April Fools' Day กับการหลอกที่แสบที่สุด?

April Fools' Day หรือวันที่ 1 เมษายน ของทุกปีนั้น คือวันที่คุณสามารถจะหลอกใครก็ได้โดยไม่มีความผิด หากใครหลงเชื่อก็พูดไ้ด้เลยว่า "เฮ้ นายหลงกลแล้วนะ นี่มันวัน April Fools' Day นะพรรคพวก" ... แต่เอาเข้าจริงๆ มันมีเส้นแบ่งของระดับการโกหกอยู่ดีแหละ ว่าเท่าใดจะเรียกว่าผิด เท่าใดจะเรียกว่าไม่ผิด ... ไปๆมาๆ กฎหมายไม่ได้บัญญัติเรื่องวัน April Fools' Day ไว้ซะหน่อย ถ้าเอากฎหมายมาจับ คนที่โกหกในวันนี้จัดได้ว่าผิดทุกกระทงด้วยซ้ำ

บางคนอาจจะคิดว่า จะหลอกเพื่อน หรือทำเซอร์ไพร์สใครให้มันแสบสุดๆเนี่ย ทำอะไรดีหนอ? หลอกอะไรดีหนอ?
แต่ทว่า ความยากของการหลอกให้แสบสุดๆนั้น ไม่ได้ยากเลยครับ
แต่ยิ่งแสบมากเท่าใด มันก็ยิ่งเข้าสู่เรื่องของการ "ล้ำเส้น" มากไปเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณไปหลอกเพื่อนคุณว่า "พ่อแม่นายประสบอุบัติเหตุรถชนอยู่รพ." ถ้าเพื่อนเชื่อ มันจะเป็นมุขที่แสบสันพอควร แต่มุขเจ็บๆแสบๆนี้ ไม่ได้จบลงด้วยดีหลังจากที่คุณเฉลยกับเพื่อนว่า "อย่าโกรธน่า นี่วัน April Fools' Day นะ" อย่างแน่นอน ... เพราะมันเป็นการโกหกที่ล้ำเส้นและทำร้ายกันเกินไป (ลองคิดดู ว่าถ้าเป็นคุณเอง โดนหลอกแบบนี้ จะยังอยากคบกับเพื่อนคนนั้นอยู่อีกไหม?)
ดังนั้น มุขของ April Fools' Day ที่แสบที่สุด มันต้องไม่ง่าย จนขนาดคนโดนหลอกไม่รู้สึกอะไรเลย หรือโหดจนเกินไปนัก มันต้องเป็นมุขที่ "อยู่บนทางสายกลาง" นั่นเอง ...
อย่างไรก็ตาม ถ้าคำว่าทางสายกลาง มันดูยากเย็นแสนเข็ญนัก ผมก็แนะนำว่า
1. ลืมเรื่อง April Fools' Day ไปซะเถอะ ^ ^ (จริงๆมันก็แค่กิจกรรมไร้สาระที่ไม่ผ่านวาระแห่งชาติแต่ประการใด)
2. ใช้มุขให้ดีใจไว้ก่อน อย่าไปหลอกให้ทุกข์ แล้วค่อยเฉลยว่า April Fools' Day ... ถ้าเพื่อนดีใจมาก แล้วเราเฉลยว่า April Fools' Day เพื่อนจะไม่โกรธมากเท่ากับมุขที่ไปเล่นบนความทุกข์ของผู้อื่น (ยกตัวอย่างเช่น หลอกว่านายถูกลอตเตอรี่ ... แล้วก็บอกว่าโกหก ถ้าเค้าเชื่อ มันจะเจ็บใจมากๆ แต่ก็ไม่มากจนความเป็นมิตรต้องแปรเปลี่ยนไป เป็นต้น)

ก็หวังว่าทุกคนจะใช้กิจกรรม April Fools' Day กันอย่างสร้างสรรค์นะครับ
อย่าลืมแล้วกัน ว่าถ้าเล่น April Fools' Day ไม่ถูกกาละเทศะ เกินเลยเกินไป โดนฟ้องขึ้นมา จะอ้าง April Fools' Day ไม่ได้นะจ๊ะ ^ ^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น