มาต่อด้วยวิธีกินปูอลาสก้ากันครับ (วิธีนึ่ง ดูโพสต์เก่าได้ที่นี่ครับ -->> มากินปูอลาสก้า กันเถอะ)
วิธีกิน ก็เริ่มด้วยขามันครับ
หักขามันออกเป็นท่อนๆตามรอยต่อ
ในทีวีนั้น จะตัดออกเป็นท่อนๆ แล้วเอาอะไรมาดันๆจากปลายข้างหนึ่ง เนื้อมันก็หลุดมาทั้งยวงแล้วครับ
แต่ผมทำไม่เป็น -*- ... คือถ้าจะทำแบบในทีวี ต้องตัดพอดีข้อ แล้วก็ไม่มีเอ็นติดจริงๆครับ (ผมทำได้แบบในทีวีเป็นบางข้อ บางข้อก็ทำไม่ได้ ออกมาเละไปหมด)
วิธีที่ผมใช้ก็คือ "กรรไกร" ครับ ^ ^ กรรไกรตัดกระดาษนี่แหละครับ
ตัดตรงส่วนที่ไม่มีหนามเลยครับ ตัดง่ายครับ เพราะมันจะอ่อนๆไม่แข็ง
ตัดเสร็จก็ได้เนื้อปูก้อนใหญ่ๆ หลุดออกมาแบบนี้เลย
(ในภาพน่ะ ผมแกะออกมา แล้วเอาไปใส่ไว้ในขามันใหม่ เพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะเลย เหอๆๆๆ)
มาดูเนื้อปูกันชัดๆครับ ใหญ่สะใจ เต็มๆคำ!! ... เอาไปจิ้มกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบไทยๆได้เลยครับ ^ ^
...
สำหรับเนื้อปูอลาสก้านี้ มีคนบอกว่า เหมือนปูอัด ไม่อร่อย สู้ปูม้าไม่ได้
แต่ถ้าถามผม ผมว่าไม่เหมือนปูอัดครับ
เพียงแต่บอกได้ว่า "ปูอัดทำเลียนแบบปูอลาสก้า" นี่แหละครับ
เพียงแต่ว่า ของแท้ มันจะหนึบกว่า เป็นเนื้อๆมากกว่าไม่เหมือนแป้ง มีกลิ่นหอมของปูมากกว่า และมีรสหวานๆด้วยครับ
เรียกได้ว่า เกือบจะเหมือนปูอัด แต่ก็อร่อยกว่าครับ
...
แต่ถ้าไปกินตามร้านอาหาร ได้มาแค่ขา 2-3 ข้าง แต่ราคาหลายร้อย ก็ไม่คุ้มแน่ๆ กินปูอัดประทังความอยากดีกว่าครับ ^ ^
แต่ถ้าปูทั้งตัว หนักโลกว่าๆ ราคา 217 บาท อย่างที่ผมซื้อมากินนี้ คุ้มแน่ๆ!! ^ ^ (ลองไปหาดูแถวแมคโครนะ ไม่แน่ใจว่าที่อื่นๆจะมีขายด้วยไหม)
แม้จะไม่สดใหม่ เป็นแค่ปูแช่แข็ง แต่มันก็หวานมันอร่อยอยู่นะครับ
ถ้าให้เทียบกับปูทะเลบ้านเรา ปูทะเลบ้านเรารสชาติเข้มข้นกว่า อร่อยกว่า ...
แต่เทียบกับเนื้อที่เป็นชิ้นๆคำๆของปูอลาสก้าแล้ว ... มันกินสะใจกว่าครับ เนื้อปูเต็มๆปากเลย กระจายได้ทั่วต่อมรับรสที่ลิ้นดีครับ (บรรยายเว่อร์ไปป่าวเนี่ย ^ ^)
และนี่คือ เนื้อปูที่ได้จากขาของมันครับ ^ ^ (ถ่ายออกมาเบลอไปหน่อย ลืมเช็ค ... มาเจอตอนนี้ก็ลงท้องหมดแล้ว ^ ^)
...
และที่ขาดไม่ได้
สำหรับการซื้อปูมาทั้งตัว และนึ่งทานเองนั้นก็คือ
"ตัวปู" ครับ
เนื้อที่ตัวมันจะหอมหวานกว่าที่ขา ... ไม่เหมือนที่ปูอัดทำเลียนแบบครับ เนื้อตรงส่วนนี้
รสชาติปูเน้นๆครับ เนื้อนุ่มฟู อร่อยไม่แพ้ปูทะเลบ้านเราเลยครับ แต่เนื้อก้อนใหญ่และเยอะกว่าครับ ^ ^
และที่สำคัญ ไปร้านอาหาร มักไม่ค่อยมีเนื้อตรงนี้มาให้กินซะด้วยสิ มีแต่ขา ^ ^"
ก็ตามภาพเลยครับ เนื้อที่ตัวมันครับ
...
...
แล้วก็ ปิดท้ายด้วยขาปูที่เหลือแต่เปลือก กินเนื้อหมดแล้ว ^ ^
...
ก็ แนะนำครับ อร่อยดี ... หลายๆคนบอกว่าอร่อยสู้ปูทะเลบ้านเราไม่ได้
แต่ผมว่ามันก็อร่อยอีกแบบนึงครับ อย่างที่บอกว่าเนื้อเต็มๆคำ
ก่อนเชื่อไม่เชื่อ อร่อยจริงไม่อร่อยจริง
ก็ลองไปหามากินดูก่อนได้ครับ ... เพราะจริงๆมันไม่แพงอย่างที่คิดครับ
โลละ 159 บาทเอง ลองไว้ไม่เสียหายครับ ^ ^ คุณอาจจะชอบมันก็ได้ ^ ^
-------------------------------
ตอบ Facebook นะครับ มีคนงงว่าราคาโลละ 159 เนี่ยนะ!! ... ก็ไม่แปลกที่จะงง ผมก็งง ... เพราะปูทะเลไทยธรรมดา ไปสั่งร้านอาหารดูสิ โลนึงหลายร้อยอยู่นะ
...
แต่ก็ต้องขอบอกว่าซื้อมาโลละ 159 จริงๆครับ -*- ... ที่แมคโครนครสวรรค์ ช่วงปลายปี 2009
ดูรูปได้ที่นี่ มากินปูอลาสก้า กันเถอะ ครับ อันนี้เป็นตอนก่อนกิน เห็นทั้งตัว ... King Crab แท้ๆ (ป้ายมันก็บอกว่า King Crab อ่ะครับ)
...
ตอนแรกเดินไปเห็นก็ตกใจเหมือนกัน ว่าแมคโครต่างจังหวัด มีปู King Crab ขายด้วยหรือ!!?? งงมาก
แต่ตอนแรกก็นึกในใจนะ ว่าคงแพงมาก แต่พอดูราคา ... โลละ 159 บาท ... ซื้อทันที!! -*- (ไม่ใช่ปูอัดยัดกระดองปูด้วยนะครับ ปูจริงๆเลย)
... เดี๋ยวถ้ามีโอกาสแวะไปแมคโครแถวนั้นจะลองไปดูใหม่อีกรอบ
ส่วนตัวก็คิดหลายตลบเหมือนกัน ว่าทำไมมันถูก -*- (หมดอายุ? ปูโคลนนิ่ง? มีสารกัมมันตรังสี? ฯลฯ ... ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็กินไปแล้ว -*-)
อยากลองซื้อมาทานเหมือนกันคะ เห็นแล้วตัวโตๆ แต่ตอนนี้(ตค 2011)ที่แมคโครเชียงใหม่ขายโละ 510 บาท ตกตัวละ 700 กว่าบาท ยังคิดหนักอยู่คะ แต่ก็อยากทาน
ตอบลบเมื่อวานมีเพื่อนเอามาขายให้ ตัวละ 200 บาท ตัวนึงก้อโลกว่า ๆ ไม่เคยกินหรอกถ้าอร่อย้ะแร้วจามาบอกอีกทีจ้ะ
ตอบลบแลดูกินยากจัง
ตอบลบอัพเดทกลางปี 2012 แมคโครนครสวรรค์ขายโลละ 590 บาทแล้วครับ
ตอบลบกินง่ายมากครับ รสชาติปูอัด แต่อร่อยกว่า
ถ้าเทียบแล้ว ปูม้าปูทะเลในไทยอร่อยกว่ามาก แต่ปูทะเลในไทยถ้าจะให้ได้ชิ้นเนื้อเท่าๆกับปูอลาสก้า ราคาแพงมากกว่าปูอลาสก้าอีก และกินยากกว่าปูลาสก้าเยอะ
อร่อยไม่แพ้ปูบ้านเรา ที่ได้กินเจ้านายพาไปเลี้ยงปีใหม่4/1/2556
ตอบลบด้อมๆ มองๆ แถวแมคโคร ป่าตอง ขายเป็นตัว ตกราว 7-800 บาท ผมว่าก็ไม่แพงนะ เนื้อมันเยอะ ลองดูไม่เห็นเสียหายเหล้าขวดเป็นพัน ยังซื้อกินกันได้เลยนะครับ
ตอบลบ