความเด่นตรงสไตล์บ้านพักที่ไม่เหมือนใคร (บ้านแคปซูล) นอกจากนั้นก็ยังมี facilities ต่างๆที่ครบเครื่องในตัวรีสอร์ทเอง เช่น ฟาร์มแกะ หรือสระว่ายน้ำ
ใครได้มาพักหรือเที่ยวสวนผึ้ง ก็อย่าลืมมาพักที่บันยันลีฟกันนะครับ
ปล. รั้วติดกับ Banyan Leaf ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งอยู่ใกล้ๆกัน (ติดกันเลยล่ะ) คือ Alpaca Hill ครับ
ดู รีวิว Alpaca Hill ได้ที่นี่เลยครับ ^ ^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น