มาดูกันครับ ว่า Nikon D5200 มีจุดเด่นอะไรบ้าง ^ ^
เริ่มต้นก็ลองดูจากคลิปของ Nikon D5200 กันก่อนครับ
1. หน้าจอพลิกหมุนได้ 360 องศา
2. จุดออโต้โฟกัส 39 จุด ซึ่งมันจะตามวัตถุให้ด้วย โดยระบบ 3D-tracking of moving object ดังนั้นหากวัตถุที่เราถ่ายอยู่มันเคลื่อนที่ มันจะล็อคโฟกัสที่สิ่งนั้นให้ เจ๋งป่าวล่ะ!!
3. เซนเซอร์ มีการกระจายจุดวัดแสงไปทั่วๆถึง 2016 จุดเลยทีเดียว การวัดแสงเลยโดยเฉลี่ยทั้งภาพจะทำได้ดีมากๆ
4. ด้วยจำนวนพิกเซลที่มากถึง 24.1 ล้านพิกเซล ทำให้ได้ภาพที่ละเอียดมากๆครับ
5. การถ่ายวิดีโอที่ Full HD จะทำให้ได้ภาพที่เคลื่อนไหวสมจริงมากกว่าปกติ เพราะว่าทำได้มากถึง 60 เฟรมต่อวินาที (ส่วนใหญ่ทำได้แค่ 30 เฟรมต่อวินาที)
6. ตอนถ่ายวิดีโอ ใช้โหมด Effect ต่างๆได้ด้วย!!
7. หากต่อกับ WU-1a ซึ่งเป็น Wireless Mobile Adapter จะทำให้ส่งภาพเข้า smartphone หรือ tablet ในระบบ iOS และ Android ได้ทันที
8. มี 3 สีให้เลือกสรรค์ คือ ดำ แดง และน้ำตาลเข้ม ครับ ^ ^
และเมื่อเราเห็นสเปคแล้ว เราลองมาดูด้านไฟล์ภาพกันบ้างครับ!!
ภาพที่เปรียบเทียบทั้งหมดนำมาจากเวบ dpreview.com ซึ่ง crop 100% ที่ ISO 6400 เป็น JPEG แท้ๆจากกล้องครับ
1. Nikon D5200 VS Nikon D7000
ส่วนตัวผมมองว่าการประมวลผลของภาพนั้น D5200 ทำได้ไม่ต่างจาก D7000 เลยครับ
ที่ต่างกันก็คือ D5200 ได้ไฟล์ภาพที่ใหญ่กว่า!! ทำให้ตอนนี้ แม้คุณภาพไฟล์ภาพจะออกมาเท่าๆกัน แต่ด้วยขนาดพิกเซลที่มากกว่า ทำให้ได้ภาพที่ได้เปรียบด้านขนาด
2. Nikon D5200 VS Canon 650D
เทียบกับคู่แข่ง DSLR ตัวเอ้อย่าง Canon ... ผมว่า Nikon D5200 ทำได้กระจ่างใสกว่า สีไม่เพี้ยนเป็นจ้ำๆที่ ISO สูงๆอย่างที่ 650D เป็นครับ
ดังนั้นถ้าเทียบกับคู่แข่งอย่าง Canon ผมว่า ยกนี้เป็นของ Nikon ครับ
3. Nikon D5200 VS Sony NEX-5N
ตอนที่ Sony NEX-5N ออกใหม่ๆนั้น ไฟล์ภาพมันกิน DSLR DX Format แทบทุกรุ่น ซึ่งมันแสดงความสามารถของ Sony ในตอนนั้นได้อย่างดี ว่าค่ายนี้กำลังจะก้าวเข้ามาแรงๆ
การนำเจ้า Sony NEX-5N มาเทียบ จึงเป็นเรื่องน่าสนใจ ... ซึ่งจากไฟล์ภาพ จะเห็นว่า Sony ไม่มีด่างสีเพี้ยนๆแซมเข้ามาในเนื้อสีเลยครับ ทำได้ดีมากๆ ความคมชัดเอยอะไรเอย ทำได้ดีมากๆ
ดังนั้น หากเทียบกับแชมป์เก่า DX Format จัดว่า Nikon ยังชนะไม่ได้ครับ ... กำแพงที่ Sony NEX-5N ทำเอาไว้ หนามากพอตัวเลยทีเดียว
4. Nikon D5200 VS Olympus OMD-EM5
Olympus OMD-EM5 แม้จะเป็นกล้องรุ่นท๊อปของเซนเซอร์ M43 แต่ที่มันท๊อปได้ ควรจะเป็นเพราะบอดี้ทนน้ำทนฝน และกันสั่น 5 แกนอันลือลั่น ... ไม่ควรอย่างยิ่งที่ OMD จะมีไฟล์ภาพที่ดีกว่าภาพจากเซนเซอร์ DX Format แม้ M43 จะเล็กกว่าเพียงนิดหน่อยก็ตาม
จากภาพจะเห็นว่า Olympus กลับทำได้ดีกว่า D5200 ครับ ความคมกับ resolution ที่ดูดี อาจจะเป็นเพราะทาง Olympus แอบเร่งคอนทราสท์เข้ามาก็เป็นได้ แต่กระนั้น noise ก็ไม่ได้เพิ่มตามเข้ามาแม้จะเร่งคอนทราสท์
ดังนั้น การต่อสู้กับ Olympus E-PL5 ที่เป็นรุ่นเล็กลงมา อาจจะเหนื่อยเอาได้
จากการเปรียบเทียบด้านไฟล์ภาพจะเห็นว่า DSLR รุ่นใหม่อย่าง D5200 ยังเอาชนะ Mirrorless ไม่ได้ โดยเฉพาะ Sony NEX-5N นั้น ตอนนี้ราคาแค่ 2 หมื่นต้นๆเท่านั้น ถูกมากๆ เพราะมันเป็นกล้องที่เริ่มตกรุ่นแล้ว
ความแตกต่างตรงนี้เป็นการบ้านหนักของ Canon กับ Nikon ที่เคยเป็นแชมป์ด้านไฟล์ภาพในอดีตครับ มันไม่ควรจะแพ้กล้องเก่าอย่าง NEX-5N ซ้ำร้ายหากจะคุยว่าโฟกัสเร็ว โอกาสได้ภาพมากกว่า เรื่องการโฟกัส ก็โดน Olympus กินไปซะอีก!!
สรุปโดยส่วนตัวแล้ว D5200 เป็นกล้องที่ดีมากๆในด้าน performance
แม้ไฟล์ภาพจะยังไม่ก้าวผ่าน Mirrorless ไปได้ แต่ภาพรวมๆของมันยังได้เปรียบในแง่ของ performance และการใช้งานในแบบรวมๆครับ
ข้อเสียก็คือ หากคุณเป็นนักถ่ายภาพสไตล์ท่องเที่ยว พูดง่ายๆคือเน้นเที่ยวมากกว่า ... DSLR ในปัจจุบัน แม้แต่รุ่นใหม่สุดๆอย่าง Nikon D5200 อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี เพราะหากคุณไม่ซีเรียสในเรื่อง performance เน้นเที่ยวชิวๆ ถ่ายรูปชิวๆ กล้อง Mirrorless อย่าง Sony NEX-5N จะยังคงให้ภาพที่ดีกว่า
แต่ถ้าคุณยังซีเรียสกับ performance พูดง่ายๆคือเน้นไปเก็บภาพจริงๆจังๆ performance ของกล้องจะช่วยเหลือคุณได้มากครับ Nikon D5200 เป็นตัวเลือกที่ดีครับ ไฟล์ภาพน่าสนใจกว่า D7000 ซะอีก!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น