ไปเที่ยวลอนดอน ไปไหนดี? หลักๆที่เป็นแลนด์มาร์คก็ Big Ben, Tower Bridge, Tower of London แล้วก็ London Eye
แต่ถ้าไปเที่ยวพวกนี้มาหมดแล้ว ก็ถึงเวลาเที่ยวที่ไร้สาระอย่างการเดินห้างกันบ้าง จริงๆห้างในลอนดอนที่ดังๆสำหรับคนไทยก็คงหนีไม่พ้น Harrods เพราะห้างที่นี่ไม่ใช่ห้างสมัยใหม่โมเดิร์นอย่างห้างในบ้านเรา แต่เป็นห้างเก่าแก่ เป็นสถาปัตยกรรมยุคเก่าก็ว่าได้ แต่เอามาทำเป็นห้าง ดังนั้นภายในก็ตกแต่งแนวโมเดิร์นนั่นล่ะ แต่โครงสร้างหลักๆ และอาคารภายนอก ก็ยังคงรูปแบบสไตล์ยุโรปแท้ๆ
และนี่ครับ คือหน้าตาของห้าง Harrods ภายนอก เก๋มะ?
ดูแบบ ... คลาสสิคดี เป็นเสน่ห์แบบหนึ่งของการเดินห้างในประเทศแถบยุโรปครับ ห้างอื่นๆก็หน้าตาประมาณนี้ ที่อิตาลีก็ใช่ย่อย ... ห้างแบบพารากอน MBK หรือ เซ็นเวิร์ลนี่แทบไม่ค่อยเห็น ดังนั้น ถ้าเอาจริงๆห้างในกทม.จัดว่าใหญ่โตโอ่อ่าไม่แพ้ที่ใดในโลกเหมือนกัน ... แต่ถ้าจะเอาความคลาสสิก ก็ต้องยุโรปละนะ
... อย่างไรก็ตาม ห้างแนวโลตัสบิ๊กซี ยิ่งมีเยอะกว่าครับ แต่ไม่เรียกว่าห้างละกัน ขอเรียกว่าซูเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่
ถัดมาก็ ร้านของมาการอง Laduree ครับ อยู่ที่ Harrods เข้าร้านได้ทั้งจากภายในและภายนอกห้าง ร้านไม่ได้มีแต่มาการองนะ เป็นคาเฟ่นั่งทานอาหารด้วย
ที่กทม. จัดว่าเป็นร้านมาการองราคาแพงมากๆ ... แต่สำหรับอังกฤษ ไม่ใช่ร้านแพง เพราะมาการองส่วนใหญ่ในร้านอื่นๆ ก็ราคาเหมือนๆกับ Laduree นี่แหละครับ
อย่างไรก็ตาม Laduree ในพารากอนไม่แพงนะ ราคาเดียวกันกับที่อังกฤษเลย!! (ดังนั้น อย่าคิดจะมากินมาการองถูกในอังกฤษ แปลงค่าเงินแล้วราคาเท่าๆกัน เพียงแต่มาการองในไทย ไม่ได้ลดราคาเป็นราคาคนไทยก็เท่านั้นเอง)
เข้ามาดูในตัวห้างกันบบ้าง ก็ตกแต่งแบบสมัยใหม่เป็นหลัก ไม่ได้เก่าแก่ขลังแบบภายนอกนะครับ
บางโซนก็ยังคงเอกลักษณ์แบบอังกฤษเอาไว้
ช้อปหลักๆส่วนใหญ่คือ Luxury High End Brandname ครับ พวก Hermes, Chanel, Louis Vuitton, Gucci ฯลฯ เยอะแยะไปหมด คนที่ซื้อส่วนใหญ่ก็คนจีน คนเอเซียครับ ฝรั่งส่วนใหญ่ไม่ใช้ของแพงขนาดนั้นครับ 555+
ข้อดีของช้อปแบรนด์หรูในยุโรปก็คือว่า ไม่ว่าร้านจะดูดีแค่ไหน คุณแต่งตัวธรรมดาแค่ไหน เข้าช้อปไปแล้ว หยิบจับลองดูได้หมด คนขายเชียร์ให้ลองจับลองถือด้วยซ้ำ แม้จะรู้ว่าเราไม่ซื้อ 555+ (ถ้าถามว่าประทับใจที่ไหนสุด ก็ช้อป Dior ในเวนิสที่อิตาลี กระเป๋าราคาสองแสนกว่าๆ รื้อมาให้เราเล่นเพลินเลย -*- (ปากก็บอกนะ ว่าไอไม่ซื้อแน่ แพงไป) ... เดี๋ยวรีวิวอิตาลีอีกที ตอนนี้ขออังกฤษก่อน)
ส่วนที่ผมยังพอซื้อไหวก็คือพวกนี้แหละครับ ชอคโกแลต ชาอังกฤษ แล้วก็สินค้าแบรนด์ของ Harrods เอง นอกนั้นก็แบรนด์เนมไฮเอนด์ทั้งนั้นเลย
ชอคโกแลต ปากบอกว่าซื้อไหวก็จริง แต่มันก็แพงอยู่ครับ แต่ไม่ได้ถึงกับแพงเว่อร์วังอะไร
แต่รวมๆโซนของกิน ผมว่าใต้ดินพารากอนเจ๋งกว่า เพราะมันเป็นอาหารนานาชาติจริงๆ ที่นี่หลักๆยังอารมณ์ของในยุโรปเท่านั้นครับ
และ ย่านชอปแบรนด์เนม ... แบรนด์ใหญ่ๆจะอยู่ชั้นล่าง ติดทางเข้า
แต่แบรนด์เฉพาะกลุ่มจะอยู่ตามซอกซอยที่เดินแล้วแทบหลง รู้สึกเหมือนตัวเองมาอยู่ผิดที่ผิดทางยังไงชอบกล (ปกติหนักๆก็ใช้แค่ High Street ครับ)
สินค้าที่จับต้องได้ก็คือสินค้าของ Harrods ครับ
เช่น หมี Harrods เหล่านี้
แพงครับ แต่ไม่ได้มากมายอะไร พันกว่าๆถึงสองสามพัน ซื้อได้อยู่ครับ ตัวที่ลดราคาก็มี ไม่ถึงพัน ก็ขึ้นกับไซส์ด้วย
อีกมุมครับ เลือกที่ใส่ชุดทหารอังกฤษก็ดูเป็นเอกลักษณ์ของอังกฤษดีเหมือนกัน
แล้วก็ กระเป๋า Harrods แบบที่เห็นของก๊อปในไทยอ่ะครับ
ไม่อยากจะบอกนะ ว่าการตัดเย็บและคุณภาพ ไม่ได้ดีเด่ไปกว่าของก๊อปมากมายแต่อย่างใด 555+ (ก็ดีกว่าแหละ แต่ไม่ได้มาก) เพราะจริงๆสำหรับที่นี่ กระเป๋าพวกนี้ก็ไม่ใช่ของใช้หรูหราที่ต้องใช้แรงงานคุณภาพสูงอะไรขนาดนั้นครับ เป็นสินค้าจับต้องได้ทั่วๆไปสำหรับที่อังกฤษ
มีมุมให้ถ่ายรูปด้วย แชร์ภาพผ่านโซเชี่ยล ลุ้นรับรางวัล ^ ^
โซนที่คึกคักอีกโซนก็คือโซนของเล่น คนเยอะมากๆ (แม้ในรูปจะเหมือนไม่ค่อยมีคน)
เพราะราคาโซนนี้ก็จับต้องได้ พ่อแม่พาบุตรหลานมาดูของเล่นกันเยอะแยะ มีสาธิตของเล่นเยอะดีเหมือนกัน
เลโก้ที่ต่อออกมาขนาดไซส์คนจริงครับ
รวมๆแล้ว หลักๆก็แค่นี้ครับ
ถ้าอยู่ที่อังกฤษ ส่วนตัวแนะนำว่ารอเซลล์แล้วซื้อของผ่านเวบ Harrods ดีกว่า (ทั้งแบรนด์แพงไฮเอนด์ และแบรนด์ Harrods เอง) เพราะสินค้าจะเป็นสินค้าที่ไม่ได้ผ่านการลอง แพคส่งมาอย่างดีด้วยครับ แล้วก็ช่วงเซลล์ราคามันถูกลงมาเยอะ หลักๆก็คือเซลล์ช่วงซัมเมอร์เซลล์และคริสมาสต์ หลังคริสมาสต์จะถูกเว่อร์มาก แต่เลือกไซส์ยากหน่อยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น