Nikon D7000 ภาพตัวอย่างพร้อมมินิรีวิวแบบลวกๆของ นิคอน D7000 จ้า ^ ^

วันนี้เพิ่งได้ยลโฉมกล้อง DSLR ตัวดังของค่าย Nikon อย่าง Nikon D7000 มาครับ
ไม่ได้ซื้อเองหรอก แต่ยืมคุณพี่เขยเค้ามาลองกล้องดูหน่อยแบบลวกๆครับ ปรับเองก็ไม่ค่อยเป็น การเข้าสู่เมนูไม่ค่อยจะคุ้นเคยเอาซะเลย เหอๆๆ

สำหรับ Nikon D7000 นี้ ... ณ เวลาที่มันเปิดตัวออกมา จนถึงตอนนี้ ตอนที่ผมพิมพ์บล็อคเล่นอยู่นี่ล่ะ
มันเป็นกล้องที่ค่อนข้างเป็นเอกฉันท์ถึงความคุ้มค่าอย่างที่สุด เพราะคุณภาพของตัวกล้องมันแตะระดับกล้อง FullFrame รุ่นเก่าๆของค่าย Nikon รวมทั้ง Canon เองไปแล้ว และที่สำคัญเทคโนโลยีต่างๆก็คือระดับเยี่ยมของกล้อง ณ ปัจจุบันไปด้วย
พอรวมๆกัน มันเลยกลายเป็นกล้องที่คนโจษจันกันเยอะที่สุดถึงความคุ้มค่าของมัน
แม้ราคามันจะแรงจนผมทำใจซื้อเองไม่ได้ก็เหอะนะ ... แต่ถ้ามองในแง่สิ่งที่ได้จากตัวกล้องมันก็จัดว่าถูกล่ะครับ เพราะเกินราคาจริงๆ
ก็ ... เอารูป D7000 มาให้ดูก่อน ว่าเค้าได้หยิบจับมันจริงๆนะ เหอๆๆ ^ ^
...
แรกที่ได้สัมผัสนั้น ต้องบอกว่าบอดี้ทำได้ดูดีจริงๆครับ ข้างในก๊องแก๊งหรือเปล่าบอกไม่ได้ แต่ข้างนอกดูดีมีชาติตระกูลมากครับ แม้แต่โซนพลาสติกก็เป็นพลาสติกที่ดูดีไฮโซ ไม่ได้เป็นพลาสติกสำหรับหล่อทำกะละมังซักผ้าแต่อย่างใด
แต่การปรับแต่ง ... ทำเอางงพอสมควร -*- ... ใครบอกว่ากล้องยิ่งรุ่นใหญ่ขึ้นยิ่งปรับแต่งง่าย ผมว่าไม่จริง มันขึ้นกับความเคยชินของคนมากกว่ามั้ง เพราะก่อนหน้านี้ได้ไปจับ DSLR ของ Nikon กับ Canon รุ่น Entry Level แบบลวกๆ มาหลายรุ่น ก็ไม่เห็นจะงงไปยังไง (ปกติใช้ Olympus ครับ) ... มาเจอ D7000 นี่แหละ งงๆเหมือนกันแฮะ -*- (แต่ถ้าได้อ่านคู่มืออาจจะใช้ได้สะดวกมากๆก็ได้ ใครจะรู้ เอาเป็นว่าเรื่องการปรับแต่งเนี่ย อย่าเอามาเป็นประเด็นละกัน ^ ^")

...
...
...

ว่าแล้ว ก็ต้องลองทดสอบไฟล์ภาพกันหน่อย แต่ทว่า มันก็ต้องมีกล้องมาเปรียบเทียบกันหน่อย ซึ่งผมก็มีแต่ Olympus E-P1 นี่แหละ ก็เลยต้องเอาเจ้า Mirrorless ตัวนี้มาเทียบ ทั้งๆที่มันไม่ได้แนวเดียวกันสักนิด -*-

ประเดิมด้วย Dynamic Range กับความฉลาดในการวัดแสงของกล้องกันก่อน
ผมหันกล้องไปวัดแสงที่จุดยอดสุดของเสาไฟฟ้าที่อยู่ท่ามกลางท้องฟ้า แล้วก็ถ่ายรูปด้วยโหมด P แบบดื้อๆเลย วัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ เกือบทุกอย่างเน้นการตั้งค่าที่เป็น standard ของตัวกล้องครับ (แต่ก็ไม่รู้ว่ามีตัวไหนหรือเปล่า ที่มันไม่ได้ standard ^ ^")
ภาพซ้ายคือ Nikon D7000 ส่วนภาพขวาคือ Olympus E-P1 นะครับ
จะเห็นว่ากล้อง Nikon D7000 วัดแสงได้ชาญฉลาดกว่ามาก โดยเก็บรายละเอียดของท้องฟ้าได้ครบแบบไม่เสียอรรถรสของท้องฟ้า แต่ก็ได้แสงสีของต้นไม้ใบหญ้าประกอบเข้ามาแบบไม่มืดมากนัก
ผิดกับ Olympus E-P1 ที่วัดแสงแบบเน้นที่ท้องฟ้า ซึ่งจะเห็นว่าท้องฟ้าเก็บเงาครบ จนภาพโดยรวมดูอันเดอร์ลงไปถนัดตา แถม WB ยังเพื้ยนนิดๆ มีอมเหลืองนิดๆด้วยล่ะ
...
มาดูภาพต่อไปกันบ้าง ... ภาพนี้ได้ลองเปิด Active D-light ด้วยน่ะครับ
ภาพนี้วัดแสงที่กึ่งกลางของเสาไฟฟ้าครับ
จะเห็นว่า Olympus E-P1 เก็บรายละเอียดส่วนอื่นๆที่ไม่ใ่ช่ท้องฟ้าได้ดีกว่าก็จริง แต่ท้องฟ้านั้น โอเวอร์ไปเลย!!
ส่วน Nikon D7000 นั้น เก็บรายละเอียดส่วนอื่นๆที่ไม่ใช่ท้องฟ้าสูสีกับ E-P1 แบบแพ้นิดหน่อย ... แต่ท้องฟ้า เก็บได้ครบเลย!! มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า นอกจากจะวัดแสงได้ฉลาดแล้ว Active D-Light ยังช่วยเพิ่มช่วง Dynamic Range ของตัวกล้องให้มองเห็นได้ง่ายๆแม้ตาเปล่าๆ!!

-----------------------

ว่าแล้ว ก็ลองเล่น ISO กันบ้างครับ!!
เทียบกับ Olympus E-P1 ดังเดิม
รูปที่เห็นเป็นรูปย่อที่เล็กแล้ว แน่นอนว่าถ้าเป็นกลอ้ง DSLR คงไม่เห็น noise แน่ๆสำหรับการย่อรูปให้เล็กขนาดนี้
แต่ที่อยากให้ดูคือสีสันโดยรวมครับ

ISO 1600

ISO 3200

ISO 6400
...
จะเห็นว่าภาพของ Nikon D7000 นั้น กระจ่างใสกว่ามาก แม้ ISO จะสูงขึ้นจาก 1600 เป็น 6400 ก็ตาม
...
แต่ถ้าจะดูเรื่อง noise ... ก็นะ ย่อรูปขนาดนี้ กล้อง DSLR รุ่นเก่าๆอย่าง D40 D100 ยังทำได้ดีเลยมั้ง ^ ^"
ว่าแล้วก็ขอซูมดูหน่อยครับ
เริ่มที่ ISO 6400 ครับ
...
แล้วตามด้วย ISO 1600
...
จะเห็นว่า ที่ISO 1600 นั้น D7000 ทำได้ดีกว่า E-P1 ก็จริง แต่ก็สูสีกัน ไม่ได้เห็นชัดมากมายนัก ซึ่งก็เป็นปกติของ ISO ช่วง 1600 ซึ่งไม่ว่าค่ายไหนๆในตอนนี้ก็มักจะทำได้ดีอยู่แล้ว
แต่พอมาเป็น ISO 6400 ... น่าทึ่งมาก!!
Nikon D7000 นั้น เม็ด noise ที่ได้มา ดูเหมือนจะช่วยให้ภาพดูคมชัด ไม่ได้ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่าง 1600 กับ 6400 เลย
เรียกได้เลยว่า แทบจะดัน ISO ให้ได้ 6400 ยังได้เลย!!
แต่พอมาดู E-P1 จะเห็นว่าที่ ISO ระดับนี้ จะเห็นความแตกต่างกันชัดเจนแล้ว ^ ^

...
...
...
หลังจากดู Dynamic Range และ noise กันมาแล้ว
มาดู Auto WB กันบ้าง ... แน่นอนว่าตากล้องส่วนใหญ่ไม่ชอบ WB auto ... แต่สำหรับ user ทั่วๆไปคงแคร์แน่นอน สำหรับเรื่อง Auto WB
มาดูภาพแรกกันก่อน
จะเห็นชัดเลยว่า E-P1 มีภาพอมเหลืองกว่า D7000
ถ้าพูดในภาษาตากล้อง D7000 มาวิน
แต่ถ้าพูดในภาษา user ทั่วไป E-P1 มาวิน
...
ทำไมผมถึงบอกว่า ถ้าเป็น user ทั่วไป E-P1 มาวิน?
นั่นก็เป็นเำพราะสภาพแสงจริง!! ดั่งตามนุษย์เห็นนั้น แสงจริงคือแสงจากหลอดไฟ incandescent ที่ให้แสงเหลืองนั่นเอง!!
ดังนั้น แสงในห้องเหลือง แต่ถ้าถ่ายออกมาขาวเนี่ย มันก็ผิดธรรมชาตินั่นเอง!! (ซึ่งจริงๆแล้ว แสงในห้องมันเหลืองยิ่งกว่าในภาพอีกครับ ก็คือว่าปรับให้เหลืองน้อยลงแล้วทั้งสองรุ่นล่ะครับ)
...
แต่ถ้ามองในแง่มุมตากล้อง ต้องบอกว่า D7000 สุดยอด!! อ่านออกว่าแสงในห้องคือ incandescent และปรับให้กลายเป็นแสงขาวให้แบบ autoๆ กันเลย
...
ส่วนตัวผม ก็เลยขอคอมเมนต์ไว้ง่ายๆว่า Nikon D7000 ฉลาดไม่รู้กาลเทศะครับ!! ผมเป็น user ทั่วๆไปเท่านั้น ผมไม่ได้ต้องการให้มันฉลาดขนาดนี้~~ ^ ^"

ถ้าจะดูความฉลาดของกล้อง ก็ดูได้ที่ภาพนี้ครับ
ผมเซ็ท WB ของ Olympus เป็น incandescent ส่วน D7000 ยังเป็นออโต้ครับ
จะเห็นว่าภาพของ E-P1 นั้น WB แบบ D7000 นั้น E-P1 ก็ทำได้ แต่พอเป็น auto จะไม่ฉลาดเท่า D7000 นั่นเอง
...

ก็จบแล้วจ้า
อย่าเพิ่งบ่นสำหรับมินิรีวิวที่ดูไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์มากนักนะครับ
เพราะถ่ายและเซ็ทแบบลวกๆจริงๆ เหอๆๆ ^ ^"
คือยืมกล้องเค้ามาเล่นแป๊บๆน่ะครับ ปรับก็ไม่ค่อยเป็นเหอๆๆ

แต่ก็อยากฝากอย่างหนึ่งที่ค่อนข้างมั่นใจในการใช้ DSLR ยุคหลังๆก็คือ
ค่านิยมเรื่อง "DSLR ถ่ายห่วยกว่า Compact ถ้าคนใช้กล้องไม่มีความรู้" ... มันไม่จริงเลยครับ!!
กล้อง DSLR ทุกวันนี้เป็นกล้องสำหรับทุกคน มากกว่าจะเป็นกล้องเฉพาะตากล้องไปแล้วครับ มันฉลาดกว่าคอมแพคหลายขุม!!
หากใครคิดจะซื้อ DSLR แบบเอามาถ่ายง่ายๆ ไม่อยากศึกษามาก เพียงเพื่อจะถ่ายให้สวยกว่าคอมแพคตัวเก่าล่ะก็ ขอบอกว่า "ซื้อได้เลย ไงๆก็ถ่ายสวยกว่าคอมแพค" แม้คุณจะใช้แต่โหมด P หรือ Auto ก็ตาม!!
หากมีตากล้องผู้แก่ประสบการณ์มาบอกว่า ถ้าไม่ปรับอะไรเลย คอมแพคจะสวยกว่าล่ะก็ ... ขอบอกเลยว่า นั่นมันเฉพาะ DSLR รุ่นเก่าครับ!! ตัวใหม่ๆไม่เป็นแล้ว สมองกลในเครื่องอัจฉริยะมากครับ จะปรับเอง จะออโต้ ทำได้ดีแทบทุกรุ่นทุกยี่ห้อครับ
การหยิบจับ D7000 ในวันนี้มันค่อนข้างชัดเจนมากๆครับ จริงๆรุ่นอื่นๆที่เคยหยิบจับ ไม่่ว่าจะ Canon หรือ Olympus ก็จะไปในทางเดียวกันหมดครับ

อีกเรื่องก็คือ ค่านิยม Nikon สีสด และ Canon สีธรรมชาติ ในหมู่นักเล่นกล้อง ที่ชอบนำมาฝังหัวคนซื้อกล้องรุ่นใหม่ๆนั้น ก็ไม่เ็ป็นความจริงอีกแล้ว มันเป็นเรื่องราวสำหรับกล้องรุ่นเก่าๆน่ะครับ ใหม่ๆไม่เป็นแล้วจ้า
ทั้ง Nikon และ Canon เน้นสีสมจริงดั่งตาเห็นทั้งสองยี่ห้อครับ หากจะปรับให้สีสดอย่างที่ชอบ ก็ทำได้ทั้งสองยี่ห้อจากการปรับเพิ่มเติมเช่นกัน ดังนั้นถ้าชอบสด จะเล่นยี่ห้อไหนก็ได้ เพราะต้องปรับจากตัวกล้องทั้งสองยี่ห้อ
ส่วนถ้าชอบธรรมชาติเหมือนจริง ก็เล่น Nikon ได้เช่นกันครับ เีรียกได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นสีแบบไหน สั่งได้ทั้งสองยี่ห้อ
...
สิ่งที่ยังต่างกันสำหรับเรื่องสี ตอนนี้็ก็มีแต่คาแรคเตอร์เฉพาะสีน่ะครับ
ส่วนตัวมองว่าสีแดง Canon จะหนักๆเข้มๆ ส่วน Nikon จะออกแนวสว่างใส
สีเขียว Canon จะเขียวแน่นๆ ส่วน Nikon จะออกเขียวแบบแอบอมเหลืองนิดๆ
สีฟ้า Canon จะฟ้าโปสเตอร์ ส่วน Nikon จะฟ้าแก้วๆสีฟ้าอ่ะ พูดไม่ถูก
อันนี้ก็แล้วแต่ตาคนมองละนะครับ
... ก็ ... มันต่างกันในคาแรคเตอร์แบบนี้มากกว่าครับ ลองไปเทียบสีดูครับ ว่าชอบคาแรคเตอร์สีของยี่ห้อใดมากกว่ากัน ^ ^

3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ14 กันยายน 2554 เวลา 20:53

    สีสดมากครับ สำหรับ Nikon D7000 Black Friday ยอดเยี่ยม

    ตอบลบ
  2. ราคาเท่าไหร่

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ17 กันยายน 2556 เวลา 08:07

    ผมจับกล้อง dslr มาหลายตัวแล้ว d7000เป็นdslrที่ถ่ายตอนกลางคืนได้อัปรีย์สุดครับ

    ตอบลบ