กล้องติดโทรศัพท์มือถือพวก Smartphone สมัยนี้ ส่วนใหญ่ก็พอจะทำคุณภาพได้ออกมาดีไม่แพ้กล้องคอมแพครุ่นเล็กๆไปถึงกลางๆ ยิ่งพวกมือถือสมาร์ทโฟนตัวท๊อปๆ อย่าง iPhone อะไรเงี๊ยะ คุณภาพไม่แพ้กล้องคอมแพครุ่นกลางๆเลยทีเดียว ทำให้หลายๆคนนิยมใช้กล้องติดโทรศัพท์กันเป็นกล้องหลักกันไปแล้ว เนื่องด้วยความสะดวกสบาย ...
และด้วยความแพร่หลายของกล้องมือถือนี้เอง ก็มีคนหัวใส ทำ Accessories จำพวก Lens Adapter ออกมาขายกันด้วยครับ!! ^ ^ ... ผมเห็นเข้า ก็อดไม่ได้ที่ซื้อมาลองเล่นดูหน่อย ราคาไม่แพงครับ ผมเจอที่ร้านซีเอ็ดแค่ 250 บาทเท่านั้นเอง ... ตามรูปเลยครับ ยี่ห้อ Smart Lens เป็นเลนส์ Wide + Macro Lens ที่สามารถเปลี่ยนและต่อเข้ากับกล้องมือถือได้ เรียกว่า Detachable Lens for Mobile Phone
แกะออกดูจากกล่อง ก็พบว่ามีอุปกรณ์ดังนี้ ... วงแหวนสีเงินๆฟ้าๆนั้น จะเป็นเหล็กที่ด้านหนึ่งเป็นกระดาษกาว ลอกติดกับหน้ากล้องครับ แล้วที่ Mount ของเลนส์จะเป็นแม่เหล็กที่ดูดเลนส์ให้ติดกับหน้ากล้องของโทรศัพท์อีกทีหนึ่ง
โดยตัวเลนส์นั้นจะซ้อนกันสองชั้น ชั้นล่างคือเลนส์มาโคร (Macro Lens Adapter) สำหรับถ่ายภาพที่ Close Up ได้มากขึ้นกว่าเดิม และเมื่อต่อเลนส์ไวด์ (Wide Lens Adapter) ก็จะทำให้ได้ภาพที่มีองศามุมรับภาพที่กว้างขึ้น
ก่อนอื่นก็เอาวงแหวนเหล็ก ไปติดครอบเข้ากับหน้าเลนส์ถ่ายรูปแบบนี้ครับ (ลอกแถบกาวออก แล้วก็แปะ)
พอเอาเลนส์มาติด ก็จะเป็นแบบนี้ มันจะติดเพราะแรงแม่เหล็กน่ะครับ ดังนั้นจะแกะออก หรือติดเข้าเมื่อไหร่ก็ได้ (แต่วงแหวนเหล็กจะติดถาวรไปเลย กาวค่อนข้างดีครับ แน่นใช้ได้ ซึ่งส่วนตัวก็ไม่รู้สึกเกะกะอะไร)
หรือจะติดกับกล้องหน้าก็ได้เช่นกันครับ ผมเองติดทั้งหน้าและหลังเลย เหอๆๆ
และแล้ว ก็ขอพาชม Sample Photo หรือภาพตัวอย่างกันเลย ว่าติดไปแล้ว ผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไร?
ภาพนี้ ... ไม่ได้ติดเลนส์ไวด์ครับ
ภาพนี้ ติดเลนส์ไวด์ครับ มุมเดียวกัน ... ข้อเสียคือ พยายามขยับแล้วก็ยับเจอขอบดำติดอยู่บ้าง (ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเริ่มต้นเลนส์ของมือถือที่ผมใช้มันไวด์ระดับหนึ่งอยู่แล้ว ถ้าซูมนิดเดียว ขอบดำก็จะหายเอง)
อีกมุมของห้องครับ
และเมื่อติดเลนส์ไวด์เข้าไปก็จะเป็นแบบนี้
หากหมุนเอาเลนส์ไวด์ออกมา จะเหลือแต่เลนส์มาโคร ... มาโครค่อนข้่างทำได้ดีครับ ถ่ายได้ใกล้มากเหมือนกัน
ดูรูปครับ เริ่มด้วยปุ่มของรีโมททีวีแบบจ่อใกล้ๆ เศษผงเศษอะไร ขุดมาหมด
หรือลองจ่อใกล้ๆเลนส์ไวด์ที่เพิ่งพอดออกมา
สรุปโดยรวม ... เลนส์ adapter คุณภาพไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ก็สมเหตุสมผลกับราคาและคุณภาพดั้งเดิมของกล้องมือถือ ที่คุณภาพก็ไม่ได้ดีมากอยู่แล้ว จึงไม่มีอะไรน่าซีเรียส เน้นสนุกๆมากกว่าครับ สำหรับ Wide + Macro Lens ตัวนี้ ราคาก็แค่ 250 บาทเท่านั้นเอง ซื้อมาเล่นไม่เสียหาย
ปล. ถ้าถ่าย Selfie แบบเลนส์ไวด์ จะไ่ม่ติดขอบดำนะครับ เพราะกล้องหน้ามันไม่กว้างมากอยู่แล้ว ใช้กับกล้องหน้าจะสนุกกว่าครับ
รีวิวไก่ย่างวิเชียรบุรี ร้านนิวบัวตอง สามแยกวิเชียรบุรี
รีวิวไก่ย่างวิเชียรบุรีในครั้งนี้ ไม่ได้แวะไปเยือนวิเชียรบุรีและซื้อกินเองนะครับ
แต่น้องในที่ทำงานเค้าซื้อมาให้กินกันทั้งแผนก (น้องเค้าบ้านอยู่วิเชียรบุรี) ... ผมก็เลยมีโอกาสได้กินไก่ย่างวิเชียรบุรีแท้ๆดูสักที (จริงๆเคยกินหลายรอบ นานมาแล้ว ลืมรสชาติไปแล้ว)
ก็ขอเกริ่นก่อนว่า ภาพที่ถ่ายมา อาจจะมีสภาพเหมือนไม่น่ากิน ... เพราะผมได้กินตอนคนอื่นกินกันไปเยอะจนเกือบจะหมดแล้วนั่นเอง!! T-T (แบบว่าได้กินรายท้ายๆ)
แต่ขอบอกว่ารสชาติสวนทางกับหน้าตามากๆ อร่อยมากๆ และอร่อยกว่าตามข้างถนนที่อ้างชื่อวิเชียรบุรี เยอะเลยครับ
เริ่มจากหน้าตากล่อง นิวบัวตอง ไก่ย่างวิเชียรบุรีครับ ... กล่องไซส์เหมือน KFC เลยครับ สภาพเปื้อนมันไก่เล็กน้อย จากคนอื่นๆที่ได้กินก่อนผม T-T
เปิดกล่องออกดู สภาพไม่น่ากินมากๆ คือโดนกินไปจนจะหมดอยู่แล้ว ... แล้วนั่นอะไร ขาไก่!! ขาเป็นขา เล็บยังเป็นเล็บอยู่เลย โอ้แม่เจ้า จะกินดีไหมเรา!!
และพอฉีกกินเท่านั้นแหละ ... หอม ... อร่อย ... ไม่นุ่มมาก ไม่เหนียว กำลังดี ... ไม่น่าเชื่อ!!
ยิ่งกินกับน้ำจิ้มอันนี้ เป็นน้ำจิ้มหวานนะครับ แต่ข้นๆ อร่อยเข้ากับไก่ย่างมากๆ
กินแล้วก็เลยตรัสรู้ว่า นี่สินะ ที่มาของความดังของ "ไก่ย่างวิเชียรบุรี"
ขนาดส่วนที่น่าจะอร่อย (เนื้อติดหนังนิดๆ) โดนกินไปหมดแล้ว เหลือแต่เนื้อติดกระดูกให้ผมกิน มันยังอร่อยเลย!!
ใครผ่านไปวิเชียรบุรีก็แนะนำครับ ว่าต้องไปกินไก่ย่างเค้าให้ได้ ... แล้วว่างๆก็ลองเปรียบเทียบข้างถนนที่เอาชื่อวิเชียรบุรีมาอ้างดูครับ ว่าต่างกันหรือไม่ อย่างไร ^ ^
แต่น้องในที่ทำงานเค้าซื้อมาให้กินกันทั้งแผนก (น้องเค้าบ้านอยู่วิเชียรบุรี) ... ผมก็เลยมีโอกาสได้กินไก่ย่างวิเชียรบุรีแท้ๆดูสักที (จริงๆเคยกินหลายรอบ นานมาแล้ว ลืมรสชาติไปแล้ว)
ก็ขอเกริ่นก่อนว่า ภาพที่ถ่ายมา อาจจะมีสภาพเหมือนไม่น่ากิน ... เพราะผมได้กินตอนคนอื่นกินกันไปเยอะจนเกือบจะหมดแล้วนั่นเอง!! T-T (แบบว่าได้กินรายท้ายๆ)
แต่ขอบอกว่ารสชาติสวนทางกับหน้าตามากๆ อร่อยมากๆ และอร่อยกว่าตามข้างถนนที่อ้างชื่อวิเชียรบุรี เยอะเลยครับ
เริ่มจากหน้าตากล่อง นิวบัวตอง ไก่ย่างวิเชียรบุรีครับ ... กล่องไซส์เหมือน KFC เลยครับ สภาพเปื้อนมันไก่เล็กน้อย จากคนอื่นๆที่ได้กินก่อนผม T-T
เปิดกล่องออกดู สภาพไม่น่ากินมากๆ คือโดนกินไปจนจะหมดอยู่แล้ว ... แล้วนั่นอะไร ขาไก่!! ขาเป็นขา เล็บยังเป็นเล็บอยู่เลย โอ้แม่เจ้า จะกินดีไหมเรา!!
และพอฉีกกินเท่านั้นแหละ ... หอม ... อร่อย ... ไม่นุ่มมาก ไม่เหนียว กำลังดี ... ไม่น่าเชื่อ!!
ยิ่งกินกับน้ำจิ้มอันนี้ เป็นน้ำจิ้มหวานนะครับ แต่ข้นๆ อร่อยเข้ากับไก่ย่างมากๆ
กินแล้วก็เลยตรัสรู้ว่า นี่สินะ ที่มาของความดังของ "ไก่ย่างวิเชียรบุรี"
ขนาดส่วนที่น่าจะอร่อย (เนื้อติดหนังนิดๆ) โดนกินไปหมดแล้ว เหลือแต่เนื้อติดกระดูกให้ผมกิน มันยังอร่อยเลย!!
ใครผ่านไปวิเชียรบุรีก็แนะนำครับ ว่าต้องไปกินไก่ย่างเค้าให้ได้ ... แล้วว่างๆก็ลองเปรียบเทียบข้างถนนที่เอาชื่อวิเชียรบุรีมาอ้างดูครับ ว่าต่างกันหรือไม่ อย่างไร ^ ^
ภูทอก จ.บึงกาฬ สถานท่องเที่ยวใหม่ Unseen Thailand
ภูทอก จริงๆแล้วไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวหรอกครับ แต่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ที่คนหลายๆคนชอบไปเที่ยว กันไปซะแล้ว ^ ^
นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่เป็นจุดเด่นเป็น Unseen Thailand อยู่ด้วย ... ก็เลยกลายเป็นว่า แม้ภูทอกจะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว แต่ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ไปซะแล้ว
ผมมีโอกาสได้ไปจังหวัดบึงกาฬ แล้วก็เลยแวะเที่ยวที่นี่ด้วย เป็นคณะทัวร์น่ะครับ ... เสียดายที่ผมไม่ได้เดินไปชม Unseen Thailand ที่นี่เสียได้ คือเสียเวลาเดินไปชั้น 7 พอจะลงมา คนเค้าก็กลับกันแล้ว ก็เลยไม่ได้ไปชม Unseen เลยน่ะครับ
โฉมหน้าของภูทอกเต็มๆครับ เราจะขึ้นไปด้านบนกัน มีทั้งหมด 7 ชั้นครับ ^ ^
ก่อนขึ้นภูทอก ก็ไปขอพรสิ่งศักสิทธิ์ให้ปลอดภัยกันก่อน ภายในอนุสาวรีย์แห่งนี้ เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุครับ ก็เข้าไปกราบไว้บูชากันก่อน
ลวดลายที่ประดับ สวยงาม
ขอพรหลวงพ่อกันก่อน ให้ขึ้นภูทอกปลอดภัย (จริงๆก็ไม่ได้อันตรายอะไรมากมายหรอกครับ)
พระธาตุครับ
บริเวณชั้นที่ 1-4 การเดินไปขึ้นไป จะเหนื่อยกว่าชั้น 5-7 ครับ ... หลายๆคน โดยเฉพาะเหล่าป้าๆลุงๆที่สูงวัย อาจจะถอดใจตรงนี้ได้ แต่พอถึงชั้น 5 แล้ว การที่จะไปชั้น 6-7 ก็ใกล้ๆครับ ทางไม่ไกล แต่อาจจะไม่สะดวกก็เท่านั้นเอง
มีน้องนักเรียนมาเป็นไกด์ให้ด้วยครับ ระหว่างทางบรรยากาศดีมากๆ คือต้นไม้เยอะ แต่ป่าที่นี่เป็นป่าที่ไม่รู้สึกรกน่ะครับ วิวสวยครับ
มีม้านั่งให้พักระหว่างทาง
วิวระหว่างทาง จะเหมือนอยู่ในถ้ำเลยครับ วิวประมาณนี้พบได้ทั่วไประหว่างที่เดินขึ้นภูทอก
และที่สวยถูกในคือก้อนหินที่มีพืชพรรณปกคลุม มีมอสเกาะ อะไรแบบนี้ครับ สวยมากๆ ตากล้องแนวมาโครน่าจะชอบ
เก็บบรรยากาศสวยๆมาให้ดูกันต่อ
บางส่วนก็เหมือนเดินเข้าถ้ำเลย
ผมชอบต้นไม้ที่ขึ้นตามโขดหินล่ะครับ สวยดี
บรรยากาศดีมากๆครับ อย่างไรก็ตาม มาหลายๆคนก็โอเคนะ แต่ถ้าไปกันน้อยๆ ผมก็ว่ามันจะวังเวงได้เหมือนกัน
เมื่อถึงชั้นที่ 5 ก็กราบพระขอพรกันเลยครับ
จากบริเวณชั้นที่ 5 นี้ เราจะได้เห็นวิวสวยๆกันแล้ว หามุมถ่ายรูปกันได้เลยครับ
มองเห็นอนุสาวรีย์ที่เราเข้าไปขอพรกันด้วย
วิวจากชั้นที่ 5 ครับ
แล้วก็ยังคงเป็นวิวจากชั้นที่ 5 เช่นเคย ... ดูอุดมสมบูรณ์มาก ประเทศไทย
มีช่วงหนึ่ง ที่มองเห็นภูทอกใหญ่ด้วย เป็นส่วนที่ยังไม่เปิดให้เข้าชมครับ ภูทอกใหญ่ มีขนาดใหญ่กว่าภูทอกเล็ก(ที่เปิดให้เที่ยว) เยอะมากครับ แต่ในรูปจะเหมือนไม่ใหญ่มาก จริงๆแล้วภูทอกใหญ่ทอดตัวยาวววว ในแนวตั้งฉากกลับมุมที่ผมถ่ายรูปน่ะครับ เลยดูเหมือนไม่ใหญ่
ถึงตรงนี้ ขอบอกเลยว่า เมื่อคุณมาถึงชั้น 5 กับ 6 ควรจะเดินวนให้ครบรอบในชั้นนั้นๆ เพราะจะทำให้คุณเห็น Unseen Thailand ...
แต่ผมนั้น ตั้งใจไปชั้น 7 ก่อน ... พอลงมาคนอื่นก็กลับกันหมดแล้ว เลยต้องรีบกลับตามเค้าไป อดเห็น Unseen ไปตามระเบียบครับ -*-
ตรงนี้น่าจะบริเวณชั้น 5 ครับ มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่เป็นระยะๆ
จากชั้น 6 ไปชั้น 7 เส้นทางเริ่มจะไม่ดีแล้ว แต่ก็ขึ้นง่ายไม่เหนื่อยครับ เพราะทางไม่ยาวมาก
ส่วนใหญ่ก็ขึ้นกันมาได้ครับ ยิ่งเด็กๆวัยรุ่นๆนี่ขึ้นมาสบายๆครับ เขาคิชกูฏเหนื่อยและยากกว่าเยอะครับ
และแล้วก็ถึงชั้น 7 ถ่ายรูปกับป้ายหน่อย กล้องผมโดนเหงื่อชะโลมที่ filter เลยฟุ้งอย่างที่เห็น
เจอหน่อต้นอ่อนอะไรสักอย่าง แปลกดีก็เลยถ่ายรูปมา ... ปิดท้าย จะเอารูปภาพต้นไม้และพืชสวยๆที่ถ่ายไว้มาให้ดูกันอีกทีครับ
ที่ชั้น 7 ครับ เป็นหน้าผา ... ไม่มีอะไรเลย ... น่ากลัวเหมือนกัน
วิวจากชั้น 7 ... เค้าบอกให้ขอพรกันที่ชั้นนี้ครับ จะมีเทวดามาประทานพรให้ ... ก็ขอพรกันนิดนึง ^ ^
วิวจากชั้น 7 อีกภาพ
และ ลานโล่งๆ จากชั้น 7 (แต่ส่วนใหญ่เป็นป่ารกครับ ลานแบบนี้ มีไม่เยอะครับ)
เดินกลับ เจอมุมไหนสวย ก็ถ่ายก็ต่อไป
มีช่องทางน้ำไหลด้วย
ปิดท้ายครับ เจอดอกไม้ หรือพืชพรรณแปลกๆ ก็ถ่ายเก็บไว้
อันนี้ต้นอะไรไม่รู้ ขึ้นตามโขดหิน มีดอกเหลืองๆ โผล่มาที่กลางใบ
อันนี้น่าจะเป็นดอกไม้ที่ยังไม่บาน
ดอกชมพูๆนี่หาพบได้ทั่วไปบนภูทอกครับ
ดอกนี้ก็เช่นกัน
ดอกนี้กำลังจะบาน ถ้านบนครบทั้งช่อ น่าสวยครับ
ก็จบการรีวิวภูทอกเท่านี้ครับ
เสียดายมากๆที่ไม่ได้แวะไป Unseen เหมือนกัน ... จริงๆมีคนในกลุ่มเค้าบอกแล้วนะ ว่ามี Unseen ตรงนี้ ให้เดินไปดู เราก็ไม่เชื่อ แบบว่าจะขึ้นชั้น 7 ก่อน ... 555+
ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เรียกเหงื่อได้ และได้วิวสวยๆ และการก่อสร้างแปลกๆบนภูเขาชันแบบนี้ครับ ^ ^
ใครได้แวะไปบึงกาฬก็อย่าลืมแวะเที่ยวภูทอกกันครับ ^ ^
นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่เป็นจุดเด่นเป็น Unseen Thailand อยู่ด้วย ... ก็เลยกลายเป็นว่า แม้ภูทอกจะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว แต่ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ไปซะแล้ว
ผมมีโอกาสได้ไปจังหวัดบึงกาฬ แล้วก็เลยแวะเที่ยวที่นี่ด้วย เป็นคณะทัวร์น่ะครับ ... เสียดายที่ผมไม่ได้เดินไปชม Unseen Thailand ที่นี่เสียได้ คือเสียเวลาเดินไปชั้น 7 พอจะลงมา คนเค้าก็กลับกันแล้ว ก็เลยไม่ได้ไปชม Unseen เลยน่ะครับ
โฉมหน้าของภูทอกเต็มๆครับ เราจะขึ้นไปด้านบนกัน มีทั้งหมด 7 ชั้นครับ ^ ^
ก่อนขึ้นภูทอก ก็ไปขอพรสิ่งศักสิทธิ์ให้ปลอดภัยกันก่อน ภายในอนุสาวรีย์แห่งนี้ เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุครับ ก็เข้าไปกราบไว้บูชากันก่อน
ลวดลายที่ประดับ สวยงาม
ขอพรหลวงพ่อกันก่อน ให้ขึ้นภูทอกปลอดภัย (จริงๆก็ไม่ได้อันตรายอะไรมากมายหรอกครับ)
พระธาตุครับ
บริเวณชั้นที่ 1-4 การเดินไปขึ้นไป จะเหนื่อยกว่าชั้น 5-7 ครับ ... หลายๆคน โดยเฉพาะเหล่าป้าๆลุงๆที่สูงวัย อาจจะถอดใจตรงนี้ได้ แต่พอถึงชั้น 5 แล้ว การที่จะไปชั้น 6-7 ก็ใกล้ๆครับ ทางไม่ไกล แต่อาจจะไม่สะดวกก็เท่านั้นเอง
มีน้องนักเรียนมาเป็นไกด์ให้ด้วยครับ ระหว่างทางบรรยากาศดีมากๆ คือต้นไม้เยอะ แต่ป่าที่นี่เป็นป่าที่ไม่รู้สึกรกน่ะครับ วิวสวยครับ
มีม้านั่งให้พักระหว่างทาง
วิวระหว่างทาง จะเหมือนอยู่ในถ้ำเลยครับ วิวประมาณนี้พบได้ทั่วไประหว่างที่เดินขึ้นภูทอก
และที่สวยถูกในคือก้อนหินที่มีพืชพรรณปกคลุม มีมอสเกาะ อะไรแบบนี้ครับ สวยมากๆ ตากล้องแนวมาโครน่าจะชอบ
เก็บบรรยากาศสวยๆมาให้ดูกันต่อ
บางส่วนก็เหมือนเดินเข้าถ้ำเลย
ผมชอบต้นไม้ที่ขึ้นตามโขดหินล่ะครับ สวยดี
บรรยากาศดีมากๆครับ อย่างไรก็ตาม มาหลายๆคนก็โอเคนะ แต่ถ้าไปกันน้อยๆ ผมก็ว่ามันจะวังเวงได้เหมือนกัน
เมื่อถึงชั้นที่ 5 ก็กราบพระขอพรกันเลยครับ
จากบริเวณชั้นที่ 5 นี้ เราจะได้เห็นวิวสวยๆกันแล้ว หามุมถ่ายรูปกันได้เลยครับ
มองเห็นอนุสาวรีย์ที่เราเข้าไปขอพรกันด้วย
วิวจากชั้นที่ 5 ครับ
แล้วก็ยังคงเป็นวิวจากชั้นที่ 5 เช่นเคย ... ดูอุดมสมบูรณ์มาก ประเทศไทย
มีช่วงหนึ่ง ที่มองเห็นภูทอกใหญ่ด้วย เป็นส่วนที่ยังไม่เปิดให้เข้าชมครับ ภูทอกใหญ่ มีขนาดใหญ่กว่าภูทอกเล็ก(ที่เปิดให้เที่ยว) เยอะมากครับ แต่ในรูปจะเหมือนไม่ใหญ่มาก จริงๆแล้วภูทอกใหญ่ทอดตัวยาวววว ในแนวตั้งฉากกลับมุมที่ผมถ่ายรูปน่ะครับ เลยดูเหมือนไม่ใหญ่
ถึงตรงนี้ ขอบอกเลยว่า เมื่อคุณมาถึงชั้น 5 กับ 6 ควรจะเดินวนให้ครบรอบในชั้นนั้นๆ เพราะจะทำให้คุณเห็น Unseen Thailand ...
แต่ผมนั้น ตั้งใจไปชั้น 7 ก่อน ... พอลงมาคนอื่นก็กลับกันหมดแล้ว เลยต้องรีบกลับตามเค้าไป อดเห็น Unseen ไปตามระเบียบครับ -*-
ตรงนี้น่าจะบริเวณชั้น 5 ครับ มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่เป็นระยะๆ
จากชั้น 6 ไปชั้น 7 เส้นทางเริ่มจะไม่ดีแล้ว แต่ก็ขึ้นง่ายไม่เหนื่อยครับ เพราะทางไม่ยาวมาก
ส่วนใหญ่ก็ขึ้นกันมาได้ครับ ยิ่งเด็กๆวัยรุ่นๆนี่ขึ้นมาสบายๆครับ เขาคิชกูฏเหนื่อยและยากกว่าเยอะครับ
และแล้วก็ถึงชั้น 7 ถ่ายรูปกับป้ายหน่อย กล้องผมโดนเหงื่อชะโลมที่ filter เลยฟุ้งอย่างที่เห็น
เจอหน่อต้นอ่อนอะไรสักอย่าง แปลกดีก็เลยถ่ายรูปมา ... ปิดท้าย จะเอารูปภาพต้นไม้และพืชสวยๆที่ถ่ายไว้มาให้ดูกันอีกทีครับ
ที่ชั้น 7 ครับ เป็นหน้าผา ... ไม่มีอะไรเลย ... น่ากลัวเหมือนกัน
วิวจากชั้น 7 ... เค้าบอกให้ขอพรกันที่ชั้นนี้ครับ จะมีเทวดามาประทานพรให้ ... ก็ขอพรกันนิดนึง ^ ^
วิวจากชั้น 7 อีกภาพ
และ ลานโล่งๆ จากชั้น 7 (แต่ส่วนใหญ่เป็นป่ารกครับ ลานแบบนี้ มีไม่เยอะครับ)
เดินกลับ เจอมุมไหนสวย ก็ถ่ายก็ต่อไป
มีช่องทางน้ำไหลด้วย
ปิดท้ายครับ เจอดอกไม้ หรือพืชพรรณแปลกๆ ก็ถ่ายเก็บไว้
อันนี้ต้นอะไรไม่รู้ ขึ้นตามโขดหิน มีดอกเหลืองๆ โผล่มาที่กลางใบ
อันนี้น่าจะเป็นดอกไม้ที่ยังไม่บาน
ดอกชมพูๆนี่หาพบได้ทั่วไปบนภูทอกครับ
ดอกนี้ก็เช่นกัน
ดอกนี้กำลังจะบาน ถ้านบนครบทั้งช่อ น่าสวยครับ
ก็จบการรีวิวภูทอกเท่านี้ครับ
เสียดายมากๆที่ไม่ได้แวะไป Unseen เหมือนกัน ... จริงๆมีคนในกลุ่มเค้าบอกแล้วนะ ว่ามี Unseen ตรงนี้ ให้เดินไปดู เราก็ไม่เชื่อ แบบว่าจะขึ้นชั้น 7 ก่อน ... 555+
ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เรียกเหงื่อได้ และได้วิวสวยๆ และการก่อสร้างแปลกๆบนภูเขาชันแบบนี้ครับ ^ ^
ใครได้แวะไปบึงกาฬก็อย่าลืมแวะเที่ยวภูทอกกันครับ ^ ^
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)