i-Calm Resort รีสอร์ทเปิดใหม่ชะอำ สวยมากเลยครับ ^ ^

มีรีสอร์ทเปิดใหม่ย่านชะอำมาแนะนำกันครับ ที่นี่ชื่อว่า i-Calm Resort ไอคามรีสอร์ท เปิดใหม่ไม่นานครับ
และแน่นอนว่าทำเลเค้าดีมากๆครับ เพราะอยู่บนถนนด้านหน้าชายหาดชะอำเลยด้วย!! ซึ่งหาดชะอำจะมีจุดเด่นตรงที่ชายหาดคึกคัก อาหารทะเลริมหาดแม้จะแพงแต่ก็ไม่แพงเท่าหัวหิน ราคารับได้ มีกิจกรรมมากมาย ... ซึ่งแน่นอนว่า i-Calm Resort ได้คะแนนเต็มเรื่องทำเลไปแล้วแน่นอน ... อย่างไรก็ตาม คนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ที่นี่ก็ตอบสนองได้เช่นกันครับ ^ ^
เพราะที่นี่เป็นตัวอาคารอย่างนี้ไงครับ ดังนั้น แม้จะติดริมหาดยอดฮิตอย่างชะอำ แต่ความเป็นส่วนตัวก็ค่อนข้างสูง ตอบโจทย์ทั้งยามอยากพักผ่อนและยามอยากเฮฮาได้เป็นอย่างดี (คนเราก็ต้องอยากสนุกบ้าง อยากพักบ้างเป็นธรรมดา)

ว่าแล้วก็ตามมาดูห้องพักกันบ้างครับ ห้องพักสวยมากๆ สมเป็นโรงแรมรีสอร์ทใหม่
และแน่นอน เมื่อไปนั่งที่ระเบียง ก็จะพบกับ วิวทะเลสวยๆครับ
บางห้องมีอ่างน้ำวนหรือจากุซซี่ด้วยนะครับ ... ห้องนี้ติดสระว่ายน้ำด้วยครับ ดีอ่ะ
แต่เวลาจะใช้อ่างจากุซซี่อันนี้ ก็อย่าลืมปิดม่านแล้วกัน กลัวจะเผลอ 555+

ว่าแล้วก็มาดูสระว่ายน้ำกันต่อครับ เป็นสระว่ายน้ำที่ติดทะเล วิวจากสระว่ายน้ำสวย แต่ก็ยังคงความเป็นส่วนตัว เพราะตัวสระว่ายน้ำนั้นยกสูงจากพื้นพอควรครับ (เทียบกับรูปบนสุดครับ จะรู้ว่าคนภายนอกมาดูเราเล่นน้ำไม่ได้แน่นอน)
ว่ายมาเกาะขอบสระฝั่งนึง ก็จะพบกับชายหาดแบบนี้เลยจ้า
อีกวิวจากสระว่ายน้ำ ... เสียดายที่สายไฟฟ้าพะรุงพะรังมาก แต่อันนี้เป็นกันทุกโรงแรมรีสอร์ทหน้าหาดชะอำเค้าล่ะครับ เป็นเรื่องของเทศบาลไม่เกี่ยวกับที่พักอ่ะนะ ถ้าสายไฟฟ้าเฉพาะย่านนี้ลงไปอยู่ใต้ดินได้ (แค่ย่านนี้ก็พอ) ชายหาดจะสวยขึ้นอีกเยอะเลย
ปิดท้ายด้วยภาพบริเวณล็อบบี้ของรีสอร์ทครับ (หรือไม่ก็เลาจน์)
สวยดูหรูหราดีครับ
โดยรวมแล้ว เป็นโรงแรมรีสอร์ทเปิดใหม่ย่านชะอำที่สวยและน่าสนใจดี ราคาไม่แพงมากครับ ทำเลเยี่ยมอยู่แล้ว ... และแน่นอนว่าอยู่ชะอำ เที่ยวหัวหินก็ง่าย
ทีนี้ก็ต้องดีเบทกันอีกทีว่าชะอำหรือหัวหินจะตอบโจทย์มากกว่า ... แต่สำหรับผม หาดที่มีกิจกรรมสนุกๆ ชะอำ อาหารริมชายหาดไม่ขูดเลือดเท่าหัวหิน แต่บางครั้งก็อยากพักผ่อน ที่พักหรูหน่อยก็ดี ... ใครชอบโจทย์นี้ i-Calm Resort น่าจะตอบสนองได้ครับ ^ ^

สนใจรีสอร์ทนี้ก็ตามไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เวบไซต์ http://www.icalmresort.com ครับ

รองเท้า New Balance ของแท้ ลดราคากันอีกแล้ว!!

วันก่อนเห็นร้าน Platyplus ที่ห้าง Dress Smart ที่ Auckland, New Zealand คนเยอะมากๆ เยอะขนาด "ต่อคิว" เข้าร้าน
ก็เลยอดสนใจไม่ได้ ... จนได้เข้าไปดู ก็พบว่ารองเท้าหลายๆแบรนด์ลดราคาทั้งร้าน บางรุ่นลดหนักมากๆครับ
ส่วน New Balance ก็ลดทั้งร้านเช่นกัน ลดไม่หนักมาก พอประมาณ อยู่ที่คู่ละ 1,725 บาท (จะว่าไปก็หนักอยู่นะ ของแท้ด้วย) ข้อดีคือส่วนใหญ่เป็นรุ่นใหม่ๆทั้งนั้นเลยครับ บางตัวก็ไม่ได้เก่ามาก ตามรูปเลยครับ
New Balance 574 รุ่นนิยมก็ลดกันหลายตัว ที่เห็นในรูปนี่คือลดราคาทั้งหมดเลยครับ
หยิบราคาให้ดูครับ $69 ซึ่งคิดเป็นเงินไทยตอนนี้ก็ 1,725 บาท
แต่ละคู่เก่าประมาณปีที่แล้วหรือไม่เกินสองปีครับ ดูดีทุกคู่เลย
ดูเนื้อและดูรุ่นครับ ไม่ใช่ตัวเก่าเก็บนะเออ ยังอินเทรนด์อยู่ครับ
ตอนนี้ราคา 1,725 บาทกันหมด
คู่นี้ก็เช่นกัน
นอกจากนั้น ยังมี New Balance 500 ที่ลดแบบหนักมากครับ เหลือคู่ละ $49 หรือ 1,225 บาทครับ!!
ซึ่งแม้จะไม่ได้ฮิตเท่า 574 แต่ก็สวยเอาการอยู่ครับ

วันนั้น คนเลยรุมร้านนี้ทั้งวัน ผ่านไปวันสองวัน รองเท้าเหลือแต่รุ่นที่สีไม่ค่อยสวยครับ นอกนั้นขายออกเรียบวุธ ^ ^
ดังนั้น ใครบอกว่า นิวซีแลนด์ของแพง ... ต้องบอกว่าแพงอาหารตามร้านครับ ค่าเดินทาง ค่าน้ำ แต่นอกนั้น พวกสินค้าแบรนด์ๆ เวลาลดราคา จัดว่าดีกว่าในไทยครับ

เสื้อบอลแมนยูฯของแท้ ราคา 875 บาท ^ ^

ไม่รู้จะทำไร ไปเดินเที่ยว Outlet ในนิวซีแลนด์ (Dress Smart) แล้วก็ดูโน่นดูนี่ไปเรื่อย
ก็มาเจอกับเสื้อบอลแมนยูฯ มีทั้งสีแดงและสีขาว ห้อยอยู่ในราว ... ลดราคา 50% ... ตกราคาคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ 875 บาทได้ครับ (ถือว่าถูกนะ)
ที่นิวซีแลนด์เค้าไม่นิยมฟุตบอล ไม่นึกว่าจะมีเสื้อบอลขายกับเค้าด้วย คาดว่าเน้นเป้าหมายไปที่ลูกค้าชาวเอเซียมากกว่า เพราะที่นี่คนจีนเยอะมากๆ
ดูเผินๆเหมือนธรรมดานะครับ ตลาดนัดก็ก๊อปได้ ... แต่ถ้าดูกันใกล้อีกนิด จะรู้เลยว่า ตลาดนัดก๊อปยากครับ สกรีนที่ใช้เป็นแบบที่ไม่รู้จะพูดไง มันอย่างดีแล้วก็เรียบมากๆ ไม่เหมือนสกรีนเสื้อปกติครับ แล้วก็ตราแมนยูที่อก ก็แบบว่าเนี๊ยบอ่ะครับ ไม่ใช่แบบว่างานปักเย็บด้ายที่แบบว่าไม่สม่ำเสมอกัน ดูดีมากๆ

นอกจากนั้น ที่มุมขวาล่างของเสื้อ ยังมีเลขรหัสด้วยนะครับ ว่าเสื้อตัวนี้รหัสอะไร? อะไรจะขนาดนั้น!!
เห็นเค้าว่าถ้ามีเลขแล้วก็ชื่อนักเตะด้วย จะแพงกว่านี้ (ผมเองไม่มีความรู้ด้านนี้นะ เหอๆๆ)

นอกจากตัวสีแดงแล้วก็มีตัวสีขาวด้วย
ก็เอามาลงให้แฟนๆแมนยูฯได้ดูกันเฉยๆครับ 555+
เห็นว่าถูกดี 875 บาทเองครับ ของแท้ด้วย ^ ^

รีวิวรองเท้า New Balance 995 รุ่น MW995BK2 ครับ คู่นี้หนังครับผม ^ ^

สำหรับรองเท้า New Balance คนส่วนใหญ่จะนึกถึงรองเท้าผ้าใบแฟชั่น แล้วก็รองเท้าวิ่ง
แต่คู่ที่ผมจะรีวิวนี้ เป็นรองเท้าเดิน แล้วก็ใช้วัสดุแบบหนังครับ ... ซึ่งจริงๆ New Balance เองก็ทำแบบนี้หลายรุ่น แต่ไม่นิยมเท่ารองเท้าผ้าใบ New Balance 574 เท่านั้นเอง
รุ่นที่รีวิวให้ดูนี้คือ New Balance 995 รุ่น MW995BK2 ครับ
เป็นรองเท้า New Balance ที่เน้นเรียบๆครับ
แต่ก็แอบมีความเก๋เท่ ติดเข้ามาด้วย (รสนิยมส่วนตัวมองว่างี้อ่ะครับ บางคนอาจจะว่าไม่สวยก็ได้นะ 555+)
คำว่า 995 ที่บอกรุ่น จะมาคลิปอยู่ตรงนี้ครับ ต่างจากรุ่นอื่นๆ
ด้านหลัง เท่เหมือนกันนะ ต่างจากรุ่นอื่นๆเช่นกัน ผมชอบนะ เรียบๆก็จริง แต่ก็ไม่ซ้ำใครดี
ดูมุมมองด้านในของเท้าที่ไม่มีตัว N กันบ้าง
ให้ดูลายตรงส้นที่ผมชอบเป็นพิเศษ
ว่าแล้วก็หงายพื้นรองเท้าให้ดู ... รองเท้านี้เป็นรองเท้าเดินครับ วิ่งคงไม่สะดวกนัก แต่กับการเดิน ดูแล้วน่าจะเหมาะมากๆ
ดูด้านบนตรงๆบ้าง
แล้วก็ตามด้วยด้านหน้า
ว่าแล้วก็ลองใส่ดูหน่อย
ดูจากมุมมองของคนใส่ ก้มดูเท้าตัวเอง อันนี้ดูธรรมดาครับ สวยก็จริง แต่ก็เรียบๆธรรมดา
ดูด้านข้างกันบ้าง เห็นลายตัว N สวยดีครับ มีคลิปแดงนิดๆ ไม่เลอะเทอะ สวยกำลังดี เก๋ๆครับ ^ ^
คู่นี้ซื้อมาจากช้อป New Balance ที่นิวซีแลนด์ครับ ลดราคาเหลือ 60 ดอลล์หรือ 1,500 บาทเท่านั้นครับ
ใครที่คิดจะซื้อช้อปในไทย ก็คิดว่าคงมี แต่เรื่องราคา อันนี้ไม่รู้ด้วยครับ 555+ ที่กรุงเทพฯหรือเชียงใหม่ ... คาดว่าไม่มีลดราคาง่ายๆครับ

รีวิว Kathmandu Parker Pack V2 กระเป๋าเป้เน้นใช้งาน!!

สินค้า Kathmandu นั้น จะเน้นพวกแจ็คเก็ต เสื้อกันหนาวขนเป็ด ขนห่าน เสื้อกันฝน อุปกรณ์เดินป่า กระเป๋าเดินทาง backpacker หรือกระเป๋าปิกนิค ฯลฯ
ซึ่งเป็นแบรนด์ที่นิยมมากๆในนิวซีแลนด์และออสเตรเลียครับ ราคาไม่แพงในตอนลดราคาครับ แต่ถ้าราคาปกติ แพงมหาโหด
เท่าที่รู้คือ Kathmandu มีช็อปขายในนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย แล้วก็ UK ครับ ... ประเทศอื่น รวมทั้งในประเทศไทย ไม่รู้ว่ามีขายหรือเปล่า

ส่วนตัวไปสอย กระเป๋าเป้ Kathmandu รุ่น Parker Pack V2 มาครับ ลดราคาช่วง Anzac Day อยู่ที่ 1,500 บาทครับ (59.99 ดอลล์ในตอนที่ซื้อ ... ก็ 60 นั่นล่ะ)
ถ้าถามว่าชอบดีไซน์กับสีสันไหม? ก็โอเคนะ ไม่ได้ชอบมาก จริงๆชอบของยี่ห้อ Rip Curl มากกว่า ... แต่ Kathmandu ถูกกว่า แถมดูแล้วคุณภาพน่าจะดีกว่าด้วยน่ะครับ เน้นใช้งานจริง ทนทาน (จากที่จับดูคิดว่างั้นครับ) ก็เลยขอรีวิวให้ดูกันหน่อย ^ ^
หน้าตาของกระเป๋าครับ สวยดีเหมือนกัน ลายเท่ดี แต่ไม่ถึงกับเก๋มากมายอะไร ... แต่ที่ชอบใบนี้เพราะเปิดดูข้างในและดูคุณภาพแล้ว ใบนี้ดูจะคุ้มค่าที่สุด (เดินทางกลับจากนิวซีแลนด์มาไทยน่ะครับ หากระเป๋าใส่ของเพิ่ม)
อันนี้มุมด้านข้าง

มาดูภายในกันบ้าง เริ่มจากช่องเล็กๆใส่ของจุ๊กจิ๊กด้านหน้า
ดูสิครับ มีช่องเยอะเลย แล้วก็ใช้ผ้าและวัสดุโอเคด้วย มีซิบใหญ่ มีช่องใส่ปากกา แล้วก็ใส่ของอีกสองช่อง แล้วก็มีสายคล้องอะไรสักอย่างให้มาด้วย (ไม่รู้จะเอาไว้ทำอะไรเหมือนกัน)

และ ด้านหลังซิบก็มีช่องอีกด้วยนะเออ หลายช่องไหมล่ะ
ใครเน้นใช้งานจริง ใบนี้ผมว่าคุ้มครับ

ดูด้านข้างกันบ้าง
ด้านข้างธรรมดาครับ แต่ก็ดีกว่าไม่มี มีอยู่ทั้งสองด้านเลย

ส่วนเนื้อที่ในตัวกระเป๋านั้นมีสองช่อง
ช่องด้านหน้าสุดที่จุเยอะที่สุด มีช่องสำหรับใส่ Ipad ด้วยครับ
ส่วนช่องด้านหลัง เอาไว้ใส่ Notebook หรือ Laptop ขนาดใหญ่สุด 17 นิ้ว แล้วก็มีช่องใช่ Tablet อันเล็กหรือ Smart phone ให้ไว้อีก
ด้านหลังก็มีการบุแผ่นรองหลังอย่างดีครับ สะพายแบบไม่เมื่อยครับ ^ ^
ส่วนราคา ก็ดูเอาเองครับ ราคาปกติ 179.98 ดอลล์ครับ (ไม่ได้แกล้งตั้งราคาสูง แล้วหลอกว่าลดราคาแบบที่เห็นบ่อยๆในไทยนะครับ ที่นี่เค้าขายราคาปกติก็คือราคาปกติ ลดก็คือลดจริงๆครับ)
ส่วนตอนที่ซื้อ เหลือ 59.99 ดอลล์
จากป้าย พบว่าผ่านการ Clearance มาแล้วสองรอบครับ ครั้งก่อนเหลือ 69 ครับ

ก็เป็นอีกแบรนด์ที่คนนิวซีแลนด์และออสเตรเลียฮิตครับ ถ้าได้ไปก็ซื้อติดมือกลับมาก็ดีครับ แบรนด์นี้ไม่น่าจะได้เข้าไทยง่ายๆ เพราะสินค้าไม่เข้ากับนิสัยคนไทยส่วนใหญ่ครับ (สินค้าเน้นกันหนาวแบบหนาวมาก เน้นกันลม ปีนเขา เดินป่า อะไรพวกนี้)
แนะนำครับ เท่าที่ผมจับดูมา ผมว่าคุณภาพค่อนข้างดีมากๆครับ ถูกกว่าพวก North Face ครับ

Naruto Gaiden นารุโตะไกเด็น เปิดตัวน้ำเน่า ใครเป็นแม่นางเอก!?

Naruto นารุโตะ การ์ตูนนินจาชื่อดังที่จบลงไปแล้วนั้น ตอนนี้ก็กลับหวนกลับมาใหม่ในชื่อภาคว่า นารุโตะไกเด็น!! (Naruto Gaiden)
ซึ่งเรื่องราวของภาคนี้ น่าจะเน้นไปที่กลุ่ม "ลูกๆ" ของพวกนารุโตะและเพื่อนๆนั่นเอง
โดยหนึ่งในนั้น ซึ่งเป็นตัวเก็งนางเอก ก็คือซาราดะ ... ลูกสาวของซากุระกับซาสึเกะนั่นเอง

ทว่า เรื่องราวต่อสู้มันส์ๆ สไตล์นินจา กลับถูกเริ่มต้นด้วยเรื่องราวสุดน้ำเน่าไปซะแล้ว!! 555+
เปิดประเด็นมาตอนแรก ก็ถึงขั้นพิสูจน์ DNA กันเลยครับ ว่า DNA จะอยู่บนใบหน้า หรือเปล่า!?

ในตอนนี้ เรื่องราวออกแนวประมาณว่า ซาราดะ รู้สึกอิจฉาเพื่อนๆ ที่มีพ่ออยู่ด้วยพร้อมหน้า (เริ่มดราม่าตั้งแต่ต้นเลย)
พอเข้าช่วงท้ายๆตอน ซาราดะ ก็ถามซากุระประมาณว่า พ่อใส่แว่นหรือเปล่า(ทำไมหนูใส่ล่ะ?) แล้วก็ประมาณว่า ความสัมพันธ์ของแม่กับพ่อนี่มันยังไงกันแน่เนี่ย ประมาณนั้น
ซึ่งคำถามของซาราดะนั้น ทำเอาซากุระฟิวส์ขาดไปเลย

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเงื่อนงำที่น่าสงสัย เปิดตัวปิดท้ายตอนออกมาอีกด้วย ด้วยภาพถ่ายของซาสึเกะกับคาริน ... ซึ่งซาราดะ หน้าเหมือนคารินมากๆ!!
...
เอาละวาาา เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ซากุระจะเปิดตำนาน หัวชมพูช้ำรักหรือไม่? ใครเป็นแม่ตัวจริง นี่ชั้นเป็นลูกใคร นารุโตะภาคใหม่เปิดตัวได้ละครไทยหลังข่าวดีแท้!!
หรือว่า Naruto Gaiden แท้จริงแล้วจะเป็น Naruto Affair กันแน่!! ชื่อภาคใหม่นี้ควรจะเป็นอย่างไร? รอลุ้นกันต่อไป!! 555+

ร้าน Chocolate ที่ Auckland ลองเข้าไปดูใน Smith + Caughey's

Smith + Caughey's ห้างหรูกระทัดรัดแห่งนี้มีหลายสาขาอยู่เหมือนกัน แต่สาขาที่ผมได้เข้าไปเดินเล่นคือสาขา Queen Street กลางเมือง Auckland ครับ
ซึ่งชั้นล่างสุด จะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องสำอางค์ น้ำหอม ของแบรนด์หรูๆหลายแบรนด์ เดินเข้าไปแล้วก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรมากมาย
แต่จริงๆแล้ว Smith + Caughey's ที่นี่มี 3 ชั้นครับ แล้วก็ชั้น 3 นั้นจะเป็นเครื่องครัว เครื่องนอน ของใช้ในบ้าน มีร้านอาหารหรูๆอยู่ร้านนึง ... แล้วก็มีช้อปชอคโกแลตของ Bennetts แล้วก็ขนมกับชอคโกแลตอีกหลายๆยี่ห้อครับ น้ำผึ้งเอย คุกกี้เอย แล้วก็มีแบรนด์นิวซีแลนด์แท้ๆเยอะด้วยครับ ... ดังนั้น ถ้าจะไปหาชอคโกแลตสวยๆน่ารักเป็นของฝาก หรือหามาชิมเอง ผมว่าไม่ต้องถ่อไปร้านชอคโกแลตไกลเมืองนักก็ได้ ชิมที่นี่ก็ดีครับ ดูหรูหราและน่ากินมากๆเหมือนกัน
ก็เก็บรูปมาฝากคร่าวๆครับ (ไม่ได้ถ่ายตัวร้าน Bennetts มานะครับ ถ่ายมาแค่โซนขายชอคโกแลตของ Smith + Caughey's เอง
ละลานตามากเหมือนกัน แพคเกจสวยหรูก็มีเยอะ แต่ราคานี่สิครับ ยิ่งอันไหนแพคเกจดีๆ ราคาเกิน 20 ดอลล์อัพทั้งนั้น (เกิน 500 บาท ว่าง่ายๆ)
แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีถูกๆเหมือนกันครับ แล้วก็ดูดีน่ากินด้วยนะครับ
ราคาประมาณ 5-10 ดอลล์ หรือประมาณ 125-250 บาท ซึ่งก็พอจะโอเคขึ้นมาหน่อย
แล้วก็ นอกจากชอคโกแลตแล้วก็มีขนมคุกกี้นำเข้าเยอะแยะเลย (ไม่ได้นำเข้าจากจีนนะ ส่วนใหญ่มาจากประเทศแถวยุโรปเช่นอิตาลี แล้วก็ไม่ซ้ำกับแบรนด์ที่เห็นมีนำเข้ามาขายในไทยด้วยครับ)
ที่เด่นอีกอย่างก็คือ แบรนด์นิวซีแลนด์เองก็เยอะครับในนี้
และสุดท้ายน้ำผึ้งละเนย แยมต่างๆ ก็เยอะเลย น่ากินทั้งนั้น!!
สรุปคือ ใครคิดจะหาของกินสัญชาตินิวซีแลนด์เป็นของฝาก ผมแนะนำว่าลองไปดูช้อปของ Smith + Caughey's ชั้นสามถนนควีนดูครับ ไม่รู้ว่าสาขาอื่นเป็นอย่างไรบ้างเหมือนกันนะครับ แต่ถ้าได้ผ่านแถว The Civic บ่อย ก็แวะไปดูได้ครับ ^ ^

เพลง OP-1 จาก Shigatsu wa Kimi no Uso เวอร์ชั่น Acoustic จากวง Goose House ครับ ^ ^

Shigatsu wa Kimi no Uso / Your Lie in April เพลงประกอบเปิด Opening เพลงที่ 1 คือเพลง 光るなら Hikaru Nara หรือที่แปลว่า If we shine ครับ เจ้าของเพลงก็คือวง Goose House (บ้านห่าน ชื่อแปลกๆดี 555+)
วงนี้เป็นวงดนตรีที่มีสมาชิก 7 คน ทุกคนเล่นดนตรี และร่วมร้องเพลงด้วยกันทั้งเพลงครับ เป็นพาร์ทๆแยกกัน (ตอนที่ได้ยินเพลงนี้ครั้งแรกไม่นึกว่าจะมีคนร้องถึง 7 คน)
ซึ่งใน Youtube วง Goose House ได้อัพโหลดคลิปสดเวอร์ชั่น Acoustic ให้ได้ชมได้ฟังกันครับ ^ ^

สำหรับเนื้อเพลง / Hikaru Nara Lyrics ก็ตามนี้ครับ
Ameagari no niji mo rin to saita hana mo
Irozuki afuredasu
Akaneiro no sora aogu kimi
Ano hi koi ni ochita

Shunkan no dramatic
Film no naka no hitokoma mo
Kienai you kokoro ni kizamukara

Kimi da yo kimi nanda yo oshiete kureta
Kurayami mo hikaru nara hoshizora ni naru
Kanashimi o egao ni mou kakusanai de
Kirameku donna hoshi mo kimi o terasu kara

Nemuri mo wasurete mukaeta asahi ga yatara to tsukisasaru
Teikiatsu hakobu zutuu datte usureru kimi ni aeba

Seijaku wa romanchikku
Koucha ni toketa shugaa no you ni
Zenshin ni meguru yo kimi no koe

Kimi da yo kimi nanda yo egao o kureta
Namida mo hikaru nara ryuusei ni naru
Kizutsuita sono te o mou hanasanaide
Negai o kometa sora ni ashita ga kuru kara

Michibiitekureta hikari wa kimi da yo
Tsurarete boku mo hashiridashita
Shiranu ma ni kurosu shihajimeta
Hora ima da soko de hikaru nara

Kimi da yo kimi nanda yo oshietekureta
Kurayami wa owaru kara

Kimi da yo kimi nandayo oshietekureta
Kurayami mo hikaru nara hoshizora ni naru
Kanashimi mo egao ni mou kakusanaide
Kirameku donna hoshi mo kimi o terasu kara

Kotae wa itsudemo guuzen? Hitsuzen?
Itsuka eranda michi koso unmei ni naru
Nigirishimeta sono kibou mo fuan mo
Kitto futari o ugokasu hikari ni naru kara

รวมเพลงจาก Shigatsu wa Kimi no Uso ให้แฟนๆหายคิดถึง ^ ^

เพิ่งไปเจอมาใน Youtube ครับ มี user ชื่อ Hellcolik² ได้รวมเพลงคลาสสิคที่ใช้ในซีรีส์เรื่อง Shigatsu wa Kimi no Uso (Your Lie in April) ทุกเพลงไว้ด้วยกันในคลิปเดียวแล้วปล่อยลง Youtube น่ะครับ
เป็นเวอร์ชั่นที่ใช้ประกอบอนิเมชั่นจริงๆนะครับ ไม่ใช่เวอร์ชั่นอื่นที่เป็นเพลงเดียวกัน!! ดังนั้น ฟังแล้วจะหายคิดถึงอนิเมฯเรื่องนี้อย่างแน่นอน ^ ^ ตามคลิปด้านล่างนี้เลยครับ
ซึ่งเพลงทั้งหมดนี้ ไม่ใช่แค่ที่อาริมะกับคาโอริเล่นนะครับ รวมทุกเพลงเลย ทั้งที่ไอซะกับเอมิเล่นก็ด้วย มากันครบครับ

ลิสต์ลำดับเพลงก็ตามนี้เลยครับ
00:00:00 - 1. Beethoven Piano Sonata No. 14 'Moonlight' Third Movement
00:08:02 - 2. Beethoven Violin Sonata No. 9 'Kreutzer' First Movement
00:20:30 - 3. Saint-Saëns Introduction and Rondo Capriccioso
00:29:45 - 4. Chopin Étude in C-sharp minor, Op. 10, No. 4
00:31:51 - 5. Chopin Étude in A minor, Op. 25, No. 11 'Winter Wind'
00:35:59 - 6. Chopin Étude in E minor, Op. 25, No. 5
00:39:19 - 7. Kreisler Love's Sorrow
00:43:10 - 8. Kreisler Love's Sorrow (Piano Solo Version)
00:47:46 - 9. Scriabin Étude in D-sharp minor, Op. 8, No. 12
00:50:09 - 10. Debussy Clair de Lune
00:54:43 - 11. Ravel Pavane Pour une Infante Défunte
01:01:38 - 12. Tchaikovsky 'Waltz' from 'The Sleeping Beauty' (Piano Duet Version)
01:05:41 - 13. Chopin Étude in C minor, Op. 10, No. 12 'Revolutionary Étude'
01:08:14 - 14. Chopin Ballade No. 1 in G minor, Op. 23

คนเล่นไวโอลินในทุกเพลงคือ Yuuna Shinohara
สำหรับเปียโน เพลง 01,04~06,08~11,12(secondo),13,14 คนเล่นคือ Tomoki Sakata
และ Eriko Kawachi คือคนเล่นเปียโนในเพลง 02,03,07,12(primo) ครับผม

การ์ตูนเรื่องนี้ ทุกคนที่ดูจบแล้วก็คงรู้กันดี ว่าไม่มีทางมีภาคต่อแน่นอน ถ้าจะมีภาคต่อก็คงต้องเปลี่ยนชื่อเรื่องกันละ
ดังนั้น ... ฟังเพลงไปแทนแล้วกันครับ ^ ^

รองเท้า Skechers แท้ราคาถูก ลดราคากันสุดๆ!!

เค้าว่ากันว่า ถ้าอยู่ Auckland หากต้องการข้อปเสื้อผ้ารองเท้าแบรนด์เนมราคาถูก ต้องไปช้อปที่ Dress Smart ก็น่าจะจริง
ไปเจอรองเท้า Skechers มาครับ ของแท้ ราคาถูกมากๆครับ แต่มีแบบให้เลือกน้อยมากๆ แล้วก็น่าจะตกรุ่นไปแล้ว แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสมาก ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีมากๆครับ
ลองดูกันครับ ว่าราคาเท่าไหร่!!
ราคาอยู่ที่ 59 กับ 49 ดอลล์ครับ
คิดเป็นเงินไทยก็ 1,500 บาท กับ 1,250 บาทครับ ถูกมากกกกกกๆๆๆๆๆๆ
ถ้านึกว่าตกรุ่น ก็ไม่ถูกมั้ง ในไทยอาจจะราคาใกล้ๆกัน 555+
แต่ส่วนตัวผม ผมว่าคู่ 59 ดอลล์ สวยดีเหมือนกัน คล้ายๆจะใส่เล่นได้ หรือจะเป็นกึ่งทางการก็ได้ด้วย หลายแนว
แต่ถ้าใครที่เน้น "พื้นโฟม" ที่เป็นจุดเด่นของ Skechers ก็คงจะไม่ชอบ เพราะยี่ห้อนี้เค้าดังเรื่องโฟมน่ะครับ

Lush - Rub Rub Rub Shower Scrub!! ขัดผิวขาวทันตาเห็น!!

เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน ไปเดินร้าน Lush มา ... ร้านนี้ก็เป็นที่รู้กันอยู่แล้ว ว่าเทสต์ลองได้ทันทีในร้าน
เพื่อนที่เดินไปด้วยกัน ก็ได้ทดลองสินค้าที่ชื่อว่า Lush - Rub Rub Rub ดูน่ะครับ เป็น Shower Scrub เอาไว้สครับผิวตอนอาบน้ำ เป็นแบบ Sea Salt น่ะครับ
ก็ทดลองด้วยหลังมือ ... ถูไปถูมา ล้างน้ำออก ... หลังมืออีกด้านขาวขึ้นมาทันตา (อาจจะเป็นเพราะผิวตอนนั้นมีขี้ไคลเยอะก็เป็นได้ 555+ มันจะขาวไวไปป่าว เว่อร์น่า)
...
เมื่อเห็นดังนั้น เพื่อนคนนั้นเค้าก็เลยอยากได้ Lush Rub Rub Rub นี่มาพักใหญ่ๆ ... จนได้มาซื้อใช้ในวันนี้ (แน่นอนว่าผมยืมมาถ่ายรูปเฉยๆ 555+)
นี่ครับถุง Lush
คุณเพื่อนได้มากระป๋องนึง
Rub Rub Rub ซื้อมาแล้วต้องเอาไป Rub ครับ
สินค้าของ Lush ก็เป็นกระป๋องๆสีดำแบบนี้แหละครับ แทบจะทุกอย่าง ยกเว้นพวก Bath Bomb
อ่านคำบรรยายกันหน่อย ... สครับผมได้ด้วย?
เปิดมาก็เป็นอย่างนี้ครับ สีฟ้าน้ำทะเลครับ
ดูๆไปก็น่าใช้ดี ... แต่ไม่รู้จะบรรยายอย่างไร เพราะไม่ได้ใช้เอง 555+
จำได้แต่ว่าผิวดูขาวขึ้นเนียนขึ้นทันที แม้จะเป็นเพราะขี้ไคลหรืออะไรก็ตาม ... มันก็น่าจะดีแหละมั้ง 555+
เอาเป็นว่า ได้ผลจริงแท้แค่ไหนไม่รู้
แต่ผมว่าสครับส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เห็นผลไวทันตาเห็นอะไรอยู่แล้ว ส่วนใหญ่เน้นให้ผิวเนียนมากกว่านะผมว่า
ถ้าลองใช้ที่ร้านแล้วรู้สึกชอบจนถอนตัวไม่ขึ้น ก็ซื้อได้เลยครับ ยังไงก็ลองได้ตั้งแต่ในร้านอยู่แล้ว จริงไหม ^ ^