GIRLS' GENERATION MV : PAPARAZZI แจ่มแมว!!

คลอดก่อนกำหนดจ้า!! MV PAPARAZZI คลอดวันนี้แล้ว!! 14 มิ.ย. 2555 ซึ่งก่อนกำหนดเกือบสองสัปดาห์เลย ^ ^
ชมกันได้เลยจ้า

เท่าที่เห็น Teaser หลอกไว้เยอะเลย เพราะพอมาเป็น MV จริง โยนเสื้อโค้ททิ้งกันหมด ^ ^
แล้วก็ไม่รู้คนอื่นคิดเหมือนกันไหม ผมว่าความอลังการของการลงทุน การตัดต่อ การเลือกเพลง ... ตอนทำ Twinkle ให้ TTS ทำได้ดีกว่านี้เยอะมากๆเลย ... ถ้าผมเป็นสมาชิกคนอื่นในวง SNSD นี่มีเคืองค่ายเพลงเหมือนกันนะเนี่ย ^ ^"

-------------------------------------------------

หลังจากทาง SME ได้ปล่อย GIRLS' GENERATION TTS ออกมาทำตลาดกับ 3 สาว ... และก็ไปได้สวยมากๆแล้วนั้น
มาครั้งนี้ ก็ถึงเวลาปล่อย GIRLS' GENERATION เต็มทีมออกมาบ้างแล้ว!! ใครที่เป็นแฟนๆ GIRLS' GENERATION ดั้งเดิม ไม่เฉพาะแค่ 3 สาว TaeTiSeo ก็จะได้เฮ + ปลาบปลื้มกันแล้ว ^ ^
โดยการกลับมาของ SNSD ชุดเต็มในครั้งนี้นั้น มาพร้อมกับ Music Video ที่ชื่อว่า Paparazzi (ปาปารัซซี่) ... นึกถึงเพลงดังของ Lady Gaga เลยครับ ชื่อเดียวกัน!!
...
ซึ่งชื่อของเพลง Paparazzi นี้ เนื้อหาของเพลงอาจจะต่อยอดจาก Twinkle ก็ได้ครับ ทำออกมาเป็นแพกเกจไง น่าสนใจดี
Twinkle จาก TTS นั้น เนื้อหาจะเกี่ยวกับประมาณว่า ชั้นสวย ชั้นเริ่ด ใครๆก็สนใจชั้น พูดง่ายๆคือออกแนวสาวมั่นใจในตัวเอง
และเนื่องด้วยความสวยแบบ Twinkle นั่นเอง ... ก็ต้องโดนจับจ้องด้วย Paparazzi เป็นธรรมดา ^ ^ ... นี่ผมก็เดาเอาเองนะ แต่คิดว่ามีโอกาสใช่สูง เพราะทาง SME ชอบทำการตลาดแบบต่อยอดและเป็นแพกเกจน่ะครับ (เท่าที่สังเกต) ก็เลยคิดว่า MV ตัวใหม่ล่าสุดของ SNSD ก็น่าจะต่อยอดจาก Twinkle ของ SNSD-TTS เหมือนกัน

อันนี้คือ Teaser ของ GIRLS' GENERATION PAPARAZZI ครับ

... สำหรับกำหนดการคลอด Official MV เต็มๆนั้น ก็คือวันที่ 27 มิ.ย. 2012 ครับ ... เรียกว่าปล่อยทีเซอร์กันล่วงหน้าเกือบเดือน ประหนึ่งว่าจะมาแกล้งแฟนๆ SNSD ให้คอยกันนานเหมือนกัน ^ ^"
ส่วนทำนองเพลงนั้น ปล่อยออกมาน้อยมากๆ ^ ^" แต่ก็พอจะเห็นแนวเพลงคร่าวๆแล้วครับ เพราะน่าจะเป็นหนึ่งในเมโลดี้หลักๆของเพลง กับ Ulalala Lalalala ... ^ ^

Samyang 8mm f/2.8 เลนส์ไวด์ตาปลาใหม่ กับความสว่าง!!

Samyang ยี่ห้อเลนส์มือหมุนที่ตอนนี้อัพเกรดตัวเองจนเป็นที่ยอมรับมากมาย เพราะชิ้นเลนส์ได้มาตรฐานไม่แพ้ยี่ห้อกล้องยักษ์ใหญ่ยี่ห้อนี้
ตอนนี้ก็เตรียมออกเลนส์แจ่มๆออกมาอีกแล้วครับ กับเลนส์ตาปลา ยอดนิยม 8mm ที่ครั้งนี้มาใหม่กับค่า F ที่สว่างกว่าเดิม!!
นั่นก็คือ Samyang 8mm f2.8 นั่นเองครับ!!

สำหรับรายละเอียดลึกๆหรือรีวิว หรือภาพประกอบเลนส์ตัวนี้ก็ยังไม่มีนะครับ เพราะตอนที่ผมลงข่าวนี้ มันยังไม่วางขาย ^ ^"
แต่รับรองว่า ซัมยังจัดเลนส์ชุดนี้ออกมาจริงๆแน่นอน!! เพราะข้อมูลมาจากโฆษณาในเวบ official ของ Samyang เองเลยครับ!!
ตามรูปเลยครับ ^ ^

ตาปลา 2.8 ... ท่าทางจะแจ่มน่าดูครับ เพราะไวด์มากๆ แต่ค่ารูรับแสงขนาดนี้ จัดว่าหายาก หาเลนส์ตัวแทนไม่ได้ง่ายๆด้วยครับ

อย่างไรก็ตาม หากสนใจภาพจาก Samyang 8mm f3.5 เลนส์รุ่นพี่ก็ไปดูภาพตัวอย่างได้ที่ http://www.flickr.com/search/?q=samyang+8mm+3.5&f=hp ครับ
มีรูปจากเลนส์ Samyang มากมายใน Flickr.com ครับ เป็นการบอกการตอบรับต่อเลนส์ของ Samyang ได้เป็นอย่างดี ... นอกจากนั้น คุณภาพและความคมชัดของเลนส์ ก็ไม่ธรรมดา

ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ Samyang จะก้าวกระโดดมาทำเลนส์ AF กับเค้าแบบ Sigma, Tamron, Tokina ซะที!! คุณภาพเลนส์เค้าได้แล้วแหละครับ เหลือเทคโนโลยีดิจิตอลเท่านั้น
ติดตามข่าวของ Samyang ได้ที่เวบ http://www.samyang.co.uk ครับผม

อาหารทะเลสดปิ้งย่างเอง ชะอำ หัวหิน ซื้อที่ไหนราคาถูก?

สำหรับกิจกรรมยามเที่ยวทะเลนั้น หากไปเที่ยวเป็นหมู่คณะหรือกับครอบครัวนั้น ที่มักจะพลาดไม่ได้ก็คือการได้หาบังกะโลหรือบ้านพักที่สามารถปิ้งย่างอาหารทะเล มาทำอาหารทะเลทานกันเองได้
อย่างแรกเลยก็คือ ทำเองไงๆก็ราคาถูกครับ แถมกินอาหารทะเลได้ไม่อั้น!!
ยกตัวอย่าง ถ้าเป็นปลาหมึกย่าง สั่งในร้านอาหารมาจานนึง ราคาก็คิดซะว่า 100 บาทละกัน(เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ราคาแพงกว่านี้อีก) มีปลาหมึกไม่กี่ชิ้น ส่วนใหญ่ก็มีแค่ตัวเดียวที่ขนาดกลางๆนั่นเอง ... ซึ่งถ้าจะกินกันให้สะใจเต็มคราบ ก็ต้องสั่งมาหลายจาน กินกันหลายๆคนแบบนี้ ค่าอาหารปาไปเกินพันบาท ซึ่งมักจะไม่หยุดแค่พันกว่าๆ ส่วนใหญ่จะเกินไปกว่านั้น
แต่ถ้าซื้อปลาหมึกสดมาสัก 1 กิโล แล้วเอามาปิ้งย่างเอง จะกินกันได้จุใจมากๆ เพราะโลนึงนี่ก็ได้ตัวขนาดเล็กๆกลางๆหลายตัวมาก ตัวใหญ่ๆก็ 2-3 ตัว
นอกจากปลาหมึกแล้ว พวกกุ้งสดเอย ปูเอย หอยเอย แต่ละอย่างเอามาปิ้งย่างกินเอง รวมๆแล้ว งบ 1,000 บาท ได้ไม่ใช่น้อยๆครับ!!

อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ขึ้นกับว่า คุณ "ซื้ออาหารทะเลสด" ที่ไหนนั่นเอง ^ ^
ถ้าไปซื้อที่แพงๆล่ะก็ ราคาถูกกว่ากินที่ร้านอาหารนิดเดียว แถมทานที่ร้านอาหารก็ไม่ต้องทำเอง จานช้อนก็ไม่ต้องล้างเอง ที่แพงกว่านิดเดียว ถือว่าคุ้มด้วยซ้ำ ^ ^

ก็เลยขอแนะนำครับ สำหรับคนที่อยากทำอาหารทะเลปิ้งย่างกัน ย่านหัวหินหรือชะอำนะครับ ไปรู้มาจากคนอื่นอีกที และตอนที่ไปดูมา ก็พบว่าราคาโอเค ถูกจริงครับ ^ ^
ที่นั่นก็คือ "ตลาดสดชะอำ" นั่นเองครับ ที่นี่ถูกกว่าร้านที่ย่านสะพานปลาประมาณ 2-3 เท่าเลยนะครับ (แต่ถ้าซื้อจากพ่อค้าที่เพิ่งออกเรือมาแล้วกลับเข้าฝั่ง จะได้ถูกกว่าครับ แต่ถ้าเราไม่ใช่ขาประจำ ไม่ใช่คนพื้นที่ ... ก็ไม่รู้จะไปแย่งซื้อมายังไง -*-) ... ดังนั้น ไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นที่ชะอำ หัวหิน หรือจะปราณบุรี หากขับรถมาจากกรุงเทพฯ ก็แวะซื้อที่นี่ก่อนได้เลย!!

ที่ตลาดสดชะอำนั้น จะสมกับเป็นตลาดสดใกล้ทะเลนั่นแหละครับ เขียงหมู ยังจะมีน้อยกว่าแม่ค้าที่ขายอาหารทะเลซะอีก!!

ปลาหมึกสด กุ้งสด หอยเชลล์ หอยตลับ หอยหวาน ปูม้า ปูทะเล แมงดา ... สดๆ เพียบครับ ^ ^

หากกลัวว่าไม่ถูกจริงก็ขอซูมให้ดูราคากันใกล้ๆครับ ว่าราคาต่อกิโลประมาณเท่าไหร่กันแน่

จะเห็นว่าปลาหมึกแม้จะไม่ได้ตัวใหญ่มาก แต่ก็อวบอ้วนเลยนะครับ ดูราคาสิครับ โลละร้อยกว่าๆเท่านั้น!! ซื้อไปโลสองโล รับรองว่ากินกันจนเอียน!!
หรือจะตัวใหญ่ๆก็ราคาไม่ต่างกันครับ

...
ก็แนะนำเป็นอีกทางเลือกครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะมีย่านที่มีอาหารทะเลสดๆเพื่อซื้อไปทำเองที่ราคาดีกว่านี้หรือเปล่า แต่อย่างน้อยที่นี่ก็ราคาโอเคครับ แล้วก็ไปซื้อสะดวก เพราะเป็นตลาดสดนั่นเอง ใครๆก็รู้จัก ไปไม่ถูกก็ถามเค้าเลยครับ ว่าตลาดสดชะอำไปทางไหน ^ ^
แต่จริงๆไปเองไม่ยากหรอกครับ จากถนนเพชรเกษม เลี้ยวซ้ายเข้าหาดชะอำ ... ก็อยู่เส้นนั้นแหละครับ ^ ^
พอเลี้ยวเข้าหาดชะอำแล้ว ก็มองๆขวาไว้เค้า จะมีทางให้เลี้ยวขวา เข้าไปในตลาดสด มีป้ายบอกครับ ... ยังไงถ้ากลัวไม่ชัวร์ แค่ขับรถเข้าแยกไปหาดชะอำ แล้วก็ถามข้างๆทางได้เลย ว่าตลาดสดชะอำอยู่ไหน ^ ^ (ถ้ามี GPS ก็สบายไปครับ ^ ^)

หากใครมีที่อื่นทำเลอื่นราคาถูกกว่านี้ก็แนะนำกันได้ครับ ช่วยๆกัน จะได้ท่องเที่ยวกันสนุกมากขึ้นในราคาที่ถูกลง ^ ^

รีวิว April's Brasseries นครสวรรค์ ร้านเค้กขนมปังเบเกอรี่ กาแฟ เปิดใหม่!!

มีร้านอะไรที่หน้าตาดูดีน่านั่งน่าลองที่นครสวรรค์ ต้องขอไปลองชิมให้หมด!! 555+
วันนี้ก็ขอพาไปดูร้านขนมปัง เบเกอรี่ ขนมปังต่างๆ ที่ชื่อว่า April's Brasseries ครับผม ไม่แน่ใจว่าเปิดนานหรือยัง แต่ผมว่าผมเพิ่งเห็นได้ไม่กี่เดือนนะ น่าจะเปิดใหม่ปีนี้ล่ะครับ
ร้านนี้ดูๆแล้วก็น่าจะเป็นพวกร้านเบเกอรี่ เค้ก กาแฟ ต่างๆที่ตกแต่งน่ารักน่านั่งน่ะล่ะครับ แต่ถ้าจำไม่ผิด เมนูของคาวก็มีบ้างเหมือนกันนะครับ ^ ^
... แต่แน่นอน ว่าสาเหตุหลักๆของผมที่ไปร้านนี้ก็เพื่อไปชิมเค้กนี่ล่ะครับ (ชอบเค้กอ่ะ)

ให้ดูบรรยากาศร้าน April's Brasseries ก่อนครับ ^ ^

บรรยากาศก็จัดว่าหรูแบบคุมเชิงความเรียบเอาไว้ ก็ถือว่าดูดีครับ นั่งด้านในติดแอร์เย็นๆ ^ ^

โต๊ะเอย เก้าอี้เอย โซฟาเอย แต่ละมุมไม่ค่อยซ้ำกัน แต่ก็ดูแมทช์กันดีครับ

หลังจากบรรยากาศของร้านที่เรียกได้ว่า "ผ่าน" กันแล้ว
ก็มาดูของกินกันบ้าง
ของกินหลักๆของร้านน่าจะเป็นเมนูพายครับ แล้วก็พวกขนมปัง เบเกอรี่ต่างๆน่ะครับ

แต่ของที่ผมลองชิม กลับเป็นพวกเค้กๆแทนน่ะครับ ก็แบบว่าคนมันชอบเค้ก แล้วมีเค้กให้กิน ก็ต้องกินน่ะสิ ^ ^
โดยที่ลองก็ตามนี้ครับ เค้กมะพร้าว

ดูในรูปอาจจะไม่รู้ แต่ของจริงชิ้นใหญ่อ่ะ ใหญ่มาก แบบว่าต่อให้ไม่ได้ทานอาหารคาวไป แต่ได้กินเค้กชิ้นนี้เข้าไป ผมก็ว่าอยู่ท้องได้เหมือนกันนะ ^ ^"
เนื้อเค้กจะพองๆนุ่มๆคล้ายๆเค้กชิฟฟ่อนครับ มีเนื้อมะพร้าวหอมๆอยู่ทั้งหน้าเค้กส่วนบนและใส้ของมัน อร่อยดีเหมือนกันครับ

ถัดมาที่ลองชิมก็นี่ เค้กชอคโกแลตลาวาครับ

เมนู Chocolate Lava Cake นี้ก็โอเคดีครับ แต่ไม่ค่อยต่างจากร้านอื่นๆเท่าไหร่ แต่ก็เรียกว่าโอเคแหละครับ ^ ^

ว่าแล้วก็ถ่ายรูปเค้กแบบอื่นๆในร้านมาให้ดูกันด้วย เช่น Strawberry Cake กับ Blueberry Cake

สองเมนูนี้ไม่ได้ชิมครับ แต่ก็ชิ้นใหญ่เหมือนเค้กมะพร้าวที่ได้ลองไปนั่นล่ะครับ ^ ^

...
ก็เป็นอีกร้านอาหารเปิดใหม่ที่นครสวรรค์อีกร้านที่โอเคดีครับ ตกแต่งสวยน่านั่ง อาหารก็ใช้ได้
แต่คิดว่าโอกาสหน้าอยากจะลองเมนูพวกพายหรือขนมปังต่างๆดูบ้าง

สำหรับการเดินทางไปที่ร้าน ก็จากเส้นสี่แยกสะพานเดชา ตรงมาทางแฟรี่แลนด์ได้เลยครับ ร้านจะอยู่ซ้ายมือก่อนถึงรพ.รวมแพทย์นิดหน่อยครับ ^ ^

Fuji X-Pro1, Sony NEX-7, Olympus OM-D E-M5 กล้องตัวไหนดีกว่ากัน ซื้ออะไรดี?

หากพูดถึง Mirrorless ตัวท๊อปๆแล้ว ตอนนี้ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Fuji X-Pro1 เหมือนจะนอนมาจากไฟล์ภาพที่คุยโวว่าดีกว่า Fullframe
และกับ Mirrorless รุ่นท๊อปของสองค่ายยักษ์ใหญ่ อย่าง Olympus OM-D E-M5 และ Sony NEX-7 นั้น ก็จัดว่าราคาแรง คุณภาพก็มาเต็มเม็ดเต็มหน่วยกันทั้งคู่
ซึ่งหากให้เลือกซื้อเพียงตัวเดียวล่ะก็ บอกตรงๆว่าสาหัส เพราะแต่ละรุ่นมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน

ว่าแล้วก็เลยขอนำวิดีโอรีวิวคร่าวๆของกล้องทั้งสามตัวอย่าง Fuji X-Pro1, Sony NEX-7, Olympus OM-D E-M5 มาให้ชมกันซะหน่อยครับ เป็นของ DigitalRev เจ้าเก่าครับ

รีวิวนี้เป็นรีวิวทดสอบการถ่ายภาพในที่แสงน้อยเท่านั้นนะครับ ไม่รวมระบบรวมๆของกล้อง
แต่อย่างไรก็ตาม หากกล้องตัวไหนถ่ายได้ดีมากๆในที่แสงน้อย ระบบโฟกัสเร็วไม่วืดวาด ก็พอจะการัณตีคุณภาพของกล้องได้แล้วล่ะครับ
ดังนั้นแม้ทดสอบบทนี้จะเฉพาะด้าน แต่ส่วนตัวก็มองว่ามีประโยชน์อยู่มากสำหรับการเปรียบเทียบคุณภาพกล้องครับ ^ ^

Levitation การถ่ายภาพ Portrait แนวใหม่!! เน้นฮา ^ ^

และแล้ว ยุคของแพลงกิ้งก็จบลงซะที ... (ตอนที่พิมพ์นี่จบแล้วนะ อนาคตไม่รู้จะกลับมาฮิตอีกหรือไม่)
แต่ยังมีอีกแนว ที่ฮิตมาก่อนแพลงกิ้งนานมาก และจนปัจจุบัน ก็ยังฮิตอยู่!! แม้จะไม่ฮิตมากมายนักก็เถอะ แต่ก็จัดว่าเป็นแนวทางการถ่ายรูปที่น่าสนใจมากๆครับ สำหรับแนวที่กำลังจะพูดถึงนี้

การถ่ายรูปที่พูดถึงนี้ก็คือ Levitation หรือ Levitating นั่นเอง
การถ่ายภาพแนวนี้ก็คือการถ่ายภาพที่ดูเสมือนว่าตัวแบบ "ลอยกลางอากาศ" ได้นั่นเอง!! เป็นการถ่ายภาพแนวเหาะเหินเดินอากาศ ที่ดูน่าสนุกและน่าสนใจมากๆครับ ^ ^

ลองดูภาพกันเลยครับ ^ ^

ภาพนี้ดูตลกดีใช่ไหมล่ะครับ ดูเผินๆเหมือนกับว่ากำลังนั่งขัดสมาธิลอยตัวอยู่กลางอากาศเลย ดูไปดูมา นี่มันภาพตัดต่อหรือเปล่า?
แต่ขอบอกว่าภาพนี้ไม่ได้ตัดต่อแต่อย่างใด แล้วคนในภาพก็ไม่ได้ลอยด้วย ... ดูดีๆจะเห็นว่าไม่เนียนมากเท่าไหร่ เพราะนิ้วเท้างอนิดๆไม่สมจริงบ้างเป็นบางส่วน
...
ภาพนี้ก็แค่ให้แบบ กระโดดพร้อมกับงอขาเข้าตัวขณะที่ลอยอยู่ ณ จุดสูงสุดของการกระโดด ให้เหมือนกับนั่งขัดสมาธิกลางอากาศนั่นเอง
การถ่ายภาพก็ช้อนกล้องนิดๆครับ จากมุมต่ำเข้ามุมสูง จะทำให้เหมือนกับว่าลอยกลางอากาศได้สูง (แต่จริงๆก็โดดธรรมดาครับไม่ได้สูงมาก)
...
ซึ่งการถ่ายรูปแนวนี้ ต้องอาศัยทักษะของคนสองคน คือ
1. คนกระโดด ต้องแอคชั่นเป็นในระดับหนึ่ง
2. ตากล้องต้องกดชัตเตอร์พอดีจังหวะด้วย
...
ส่วนตัวเลยรู้สึกว่า การถ่ายภาพแนวนี้จะเจ๋งกว่าแพลงกิ้งตรงที่ต้องอาศัยความพอดีของตากล้องกับคนกระโดดทั้งสองคน ^ ^

ที่เห็นกันบ่อยๆในหมู่คนไทยที่ชอบเล่นกัน ก็คือขี่ไม้กวาดครับ เอาไม้กวาดมาหนีบขาแล้วก็กระโดดนิดๆ ใครๆก็ทำได้ ทักษะไม่ต้องสูงมาก อาศัยตากล้องช่วยอย่างเดียวครับ ^ ^
ก็เอาไปลองเล่นกันดูครับ สนุกดี ^ ^

BIGBANG : Monster MV ตัวใหม่ล่าสุดจากบิ๊กแบง!!

MV Monster โดย BigBang มาแล้วครับ!!

ส่วนตัวแล้ว ตอนที่เห็น Teaser เพลงนี้นั้น ยอมรับเลยว่าจินตนาการ MV ตัวใหม่ขอบบิ๊กแบงผิดไปไกลเลยครับ นึกว่าทำนองเพลงจะหนักๆเน้นๆกว่านี้
แต่เอาเข้าจริงกลับกลายเป็นเมโลดี้ใสๆ ผสานกับดนตรีแน่นๆ ไปซะนี่ ซึ่งจะออกแนวตัดกับภาพลักษณ์ของ MV นิดหน่อย แต่ไปๆมาๆ ทำไมมันกลับดูเข้ากันดีก็ไม่รู้ บอกไม่ถูกเหมือนกัน
ส่วนภาพลักษณ์ของหนุ่มๆบิ๊กแบงก็ชักจะแปลกไปทุกทีแล้ว จะเข้าทีกับนักร้องสาย Lady Gaga ไปอีกวงไหมเนี่ย -*- ... แต่ก็ยังดูเท่ มีสไตล์อยู่ครับ ไม่ได้เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายไปหมดแบบกาก้าหรอกครับ

-------------------------------------------------------------------------

Bigbang วงบอยแบนด์เลื่องชื่อจากเกาหลี เตรียมออกซิงเกิ้ล MV ตัวใหม่แล้วครับ!! กับเพลงที่ชื่อว่า Monster!!
โดยครั้งนี้ ทาง Bigbang ได้เรียกน้ำย่อยด้วยการปล่อย Teaser Music Video ออกมาด้วยครับ!! (เริ่มแพร่ระบาดมากขึ้นแล้ว สำหรับ Teaser หรือ Trailer ของ MV ไม่รู้ว่าใครเริ่มก่อน -*-)
โดย Teaser ของ Monster นั้น ตอนนี้ก็ปล่อยออกมา 2 ตัวแล้วครับ คือ Teaser ของ TOP กับ GD ครับ
โดยกำหนดการคลอดของ MV ก็คือวันที่ 6 มิ.ย. 2012 ครับ

ก่อนที่ MV MONSTER จะคลอด ก็มาชม Teaser กันก่อนละกันครับ เริ่มด้วย TOP


จากนั้นตามด้วยทีเซอร์ของ GD ... ดูทรงผมของ GD ซะก่อนครับ ... TOP ว่าอัพเดทเจ๋งแล้วนะ เจอ GD เข้าไปนี่อื้อหือ!! จริงๆ ^ ^" เป็นทรงหัวเห็ดที่โคตรเห็ดจริงๆ ^ ^


จากทีเซอร์ที่ปล่อยออกมา ... ก็ยังคาดเดาไม่ออกว่า MV เพลง Monster จะออกมาเป็นอย่างไร แต่ดูเผินๆแล้วเหมือนจะหลอนนะครับเนี่ย ^ ^"

Canon A1300 กล้องดิจิตอลคอมแพคตัวนี้ ดีตรงไหน!?

Canon Powershot จัดเป็นกล้องคอมแพครุ่นรองเล็กสุดจาก Canon (โดยตัวที่เป็นรุ่นเล็กสุดก็คือ Canon A810)
ซึ่งคนที่อยากได้กล้องเล็กๆเบาๆ ราคาประหยัด ก็น่าจะสนใจเจ้ากล้องตัวนี้ได้ไม่ยาก ... ว่าแต่ประเด็นหลักๆของ Canon A1300 ซึ่งอยู่ในไลน์รองบ๊วยนั้น
หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า หากเปรียบเทียบกับ Canon A810 อะไรจะแจ่มแจ๋วกว่ากัน

...
ที่เอาเจ้า Canon A1300 ไปเทียบกับ Canon A810 นั้น
ก็เพราะส่วนต้วแล้ว อยากจะบอกเหลือเกินว่า Canon A1300 กับ Canon A810 นั้น แทบจะเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วเลยทีเดียว!!
โดยสิ่งที่เหมือนกันก็เช่น
- เซนเซอร์ 16 ล้าน
- ระบบประมวลผลภาพ Digic IV
- เลนส์กว้าง 28mm
- เลนส์ซูมได้ 5 เท่า
- มีกันสั่น
- ISO 1600
- โหมดถ่ายรูปเล่น 32 โหมด
- ถ่ายวิดีโอ HD
ซึ่งเหล่านี้ เหมือนกันหมดเลยครับ!! -*-
แล้วทำไม Canon A1300 จึงแพงกว่า? คำตอบก็คือ "Viewfinder" นั่นเองครับ
เจ้า A1300 มีช่องให้ส่องด้วย เหมาะสำหรับคนต้องการบรรยากาศเดิมๆของการถ่ายภาพครับ
ซึ่งหาก A1300 แพงกว่า A810 ไม่มาก ผมก็ว่าน่าสนใจ แต่ถ้าแพงกว่าเยอะ ก็แนะนำว่าเล่น A810 ดีกว่า ^ ^

แมวน่ารักๆ "มารุ" กับวันเกิด 4 ขวบ ^ ^

เป็นคลิปดังที่มียอดวิวเกินล้านไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับเจ้าแมวเหมียวน้อยน่ารัก "มารุ" ตัวนี้ ^ ^
ซึ่งเจ้ามารุนั้นก็เป็นแมวสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งแมวโซนนั้นขนจะยาวๆกว่าแมวไทยอยู่แล้ว ประกอบกับเจ้ามารุตัวนี้นั้น ดันมีหุ่นที่อวบอ้วนอีกด้วย
จึงทำให้เจ้ามารุได้รับความนิยมในด้านน่ารักน่ากอดได้ไม่ยาก ^ ^
ชมคลิปแมวน่ารักๆตัวนี้ได้เลยจ้า ^ ^

...
นอกจากแมวจะน่ารักแล้ว ที่ต้องชมอีกอย่างก็คือเจ้าของนั่นเอง หาไอเดียโน่นนี่นั่นให้เจ้าแมวเหมียวมารุเล่นอยู่นั่นแหละ ^ ^
คลิปก็เลยออกมาแนวๆ น่ารักน่าชัง ดูเพลินไปพร้อมๆกับความน่ารักของเจ้ามารุนั่นเอง

ก็หวังว่าจะเป็นอีกคลิปที่จะทำให้คนรักแมว เห็นแล้วต้องรู้สึกอุ๊ว้าววว(อยากกอด)ในใจกันล่ะครับ ^ ^

Canon SX260 HS กล้องตัวเล็กต่อยหนัก!!

Canon Powershot SX260 HS เป็นกล้องรุ่นใหม่ล่าสุดจากซีรี่ส์ SX สไตล์คอมแพคที่มีสเปคที่น่าทึ่งอย่างมาก!! พูดตรงๆนะ สเปคมันดีกว่า DSLR-Like หลายๆตัวอีก!! แต่ดันอยู่ในร่างของกล้องคอมแพคตัวบางๆ!!
ผมจึงขอจั่วหัวว่ากล้องตัวนี้ จัดเป็นกล้องที่เรียกว่า "กล้องตัวเล็กต่อยหนัก" ... ซึ่งเดี๋ยวพอเราเห็นสเปคมันกันแล้ว ก็จะรู้ทันที ว่ากล้องคอมแพคตัวบางๆนี้ มีอะไรดี!!

ก็ไม่ขอลิสต์สเปคเป็นข้อๆนะครับ แต่ถ้าใครที่พอมีความรู้ด้านกล้องอยู่แล้ว รับรองว่าเห็นสเปคแล้วต้องร้องอู้ว้าววว!! กันแน่ๆ ^ ^
อย่างแรกก็คือ มันมีเลนส์ที่ไวด์ถึง 25mm (เทียบกับกล้องฟิล์มแล้ว) ดังนั้น ช่วง 25mm นี้ พูดง่ายๆก็คือช่วงประมาณ 16.5mm บนกล้อง DSLR ที่เซนเซอร์ขนาด APS-C นั่นเองครับ กว้างกว่าเลนส์คิทอย่าง 18-55mm อีกนะครับ ^ ^
อย่างถัดมาก็คือ นอกจากมันจะไวด์ได้ใจแล้ว มันยังให้เทเลมาเต็มสูบด้วย นั่นก็คือเทเลซูม 20 เท่า!! นั่นก็คือ มันมีช่วง 25-500mm บนกล้องฟิล์ม หรือ 16.5-330mm บนกล้อง DSLR เซนเซอร์ APS-C อย่างเช่น Canon 600D, 60D, 1100D นั่นเอง ...
ซึ่งปกตินั้นเลนส์ซูมมากๆ เราจะเห็นกันบ่อยอยู่แล้วบน DSLR-Like แต่กล้องตัวนี้เป็นกล้องที่ "บาง" แถมช่วงไวด์ยังไวด์ถึงใจ ไม่ใช่แค่ 28mm อย่างที่ฮิตๆกันด้วย!!
ดังนั้น แค่ช่วงเลนส์ของมัน ก็ทำให้ Canon Powershot SX260 HS โคตรจะน่าสนใจได้มากๆแล้ว ^ ^

ถัดมาก็คือ ระบบประมวลผลภาพ Digic V ซึ่งระบบตัวนี้ ทำให้กล้องเซนเซอร์เล็กๆอย่างคอมแพคได้ไฟล์ภาพที่เนียนแม้ ISO 1600 ทำเอา DSLR รุ่นเก่าๆร้องไห้ได้ง่ายๆ (พอมาเป็น DSLR เจ้า Digic V ก็ทำเอาเนียนยัน ISO 6400 เลยล่ะ) ซึ่งเจ้าระบบประมวลผลตัวใหม่นี้ น่าจะทำให้มันโค่นกล้องคอมแพครุ่นพี่แต่เก่ากว่า อย่าง S90 S95 G10 G11 ได้ไม่ยากน่ะครับ

นอกจากเรื่องแบบกล้องๆแล้ว มันยังมี GPS มาให้ด้วยครับ
แล้วเรื่องทั่วๆไป ที่มักพบในกล้องตัวใหม่ๆเช่น ถ่ายวิดีโอ Full HD ก็มีมาให้ครับ
เรียกง่ายๆว่ากล้องตัวนี้ ครบครันมากๆ ^ ^

คลิปให้อาหารตุ๊กแก ตุ๊กแกก็เลี้ยงได้นะ ^ ^

วันหยุด ก็มักจะกลับบ้านเป็นประจำ แต่ครั้งนี้พบกิจกรรมประหลาดของพ่ออย่างหนึ่ง ^ ^"
นั่นก็คือ "ให้อาหารตุ๊กแก" นั่นเอง ... ^ ^
โดยการให้อาหารตุ๊กแกต้องทำอะไรอย่างไร ก็ลองดูคลิปกันก่อนเลยครับ

ก่อนที่จะสงสัยกันว่า แอบเอาอะไรให้กินนั้น ต้องบอกก่อนว่า ตุ๊กแกที่บ้านไม่ค่อยจะกลัวคน หรือขู่คนเท่าไหร่ เพราะที่บ้านเห็นตุ๊กแกแล้วไม่ค่อยอะไรกับมัน มันก็เลยชินกับคน และคนก็ชินกับมัน (แต่ไม่ได้ชินขนาดไปจับมันมาอุ้มเล่นได้นะ -*-) เคยไปเจอตุ๊กแกที่อื่น มันเห็นคนแล้วขู่อ้าปากอ้าคอ ไม่เหมือนที่บ้านเท่าไหร่ -*-
ดังนั้น ที่บ้านเลยเข้าใกล้ตุ๊กแกได้ในระดับที่เรียกว่าห่างจากมันประมาณ 1 เมตร มันก็ไม่หนีไปไหน ... พ่อก็เลยลองให้อาหารมันดูน่ะครับ ^o^

วิธีการให้อาหารตุ๊กแก
1. หาไม้ยาวๆเล็กๆ (ที่ใช้ตามคลิปคือก้านมะพร้าว) มาไว้เป็นอุปกรณ์ให้อาหาร
2. เอาอาหารมาเสียบไว้ที่ปลายไม้ โดยที่เห็นในคลิปคือเนื้อไก่ย่างสีส้มๆแดงๆที่ซื้อมาจากตลาดนั่นเอง
3. ค่อยๆยืนไปหาตุ๊กแก
4. ครั้งแรกๆมันอาจจะลังเล แต่พอมันได้งับเนื้อไก่แล้ว มันจะติดใจจนลืมไม่ลง
5. หลังจากนั้น พอเจอมันก็ให้อาหารอีกได้เรื่อยๆ ^ ^

ที่บ้านมีพี่สาวคนเดียวที่กลัวตุ๊กแก (แต่พ่อแม่และผม ไม่กลัว เฉยๆ)
ดังนั้นเวลาพี่สาวเจอตุ๊กแก ก็ได้แต่ร้องกรี้ดๆพร้อมกับร้องเรียกให้คนในบ้านหาทางจับตุ๊กแกไปที่อื่น แต่คนในบ้านก็จะ "เฉยๆ" พร้อมกับพูดว่า มันไม่ได้ทำอะไร กลัวทำไม
... พักหลังๆพี่สาวก็เลยไม่ค่อยได้ค้างที่บ้านเท่าไหร่ 555+

Nikon D5200 กล้อง DSLR รุ่นใหม่จากนิคอน!!

Nikon D5200 กล้องรุ่นใหม่จากนิคอนตัวนี้ เริ่มจะเป็นที่โจษจันและฮือฮากันตั้งแต่กล้องยังไม่เปิดตัว ไม่บอกสเปคด้วยซ้ำ -*-
สาเหตุก็เพราะการมาของ Nikon D3200 นั่นเองครับ ที่ทำให้หลายๆคนมั่นอกมั่นใจกันว่า Nikon D5200 จะต้องเปิดตัวในอีกไม่นานหลังการวางจำหน่ายของ Nikon D3200 แน่ๆ
และเมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่อัพเดทจาก Nikon D3100 กลายเป็น Nikon D3200 แล้ว ... ก็เริ่มเกิดการเปรียบเทียบสเปคกันขึ้นมาทันทีว่า ... แล้ว Nikon D5100 มีอะไร? แล้ว Nikon D5200 จะเพิ่มอะไรขึ้นมาหากดูกรณีของ D3200 เป็นตัวอย่าง?

- เซนเซอร์ของ Nikon D5200 ต้องไม่ต่ำกว่า 24 ล้านพิกเซล!! ... นี่คือสิ่งที่คาดการณ์กันว่า จะได้แน่ๆ!! เพราะ Nikon D3200 ยังได้ตั้ง 24 ล้าน แล้วเหตุใดจึงจะให้พิกเซลที่น้อยกว่านี้แก่ D5200 หลายๆคนเก็งเรื่องนี้กันมาก (แต่ก็ไม่แน่นะ Nikon D4 ยังพิกเซลแค่ 16 ล้านเอง ^ ^) ... โดยที่เดาๆกันก็คือ Nikon D5200 จะมีเซนเซอร์ 26.2 ล้านพิกเซล (เพิ่มมาอีก 10 ล้านแบบที่ D3xxx ทำไว้)

- ถ่ายวิดีโอ Full HD 1080p @ 30fps อันนี้น่าจะได้แน่นอน เพราะ Nikon D3200 ก็ได้เท่านี้ ซึ่ง D5200 ไม่มีทางต่ำกว่านี้แน่ๆ สำหรับสเปควิดีโอ

- จอพับได้ที่มีอยู่แล้วใน D5100 ไม่น่าจะตัดออก เพราะคนที่จะใช้ D5200 คงจะรู้สึกชอกช้ำไม่น้อยหากรุ่นใหม่กว่าดันไม่มีตรงนี้

- Scene Modes ของ Nikon D5200 น่าจะมีเยอะ เพราะหากนำสเปคของ D5100 ไปเทียบกับ D3200 ก็พบว่า D5100 มีมากกว่า (16 โหมด กับแค่ 6 โหมด)

- โหมด Special Effect ที่น่าจะมีเพิ่มมากขึ้น ... ของเดิมนั้น D5100 มี special effect ให้เล่นอยู่ 7 แบบ แต่ D3200 ไม่มีเลยครับ พอมาเป็น D5200 ก็เดาว่าน่าจะมีเพิ่มเป็น 8-9 แบบให้เล่น ^ ^

- ISO น่าจะเท่า D5100 ที่ 25600 โดยน่าจะทำคุณภาพไฟล์ได้ดีกว่าเดิม (แต่หลายๆคนก็เก็งว่า อาจจะได้ถึง 51200 ก็ได้ เพราะ Nikon ชอบจัดเต็ม)

- อาจจะถ่ายรัวได้ 6 รูปต่อวินาที!! เพราะว่าเดิมนั้น D5100 ทำได้ 4 รูปต่อวินาที แล้ว D3200 ก็มาไล่ทันที่ 4 รูปต่อวินาทีเช่นกัน ... จึงคาดการณ์กันว่า Nikon D5200 น่าจะอัพเดท!!

- ระบบประมวลผลภาพ Expeed 3 อันนี้น่าจะเป็นที่แน่นอนครับ เพราะว่า D4 ก็ใช้ตัวนี้ แล้ว D3200 ก็ใช้ตัวนี้ ... คาดว่า DSLR ช่วงนี้ของ Nikon จึงคงใช้ Expeed 3 เหมือนกันทั้งหมด

- Active D-Lighting โหมดเด่นอันนี้ของ Nikon ก็คงมีแน่นอน

- มีระบบ Image Sensor Cleaning function กับ Airflow Control System ซึ่งเป็นระบบที่มาใหม่ใน D3200 ดังนั้น D5200 ไม่พลาดที่จะมีแน่ๆ

- เดาว่าคงไม่มีสองสีให้เลือก เพราะเหมือนกับว่าทั้ง Nikon และ Canon จะมีสีสันแปลกๆให้เฉพาะรุ่นล่างสุดของ DSLR เท่านั้น

คร่าวๆก็เท่านี้ครับ เดี๋ยว Nikon D5200 เปิดตัวเมื่อไหร่ ก็คงจะได้รู้กันจริงๆ ^ ^

เที่ยวพม่าบูม เปิดประเทศแล้ว!! ทะเลสวยๆเพียบ!!

ตอนนี้ใครที่ได้ดูข่าวก็คงจะพอรู้กันแล้วว่า พม่า หรือ Myanmar ประเทศเพื่อนบ้านของเราตอนนี้เปิดประเทศแล้ว แล้วก็เตรียมเอาจริงเอาจังด้านการท่องเที่ยวด้วย
ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับคอท่องเที่ยวอย่างมาก เพราะพม่านั้น เป็นที่รู้ๆกันว่าทรัพยากรธรรมชาติเยอะมากๆ ทะเล ชายหาด ภูเขา น้ำตก วิวทิวทัศน์สวยๆ ที่ยังไม่เคยมีใครค้นพบนั้น มีรอให้ได้ยลอีกเพียบ!! แล้วเป็นธรรมชาติแท้ๆที่ยังปรุงแต่งไม่มากอีกด้วย

ว่าแล้วผมก็เลยขอพาไปชมทะเล ชายหาด เกาะต่างๆในประเทศพม่ากันหน่อย ว่าหากคิดท่องเที่ยวทางทะเลในประเทศพม่า คุณจะได้เจอกับอะไร?
ลองดูภาพนี้นะครับ (ที่มาของรูปทั้งหมด จาก maps.google.co.th)

วงสีเหลืองที่ผมวงไว้ นั่นคือโซนทะเลอันดามันของประเทศไทยเราครับ ซึ่งหากพูดถึงทะเลฝั่งอันดามันแล้ว ใครต่อใครก็คงรู้ว่ามันสวยแค่ไหน!!
จากนั้นลองดูวงสีแดงครับ นั่นคือทะเลอันดามันของพม่าครับ เกาะแก่งเยอะมาก!! ของไทยฝั่งอันดามันว่าเยอะแล้ว เห็นฝั่งพม่าเข้าไปแล้วต้องยอมเลยครับ ฝั่งนั้นเกาะแก่งเยอะจริงๆ มันจึงไม่แปลก ที่ในหมู่เกาะเยอะๆขนาดนั้น มันต้องมีบางเกาะ(น่าจะหลายเกาะ)ที่สวยมากๆแน่นอน
นอกจากนั้น ตรงเส้นแบ่งสีแดง ระหว่างฝั่งซ้าย(พม่า)กับขวา(ไทย) จะเห็นว่าของไทยเป็นสีเทาๆเขียวๆซีดๆ แต่ฝั่งพม่านี่เขียวครึ้มเลยครับ!!

ว่าแล้วผมก็ขอซูมดูเกาะต่างๆในย่านนั้นดูหน่อย ... ซูมแล้วก็ต้องทึ่งมากขึ้น!! เพราะมันมีเกาะสวยๆเด็ดๆเพียบเลย!! (แล้วก็น่ายินดี ที่เกาะที่ว่านั้น อยู่โซนล่างๆติดๆกับฝั่งระนองของประเทศไทยเรา) ลองดูรูปสิครับ!!
รูปนี้ ทั้งแถบเลยครับ ลองดูด้านขวาของเกาะ

จะเห็นว่าด้านขวาของเกาะ ฟ้าใส ทรายขาว และที่สำคัญ "แนวปะการัง" พรึ่บเลย!! น่าจะมากกว่าแนวปะการังติดหาดที่เกาะหลีเป๊ะของไทยเราอีกครับ (หากพูดถึงแนวปะการังที่ดูได้จากชายหาดเลยนั้น ประเทศไทยเรามีไม่มากครับ ที่เด่นๆก็คือที่หลีเป๊ะ นอกนั้นต้องนั่งเรือไปชมครับ)

หรือลองดูชายหาดที่เกาะนี้ครับ

หาดทางทิศเหนือขาวใส แล้วก็ตื่นไปไกลมาก เป็นเวิ้งลากูนที่น่าทึ่งสุดๆ ทางขวาและทางใต้ก็สวยมากๆเช่นกัน

แถมเกาะนี้ครับ

หาดสวยประกบสองด้านเลยครับ!! เดินจากหาดหนึ่งไปอีกหาดหนึ่งได้เลย แนวนี้เห็นแล้วนึกถึงเกาะพีพีดอนในไทยเราเลย

หากยังไม่แน่ใจว่ามันจะสวยจริงหรือจากการมองทางอากาศ แนะนำให้เข้า maps.google.co.th แล้วซูมดูเกาะเด่นๆของไทยดูครับ เกาะเต่า เกาะราชาที่ภูเก็ต เกาะพีพี เกาะหลีเป๊ะ เกาะของพม่าสวยไม่แพ้เกาะระดับแถวบนๆของเราเลย ... แถมธรรมชาตยังสมบูรณ์สุดๆ ไม่มีปะการังหักๆ ปลาที่มีแต่สลิดเขียวบั้งเหลืองแบบของไทยแน่ๆ จัดว่าน่าสนใจมากๆครับ

แถมอีกรูป หากไปทางเหนือของพม่า เค้ามีเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดปี ด้วยครับ หากดูแนวเทือกเขาแล้ว โซนๆนี้ก็เชื่อมกับหิมาลัยด้วยล่ะครับ ต้องเป็นแนวเขาที่สวยมากๆแน่ๆ

...
เป็นไงครับ พม่าเพื่อนบ้านเรา ทะเลเอย ป่าไม้เอย หิมะก็ยังมี ... นี่ยังไม่รวมวัฒนธรรม วัดวาโบราณต่างๆ นะครับ
ถ้าประเทศนี้เปิดตัวและการท่องเที่ยวพร้อมเมื่อไหร่ จะเป็นประเทศที่น่าเที่ยวมาก!!

อย่างไรก็ตาม สาธารณูปโภคของพม่ายังต้องปรับปรุงอีกมาก
ถ้าจะเที่ยวเกาะ ระบบขนส่งทางน้ำ ท่าเรือต่างๆ เอกชนต่างๆ ต้องสร้างใหม่ทั้งหมด
ระบบคมนาคมทางบกปกติ ก็ไม่ค่อยจะดี ... ดังนั้น หากจะไปเที่ยวเลยตอนนี้ ไม่ได้ไปแน่ๆครับ จุดที่ว่าสวยๆน่ะ ต้องเปิดประเทศอีกมาก
ณ ตอนนี้ คงไม่ต้องเล็งพม่ามากมายหากจะไปเที่ยว (ยกเว้นเที่ยวด้านวัฒนธรรม หรือโบราณสถาน จะเที่ยวได้เลย เพราะด้านนี้เปิดนานแล้วครับ)
แต่อีกประมาณ 15-20 ปีข้างหน้า ประเทศนี้น่าจะน่าสนใจมากทีเดียวครับ รอกันหน่อยละกันครับ สำหรับการเที่ยวพม่า ^ ^

รีวิวกล้องคอมแพค Nikon S2600 ดีกว่าที่คิด!!

รีวิวนี้เป็นรีวิวคร่าวๆนะครับ ไม่ได้ใช้เองด้วย
คือคุณแฟนไปเรียนภาษาที่ Australia มาน่ะครับ ก่อนไปก็แวะซื้อกล้องคอมแพคมาตัวนึง ซึ่งก็คือ Nikon S2600 ซึ่งราคาประกันศูนย์ก็ไม่ได้แรงอะไร แค่ 2,990 บาทเท่านั้นเอง
พอกลับมา ผมก็ได้ดูไฟล์รูปจากกล้องคอมแพคราคาเบาๆตัวนี้ แล้วก็อดแปลกใจกับไฟล์ภาพไม่ได้ เพราะมันดีกว่ากล้องคอมแพคที่ผมมีเยอะเลย -*-
แน่นอนว่า หาก Crop ภาพ ซูมดูไฟล์ภาพกันจะๆแล้ว กล้องคอมแพคตัวแค่นี้ไฟล์ภาพในด้าน Resolution ก็ไม่มีทางที่จะดีเด่ไปยังไงแน่นอนล่ะครับ ^ ^"
แต่ด้านสีสันและ Dynamic range ของภาพนี่สิครับ ... เห็นแล้วอดทึ่งไม่ได้ ว่านี่หรือคอมแพคตัวละสองพันกว่าๆ? ...
...
ก็ขอนำรูปมาให้ชมกันอย่างเดียวนะครับ ไม่ครอปดู Resolution แต่ดูกันแค่สีสันและ DR เปล่าๆเท่านั้นพอ เพราะผมก็ไม่ใช่คนใช้กล้องด้วย แค่เห็นภาพแล้วอดแปลกใจไม่ได้ก็เท่านั้นเอง ^ ^
ทุกภาพไม่มีปรับแสงปรับ contrast หรือเร่งสีแต่อย่างใด ผมย่อและ sharp เบาๆ และใช้คุณภาพภาพเพียงแค่ 85% ผ่านโปรแกรมง่ายๆอย่าง Photoscape มาให้ชมกันดื้อๆเลยครับ

ลองชมด้านสีสันของภาพกันก่อนครับ

ภาพไม่ได้ปรับอะไรเลยนะครับ โหมดออโต้ล้วนๆแน่นอนครับ เพราะคุณแฟนไม่เป็นกล้องเลยครับ ใช้กล้องผมแค่โฟกัสให้คนไม่เบลอ คุณเธอยังไม่ค่อยจะเป็นเลย 555+ (จะแอบเข้ามาอ่านไหมเนี่ย ^ ^)

แถมภาพจะดูกระจ่างใสดีด้วยครับ แน่นอนว่าแม้แสงจะดีอยู่แล้ว แต่กล้องก็ปรับแสงได้ใสดีจริงๆ

ดูด้านสีสันแล้ว
ลองดู Dynamic Range กันบ้างดีกว่าครับ ... เริ่มด้วยภาพที่มีความต่างของแสงไม่มาก ...
ภาพนี้จะเห็นว่าฟ้ายังเป็นฟ้าอยู่ครับ แต่ภาพในส่วนมืดก็ยังขุดออกมาได้โดยสีของท้องฟ้าไม่เสีย แถมขุดโทนมืดออกมาเยอะด้วย

ถ้าคิดว่าภาพบนสภาพแสงมันไม่โหดร้ายมาก ลองดูในภาพนี้กันบ้าง แบบต่างกันเยอะๆเลย ... แม้ในโทนมืดจะมืดไปบ้าง แต่ก็จัดว่าไม่เลวเลยครับสำหรับกล้องคอมแพค

...
ถ้าคิดว่าสภาพแสงด้านบนยังง่ายไป ลองดูแบบถ่ายย้อนแสงกันตรงๆไปเลย ... จะเห็นว่าฟ้าเป็นสีฟ้านิดๆอยู่เลย ขาวๆแค่ส่วนของดวงอาทิตย์
แล้วในส่วน shadow กลับเห็นรายละเอียดของภาพด้วย ทั้งๆที่ถ่ายย้อนพระอาทิตย์แบบนี้ ถ้าจะให้เห็นดีเทลของวัตถุ ฟ้าน่าจะกลายเป็นสีขาวโพลนไปทั้งหมดด้วยซ้ำ!! จัดว่าเป็นภาพถ่ายย้อนแสงที่ดูดีมากๆเลย!!

หรือจะถ่ายภาพแสงในห้อง ที่สภาพแสงมักจะต่างจากด้านนอกมาก มากจนหากจะเก็บความสว่างในห้องให้พอดี ภายนอกห้องก็มักจะขาวโพลน แต่จากภาพจะเห็นว่าภายนอกห้องยังเห็นสวนเห็นต้นไม้อยู่เลย!!

...
อย่างไรก็ตาม หากขยาย crop ภาพเต็มๆ 100% ไฟล์ภาพก็ยังคอมแพคยังไงยังงั้นล่ะครับ
ต้องชมระบบประมวลผลภาพจริงๆ ว่ามันฉลาดและจัดการไฟล์ภาพได้ดีมากๆ ... ปกติผมจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่สำหรับคอมแพค Nikon ครั้งนี้คงต้องมองมันใหม่แล้วล่ะครับ ^ ^

Canon A810 คอมแพคราคาถูก ที่ได้มากก!! กว่าที่คิด

ตอนนี้ตลาดคอมแพคเหมือนจะดูเงียบๆ แต่จริงๆแอบแรงมากๆครับ คนใช้กล้องระดับบนๆที่ไม่ค่อยได้ชายตามองกล้องระดับล่างๆ ได้แต่ทึ่ง!!
ตอนนี้แคนนอน ได้ออกกล้องคอมแพคภาคต่อรุ่นใหม่ออกมาแล้วอย่าง Canon A810 ครับ ซึ่งเป็นภาคต่อของ Canon A800 (ที่ตอนนี้ราคาเพียง 1,790 บาทเท่านั้น)
ซึ่งราคาเปิดตัวประกันศูนย์ในไทยเราตอนนี้ Canon A810 ราคาอยู่ที่ 2,990 บาทครับ ซึ่งก็ถือว่าแพงกว่า A800 มากอยู่ ... แต่ถ้าไม่เทียบกับใคร 2,990 บาทนี่จัดว่าโคตรถูกเลยนะครับ ถ้าคุณรู้ว่า คุณจะได้อะไรจากกล้องตัวนี้

ขอพูดสิ่งที่เพิ่มเติมของ A810 จาก A800 ก่อนละกันครับ
- จาก 10 ล้านพิกเซล กลายเป็น 16 ล้านพิกเซล
- ระบบประมวลผลภาพ Digic IV ซึ่งจัดว่าแคนนอนไม่กั๊กครับ ใช้ตัวนี้ทั้งกล้องถูกไม่กี่พัน จนถึงแพงหลายหมื่น!! (ขอชมความไม่กั๊กในข้อนี้จากใจ)
- ซูมเลนส์ 3.3 เท่า กลายเป็น 5 เท่า
- เลนส์กว้าง 37mm (ซึ่งจัดว่าแคบสำหรับระยะกว้างสุด) กลายเป็น 28mm (ซึ่งจัดว่ากว้างเท่าเลนส์คิทของ DSLR)
- จากถ่ายวิดีโอปกติ กลายเป็นถ่าย HD ได้!!
- มีกันสั่น!!
- จอ LCD กว้างขึ้นจาก 2.5 เป็น 2.7 นิ้ว
...
อ่านมาแค่นี้ ก็พอจะรู้นะครับว่า A810 มันโคตรเจ๋งเลย!! สำหรับราคาของมัน!! *0* มันอัพเดทจาก A800 ในเรื่องหลักๆของกล้องเลยล่ะครับ ไม่ใช่ว่าแค่แอบเพิ่ม Scene Mode เข้ามาสองสามซีนแล้วก็เปลี่ยนรุ่นอย่างเมื่อก่อน แต่นี่ปรับเซนเซอร์ ปรับเลนส์กว้างขึ้นซูมไกลขึ้น ปรับระบบประมวบผลภาพ ปรับระบบถ่ายวิดีโอ นับว่าครบเครื่องจริงๆ
เพราะในราคาเล็กๆและความคอมแพคของมัน แต่ทำได้ขนาดนี้ ... บอกตรงๆว่าปัจจุบันเทคโนโลยีนี่มันเร็วจริงๆ ^ ^

กล้องแพงอย่างดี กับการถ่ายภาพสวย ... จำเป็นหรือไม่?

หากเราอยากจะถ่ายภาพให้สวย มันมีความจำเป็นหรือไม่? ที่จะต้องใช้กล้องแพงๆอย่างดี เช่นกล้อง DSLR หรือกล้องเซนเซอร์ใหญ่ๆเท่านั้น?
ส่วนตัวอยากจะบอกเช่นนี้ครับว่า "มันไม่จำเป็น" ... ไม่ว่ากล้องอะไรก็ตามแต่ ต่อให้เป็นกล้องติดโทรศัพท์มือถือกิ๊กก๊อก คุณก็สามารถใช้มันให้ถ่ายภาพออกมาสวยได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณต้องนิยามคำว่า "ภาพสวย" ให้ถูกต้องซะก่อน!!

หลายๆคนชอบเหมาเอาคำว่า "ภาพเฉพาะแนว" ไปรวมกับคำว่า "ภาพสวย"
ยกตัวอย่างเช่น ภาพหน้าชัดหลังเบลอมากๆ ประมาณว่าถ่ายภาพคนแบบว่าเต็มตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วได้ฉากหลังเบลอมากๆออกมาได้ ... แบบนี้เรียกว่า "ภาพเฉพาะแนว" ไม่ใช่ภาพสวย!!
ดังนั้นถ้าไปได้ยินใครบอกว่า "โอ้ยยย กล้องถูกๆถ่ายไม่สวยหรอก ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอก็ไม่ได้" ... ขอบอกว่า มันคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง!!
สมมุติว่าคุณมีเลนส์ Wide ขั้นเทพประมาณ 15mm สำหรับกล้อง Fullframe ... แต่เลนส์ตัวนั้นถ่ายหน้าชัดหลังเบลอไม่ได้ ... มันก็จะกลายเป็นว่าเลนส์ตัวนั้นไม่สามารถถ่ายภาพให้สวยได้อย่างนั้นหรือ? มันก็คงไม่ใช่
...
แล้วถ้ายังงั้น คำว่าภาพสวยล่ะ? เป็นอย่างไรกันแน่?
ภาพสวยก็คือภาพที่ "คนส่วนใหญ่มองแล้วบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าสวย" นั่นแหละครับ ... จะว่าไปมันก็นานาจิตตังนั่นเอง
แต่ถ้าจะให้ฟันธง ก็ต้องอาศัยการฟันธงของคนหมู่มากน่ะล่ะครับ ... ถ้าคนส่วนใหญ่บอกว่าสวย มันก็คงจะสวยล่ะมั้งเนอะ ^ ^"

เมื่อทำความเข้าใจกับคำว่าภาพสวยได้เรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องมาดูกันต่อว่า "แล้วกล้องที่เรามี มันมีจุดเด่นอะไร"
ถ้ากล้องที่คุณมี มันไม่มีอะไรเด่นเลย!! เช่นกล้องของโทรศัพท์มือถือ จะทำอย่างไรให้ออกมาสวย
คำตอบก็ง่ายๆ ว่าภาพมันต้องมีเนื้อหาที่เด่น หรือมีมุมกล้อง มุมมองเทพๆ การตกแต่งภาพบางอย่าง เข้าช่วยนั่นเอง ... ที่เห็นง่ายๆก็คือการใช้ Instagram ที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนี้นั่นเอง
ภาพจาก iPhone หรือมือถือแพงๆพวก Smartphone แท้จริงแล้วก็ใช่จะดีเด่ครับ แต่เราก็จะเห็นภาพสวยๆแนวๆ จากการใช้กล้องพวกนี้ถ่ายอยู่บ่อยครั้ง จุดเด่นก็คือต้องเนื้อหาของภาพน่าสนใจ มุมกล้องเทพ นั่นเอง ^ ^
ดังนั้น ไม่ว่ากล้องอะไรก็ตาม เราก็สามารถถ่ายให้มันสวยได้ ถ้าเรารู้ว่ามันมีจุดเด่นจุดด้อยอะไร

อย่างไรก็ตาม ถ้าบอกว่าไม่ว่ากล้องอะไรก็ถ่ายสวย แล้วจะซื้อกล้องแพงๆดีๆกันทำไม?
คำตอบก็คือ กล้องดีๆแพงๆ หรือเลนส์แพงๆนั้น มันสามารถตอบสนองการถ่ายภาพที่เรียกว่า "สวยเฉพาะแนว" ได้ ^ ^
ก็ยกตัวอย่างภาพหน้าชัดหลังเบลอมากๆนั่นล่ะครับ ถ้าอยากได้ภาพแนวนี้ก็ต้องหาเลนส์รูรับแสงกว้างๆ ช่วงติดเทเลนิดๆ มาใช้ ^ ^
ซึ่งคนที่เป็นเทพเป็นเซียนด้านกล้อง เค้าจะรู้ครับ ว่าเค้าต้องการถ่ายภาพสวยๆนั้น ออกมาแนวไหน แล้วเค้าก็จะหาอุปกรณ์ หากล้อง ที่เหมาะสมกับภาพเฉพาะแนวนั้นๆมาใช้นั่นเอง ^ ^

... จากที่ผมบ่นๆมา มันก็เหมือนกับว่า ถ้าคนถ่ายรูปฝีมือขั้นเทพ กล้องอะไรก็คงจะออกมาสวยหมดนั่นล่ะ
แล้วกับคนที่ฝีมือห่วยๆล่ะ? ถ้าคนฝีมือห่วยๆ ถือกล้องอย่างดี กับถือกล้องห่วยๆ อะไรจะดีกว่ากัน ... คำตอบนี้ก็ไม่สามารถฟันธงได้ครับ เพราะบางทีคนฝีมือห่วยๆ ถ่ายภาพจากกล้องห่วยๆให้ออกมาดีกว่ากล้องแพงๆได้ เพราะกล้องแพงๆต้องปรับแต่งเยอะ อยู่ๆยกส่องแล้วถ่ายเลย ก็อาจจะถ่ายออกมาได้แย่กว่ากล้องถูกๆก็ได้
แต่บางคนห่วยไม่มากนัก หากได้กล้องดีกว่า ก็มีโอกาสได้ภาพที่ดีกว่าเหมือนกัน ^ ^

สรุปคร่าวๆ
1. กล้องทุกกล้องถ่าย่ภาพให้ออกมาสวยได้ แต่สวยจากแต่ละกล้อง จะไม่เหมือนกัน ต้องรู้แนวของกล้องตัวเอง
2. แล้วจะจ่ายเงินซื้อกล้องแพงๆทำไม ถ้ากล้องทุกอย่างถ่ายสวยเหมือนกัน ... คำตอบก็คือ เพื่อภาพสวย "เฉพาะแนว" นั่นเอง
3. ถ้าฝีมือถ่ายภาพห่วยล่ะ ใช้กล้องดีๆจะช่วยได้หรือไม่ คำตอบก็คือ มีทั้งช่วยได้และช่วยไม่ได้จ้า อันนี้คงไม่มีใครฟันธงได้

ปล. ทั้งหมดนี่เขียนจากความเห็นตัวเองล้วนๆครับ เอาไปอ้างอิงอะไรไม่ได้นะ เพราะเป็นการแสดงทรรศนะส่วนบุคคลของผมเองน่ะครับ (ซึ่งผมก็ไม่ใช่ตากล้องด้วย ^ ^") ถือว่าแลกเปลี่ยนแนวคิดของการถ่ายรูปแล้วกันครับ ^ ^

Mazda CX-5 รถยนต์แนว SUV จากมาสด้า!!

หากพูดถึงรถยนต์แนว SUV ในไทยแล้ว ส่วนใหญ่ก็นึกถึง Fortuner, CRV, Captiva, X-trail ... ซึ่งก็ยังมีอีกหลายยี่ห้อในไทย ที่ยังไม่ได้นำรถแนว SUV ของตนเองลงตลาดแข่งขัน
แน่นอนว่า Mazda ก็เป็นหนึ่งในนั้น ^ ^
วันนี้ก็เลยอยากจะขอพาชมรถยนต์ SUV จากมาสด้ากันหน่อย ว่าจะเก๋ไก๋ ตามสไตล์ Zoom Zoom ของมาสด้าแค่ไหน ^ ^
โดย SUV ที่กำลังทำตลาดอเมริกาของมาสด้าอยู่ตอนนี้ก็คือ CX ในชื่อของ Mazda CX-5 ครับ ^ ^

จากรูปร่างนั้น ต้องบอกตรงๆว่า Mazda ถนัดทำรถยนต์หน้าตาวัยรุ่นนำสมัยจริงๆ ไม่ว่าจะรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ หรือทำเป็น SUV มาสด้าก็ยังคงดีไซน์ให้ออกมาเฟี้ยวฟ้าวเหมือนเดิม

นอกจากหน้าตาแล้ว จุดเด่นอื่นๆของ Mazda CX-5 นั้น ผมก็ไม่รู้หรอกครับ 555+ ^ ^"
แต่เห็นว่าทาง Mazda ค่อนข้างโปรโมทหนักหน่อย ว่ารุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์แบบ Skyactiv ซึ่งประมาณว่าใช้พลังงานน้อยลง แต่ให้กำลังขับเคลื่อนมากขึ้น แบบว่าจะช่วยให้ประหยัดอย่างมากน่ะครับ เป็นเทคโนโลยีตัวใหม่ของมาสด้าเค้าล่ะ ลองชมคลิปโฆษณาดูครับ ^ ^

ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีแค่ไหน สำหรับ Skyactiv แต่ท่าทางจะดูดีครับ ... อย่างไรก็ตาม ต่อให้ Mazda CX-5 มาไทยก็เถอะ ข้างในก็คงต่างจากที่อเมริกาเยอะเหมือนเดิม (ขอย้ำว่า "เยอะ")
นึกถึงรถ Prius ที่มีระบบจอดรถยนต์อัตโนมัติเอย โน่นนี่นั่นเอย แต่พอมาไทยแล้ว ขายก็แพงกว่าเยอะเพราะภาษี (รถยนต์ทุกรุ่นทุกยี่ห้อที่ขายในไทย เอาไปหาร 2 หรือ 1.5 จะได้ราคาที่ขายในอเมริกาครับ) ... แต่ก็นะ อย่าพึ่งมัวนึกถึงความเท่าเทียมเลย ให้มันมาก่อนเถอะ ^ ^ ผมว่าถ้า Mazda CX-5 ลงตลาดไทยล่ะก็ น่าสนใจมากทีเดียวครับ (หน้าตามันสวยน่ะ ^ ^")

กระเป๋าเดินทาง เลือกยี่ห้อไหน แบบใดดี?

กระเป๋าเดินทางก็จัดเป็นของที่จำเป็นแล้วก็ต้องเลือกให้ดีเหมือนกันครับ
เพราะหากคุณจะต้องเดินทางแบบขนสัมภาระเยอะๆ จนถึงขั้นต้องใช้กระเป๋าเดินทางเมื่อไหร่ล่ะก็ นั่นแสดงว่ามันคงจะหนักจนแบกไม่ไหว ล้อลากของกระเป๋าเดินทางจึงจัดเป็นสิ่งสำคัญ ความทนทานก็สำคัญ
ไม่ใช่ไปซิปแตก ของมากมายก็ได้แต่พรั่งพรูกระจุยกระจาย -*- ... หรือบางทีล้อลากหัก หลุด เสีย ลากไม่ได้ขึ้นมา น้ำหนักกระเป๋าเป็นหลักสิบกิโล คุณจะขนกันยังไง? (ไม่งั้นก็ต้องใช้วิธี Backpack แทน)

ซึ่งหลักการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทาง ที่ฟังๆมา ก็ประมาณนี้ครับ

1. มีคนบอกว่า กระเป๋าผ้า ดีกว่ากระเป๋าที่เป็นพวกแข็งๆ Hard Case หรือไฟเบอร์กลาสครับ
สาเหตุก็คือ พวกแข็งๆ เอาเข้าจริงแล้วแตกง่าย โหลดกระเป๋าทีเนี่ย โดนจับเหวี่ยงจับทุ่มอะไรบ้างก็ไม่รู้
แบบเป็นผ้ายืดหยุ่นกว่า ดันทุรังยัดของได้ดีกว่า ใช้นานทนทาน ไม่แตกไม่หัก

2. มีคนบอกว่า Hard Case หรือแข็งๆดีกว่า ไม่ต้องกังวัลเรื่องโดนกรีด แต่ต้องเป็นประเภทที่มันคลุมซิปแล้วใช้ตัวล็อคแทนด้วยนะครับ ไม่งั้นเค้าก็กรีดที่ซิปได้อยู่ดี
... จะเห็นว่ามันขัดแย้งกันเอง ระหว่างข้อ 1 กับ 2 แล้วจะเชื่อใครดีหนอ?

3. จากปัญหาข้อ 1-2 ก็แนะนำตามนี้ครับ
- หากรวย แม้แต่เสื้อผ้าก็ยังแบบว่าแบรนด์เนมราคาแรง ชอบช้อปปิ้งซื้อของแพงๆเยอะๆ กลัวว่าโดนกรีดไปจะเศร้าใจ ก็เน้น Hard Case แบบ "แพง" และ "โคตรทน" ซะหน่อย ... ไหนๆคุณก็พอจะมีเงิน อย่ามางกเรื่องกระเป๋าเดินทางเลยครับ เลือก Hard Case แรงๆหน่อยก็ได้
- หากไม่ได้พกของมีค่ามากมายอะไรในกระเป๋าเดินทาง ของมีค่า ก็อยู่กับตัวขึ้นเครื่องไปกับเราตลอด ไม่เคยโหลดลงใต้ท้อง ก็ใช้แบบกระเป๋าผ้าก็ได้ครับ เพราะมันจะทนทานกว่า หากจะไปลงทุนกับ Hard Case แบบครึ่งๆกลางๆ ก็กลัวจะแตกหักง่ายๆ จะซื้อแบบดีๆ มันก็แพงเกินไป

4. ดูที่ล้อ ว่าทนทาน ถึกอึด แค่ไหน
ที่สำคัญที่ต้องดูสำหรับการเปรียบเทียบอย่างหนึ่งก็คือ "ล้อ" ครับ ถ้าพลาสติก เกรดต่ำๆ ก็บอกลาเลยครับ อย่าไปซื้อ
กระเป๋าเดินทาง เป็นอะไรที่มักต้องแพคเยอะ และหนัก ถ้าล้อหักขึ้นมา ... ลองนึกภาพดูครับว่าจะเป็นอย่างไร -*-
นอกจากนั้นก็ระวังล้อเหล็กอย่างดี แต่ดันยึดกับตัวกระเป๋าได้แบบว่าแย่มากๆ อันนี้ก็ไม่เอานะครับ

5. เลือกสีสันสดใส วัยรุ่นหน่อยก็ดี
อันนี้สะดวกเวลามองหากระเป๋าที่สายพานน่ะครับ ไม่ได้มีอะไรมาก เพราะถ้ามันคัลเลอร์ฟูลกว่าใครๆ เวลามันเลื่อนๆมา มันจะเด่นเห็นง่าย ^ ^
แต่ถ้าไม่ชอบจริงๆก็ไม่เป็นไรครับ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่สาระสำคัญอะไร

-------------------------------------------------------

ส่วนยี่ห้อกระเป๋าเดินทางนั้น ส่วนตัวแนะนำว่า ถ้าคุณมั่นใจว่าเป็นประเภท "เลือกของเก่ง" "เลือกของเป็น" ไม่ต้องดูยี่ห้อครับ ไปเลือกดูได้เลย ว่าใบไหนมันทำดีจริงๆ เพราะบางที ยี่ห้อธรรมดาๆก็ทำกระเป๋าคุณภาพเยี่ยมๆออกมาได้

แต่ถ้าไม่มั่นใจในตนเองมากนัก ยี่ห้อนิยมก็ตามนี้ครับ
1. Samsonite
2. American Tourister
3. Delsey

ประมาณๆนี้ครับ ^ ^

Accor จัดโปรโรงแรมรีสอร์ท เซล 50%

Accor - แอคคอร์ เครือโรงแรมหรู เปิดโปรโมชั่น ลดค่าที่พักถึง 50% ครับ
โดยช่วงเวลาที่ให้เข้าพักก็คือช่วงวันที่ 6 ก.ค. 55 - 2 ก.ย. 55 ครับ
ซึ่งนับว่าไม่ใช่น้อยๆเลยครับ ^ ^ อย่างห้องพักหรูๆ ราคาคืนละ 5,000 บาทที่ให้ความรู้สึกว่าน่าเสียดายเงิน พอมาเหลือ 2,500 บาท มันก็พักสบายๆแล้วล่ะครับ ^ ^
อย่างไรก็ตาม ราคา 50% นี้สำหรับสมาชิก Le Club Accorhotels Member นะครับ ถ้าบุคคลทั่วไปก็อยู่ที่ 40% (ซึ่งก็นับว่าเยอะอยู่) แต่ถ้าสนใจจริงๆก็สมัครสมาชิกเลยก็ดีครับ ^ ^

...
สำหรับคนที่งงๆ ว่าโรงแรมเครือแอคคอร์ มีอะไรบ้าง หรูแค่ไหน ...
ก็ตามแบรนด์เหล่านี้เลยครับ ^ ^ Veranda, Novotel, Sofitel, Pullman, Mercure, All Seasons, Ibis ... ก็มีตั้งแต่หรูมากๆ จนถึงระดับกลางๆหรือสบายๆอย่าง Ibis ครับ
สนใจก็ตามดูรายละเอียดปลีกย่อยของการจองโปรลดราคาหั่นกระหน่ำนี้ได้ที่เวบ http://www.accorhotels.com/gb/promotion/specials/crazyprices.shtml ได้เลยครับ ^ ^

รีวิว บิ๊กสเต็ก กับทำเลใหม่!! - Big Steak : ร้านอาหารนครสวรรค์

หลังจากเคยรีวิวบิ๊กสเต็กไปแล้ว กับทำเลเดิม ... มาวันนี้ กับทำเลใหม่ของ Big Steak ผมก็ได้ไปลองอีกจนได้ ^ ^ (ใกล้ๆกันนั้นก็มีร้านเค้ก เบเกอร์รี่อย่าง Sweet by Nan อยู่ใกล้ๆพอดี เลยชิมทั้งสองที่เลย ^ ^)
โดยทำเลใหม่ของบิ๊กสเต็กนั้นอยู่ที่สามแยกไม้ฉลุน่ะครับ หากขับรถจากสี่แยกสะพานเดชา ตรงมาทางห้างแฟรี่แลนด์หรือวัดนครสวรรค์ ระหว่างทางก็จะผ่านสามแยกน่ะครับ ซึ่งเป็นแยกที่เป็นที่ตั้งของโรงแรมอารามิส ก็เลี้ยวซ้ายที่แยกนั้น เข้ามาจะเจอร้านบิ๊กสเต็กทำเลใหม่ทางซ้ายมือครับ ^ ^
สำหรับบรรยากาศร้านนั้น ผมชอบแบบที่เดิมมากกว่า แต่ที่นี่ก็ไม่ได้แย่นะครับ ก็โอเคดี ได้เปรียบทำเลเดิมตรงที่ติดแอร์เย็นฉ่ำ ^ ^

การตกแต่งร้านทำได้ดีเลยครับ เรียบๆ สวยดีน่านั่ง ^ ^

สำหรับอาหารก็ยังประทับใจเหมือนเดิม กับสเต็กในกระทะร้อน ที่ทำให้ได้ทานสเต็กร้อนๆนานๆ ^ ^

อาหารอีกจานของคุณแฟน ชื่อประมาณว่าหมูพริกไทยดำอะไรนี่ล่ะครับ จำชื่อไม่ได้ ... เมนูนี้มาเป็นชุดครับ มีข้าว มีน้ำซุบให้ด้วย พร้อมกับหมูพริกไทยดำในกระทะร้อนอีกที เข้าท่าดีครับ (จริงๆเมนูนี้ ตอนไปทานที่ทำเลเดิม คุณแฟนก็สั่งเมนูนี้แหละครับ ^ ^)

แต่ที่ถูกใจในครั้งนี้โดยไม่ได้คาดหวัง ก็คือเมนู หมูมะนาว รสชาติแซ่บดี เกินความคาดหวังจากร้านสเต็กน่ะครับ ^ ^

ก็ยังคงแนะนำครับ แม้บรรยากาศจะไม่ดี ไม่กว้างโปร่งเท่ากับทำเลเดิม แต่ก็ได้เปรียบในเรื่องติดแอร์เย็นสบาย และบรรยากาศก็ยังจัดว่าอยู่ในระดับดีครับ ^ ^
สำหรับรสชาติอาหารก็เหมือนเดิมกับที่เคยทานครับ สเต็กยังนุ่มเหมือนเดิม โอเคดีครับ ... และที่สำคัญ ชอบที่ที่นี่มีเมนูราคาเบาๆ แบบว่า 49 บาทหรือ 59 บาทอะไรแบบนี้ด้วย ^ ^
ผ่านไปแถวนั้น หรือหากพักอยู่โรงแรมอารามิสนครสวรรค์ ก็ลองแวะไปทานกันได้ครับ ^ ^

นีโม่ ตัวอย่างหนัง Finding Nemo 3D กับการกลับมาโกยเงินอีกครั้ง

Finding Nemo หรือ นีโม่ หนังการ์ตูนอนิเมชั่นเรื่องดัง ที่ปัจจุบันก็้ยังฮอทฮิตไม่เลิก ฮิตแค่ไหนก็เอาเป็นว่าไม่ค่อยมีใครเรียกปลาการ์ตูนว่าปลาการ์ตูนแล้ว แต่ใครต่อใครก็พากันเรียกว่าปลานีโม่กันหมด!!
ครั้งนี้ Finding Nemo ก็กลับมาทำเงินในโรงภาพยนตร์อีกครั้ง กับ Finding Nemo 3D ซึ่งเชื่อว่าแฟนๆนีโม่ต้องตามไปดูกันแน่ๆ เพราะเรื่องนี้ดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ แถมมาในรูปของ 3D ก็จัดว่าน่าสนใจกันไปอีก ^ ^
ลองชมกันครับ กับตัวอย่างหนัง Finding Nemo 3D ครับ ^ ^

พูดตรงๆ ส่วนตัวมองว่าค่ายหนังเล่นง่ายนะเนี่ย เล่นเอาหนังเดิมๆมาจับทำ 3D แล้วส่งลงจอเงินซะงั้น ... แต่ก็ต้องยอมรับจริงๆ ว่ามันน่าจะขายได้อ่ะนะ ต้นทุนก็ไม่มาก เพราะแค่เอาหนังเก่าไปทำ 3D ก็นับว่าเป็นความชาญฉลาดของค่ายหนังล่ะครับ ^ ^
ส่วนใครที่ยังไม่เคยชม Finding Nemo ก็เตรียมชมในรูปแบบ 3D กันได้ครับ ^ ^

วิธีเซ็นชื่อรับรองสำเนาเอกสารที่ถูกต้องปลอดภัย

สำหรับการทำธุรกรรมต่างๆนั้น การเซ็นต์ชื่อรับรองเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือทะเบียนบ้านนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งการเซ็นต์ชื่อนั้น ใช่ว่าจะเซ็นต์ง่ายๆ ตามใจตัวเองง่ายๆได้ เพราะการเซ็นต์ชื่อที่ไม่ถูกต้องนั้น มิจฉาชีพอาจจะนำเอาสำเนาเอกสารของเราไปใช้ในด้านที่ไม่ถูกต้องได้ ไงๆก็ต้องระวังและปลอดภัยไว้ก่อน
โดยวิธีการเซ็นชื่อรับรองสำเนาที่ปลอดภัย ต้องทำดังนี้ครับ

1. การเซ็นต์ชื่อนั้น ต้องเซ็นทับในส่วนที่เป็นภาพเอกสารที่สำคัญ เช่น บัตรประชาชน ก็เซ็นต์ทับไปบนบัตรประชาชนเลยครับ อย่าไปเซ็นในส่วนที่ขาวๆของกระดาษ
เพราะมันจะเป็นการง่ายที่จะนำสำเนาเอกสารของเราไปลบลายเซ็นต์เราออกแล้วแปลงทำอย่างอื่นที่ผิดๆได้ ดังนั้นเวลาเซ็นต์ ให้เซ็นต์ทับไปเลย

2. กำกับไว้ด้วยว่าเซ็นต์วันไหน เพราะทางด้านกฎหมายแล้ว เอกสารที่เราเซ็นต์ถือว่ามีวันหมดอายุด้วยนะครับ ดังนั้นกำกับวันไว้ก่อนดีกว่า

3. กำกับไว้ด้วยว่าเซ็นต์สำเนาตัวนี้เพื่อประกอบธุรกรรมอะไร เพื่อป้องกันการนำสำเนารับรองของเราไปทำธุรกรรมที่ผิดวัตถุประสงค์ เช่น เซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้องแล้ว ก็กำกับไว้ด้านล่างว่า "เพื่อประกอบการ ...." ก็ว่ากันไปครับ

4. ควรใช้ปากกาสีดำเซ็นครับ ไม่ควรใช้สีน้ำเงิน เพราะโปรแกรมคอมพิวเตอร์เช่น Photoshop นั้น สามารถตั้งค่าได้ง่ายๆเลยครับ ให้ลบเฉพาะสีดำออกไปได้ หากสแกนเอกสารเราเข้าคอม แล้วก็ลบปากกาสีน้ำเงินออกไป แต่นี้เค้าก็ได้สำเนาเราไปปริ๊นท์เพิ่มอีกมากมาย

คร่าวๆก็มีเท่านี้ครับ ปัจจุบันมิจฉาชีพเยอะ จะทำอะไรก็ให้ปลอดภัยมากที่สุดที่เราทำได้ไว้ก่อนดีกว่าครับ ^ ^

รีวิวโรงแรมอารามิส - Aramis Hotel นครสวรรค์ แบบเฉี่ยวๆ ^ ^"

แบบว่า ... เห็นโรงแรมอารามิส หรือ Aramis Hotel & Residence ที่นครสวรรค์ เพิ่งเปิดใหม่น่ะครับ
ขับรถผ่านแบบเฉี่ยวๆ เห็นว่าเข้าท่าเข้าทางดี ก็เลยเก็บรูปกันมาฝากในขณะขับรถกันดื้อๆเลย ^ ^"

จริงๆตอนแรกก็เล็งร้านเค้ก Sweet by Nan ไว้น่ะครับ ก็เลยขับมาทางนี้ พอเห็นว่าอ้าว!! มีโรงแรมเปิดใหม่สวยน่าพักด้วยนี่นา ชื่อว่าอารามิส ... ว่าแล้วก็เลยบอกคุณแฟนที่นั่งรถไปด้วย ให้เก็บรูปโรงแรม Aramis ไว้หน่อยน่ะครับ เผื่อใครที่กำลังมองหาที่พักใหม่ๆสวยๆน่าสนที่นครสวรรค์ จะได้เก็บไว้พิจารณาดูครับ เพราะเท่าที่เห็นดูใหม่เอี่ยมมากๆ สะอาดสะอ้านน่าพักมากๆ

ตอนที่ขับผ่านโรงแรมก็คือตอนที่ออกมาจากร้าน Sweet by Nan แล้วก็มุ่งหน้าไปทาง 3 แยก (ไม่รู้ชื่อถนนอ่ะ) มันก็ผ่านโรงแรมอารามิสอ่ะครับ ก็เลยบอกคุณแฟนให้ถ่ายรูปจากบนรถ โดยลืมเปลี่ยนเลนส์ด้วย (เปลี่ยนไม่ทัน กำลังขับรถ ^ ^") เป็นเลนส์มุมไม่ค่อยจะกว้าง (20mm บนเซนเซอร์ M4/3 น่ะครับ) ก็เลยเก็บภาพมาได้แบบว่า ... คนดูต้องปะติดปะต่อเอาเองหน่อยน่ะนะ ^ ^
เริ่มด้วยภาพแรก จะเห็นว่าผนังอาคารเป็นสีขาวสะอาดมากๆ คงจะใหม่ซิงๆจริงๆครับ

เท่าที่เห็น ส่วนหนึ่งของห้องจะเป็นกระจกเต็มๆบานเลยครับ แบบว่าไม่งกกระจกเท่าไหร่ครับที่นี่ ภายในคงสวยน่าดู

มีซุ้มๆแบบกรงนกด้วย ประดับอยู่เด่นเป็นสง่า

และที่ดูดีอีกอย่างก็คือ ที่จอดรถครับ ที่จอดรถน่าจะเยอะ เพราะทาง Aramis เค้าเหลือลานกว้างๆไว้เยอะเชียวครับ

อันนี้ป้ายโรงแรมครับ บอกกันชัดว่าที่นี่คือ Aramis Hotel and Residence จริงๆนะเออ ^ ^

นอกจากภาพเหล่านี้แล้วก็เก็บภาพป้ายเบอร์โทรมาด้วย แต่ไม่ต้องลงรูปละกัน รูปป้ายผ้าที่ขึงไว้ก็ไม่รู้จะลงทำไมอ่ะนะ ^ ^
ขอบอกข้อมูลคร่าวๆตามนี้แล้วกันครับว่า ติดต่อได้ที่เบอร์โทร 056-222699 ครับ ส่วนราคา ไม่แน่ใจครับ คุ้นๆว่า 990 บาทมั้งครับ ซึ่งดูจากหน้าตาโรงแรมที่พักแล้ว จัดว่าราคาดีอยู่นะผมว่า อีกอย่างทำเลตรงนี้ก็ใกล้กับร้าน Big Steak แล้วก็เค้กอย่าง Sweet by Nan ด้วย ถ้ามาพักที่นี่ก็แวะทานสเต๊กอร่อยๆหรือเค้กนุ่มๆกันได้
หากจะให้บอกชัดๆว่าไปโรงแรมนี้อย่างไร ก็อยู่เส้นจากสี่แยกสะพานเดชา แล้วตรงไปห้างแฟรี่แลนด์หรือวัดนครสวรรค์นั่นล่ะครับ ระหว่างทางจะพบกับโรงแรมอารามิสทางด้านซ้ายน่ะครับ (ผมไม่รู้ชื่อถนนในนครสวรรค์ เลยต้องอธิบายแบบนี้ เหอๆๆ)
ส่วนชื่อที่ว่า Aramis Hotel & Residence ก็แสดงว่ามีแบบเรสซิเดนส์ด้วย ใครต้องการพักนานๆแบบรายเดือนหรือมากกว่านั้น ที่นี่ก็คงจะมีให้บริการด้วยครับ ^ ^

เวบรวมภาพตัวอย่างจากเลนส์รุ่นต่างๆ โดยเฉพาะมือหมุน!!

หากใครกำลังมองหาเวบไซต์รวมภาพเลนส์รุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะช่วง 50mm 100mm หรือ 135mm โดยเฉพาะกลุ่มเลนส์มือหมุนนั้น ก็มีเวบไซต์มาแนะนำครับ
เวบไซต์นี้จะมีกระดานสนทนา ที่สมาชิกมาโพสต์ภาพจากเลนส์รุ่นต่างๆให้ชมครับ ไม่ว่าจะเลนส์ CCTV ยี่ห้อถูกๆ หรือรุ่นเก๋าๆ ... เลนส์อย่าง Mount M42, MD, FD ก็มีให้ดูเพียบเลยครับ!!
บางตัวบางรุ่นก็หายาก บางตัวบางรุ่นก็หาง่าย ราคาแค่หลักร้อย โดยเฉพาะพวกเลนส์หลักร้อยอย่าง CCTV นี่แหละครับ ยี่ห้อ Fujian เอย อะไรเอย ที่เราๆคิดกันว่าจะซื้อดีไหมนั้น เวบนี้ก็มีให้ดูครับ ^ ^

เวบที่ว่านี้ก็คือเวบไซต์ e-p1.net น่ะครับ ในหน้ากระดานสนทนาส่วนของ Lens Sample Photo Archive น่ะครับ มีให้ดูเพียบ
ลองดูตามรูปที่ครอปมาจากหน้าเวบบางส่วน

แต่ถ้าใครจะดูภาพจากเลนส์ AF ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเลนส์ของระบบ M4/3 ล้วนๆนะครับ สาวก Olympus กับ Panasonic ก็จะได้ใช้บริการเยอะหน่อย แต่ถ้าเป็นพวกเลนส์ฝั่ง DSLR ของ Canon หรือ Nikon จะไม่มีเลยครับ ... แต่หลักๆก็จากเลนส์มือหมุนเป็นส่วนใหญ่ครับ
ยังไงก็ตามไปดูตัวอย่างได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ http://e-p1.net/lens-sample-photo-archive/ มีตัวอย่างให้ดูเยอะ คุ้มมากๆครับ เพราะเลนส์มือหมุน หาภาพตัวอย่างดูยากอยู่แล้วด้วย

อัลบั้มเพลงเก่าๆ เต็มๆอัลบั้ม มีให้ฟังใน Youtube เพียบเลย!! ??

ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์เหมือนกัน ... ว่าทำไมถึงมีคนอัพโหลดคลิปเพลงแบบเต็มๆอัลบั้มของนักร้องดังๆในอดีตหรืออัลบั้มดังๆในอดีตใน Youtube เอาได้ง่ายๆ
แต่ก็มีเกลื่อนจริงๆครับ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมันหมดลิขสิทธิ์อะไรหรืออย่างไร? เพราะว่าไม่โดนแบนจากทาง Youtube แถมมีหลายคลิปมากๆครับ ^ ^
ดังนั้น ตอนนี้ใครถวิลหาเพลงเก่าๆฟัง ก็หาฟังจาก Youtube กันได้ครับ

ยกตัวอย่างที่เด็ดๆก็เช่น นี่เลยครับ Dark Side of the Moon จาก Pink Floyd ที่ยังอมตะไม่เสื่อมคลาย


อยากได้แบบแนวๆอย่าง OK Computer ของ Radiohead ที่แม้จะผ่านมาสิบกว่าปี แต่เพลงทั้งอัลบั้มก็ยังมีมนต์ขลัง และหาอัลบั้มไหนมาเปรียบไม่ได้ (แม้แต่อัลบั้มใหม่ๆของ Radiohead เองก็ตามที -*-)

...
ฟังแล้วนึกถึงตอนเป็นเด็กๆจังเลย เคยชอบฟังเพลงพวกนี้มาก ตอนนี้กลับมาฟังใหม่ก็ยังได้ฟีลครับ ^ ^
ก็ ... ที่ยกตัวอย่างมา ก็เป็นแนวที่ผมชอบล่ะนะครับ
หากใครจะระลึกถึง Grudge Rock ในตำนานอย่าง Nirvana กับ Smell Like Teen Spirit ก็มีให้ฟังครับ ลองเสิร์ชดู
Metallica อัลบั้มอย่างงูสปริง ในชื่ออัลบั้มเดียวกับวงว่า Metallica ก็มี ...
... มีแต่อัลบั้มดังๆ ที่ผมชอบ เต็มไปหมดเลย เรียกว่ามีเกือบครบๆล่ะครับ สำหรับวงดังๆ
คิดว่าถ้าคุณชอบวงไหนอัลบั้มอะไร ก็น่าจะมีครับ ลองหาๆฟังใน Youtube ได้เลยครับ ผมก็เพิ่งรู้ว่ามันมีเหมือนกัน ^ ^

Canon Mirrorless ตัวแรก หน้าตาแบบ Nikon 1 V1

ตอนนี้ข่าวกล้อง Mirrorless จาก Canon ก็ออกมาหนาหูขึ้นเรื่อยๆ
หลังจาก Canon ได้ออก G1X กันมาแล้ว พอถึงคราว Mirrorless นั้น แต่ละฝ่ายก็ต่างฟันธงว่า มันจะมีเซนเซอร์แบบเดียวกับ G1X นั่นก็คือเป็นเซนเซอร์แบบ 4/3 แต่มีขนาดใหญ่กว่าน่ะครับ
ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็แสดงว่าทาง Canon เองก็ยอมรับถึงความคุ้มค่าของการจัดขนาดเซนเซอร์ในรูปแบบนี้ แต่เพิ่งจะมาลงแส้เอาตอนลองเชิงกับ G1X นั่นเอง เพราะเมื่อมันเป็น Mirrorless ที่มีขนาดมาเกี่ยวข้องแล้ว หากเซนเซอร์เป็น 4/3 จะสามารถทำเลนส์ได้ในขนาดเล็กกว่าเดิมและถูกลงได้!! และยิ่ง Canon ทำเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่า 4/3 ของ Olympus ก็จะช่วยให้ความคุ้มค่านั้น อยู่บนพื้นฐานอยู่บนไฟล์ภาพระดับ APS-C ไปในตัว ซึ่งนับว่าเป็นข้อดี ...
อย่างไรก็ตาม แม้ปกติแคนนอนจะออกราคากล้องอย่างสมเหตุสมผล แต่พอมาเป็น Canon G1X กลับขายราคาแรงเว่อร์ อย่างไม่สมกับเป็นแคนนอน จึงเป็นไปได้ว่าการใช้เซนเซอร์ขนาดใหม่ของ Canon นั้น ก็อาจจะเข้าเนื้อบริษัทไปไม่น้อย ดังนั้นการออกกล้อง Mirrorless ด้วยเซนเซอร์ขนาดเดิมกับ G1X ก็น่าจะเป็นความจริงอย่างที่สุด เพื่อต่อยอดการลงทุนที่ได้จัดไปแล้วนั่นเอง ^ ^

อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ชอบแนวรีโทร อาจจะต้องอกหักดังเป๊าะ เพราะ Canon จะยังยืดหยัดทำกล้องแนวโมเดิร์นเหมือนเดิม โดยว่ากันว่า Canon Mirrorless นั้น จะหน้าตาคล้ายๆ Nikon 1 V1 น่ะครับ ^ ^"
ใครชอบแนวโมเดิร์นแบบปัจจุบัน ก็ดีใจไป ส่วนใครรอกล้องรีโทร ก็คงต้องพึงพา Fuji ต่อไปล่ะครับ ^ ^

Rayong Marriott Resort & Spa โรงแรมรีสอร์ทใหม่ หาดแม่พิมพ์ ระยอง

ตอนนี้ที่หาดแม่พิมพ์ จ.ระยอง มีโปรเจครีสอร์ทหรูจากเครือแมริออทไปเตรียมเปิดใหม่แล้วครับ
มาในชื่อของ Rayong Marriott Resort & Spa - เดอะระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา
โดยตัวรีสอร์ทนั้น จะทอดตัวยาวไปกับหาดแม่พิมพ์ กับจำนวนห้องที่เปิดให้บริการมากถึง 206 ห้อง ... ซึ่งทำเลตรงนั้น จะได้วิวทั้งภูเขาสวยและวิวของชายหาดแม่พิมพ์เลยล่ะครับ (ห้องบางโซนจะวิวทะเล บางโซนก็จะวิวทิวเขา สวยคนละแบบครับ)
นอกจากนั้น ตัวโรงแรม Rayong Marriott Resort & Spa ยังมาพร้อมกับห้อง Grand Ballroom พร้อมห้องสัมมนาย่อยๆอีก 5 ห้อง ซึ่งก็เห็นกันได้ชัดๆว่าครั้งนี้แมริออทเตรียมกวาดเป้าหมายทั้งแขกที่มาพักผ่อนในวันหยุด คณะประชุมสัมมนา ตลอดจนการจัดงานเลี้ยงหรือเฉลิมฉลองงานแต่งงานได้เลยครับ (วิวดีด้วยสิ โรงแรมรีสอร์ทติดชายหาด)

ลองชมรูปบางส่วนจากเวบของแมริออทกันครับ
เริ่มด้วยห้องพักหน้าตาธรรมดาของแมริออทระยองครับ (หน้าตาธรรมดาของเค้า ได้ขนาดนี้ล่ะครับ!! ไฮโซ~~ ^ ^)

ถ้าเป็นห้องสวีท จะเริ่มไฮโซมากขึ้น กับอันนี้ครับ ห้อง Ocean View Studio ที่ได้กระจกเต็มๆบานชมวิวสวยๆกันแบบเต็มๆ

หรือห้องสตูดิโอสปาสวีท ที่ได้แช่น้ำท่ามกลางวิวสวยๆครับ

สระว่ายน้ำของทางแมริออทระยองก็เจ๋งครับ มีให้ด้วยกันถึง 2 สระใหญ่ๆ 2 สไตล์
แบบแรกที่เห็นนี้คือแบบลากูน มีสไลเดอร์ให้เล่นด้วย ดูกว้างขวางทีเดียว

ถัดมาเป็นแบบโรแมนติกริมชายหาดครับ กับสระว่ายน้ำสวยกว้างทอดตัวยาวขนานไปกับชายหาดครับ!! เดาว่าน่าจะเป็น infinity edge ด้วยมั้งครับ แจ๋วไปเลย!!

สำหรับวันที่เปิดให้บริการ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่เห็นว่าจะเปิดในปีนี้!! ดังนั้นบ้านใครอยู่ระยอง อยู่ใกล้หาดแม่พิมพ์ หรือขับรถผ่าน ก็คงจะได้เห็นการก่อสร้างของ Rayong Marriott Resort & Spa ที่น่าจะเกือบเสร็จเ็ต็มทีแล้วล่ะครับ ^ ^
ตามดูรายละเอียดของรีสอร์ท แห่งนี้เพิ่มเติม พร้อมจองที่พักได้ที่ http://www.marriott.com/hotels/travel/bkkrr-rayong-marriott-resort-and-spa/ ครับผม ^ ^
เห็นหน้าตารูปร่างโรงแรมแบบนี้แล้ว คาดว่าเปิดได้ไม่นานคงได้เห็นรีวิวของ Rayong Marriott Resort & Spa โผล่ออกมาเป็นดอกเห็ดแน่ๆ ^ ^