ผมนี่แหละ ที่อยากเห็น E-P3 มากกว่า เพราะตระกูลนี้รูปทรงถูกใจกว่า แต่ต้องยอมรับว่า E-PL1 ขายดีกว่า E-P2 มาก เพราะราคาที่ถูกกว่าและคุณภาพไฟล์ที่ดีกว่า E-P2 ซะอีก ... จึงไม่แปลกที่จะได้เห็น Olympus E-PL2 ออกมาก่อน ^ ^
และนี่คือภาพที่ยังไม่ถึงกับยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นรูปของ Olympus EPL2 นะครับ
ส่วนเรื่องสเปคของ EPL-2 นี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปล่ะนะครับ ว่าจะเป็นอย่างไร แต่จากข่าวเห็นว่าจะมีเพิ่มเติมเรื่อง
1. ปุ่มกด direct movie (ประมาณว่ากดเจ้านีปั๊บ เป็นถ่ายวิดีโอทันที?)
2. เลนส์คิท 14-42mm ตัวใหม่ครับ ซึ่งเจ้าเลนส์คิทตัวใหม่นี้จะออกแบบมาให้รองรับกับ accessories ต่างๆได้ (หักหน้าคนมีเลนส์ตัวเก่าไปหรือเปล่า -*-) ซึ่ง accessories ที่จะเพิ่มก็คือ converter ต่างๆ เช่น wide - tele converter และ macro ครับ ซึ่งเอามาต่อกับ 14-42mm ตัวใหม่นี้ได้
... เรื่อง converter นี้ อาจจะฟังดูธรรมดานะครับ แต่กับยี่ห้อ Olympus นี้ ไม่ธรรมดาแน่ครับ เพราะถ้าใครเคยใช้ converter ของโอลิมปัสมาแล้ว จะทึ่งครับ เพราะไอ้เจ้าตัวเลนส์กว้างๆที่เอามาต่อดื้อๆนั้น กลับมี distortion ที่น้อยอย่างไม่น่าเชื่อ แถมคมจรดขอบ คุณภาพแทบไม่เีสียเลย ต่างกับ converter ที่ยี่ห้อโนเนมทำออกมาขายมากโขครับ (แน่นอนว่าไม่เท่ากับเลนส์ wide แท้ แต่สำหรับ converter ด้วยกันแล้ว มันดีมากจนแทบไม่น่าเชื่อครับ)
ก็ ถ้า Olympus E-PL2 มีข้อมูลเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงอย่างไร จะมาอัพเดทอีกทีครับ ^ ^
---------------------
อัพเดทราคา Olympus E-PL2 ครับ
ประมาณการราคาอยู่ที่ 599 usd หรือประมาณ 18,000 บาทครับ มาไทยก็คาดว่าราคาคงระดับเดียวกับ E-PL1 ตอนเปิดตัวล่ะมั้งครับ
---------------------
อัพเดท
ตอนนี้ทาง DPreview ได้ออกรีวิวของ Olympus EPL-2 ออกมาแล้วครับ ^ ^
ดูได้ที่ http://www.dpreview.com/reviews/olympusepl2/ ครับ ^ ^
ภาพที่ได้สีสรรเป็นยังไง ใครมีโชว์หน่อย แล้วคุณภาพกล้องเหมือนหรือต่างจาก DSLR อื่นๆหรือไม่ รึว่า E PL2 ตัวนี้ก็คือ DSLR นั่นเองเพียงแต่เล็กกว่าเท่านั้น ใครรู้ช่วยขานไขให้เข้าใจหน่อยครับ ขอบคุณมากๆล่วงหน้า
ตอบลบE-PL2 เป็นกล้อง mirrorless ที่ภาพอยู่ในระดับ DSLR รุ่นล่างๆ (เช่น Canon 1100D, Nikon D3100) ไม่แตกต่างกันครับ แค่เอากระจกสะท้อนในกล้อง DSLR ออก เลยได้ชื่อว่า mirrorless มานั่นเอง
ตอบลบยี่ห้อที่คุณภาพใกล้เคียง Olympus คือ Panasonic เพราะเป็นระบบ M4/3 เหมือนกัน
ขนาดจะย่อส่วนจาก DSLR มาพอประมาณ ทั้งตัวกล้องและเลนส์
ส่วนกล้อง mirrorless ที่ภาพสูสีกับ DSLR รุ่นใหญ่ขึ้นมานิดคือ mirrorless ของ sony เช่น NEX-3 NEX-5 NEX-7 (ภาพพอๆกับ Canon 550D 600D หรือ Nikon D5100 แต่ข้อเสียคือตัวกล้องเล็กแต่เลนส์อันใหญ่เหมือน DSLR)
ส่วน mirrorless ที่ไฟล์ภาพยังไม่เท่ากับ DSLR คือ mirrorless ของ Pentax กับ Nikon ครับ (แต่อนาคต Pentax กับ Nikon อาจจะทำได้ดีกว่านี้ก็ได้)
(ต่อ) mirrorless ก็คือ DSLR ที่ตัดเอากระจกสะท้อนออก ตัวก็เลยเล็กลงได้
ตอบลบดังนั้น คุณภาพแบบ DSLR จึงยังอยู่ครบถ้วน มีข้อเสียก็แค่ฟีลลิ่งเท่านั้นเอง(เสียงกระจกยกขึ้นลง การจับถือกล้องตัวใหญ่ๆ) ซึ่งถ้าไม่ยึดติดกับคำว่าฟีลลิ่ง ก็ถือว่ากล้องสองแบบนี้แทบไม่ต่างกัน
ข้อดีอย่างที่สุดของ mirrorless ก็คือ คนที่ไม่มีความรู้เรื่องการวัดแสง
สามารถทำได้อย่างเซียนกล้องทันที เพราะวัดแสงตรงไหนอย่างไร มันแสดงผลผ่านทางจอ LCD ทันทีเหมือนกล้องคอมแพค
แต่ DSLR นั้น ถ้ามองผ่าน optical viewfinder ผลจะออกมาอย่างไร ก็ต้องดูภาพที่ถ่ายเสร็จออกมาแล้ว
ส่วนตัวมองว่า mirrorless มีข้อดีตรงที่ทำให้คนถ่ายรูปมือใหม่ๆ มุ่งประเด็นไปในด้านเชิงศิลป์ได้โดยไม่ต้องมามัวงมโข่งและจมปลักกับเทคนิคการวัดแสง
แต่ก็นั่นแหละ ต้องละทิ้งกับคำว่า "ฟีลลิ่ง" ให้ได้ก่อน
แล้วก็ต้องละทิ้ง "ภาพลักษณ์ว่าข้าต้องเป็นตากล้อง" ให้ได้ด้วย เพราะการใช้ mirrorless ดูไม่เหมือนตากล้องครับ