รีวิว Amari Coral Beach Resort Phuket รีสอร์ทที่ดีที่สุดในภูเก็ต!!

Amari Coral Beach Resort Phuket - อมารีคอรัลบีชรีสอร์ท ภูเก็ต
ผมเกริ่นไว้ที่หัวบทความว่า "รีสอร์ทที่ดีที่สุดในภูเก็ต" ซึ่งมันก็คงไม่ขนาดนั้นหรอกครับ เกริ่นเว่อร์ไปงั้นเอง เหอๆ
เรื่องพวกนี้มันไม่ใช่ของที่จะบวกลบเป็นคะแนนออกมาได้ว่าที่ไหนดีที่สุดหรอก มันนานาจิตตัง
... แต่ ... หากจะมีใครสักคน บอกว่าที่นี่ดีที่สุด ก็ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดนักครับ!!
ที่อมารีภูเก็ต มีคุณค่าพอที่จะมีคนบอกว่ามันดีที่สุด ... ซึ่งมันขึ้นอยู่กับว่า คุณต้องการโรงแรมรีสอร์ทแบบใด ^ ^

ส่วนตัวผม มันดีตรงที่ ราคาแพงแบบจับต้องได้ ห้องพักไม่หรูเว่อร์ แต่ได้วิวทะเลทุกห้อง ทะเลไม่สวยแต่ดู Marine Life จากหน้าหาดได้เลย มีปะการังบ้าง ดำน้ำตื้นเล่นได้ที่เจทตี้ของรีสอร์ท อยากคึกคักในหาดป่าตองก็ไม่ไกล ... สรุปคือ มันไม่สุดโต่ง แต่มันสมดุลย์ และครบเครื่องในตัวรีสอร์ทของมันเองครับ คลุกอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน ไม่เบื่อครับ ^ ^
แต่ตอนผมไปพักนั้น ผมไปฮันนีมูนกัน ช่วง Peak Season พอดี ราคาห้องพักอัพแรงเกินความหรูของตัวห้องพักมากๆ ถ้าอยู่หัวหิน ก็คงเกือบจะได้พูลวิลล่า ... แต่สิ่งที่ชดเชยก็คือ ห้องทุกห้องซีวิวสวยๆทั้งหมดและสภาพโดยรวมของทั้งรีสอร์ทที่มีโน่นนี่นั่นเยอะแยะครับ มันเลยกลายเป็นคุ้มค่าเงินมากๆ

พอเดินเข้ามาที่ล็อบบี้ ก็จะมองไปเห็นวิวแบบนี้เลยครับ วิวทะเลตั้งแต่ที่ล็อบบี้เลย

หันกลับมามองบริเวณล็อบบี้ พนักงานบริการได้มาตรฐาน ยิ้มแย้มทักทาย ทำได้ดี

นั่งชมวิวสไตล์ Ocean view เต็มๆแบบนี้ ได้ที่ล็อบบี้เลยครับ ^ ^

Welcome Drink ที่ได้มาครับ น้ำขิงตะไคร้ ประมาณนั้น อร่อยสดชื่น

จากนั้นพนักงานก็พาไปห้องพักครับ ห้องพักผมเป็นห้อง Superior ราคาถูกสุดของรีสอร์ท (แต่ก็แพงมากๆในช่วง Peak Season -*-)

การไปเที่ยวครั้งนี้ ผมไปฮันนีมูนกับคุณภรรยา ก็เลยรีเควสท์ห้องที่วิวทะเลสวยๆจากห้อง type นี้ครับ แล้วก็ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ นี่คือวิวจากระเบียงห้องพักครับ น้ำใสฟ้าเขียว สวยเชียว

ตัวห้องพักที่นี่ ผมรู้แต่ต้นแล้วว่าไม่ได้หรูหราเว่อร์ แต่ก็สวยน่าพักผ่อน ... แต่ที่ผมยอมจ่าย ก็เพราะผมต้องการวิวแบบนี้แหละครับ ^ ^ (อีกอย่างคือเข้าใจว่าช่วงเวลานี้มันแพงอยู่แล้ว)

มองไปทางซ้าย เห็นสระว่ายน้ำสระหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้โซน Superior Room (ที่นี่มีสองสระครับ) แล้วก็เห็นห้องอาหาร La Gritta ด้วย

คุณภรรยา สตันไป 5 วินาที กับวิวเบื้องหน้า ^ ^

ไม่อยากอยู่ในห้องเลยครับ ไปนั่งเล่นที่ระเบียงดีกว่า ^ ^

หรือจะขยับโต๊ะออกไป มานั่งม้านั่งสวีทชมวิวชิลๆก็ไม่เลว ^ ^

มี Welcome Fruit ด้วย (แต่บางลูกไม่สดเท่าไหร่) และที่สำคัญ ผมรีเควสท์ไว้ว่า อยากได้วิวดีๆเพราะเรามาฮันนีมูนกัน ... ก็เลยได้เค้ก Happy Honeymoon มาให้ด้วย ^ ^ (เป็นเค้กชอคโกแลตที่ไม่ไก่กานะครับ เนื้อนุ่มอร่อยครับ)

ทีวีในห้องพักครับ เคยเห็นรีวิวห้อง Superior เมื่อปีสองปีก่อนยังเป็นทีวีจอหนาๆอยู่เลย ตอนนี้เป็นจอแบนบางๆ LCD เรียบร้อยแล้ว ^ ^

พาชมมินิบาร์ ชา กาแฟ และขนมขบเคี้ยวต่างๆ

อุปกรณ์โน่นนี่นั่น มีกระเป๋าให้ไปเดินชายหาดเล่นด้วย ^ ^

มาดูห้องน้ำบ้าง ห้อง Superior Room ไม่มีอ่างอาบน้ำให้ครับ ต้องเป็นห้อง Deluxe ขึ้นไป แต่ภายในก็มีอุปกรณ์โน่นนี่นั่น ดูดีครับ ^ ^

Amenities ในห้องน้ำครับ สบู่มีให้สองก้อนนะครับ อีกก้อนวางประดับพร้อมดอกกล้วยไม้ในโซน Shower ครับ (ที่นี่จะประดับประดาของเล็กๆน้อยๆให้สวยงามด้วยดอกกล้วยไม้น่ะครับ)

ไดร์เป่าผม มีทิชชู่ให้ใช้ตรงนี้ด้วย

หลังจากนอนตากวิวที่ระเบียงห้องพักได้พักใหญ่ๆ ก็ขอเดินออกมาเที่ยวภายนอกบ้าง ตรงนี้คือตัวอาคารที่เราพักเองครับ
อ้อ ผมพักห้อง 4304 ครับ ห้องพักของอาคารนี้ก็จะพวกที่ขึ้นต้นด้วย 41 42 43 ประมาณนี้ครับ

ทะเลหน้ารีสอร์ทครับ ไม่ใช่หาดทรายขาวฟ้าใส แต่เป็นซากปะการังล้วนๆครับ ช่วงประมาณบ่าย 2 น้ำจะลดแบบนี้ครับ (แต่ช่วงที่น้ำกำลังสวยฟ้าใส น่าเล่นน้ำคือช่วง 10 โมงเช้า ถึงประมาณเที่ยงครึ่งครับ)
ทะเลหน้ารีสอร์ทจะสวยไม่สวย ขึ้นอยู่กับเวลาครับ จะเห็นว่าภาพด้านบนๆที่ผมถ่ายจากระเบียงห้องพัก น้ำฟ้าเขียวใสน่าเล่นมาก แต่ถ้าถ่ายตอนเช้ามืด น้ำขึ้น จะขุ่นๆไม่สวยครับ แล้วก็หลังบ่ายสองน้ำจะลง ไปจนถึงเย็นๆ จะเห็นแต่หาดหินปะการัง ซึ่งปะการังส่วนใหญ่ตายหมดแล้ว (ถ้ายังไม่ตายนะ ตรงนี้จะแบบว่าเป็นอะไรที่เด็ดมากๆ) แล้วพอเย็นมากๆจนใกล้ค่ำ น้ำก็จะเริ่มขึ้นใหม่อีกรอบ ดังนั้น เวลาคุณไปดูรีวิวที่นี่ คุณอาจจะเอ๊ะ? ทำไมรีวิวนี้น้ำทะเลสวย รีวิวนั้นน้ำทะเลไม่สวย ... อีกอย่างก็คือ ขึ้นอยู่กับว่าเที่ยวช่วงเดือนไหนด้วย (ผมไปพักวันที่ 10 มกราคมครับ)

ตอนน้ำลง ความฟ้าเขียวของน้ำหายไป แต่ยังใสอยู่ครับ เดินย่ำไปดูโน่นดูนี่ได้ แต่ต้องเดินระวังมากๆครับ ยังมีปะการังสภาพดีๆ สิ่งมีชีวิตในน้ำอยู่อีกด้วยนะครับ

อย่างเช่นปะการังก้อนนี้ ยังสภาพดีๆอยู่เลย ถ้าไปเหยียบโดนมันล่ะก็ คงไม่ดีแน่ๆ

แล้วก็นี่ครับ หอยมือเสือตัวเล็กๆสีม่วงๆ มีปลาด้วย (เดินลุยโซนนี้ปลาเยอะครับ แต่มันว่ายเร็วแล้วก็กลัวคน ถ่ายรูปมายากมาก มีตัวฟ้าๆเขียวๆที่ตัวเล็กๆด้วย มีเยอะ สวยดี แต่ถ่ายรูปมาไม่ได้) แล้วที่ต้องระวังก็คือ หอยเม่นครับ มีน้อยครับ แต่ก็มีซุกซ่อนอยู่เหมือนกัน

ทางเดินในรีสอร์ทครับ วิวทะเลแบบนี้ เห็นได้ทั่วไปทุกๆส่วนของ Amari Coral Beach แห่งนี้ ^ ^

พาชมสระว่ายน้ำบ้าง สระนี้จะไม่ลึกครับ ประมาณ 1.3-1.4 เมตรมั้ง ผมจำไม่ได้ แต่จำได้ว่าสระนี้ไม่ลึก

สระนี้เป็นอีกสระครับ อยู่ใกล้ห้องพักโซน Deluxe

สระนี้ลึกครับ แต่ไล่ระดับนะ มีตั้งแต่สระเด็ก และลึกถึง 2.7-2.9 เมตรกันเลย!!

เดย์เบดแถวนี้น่านั่งครับ มีบาร์ริมสระให้บริการด้วย เย็นๆคนมานั่งครองกันหมดเลยครับ

สระเดิมครับ ตรงนี้ตื้นๆสำหรับเด็ก

วิวที่นั่งที่วิวดีมากๆใกล้ๆสระว่ายน้ำ มองเห็นเจทตี้ อีกไฮไลท์ของทางรีสอร์ทด้วย

อันนี้เป็นวิวจากเดย์เบดด้านหน้าโซนที่พักของห้อง Deluxe ครับ นอนชมวิวทะเล เห็นเจทตี้ด้วย

จุดมุ่งหมายต่อไป "เจ๊ทตี้" ไฮไลท์ของที่นี่ เราจะเดินไปที่นั่นกัน ^ ^

วิวทางเดิน ระหว่างเดินไปเจ็ทตี้ครับ

และแล้วก็เดินมาถึง ที่นี่จะมีการเปิดเป็นจุดดินเนอร์อาหารญี่ปุ่นตอนเย็นๆถึงค่ำด้วยนะครับ แต่จะไม่ได้เปิดทุกวัน ผมจำไม่ได้ว่าเปิดวันไหน ต้องสอบถามกับทางรีสอร์ทอีกที

วิวบนเจ็ทตี้ครับ ตรงนี้เราจะมองเห็นหาดไตรตรังและหาดป่าตองได้เต็มๆเลยครับ

ครอบครัวชาวจีนที่มามองดูปลาบริเวณปลายของเจ็ทตี้

ปลาเพียบเลยครับ ส่วนใหญ่ก็ขาประจำทะเลอันดามันอย่างสลิดหินบั้งเขียว แต่ก็มีปลาอย่างอื่นบ้างเหมือนกันนะ ^ ^
ตรงนี้เป็นจุดดำน้ำตื้นของทางรีสอร์ทครับ มีฝรั่งมา Snorkeling ด้วย แต่ผมไม่ได้เอาอุปกรณ์มา เสียดายเลย แต่ก็ได้ว่ายน้ำไปเกาะกับแท่นลอยดำๆครับ ถ้า snorkeling แบบไม่มีชูชีพไม่แข็งแรง ... ก็ว่ายเกาะเชือก แล้วก็ขึ้นไปบนแท่นลอยดำๆได้ครับ แค่นั้นก็ก้มส่องดูปลาได้สบายๆแล้ว ^ ^ (ปล. ปลาบริเวณนี้ชอบตอดอ่ะ)

นี่ครับ โฉมหน้าขาประจำ ปลาที่น่าเบื่อ แต่สร้างสีสันได้จากจำนวนเยอะๆ

แต่กระนั้น ก็มีปลาอย่างอื่นด้วยนะ เห็นไหม ว่าถ่ายมาติดปลานกแก้วด้วย ^ ^

และภาพนี้ครับ ปลาโนรีครีบยาว ... เห็นอยู่ตรงที่ผมดำดูเล่นประมาณ 2-3 ตัวครับ มัวตอดกินอะไรไม่รู้ ไม่ได้เห็นใกล้ๆเลย
สำหรับการดำน้ำตื้น ถ้าคุณชอบการดำน้ำตื้น มาอยู่ที่ Amari Coral Beach Resort Phuket นี่ได้เลยครับ ผมไปดำที่อ่าวสยาม เกาะราชามา สวยกว่าบริเวณนี้นิดเดียวเองครับ พันธุ์ปลาเท่าที่เห็นพอๆกันด้วยซ้ำ

หลังจากเล่นน้ำบริเวณเจ็ทตี้เสร็จ ก็เดินกลับ แวะสปาหน่อย ที่นี่ชื่อว่า Breeze Spa ครับ

จุดนอนทำสปาครับ

วิวดีมากๆ สำหรับห้องทำสปา (พนักงานบริการดีมากๆ ผมไม่ได้ไปทำสปานะ ขอแค่ชม เค้าก็โทรมาเรียกคนพาไปชมแล้วแนะนำโน่นนี่นั่นอย่างดีเลย)

แอบเก็บภาพห้อง Deluxe มาให้ดูซะหน่อย ของห้องผมตรงระเบียงจะมีราวเหล็กกั้น แต่ที่นี่ เป็นกระจกใสครับ ห้องภายในก็จะกว้างกว่า มีเดย์เบดน่านั่งกว่า แล้วก็มีอ่างอาบน้ำให้ (ไม่ได้เข้าไปดู แต่จำได้จากข้อมูลหน้าเวบว่าประมาณนี้)

ต่อไป ตามไปดูจุดทานอาหารเย็นกันครับ ที่นี่มีห้องอาหาร 3 ห้องคือ ห้อง Kinnaree เป็นอาหารไทย, ห้อง Rim Talay จะเป็นจุดทานอาหารเช้า ซึ่งตอนเย็นๆก็น่ามานั่งสั่งอาหารทานเหมือนกัน เพราะวิวดี, ห้อง La Gritta เป็นอาหารอิตาเลียนครับ ราคาแรงหน่อย แต่วิวสวยมากครับ
ผมเลือกที่ Rim Talay ครับ เพราะวิวดี และไม่แพงเท่า La Gritta อีกอย่างคือคุณภรรยาไม่อยากกินอาหารอิตาเลียนในเวลานั้น

โต๊ะนี้วิวดีสุดแล้ว สำหรับห้องอาหารริมทะเล เรานั่งทานอาหารเย็นกันที่โต๊ะนี่แหละ (แต่ตอนเช้ามีคนมานั่งก่อน)

สั่งข้าวผัดสัปปะรดมากิน อร่อยดี (อยากสั่งเมนูนี้ เพราะมันใส่มาในสัปปะรด หน้าตาดูสวยดี ร้านอาหารย่านป่าตองเห็นทำแบบนี้แทบทุกร้านครับ หากสั่งข้าวผัดสัปปะรด) ข้อเสียอย่างคือกุ้งครับ อีกเมนูสั่งเป็นต้มยำกุ้ง กุ้งเป็นแบบกุ้งอาหารแช่แข็งอ่ะครับ ตัวเล็กๆ ที่ไปกินที่ตลาดบ้านซ่านในป่าตองกุ้งสดหนึบอร่อยกว่า

หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ก็ขอแวะไปส่องภาพ La Gritta ดูหน่อย แม้ไม่ได้ทาน ก็ขอเข้าไปถ่ายรูปได้ครับ

วิวโรแมนติกมากๆ ตรงนี้แนบชิดทะเลที่สุดแล้วครับ สำหรับจุดทานอาหารในรีสอร์ท

นั่งดินเนอร์สวยๆ บรรยากาศดีๆ เป็นร้านอาหารที่บรรยากาศไม่แพ้ใครย่านป่าตองครับ (เมนูถูกๆ 300 กว่าๆก็มีครับ แต่มีน้อยเมนูมากๆ ส่วนใหญ่ราคา 500 อัพครับ 700-1,000 กว่าก็มีเยอะ)

และนี่คือ La Gritta ตอนเช้าครับ ^ ^ ร้านอาหารยังไม่เปิดให้บริการ ผมกับคุณภรรยาก็มาถ่ายรูปเล่นตามระเบียบ

ไปกินอาหารเช้าที่ Rim Talay ดีกว่า ... ไลน์อาหารผมไม่ให้ดูนะครับ แต่ขอบอกว่าไม่ต้องกลัวผิดหวังครับ โรงแรมระดับนี้แล้ว หลากหลายพอควร

โต๊ะที่เรานั่ง บริกรจะจัดแจงให้เรียบร้อยครับ มีนมสดไว้ให้เติมผสมกับกับชากาแฟที่โต๊ะของเราเหยือกเล็กๆโดยเฉพาะเลย ก็ตามระดับของโรงแรมล่ะครับ

คุณแฟนตักมาเพียบ แผ่นที่คล้ายๆโบโลน่านั่นอร่อยมากครับ

นั่งทานอาหารเช้ากัน วิวแบบเนี๊ยะครับ ^ ^ แม้ไม่ได้โต๊ะที่ทานตอนเย็น ก็ยังได้โต๊ะวิวทะเลอยู่ดี

หลังทานอาหารเช้าเสร็จ ก็เดินเล่นในรีสอร์ท ไปนั่งชิลๆที่ระเบียงห้องพัก
จากนั้นก็เช็คเอาท์ออกจากรีสอร์ท ... จะเดินทางไปสนามบิน แจ้งทางฟรอนท์ขอแท็กซี่ ทางฟรอนท์บอกว่า ต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ชม.นะคะ ต้องเดินลงไปเองค่ะ ... -*- ... เซ็งเยย!! (ก่อนกลับนิดหน่อย ไม่เป็นไร ^ ^" ไปโดนแทกซี่ข้างล่างฟันหัวแบะเลยล่ะ เหอๆ ต่อราคายากมาก)
ก็เลยได้เดินชมวิวครับ นี่คือทางเดินจากตัวรีสอร์ทลงมายังหาดป่าตองนะครับ ไม่ยากครับ แต่กลางคืนไม่แนะนำครับ ถ้าช่วงเย็นหรือเช้า ก็โอเคครับ

สรุป Amari Coral Beach Resort Phuket
เป็นรีสอร์ทที่ห้องพักไม่ได้หรูหราตามราคาห้องพักครับ
แต่!! คุ้มราคามากๆ!! คุณอาจจะไปได้ห้องพักหรูเลิศ มีจากุซซี่ มี Pool Access ในราคาใกล้ๆกัน
แต่สุดท้ายก็คือวิวในกรอบสี่เหลี่ยม ที่แบคกราวน์คือตัวอาคาร ตัวตึก หรือวิวที่ไกลจากทะเล ไม่ก็มีถนนคั่นก่อนได้ชมทะเล
แต่ที่นี่ มันแนบชิดกับทะเลจริงๆครับ ส่วนตัวถือว่าราคามันมากับทำเลจริงๆครับที่นี่ สวยมากๆ
และที่สำคัญ ดำน้ำตื้นเล่นได้ที่รีสอร์ทเลย มีไม่กี่แห่งครับ ที่ได้แบบนี้ ชอบมากๆ
หากมาพักที่นี่ คุณเพลิดเพลินโน่นนี่นั่นในรีสอร์ทได้เลย ไม่ต้องไปไหนจ้า ^ ^

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ23 มกราคม 2556 เวลา 17:40

    ประทับใจที่นี่สุดๆ ทั้งการบริการและสถานที่....

    ตอบลบ