มีรีสอร์ทเปิดใหม่ที่เขาใหญ่มาแนะนำกันครับ ชื่อว่า ภูเอื้อมรีสอร์ทเขาใหญ่ครับ
รีสอร์ทนี้มีจุดเด่นที่ห้องพักเป็นบ้านหลังๆที่มีดีไซน์ไม่เหมือนใคร มีดาดฟ้าแบบส่วนตัวห้องใครห้องมันให้เดินขึ้นไปนั่งเล่นนอนเล่น ดูดาวเพลินๆด้วยครับ ^ ^
แถมสีสันยังคัลเลอร์ฟูลมากๆ ดูรวมๆแล้วเป็นรีสอร์ทที่น่ารักน่าพักอีกแห่งหนึ่ง ^ ^
อันนี้ภาพบางส่วนที่นำมาจากบล็อคของภูเอื้อมเขาใหญ่นะครับ
สีสันสดใสมาก และก็จะเห็นว่า พวกสวนหรือต้นไม้ต่างๆก็จัดและแต่งได้สวยงามด้วยเหมือนกัน
แต่ละห้องจะมีโซนดาดฟ้าที่ทำมุมเป็นส่วนตัวดีด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าห้องไหนขึ้นดาดฟ้ามาก็เจอหน้าห้องข้างๆ เพราะมีส่วนของตัวบ้านพักบังเอาไว้
หากสนใจภูเอื้อมรีสอร์ท ก็ดูข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://phuauem.blogspot.com หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 087-9483330 (คุณแนน) ครับ
Way Hotel Pattaya : โรงแรมเวย์ โรงแรมใหม่ที่เพิ่งเปิดที่พัทยาครับ!! ^ ^
ขอแนะนำโรงแรมเปิดใหม่ที่พัทยากันหน่อยครับ กับโรงแรมที่ชื่อว่า Way Hotel Pattaya - เวย์โฮเต็ล พัทยา
โรงแรมนี้เพิ่งเปิดสดๆซิงๆเมื่อเดือนพ.ย. 2554 นี้เองครับ จัดว่าใหม่มากๆเลยทีเดียว ใครอยากเจิมก็ไปรีบเจิมเข้าพักก่อนใครๆได้ครับ ราคาห้องเริ่มต้นที่ประมาณ 2 พันนิดหน่อยครับ ไปเห็นมาจากเวบอโกด้าน่ะครับ
ตัวโรงแรมอยู่ติดกับ Zign Hotel เลยครับ ฉะนั้น ที่นี่ติดชายหาดครับ มีสระว่ายน้ำพร้อม ^ ^
ลองมาชมรูปกันเลยครับ ^ ^ เริ่มด้วยส่วนของ Lobby ของทางโรงแรมครับ
ถัดมาก็ห้องอาหาร
สิ่งที่ส่วนตัวชอบเป็นพิเศษ(เห็นจากรูปน่ะนะ) ก็คือห้อง superior ที่ถูกสุดนั้น มีเตียงให้ 2 เตียงเลย ดีจัง ^ ^ เป็นเตียงคู่และเตียงเดี่ยวน่ะครับ
ห้องพักก็มีสองแบบคือหันหน้าหาทะเล หรือ Sea view กับ หันหลังเข้าทะเลก็เป็น City view ไปครับ ^ ^
หากสนใจโรงแรม Way Hotel แห่งนี้ เห็นมีอโกด้านี่ล่ะครับ ที่เปิดให้จองอยู่ หาเวบต้นฉบับของทางโรงแรมไม่เจอเหมือนกัน
คาดว่าเพราะยังเป็นโรงแรมใหม่เลยไม่มีเวบ หรือเป็นเพราะยังไม่ขึ้นใน google กันแน่
ก็ดูข้อมูลได้ที่เวบของอโกด้าหรือจองเลยก็ได้ครับ ที่ http://www.agoda.com/asia/thailand/pattaya/way_hotel.html ครับผม ^ ^
ก็เป็นทางเลือกใหม่ๆอีกแห่ง(ที่ปกติก็มีมากมายอยู่แล้ว) ที่พัทยาครับ ^ ^
อัพเดทอีกหน่อยครับ เวบของทางโรงแรมรีสอร์ท มาแล้วนะครับ ^ ^ ที่ http://www.way-hotel.com ครับ
โรงแรมนี้เพิ่งเปิดสดๆซิงๆเมื่อเดือนพ.ย. 2554 นี้เองครับ จัดว่าใหม่มากๆเลยทีเดียว ใครอยากเจิมก็ไปรีบเจิมเข้าพักก่อนใครๆได้ครับ ราคาห้องเริ่มต้นที่ประมาณ 2 พันนิดหน่อยครับ ไปเห็นมาจากเวบอโกด้าน่ะครับ
ตัวโรงแรมอยู่ติดกับ Zign Hotel เลยครับ ฉะนั้น ที่นี่ติดชายหาดครับ มีสระว่ายน้ำพร้อม ^ ^
ลองมาชมรูปกันเลยครับ ^ ^ เริ่มด้วยส่วนของ Lobby ของทางโรงแรมครับ
ถัดมาก็ห้องอาหาร
สิ่งที่ส่วนตัวชอบเป็นพิเศษ(เห็นจากรูปน่ะนะ) ก็คือห้อง superior ที่ถูกสุดนั้น มีเตียงให้ 2 เตียงเลย ดีจัง ^ ^ เป็นเตียงคู่และเตียงเดี่ยวน่ะครับ
ห้องพักก็มีสองแบบคือหันหน้าหาทะเล หรือ Sea view กับ หันหลังเข้าทะเลก็เป็น City view ไปครับ ^ ^
หากสนใจโรงแรม Way Hotel แห่งนี้ เห็นมีอโกด้านี่ล่ะครับ ที่เปิดให้จองอยู่ หาเวบต้นฉบับของทางโรงแรมไม่เจอเหมือนกัน
คาดว่าเพราะยังเป็นโรงแรมใหม่เลยไม่มีเวบ หรือเป็นเพราะยังไม่ขึ้นใน google กันแน่
ก็ดูข้อมูลได้ที่เวบของอโกด้าหรือจองเลยก็ได้ครับ ที่ http://www.agoda.com/asia/thailand/pattaya/way_hotel.html ครับผม ^ ^
ก็เป็นทางเลือกใหม่ๆอีกแห่ง(ที่ปกติก็มีมากมายอยู่แล้ว) ที่พัทยาครับ ^ ^
อัพเดทอีกหน่อยครับ เวบของทางโรงแรมรีสอร์ท มาแล้วนะครับ ^ ^ ที่ http://www.way-hotel.com ครับ
Seashell SS-1 : mini-review!! ^o^ มาชมกันจ้า ว่า waterproof housing case นี้ โอเคป่าว?
Seashell เป็นยี่ห้อของ underwater camera case หรือ waterproof housing ตัวหนึ่งที่เคลมไว้ว่า เป็น Universal waterproof housing สำหรับกล้อง compact digital camera เลยทีเดียว!! แต่กระนั้นก็ตาม ก็มีข้อจำกัดบ้างครับ กับกล้องดิจิตอลบางตัวก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้ได้ ซึ่งสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ว่ากล้องเราใช้ได้ไหม? ที่ compatible list ที่เวบของ Seashell ครับ
ซึ่งเมื่อดูแล้ว ก็พบว่า Samsung ES30 ซึ่งเป็นกล้องคอมแพคราคาถูกๆ 2,990 บาท ที่ซื้อมาไว้พกเล่นๆเผื่อถ่ายอะไรไม่ซีเรียสของเรานั้น ก็อยู่ในลิสต์ด้วย ... ว่าแล้วก็ลองซื้อเลยดีกว่า ^ ^
ซื้อทางอีเบย์น่ะครับ รุ่นที่ซื้อมาคือ Seashell SS-1 (มีสองรุ่นคือ SS-1 กับ SS-2 ใช้กับกล้องคอมแพคคนละแบบกัน)
แค่สัปดาห์เดียวของก็ส่งมาถึงบ้าน เร็วมากๆ (คงเพราะร้านที่ซื้ออยู่ฮ่องกงน่ะครับ ถูกสุด ค่าส่งก็ฟรี แต่ถึงไวดี)
ก็ได้กล่องส้มๆแบบนี้ ภายในก็มี case พร้อมอุปกรณ์และหนังสือคู่มือต่างๆครบครัน
...
หลังจากหยิบเจ้า waterproof case รุ่น SS-1 มาดูแล้ว
ก็รู้สึกว่าทำได้ดีครับ มี coat เคลือบมาให้ด้วย สังเกตตามรูปนะครับ จะเป็นสีม่วงๆ
...
ว่าแล้ว ก็ลองนำเจ้า Samsung ES30 มาประกบร่างเลยดีกว่า
และนี่คือ Samsung ES30 ครับ จะเห็นว่าบอดี้ของกล้องดิจิตอลรุ่นนี้ ไม่ได้เรียบเสมอกันครับ มีส่วนกริบสำหรับให้มือจับถนัด นูนออกมานิดๆด้วย แต่ก็สามารถนำมาประกบร่างกับ Seashell SS-1 ได้พอดีๆ โดยกล้องภายในไม่โยกไม่คลอนครับ
...
การประกอบร่างของกล้องดิจิตอลกับเคสกันน้ำนี้ ไม่ได้ยาก แต่ก็ไม่ได้ง่าย
ก็ใช้เวลาพักนึงล่ะครับ ถึงจะประกอบเสร็จ เพราะเค้าจะมีบล็อคซิลิโคนขนาดต่างๆให้ตัดใส่ในบล็อคเพื่อให้บล็อคมีขนาดพอดีกับบอดี้กล้อง โดยจะมีแบบวัดว่าต้องใช้บล็อคขนาดไหนด้วยครับ ก็ไม่ยุ่งยากมาก
ประกอบเสร็จ ก็ออกมาหน้าตาแบบนี้ ถือไม่ถนัดมือเท่าไหร่
...
ว่าแต่ จะไปทดสอบที่ไหนดีล่ะ? -*-
จริงๆก็ซื้อเจ้านี่มาเผื่อไปทะเลนี่แหละครับ กะว่าจะไปดำน้ำตื้นหน่อย
แต่ก่อนไปทะเลก็ขอลองกับอย่างอื่นแทนแล้วกัน ... ไม่รู้จะหาอะไรก็นี่เลย อ่างล้างหน้า -*-
ลองเอาไปจุ่มน้ำดูก่อน ก็โอเค ใช้ได้ดี ^ ^"
... ว่าแล้วก็ต้องลองถ่ายรูปด้วย แล้วจะถ่ายอะไรดี? ก็ถ่ายจุกยางนี่ก็แล้วกัน เหอๆ
...
สรุปคร่าวๆ ก็นะ ก็เป็นรีวิวลวกๆอ่ะนะ ไม่ได้ไปใช้งานจริง ^ ^"
แต่ก็ดูแล้วก็คงใช้ได้ล่ะน่า คุณภาพของไฟล์ภาพก็ไม่หลุดจากของเดิมมากนัก (ปกติ Samsung ES30 ก็ไฟล์ภาพไม่ได้ดีเด่อะไรอยู่แล้ว ก็กล้องถูกๆนี่นา ^ ^") ถ้าไปใช้กับกล้องดิจิตอลที่ภาพดีคมชัดกว่านี้ หรือมีค่า f ต่ำๆ น่าจะเหมาะมากๆครับ เพราะุถ่ายใต้น้ำ ถ้ารูรับแสงกว้างจะช่วยได้มากเลย
แม้จะใช้งานลวกๆ ยังไม่ได้ลองของจริง แต่ก็พอจะเห็นข้อดีข้อเสียคร่าวๆของเจ้านี่อยู่บ้างครับ
ข้อดี
1. ใช้กับกล้องดิจิตอลได้หลายรุ่น ดังนั้นถ้าเกิดอยู่ๆบ้าถ่ายภาพใต้น้ำมากๆ ก็แค่ซื้อกล้องดิจิตอลรุ่นที่ดีกว่านี้มาใช้ (หากใช้ housing เฉพาะรุ่น ก็ต้องซื้อใหม่หมด ทั้งตัวกล้องและ housing ซึ่ง housing สำหรับกล้องดิจิตอลรุ่นดีๆนั้น ราคาแร้งแรง -*- ขึ้นหลักหมื่นกันเลยทีเดียวครับ)
2. เทียบกับกล้องกันน้ำในตัว ส่วนตัวคาดว่าอายุใช้งานน่าจะดีกว่า เพราะว่าเปลี่ยน O-Ring (ยางซีลกันน้ำ) ได้ น่ะครับ หาซื้อได้ไม่ยาก ... แต่กล้องกันน้ำในตัว ไม่รู้ว่ายางจะเสียคุณภาพไวหรือไม่ เพราะถ้าเกิดเสียคุณภาพน้ำก็เข้าได้ และไม่รู้ว่าจะเอายางนี้ไปเปลี่ยนได้ที่ไหน?
3. เทียบกับซองกันน้ำหรือถุงกันน้ำแล้ว แบบนั้นมีข้อเสียที่กล้องในถุงเลื่อนไปมาในถุงได้ ทำให้ต้องคอยขยับกล้องบ้างเวลาใช้งาน ให้หน้าเลนส์ไม่โดนส่วนขอบที่ครอบหน้าเลนส์บัง (อันนี้เคยใช้งานจริงแล้ว)
ข้อเสีย
1. ใช้ได้แค่ เปิดกล้อง แล้วก็ กดชัตเตอร์ ... แค่นี้ครับ -*- ถ้าจะปรับอะไรก็ควรปรับก่อนลงน้ำสถานเดียวครับ ^ ^" ซึ่งถ้าเป็นกล้องกันน้ำในตัวหรือกล้องที่ใช้ housing เฉพาะรุ่น จะปรับแต่งได้หลากหลายกว่าครับ
ยังไงถ้าได้นำไปใช้จริงๆ ยังทะเลจริง จะมารีวิวอีกทีละกันครับ วันนี้ขอรีวิวแบบมินิๆกับอ่างล้างหน้าไปก่อนแล้วกัน 555+
ซึ่งเมื่อดูแล้ว ก็พบว่า Samsung ES30 ซึ่งเป็นกล้องคอมแพคราคาถูกๆ 2,990 บาท ที่ซื้อมาไว้พกเล่นๆเผื่อถ่ายอะไรไม่ซีเรียสของเรานั้น ก็อยู่ในลิสต์ด้วย ... ว่าแล้วก็ลองซื้อเลยดีกว่า ^ ^
ซื้อทางอีเบย์น่ะครับ รุ่นที่ซื้อมาคือ Seashell SS-1 (มีสองรุ่นคือ SS-1 กับ SS-2 ใช้กับกล้องคอมแพคคนละแบบกัน)
แค่สัปดาห์เดียวของก็ส่งมาถึงบ้าน เร็วมากๆ (คงเพราะร้านที่ซื้ออยู่ฮ่องกงน่ะครับ ถูกสุด ค่าส่งก็ฟรี แต่ถึงไวดี)
ก็ได้กล่องส้มๆแบบนี้ ภายในก็มี case พร้อมอุปกรณ์และหนังสือคู่มือต่างๆครบครัน
...
หลังจากหยิบเจ้า waterproof case รุ่น SS-1 มาดูแล้ว
ก็รู้สึกว่าทำได้ดีครับ มี coat เคลือบมาให้ด้วย สังเกตตามรูปนะครับ จะเป็นสีม่วงๆ
...
ว่าแล้ว ก็ลองนำเจ้า Samsung ES30 มาประกบร่างเลยดีกว่า
และนี่คือ Samsung ES30 ครับ จะเห็นว่าบอดี้ของกล้องดิจิตอลรุ่นนี้ ไม่ได้เรียบเสมอกันครับ มีส่วนกริบสำหรับให้มือจับถนัด นูนออกมานิดๆด้วย แต่ก็สามารถนำมาประกบร่างกับ Seashell SS-1 ได้พอดีๆ โดยกล้องภายในไม่โยกไม่คลอนครับ
...
การประกอบร่างของกล้องดิจิตอลกับเคสกันน้ำนี้ ไม่ได้ยาก แต่ก็ไม่ได้ง่าย
ก็ใช้เวลาพักนึงล่ะครับ ถึงจะประกอบเสร็จ เพราะเค้าจะมีบล็อคซิลิโคนขนาดต่างๆให้ตัดใส่ในบล็อคเพื่อให้บล็อคมีขนาดพอดีกับบอดี้กล้อง โดยจะมีแบบวัดว่าต้องใช้บล็อคขนาดไหนด้วยครับ ก็ไม่ยุ่งยากมาก
ประกอบเสร็จ ก็ออกมาหน้าตาแบบนี้ ถือไม่ถนัดมือเท่าไหร่
...
ว่าแต่ จะไปทดสอบที่ไหนดีล่ะ? -*-
จริงๆก็ซื้อเจ้านี่มาเผื่อไปทะเลนี่แหละครับ กะว่าจะไปดำน้ำตื้นหน่อย
แต่ก่อนไปทะเลก็ขอลองกับอย่างอื่นแทนแล้วกัน ... ไม่รู้จะหาอะไรก็นี่เลย อ่างล้างหน้า -*-
ลองเอาไปจุ่มน้ำดูก่อน ก็โอเค ใช้ได้ดี ^ ^"
... ว่าแล้วก็ต้องลองถ่ายรูปด้วย แล้วจะถ่ายอะไรดี? ก็ถ่ายจุกยางนี่ก็แล้วกัน เหอๆ
...
สรุปคร่าวๆ ก็นะ ก็เป็นรีวิวลวกๆอ่ะนะ ไม่ได้ไปใช้งานจริง ^ ^"
แต่ก็ดูแล้วก็คงใช้ได้ล่ะน่า คุณภาพของไฟล์ภาพก็ไม่หลุดจากของเดิมมากนัก (ปกติ Samsung ES30 ก็ไฟล์ภาพไม่ได้ดีเด่อะไรอยู่แล้ว ก็กล้องถูกๆนี่นา ^ ^") ถ้าไปใช้กับกล้องดิจิตอลที่ภาพดีคมชัดกว่านี้ หรือมีค่า f ต่ำๆ น่าจะเหมาะมากๆครับ เพราะุถ่ายใต้น้ำ ถ้ารูรับแสงกว้างจะช่วยได้มากเลย
แม้จะใช้งานลวกๆ ยังไม่ได้ลองของจริง แต่ก็พอจะเห็นข้อดีข้อเสียคร่าวๆของเจ้านี่อยู่บ้างครับ
ข้อดี
1. ใช้กับกล้องดิจิตอลได้หลายรุ่น ดังนั้นถ้าเกิดอยู่ๆบ้าถ่ายภาพใต้น้ำมากๆ ก็แค่ซื้อกล้องดิจิตอลรุ่นที่ดีกว่านี้มาใช้ (หากใช้ housing เฉพาะรุ่น ก็ต้องซื้อใหม่หมด ทั้งตัวกล้องและ housing ซึ่ง housing สำหรับกล้องดิจิตอลรุ่นดีๆนั้น ราคาแร้งแรง -*- ขึ้นหลักหมื่นกันเลยทีเดียวครับ)
2. เทียบกับกล้องกันน้ำในตัว ส่วนตัวคาดว่าอายุใช้งานน่าจะดีกว่า เพราะว่าเปลี่ยน O-Ring (ยางซีลกันน้ำ) ได้ น่ะครับ หาซื้อได้ไม่ยาก ... แต่กล้องกันน้ำในตัว ไม่รู้ว่ายางจะเสียคุณภาพไวหรือไม่ เพราะถ้าเกิดเสียคุณภาพน้ำก็เข้าได้ และไม่รู้ว่าจะเอายางนี้ไปเปลี่ยนได้ที่ไหน?
3. เทียบกับซองกันน้ำหรือถุงกันน้ำแล้ว แบบนั้นมีข้อเสียที่กล้องในถุงเลื่อนไปมาในถุงได้ ทำให้ต้องคอยขยับกล้องบ้างเวลาใช้งาน ให้หน้าเลนส์ไม่โดนส่วนขอบที่ครอบหน้าเลนส์บัง (อันนี้เคยใช้งานจริงแล้ว)
ข้อเสีย
1. ใช้ได้แค่ เปิดกล้อง แล้วก็ กดชัตเตอร์ ... แค่นี้ครับ -*- ถ้าจะปรับอะไรก็ควรปรับก่อนลงน้ำสถานเดียวครับ ^ ^" ซึ่งถ้าเป็นกล้องกันน้ำในตัวหรือกล้องที่ใช้ housing เฉพาะรุ่น จะปรับแต่งได้หลากหลายกว่าครับ
ยังไงถ้าได้นำไปใช้จริงๆ ยังทะเลจริง จะมารีวิวอีกทีละกันครับ วันนี้ขอรีวิวแบบมินิๆกับอ่างล้างหน้าไปก่อนแล้วกัน 555+
ปลาสิงโต : ปลาทะเลที่สวยที่สุดในเขตทะเลตะวันออกเฉียงใต้
ปลาสิงโต หรือ Lionfish นั้น เป็นปลาทะเลที่บางคนว่ากันว่า สวยที่สุดในหมู่บรรดาปลาในเขตมหาสมุทรอินโดแปซิฟิกเลยทีเดียว (แต่ไปๆมาๆ นีโม่หรือปลาการ์ตูน จะฮิตกว่านะ ^ ^")
แถมจัดว่าพบเยอะแถวทะเลเขตไทย มาเลฯ อินโดฯ ฟิลิปปินส์ แถวๆนี้ล่ะครับ ... ที่อื่นๆไม่ค่อยมี จึงทำให้เจ้าปลาสิงโตนี่ เป็นปลาที่โดดเด่นสำหรับปลาทะเลที่หาได้เฉพาะในแถบเหล่านี้ครับ ... ดังนั้น ใครมาดำน้ำแถวทะเลไทยแล้วเจอเจ้าตัวนี้ ถือว่าเป็นบุญตาอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
และนี่คือโฉมหน้าของเจ้าปลาสิงโตที่เค้าว่าสวยกันนักหนาน่ะครับ
จริงๆหน้าตามันก็ไม่ได้ดีเด่อะไรครับ เน้นเครื่องแต่งกายทรงเครื่องอลังการประหนึ่งอยู่บนเวทีคาบาเร่ท์โชว์มากกว่าอ่ะนะ
... เห็นยังงี้เถอะ เจ้าปลาสิงโตมันมีพิษนะครับ ตามครีบที่มันกางๆอยู่นั่นล่ะครับ
ดังนั้น ใครดำน้ำไปเจอเจ้าตัวนี้ ก็อยู่ห่างๆไว้ดีกว่า อย่าไปใกล้มากนะครับ
อย่างไรก็ตาม ปลาสิงโตไม่ใช่ปลาดุร้ายที่ไล่ว่ายเข้าใส่พร้อมเอาครีบมาแทงเราแต่อย่างใดครับ มันรักสงบ อยู่ของมันเฉยๆ อย่าไปกวนหรือไปคิดแตะต้องมันเป็นพอครับ
หากโดนพิษของปลาสิงโต ส่วนใหญ่ก็ไม่รุนแรงมากครับ อาจจะคลื่นไส้อาเจียน หรือมีไข้ได้บ้างครับ ... อย่างไรก็ตาม ก็มีรายงานในคนที่แพ้ ก็ถึงขั้นเสียชีวิตได้เหมือนกันครับ (เอาเป็นว่า อย่าไปโดนดีที่สุด ^ ^)
มาดูหน้าตาขี้เหร่ๆของเจ้าปลาสิงโตกันใกล้ๆบ้างครับ มันใช้เครื่องประดับประดาให้ดูสวยงาม แต่หน้าตาจริงๆ เป็นแบบนี้ -*-
... อย่างไรก็ตาม ตอนหลังๆมานี้ มีคนเริ่มเลี้ยงปลาสิงโตกันเยอะ เลยกลายเป็นปลาตู้ดาษดืนไปเสียนี่ -*- (รูปที่ถ่ายมา ก็มาจาก Aquarium นี่ล่ะครับ -*-) ... ก็ไม่รู้ว่าเค้าจับขึ้นมาเลี้ยง หรือเพาะพันธุ์เลี้ยงกันแน่ แต่ถ้าจะเลี้ยงกันทั้งที ต้องจับขึ้นมาเลี้ยงเนี่ย คงไม่ดีแน่ๆ แนะนำว่าอย่าอุดหนุนซื้อเจ้าปลาสิงโตนี่มาเลี้ยงกันเลยนะครับ เพื่อให้ปลาสิงโตอยู่คู่ทะเลไปอีกนานๆ ... ไม่ใช่ว่ามีเยอะเป็นฝูงๆแบบปลาทูนะครับ เจ้าปลาสิงโตเนี่ย อย่าไปจับมันขึ้นมาหรือฮิตเลี้ยงมันกันเลย (เว้นว่าถ้าเพาะพันธุ์ได้ก็อีกเรื่องอ่ะนะ)
แถมจัดว่าพบเยอะแถวทะเลเขตไทย มาเลฯ อินโดฯ ฟิลิปปินส์ แถวๆนี้ล่ะครับ ... ที่อื่นๆไม่ค่อยมี จึงทำให้เจ้าปลาสิงโตนี่ เป็นปลาที่โดดเด่นสำหรับปลาทะเลที่หาได้เฉพาะในแถบเหล่านี้ครับ ... ดังนั้น ใครมาดำน้ำแถวทะเลไทยแล้วเจอเจ้าตัวนี้ ถือว่าเป็นบุญตาอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
และนี่คือโฉมหน้าของเจ้าปลาสิงโตที่เค้าว่าสวยกันนักหนาน่ะครับ
จริงๆหน้าตามันก็ไม่ได้ดีเด่อะไรครับ เน้นเครื่องแต่งกายทรงเครื่องอลังการประหนึ่งอยู่บนเวทีคาบาเร่ท์โชว์มากกว่าอ่ะนะ
... เห็นยังงี้เถอะ เจ้าปลาสิงโตมันมีพิษนะครับ ตามครีบที่มันกางๆอยู่นั่นล่ะครับ
ดังนั้น ใครดำน้ำไปเจอเจ้าตัวนี้ ก็อยู่ห่างๆไว้ดีกว่า อย่าไปใกล้มากนะครับ
อย่างไรก็ตาม ปลาสิงโตไม่ใช่ปลาดุร้ายที่ไล่ว่ายเข้าใส่พร้อมเอาครีบมาแทงเราแต่อย่างใดครับ มันรักสงบ อยู่ของมันเฉยๆ อย่าไปกวนหรือไปคิดแตะต้องมันเป็นพอครับ
หากโดนพิษของปลาสิงโต ส่วนใหญ่ก็ไม่รุนแรงมากครับ อาจจะคลื่นไส้อาเจียน หรือมีไข้ได้บ้างครับ ... อย่างไรก็ตาม ก็มีรายงานในคนที่แพ้ ก็ถึงขั้นเสียชีวิตได้เหมือนกันครับ (เอาเป็นว่า อย่าไปโดนดีที่สุด ^ ^)
มาดูหน้าตาขี้เหร่ๆของเจ้าปลาสิงโตกันใกล้ๆบ้างครับ มันใช้เครื่องประดับประดาให้ดูสวยงาม แต่หน้าตาจริงๆ เป็นแบบนี้ -*-
... อย่างไรก็ตาม ตอนหลังๆมานี้ มีคนเริ่มเลี้ยงปลาสิงโตกันเยอะ เลยกลายเป็นปลาตู้ดาษดืนไปเสียนี่ -*- (รูปที่ถ่ายมา ก็มาจาก Aquarium นี่ล่ะครับ -*-) ... ก็ไม่รู้ว่าเค้าจับขึ้นมาเลี้ยง หรือเพาะพันธุ์เลี้ยงกันแน่ แต่ถ้าจะเลี้ยงกันทั้งที ต้องจับขึ้นมาเลี้ยงเนี่ย คงไม่ดีแน่ๆ แนะนำว่าอย่าอุดหนุนซื้อเจ้าปลาสิงโตนี่มาเลี้ยงกันเลยนะครับ เพื่อให้ปลาสิงโตอยู่คู่ทะเลไปอีกนานๆ ... ไม่ใช่ว่ามีเยอะเป็นฝูงๆแบบปลาทูนะครับ เจ้าปลาสิงโตเนี่ย อย่าไปจับมันขึ้นมาหรือฮิตเลี้ยงมันกันเลย (เว้นว่าถ้าเพาะพันธุ์ได้ก็อีกเรื่องอ่ะนะ)
Smiley - สไมลี่ย์ ตัวอย่างหนังสยองขวัญ ที่มาพร้อมกับรอยยิ้มน่าสยอง~~!!
ไปเจอหนังใหม่มาครับ เข้าโรงช่วงปี 2012 ครับ (แต่ไม่รู้ว่าจะมาไทยป่าวนะ ^ ^") เห็นว่าน่าสนใจดีก็เลยเอามาฝากกันหน่อย ^ ^
เป็นหนังที่ชื่อว่า Smiley - สไมลี่ย์ ครับ ... ชื่อของสไมลี่ย์ ก็คือชื่อของเจ้าหน้ากลมๆเหลืองๆฉีกยิ้มนี่เองครับ (เข้า google เสิร์ชรูปภาพเกี่ยวกับ Smiley ดูได้ครับ)
แต่มาคราวนี้ เจ้า Smiley ถูกเอาไปทำเป็นชื่อหนังสยองขวัญ ของฆาตรกรที่ใส่หน้ากากสไมลี่ย์ซะงั้น!! (แต่หน้ากากไม่น่ารักนะ หลอนพอดู -*-)
ก็เลยคิดว่า ใครหนอ ช่างคิดได้ ที่จะเอาเจ้าสไมลี่ย์นี้มาทำเป็นตัวเอกหนังสยองขวัญที่น่าจะฆ่ากันเลือดสาดซะได้ -*- ... อาจจะเป็นหนังที่แหวกแนว เข้าท่าดีก็ได้เนอะ ^ ^"
อันนี้เป็นตัวอย่างหนัง- Trailer, Teaser เรื่อง Smiley ครับ
ทีนี้ หนังจะสนุกไม่สนุกอย่างไร รอลุ้นกันเอาเองนะครับ แต่ไอเดียเอาเจ้า Smiley มาใช้นี้ดูโอเคดีแล้วครับ เหลือหนังอย่างเดียวว่าจะทำดีหรือไม่ เพราะเท่าที่เห็น Trailer แล้ว ... ดูเ้หมือนจะไม่น่าสนุกอ่ะนะ เหอๆ (แต่เอาน่า อย่าเพิ่งไปตำหนิ ต้องรอดูตัวจริงก่อน)
และผู้กำกับก็เป็นผู้กำกับหน้าใหม่ซิงๆเลยครับ ชื่อว่า Michael J. Gallagher ซึ่งเคยกำกับซีรี่ส์มาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างอะไร
ก็ถือเป็นเรื่องกำกับเรื่องแรกที่เปิดตัวผู้กำกับคนนี้ล่ะครับ อายุยังไม่เยอะ น่าจะทุ่มกับหนังเต็มที่อยู่มั้ง ^ ^
เป็นหนังที่ชื่อว่า Smiley - สไมลี่ย์ ครับ ... ชื่อของสไมลี่ย์ ก็คือชื่อของเจ้าหน้ากลมๆเหลืองๆฉีกยิ้มนี่เองครับ (เข้า google เสิร์ชรูปภาพเกี่ยวกับ Smiley ดูได้ครับ)
แต่มาคราวนี้ เจ้า Smiley ถูกเอาไปทำเป็นชื่อหนังสยองขวัญ ของฆาตรกรที่ใส่หน้ากากสไมลี่ย์ซะงั้น!! (แต่หน้ากากไม่น่ารักนะ หลอนพอดู -*-)
ก็เลยคิดว่า ใครหนอ ช่างคิดได้ ที่จะเอาเจ้าสไมลี่ย์นี้มาทำเป็นตัวเอกหนังสยองขวัญที่น่าจะฆ่ากันเลือดสาดซะได้ -*- ... อาจจะเป็นหนังที่แหวกแนว เข้าท่าดีก็ได้เนอะ ^ ^"
อันนี้เป็นตัวอย่างหนัง- Trailer, Teaser เรื่อง Smiley ครับ
ทีนี้ หนังจะสนุกไม่สนุกอย่างไร รอลุ้นกันเอาเองนะครับ แต่ไอเดียเอาเจ้า Smiley มาใช้นี้ดูโอเคดีแล้วครับ เหลือหนังอย่างเดียวว่าจะทำดีหรือไม่ เพราะเท่าที่เห็น Trailer แล้ว ... ดูเ้หมือนจะไม่น่าสนุกอ่ะนะ เหอๆ (แต่เอาน่า อย่าเพิ่งไปตำหนิ ต้องรอดูตัวจริงก่อน)
และผู้กำกับก็เป็นผู้กำกับหน้าใหม่ซิงๆเลยครับ ชื่อว่า Michael J. Gallagher ซึ่งเคยกำกับซีรี่ส์มาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างอะไร
ก็ถือเป็นเรื่องกำกับเรื่องแรกที่เปิดตัวผู้กำกับคนนี้ล่ะครับ อายุยังไม่เยอะ น่าจะทุ่มกับหนังเต็มที่อยู่มั้ง ^ ^
การแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน เกย์, เลสเบี้ยน อย่างถูกกฎหมาย ... ต้องต่อสู้
การแต่งงานในกลุ่มเพศเดียวกัน ไม่ว่าจะชายรักชาย หรือ หญิงรักหญิง ไม่ได้รับความเท่าเทียมกันหรือออกเป็นกฎหมายให้เพศเดียวกันสมรสกันได้ในหลายๆประเทศ (คิดว่าในขณะนี้ ประเทศไทยเองก็น่าจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ไม่มีกฎหมายให้เพศเดียวกันจดทะเบียนสมรสกันได้ ตรงนี้ผมไม่มีความรู้เหมือนกัน ^ ^")
ซึ่งประเทศที่มีกฎหมายยอมรับให้ชาวเกย์ หรือเลสเบี้ยนแต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายนั้น ก็คงไม่มีประเทศไหนมีกฎหมายแบบนั้นตั้งแต่ต้นหรอกมั้งครับ ส่วนใหญ่ก็ต้องมาปรับเปลี่ยนในภายหลังกันทั้งนั้น จากการต่อสู้ของกลุ่มเกย์และเลสเบี้ยนทั้งหลายนั่นเอง
ก็ขอนำคลิปๆหนึ่งมาให้ชมกันครับ เป็นคลิปที่ทำมาเพื่อล่ารายชื่อ ให้มีกฎหมายการแต่งงานของเพศเดียวกันโดยชอบธรรมในออสเตรเลียครับ
ตัวคลิปนั้นจะนำเสนอชีวิตผ่านมุมมองของคนๆหนึ่งต่อผู้ชายคนหนึ่งที่คอยถ่ายวิดีโอบันทึกเก็บไว้
คลิปนี้แสดงสัจธรรมง่ายๆของชีวิตมนุษย์ผู้ชายคนหนึ่ง ว่าเราก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ที่จะสนุกสนานและมีความเศร้าเสียใจได้เหมือนกับทุกๆคน และตอนท้ายก็เปิดเผยว่า เพียงแค่คนๆนี้รักคนเพศเดียวกัน ... ก็เท่านั้นเอง
ส่วนตัวผมเองแล้ว แม้ไม่ได้เป็นเกย์แต่ก็เห็นชอบด้วยนะครับ ที่จะให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกันได้
แม้จริงๆความรัก มันไม่ใช่กระดาษแผ่นเดียวที่เรียกว่าทะเบียนสมรสก็เหอะนะ
แต่เอาเ้ข้าจริงๆ ต้องยอมรับว่าทะเบียนสมรสมีประโยชน์มากๆในหลายๆกรณีในพันธสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน ซึ่งคู่ชายหญิงนั้น คู่ไหนมองเห็นประโยชน์ของทะเบียนสมรสที่ว่านี้ ก็ไปจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย คู่ไหนไม่เห็นประโยชน์หรือไม่ตระหนักถึงความสำคัญก็ไม่ไปจดทะเบียนก็แค่นั้นเอง
แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่เป็นเกย์หรือเลสเบี้ยน จะไม่มีวันได้รับสิทธิตรงนั้น เพียงเพราะไม่มีกฎหมายรองรับ? มันก็ดูไม่เท่าเทียมกันจริงๆนั่นล่ะครับ ... แม้แต่จะเลือกจดหรือไม่จด ยังไม่ได้เลือกเลย
ก็รอดูกันครับ ว่าออสเตรเลียจะผ่านพ้นตรงจุดนี้ไปได้หรือไม่
ส่วนในไทยเองก็ได้ข่าวว่ามีกลุ่มเ้กย์และเลสเบี้ยนออกมาผลักดันบ้างเหมือนกัน แม้จะไม่ประสบผลสำเร็จในเร็ววัน แต่ส่วนตัวผมเองคาดว่าในอนาคต(อาจจะไกลก็ได้) สุดท้ายกฎหมายนี้มันก็ต้องผ่านอยู่วันยังค่ำล่ะครับ ขึ้นว่าจะ "เมื่อไหร่" เท่านั้นเอง
ซึ่งประเทศที่มีกฎหมายยอมรับให้ชาวเกย์ หรือเลสเบี้ยนแต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายนั้น ก็คงไม่มีประเทศไหนมีกฎหมายแบบนั้นตั้งแต่ต้นหรอกมั้งครับ ส่วนใหญ่ก็ต้องมาปรับเปลี่ยนในภายหลังกันทั้งนั้น จากการต่อสู้ของกลุ่มเกย์และเลสเบี้ยนทั้งหลายนั่นเอง
ก็ขอนำคลิปๆหนึ่งมาให้ชมกันครับ เป็นคลิปที่ทำมาเพื่อล่ารายชื่อ ให้มีกฎหมายการแต่งงานของเพศเดียวกันโดยชอบธรรมในออสเตรเลียครับ
ตัวคลิปนั้นจะนำเสนอชีวิตผ่านมุมมองของคนๆหนึ่งต่อผู้ชายคนหนึ่งที่คอยถ่ายวิดีโอบันทึกเก็บไว้
คลิปนี้แสดงสัจธรรมง่ายๆของชีวิตมนุษย์ผู้ชายคนหนึ่ง ว่าเราก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ที่จะสนุกสนานและมีความเศร้าเสียใจได้เหมือนกับทุกๆคน และตอนท้ายก็เปิดเผยว่า เพียงแค่คนๆนี้รักคนเพศเดียวกัน ... ก็เท่านั้นเอง
ส่วนตัวผมเองแล้ว แม้ไม่ได้เป็นเกย์แต่ก็เห็นชอบด้วยนะครับ ที่จะให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกันได้
แม้จริงๆความรัก มันไม่ใช่กระดาษแผ่นเดียวที่เรียกว่าทะเบียนสมรสก็เหอะนะ
แต่เอาเ้ข้าจริงๆ ต้องยอมรับว่าทะเบียนสมรสมีประโยชน์มากๆในหลายๆกรณีในพันธสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน ซึ่งคู่ชายหญิงนั้น คู่ไหนมองเห็นประโยชน์ของทะเบียนสมรสที่ว่านี้ ก็ไปจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย คู่ไหนไม่เห็นประโยชน์หรือไม่ตระหนักถึงความสำคัญก็ไม่ไปจดทะเบียนก็แค่นั้นเอง
แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่เป็นเกย์หรือเลสเบี้ยน จะไม่มีวันได้รับสิทธิตรงนั้น เพียงเพราะไม่มีกฎหมายรองรับ? มันก็ดูไม่เท่าเทียมกันจริงๆนั่นล่ะครับ ... แม้แต่จะเลือกจดหรือไม่จด ยังไม่ได้เลือกเลย
ก็รอดูกันครับ ว่าออสเตรเลียจะผ่านพ้นตรงจุดนี้ไปได้หรือไม่
ส่วนในไทยเองก็ได้ข่าวว่ามีกลุ่มเ้กย์และเลสเบี้ยนออกมาผลักดันบ้างเหมือนกัน แม้จะไม่ประสบผลสำเร็จในเร็ววัน แต่ส่วนตัวผมเองคาดว่าในอนาคต(อาจจะไกลก็ได้) สุดท้ายกฎหมายนี้มันก็ต้องผ่านอยู่วันยังค่ำล่ะครับ ขึ้นว่าจะ "เมื่อไหร่" เท่านั้นเอง
หาดทรายแก้ว สัตหีบ อีกชายหาดสวยบนฝั่งทะเลตะวันออก ^ ^
หากพูดถึงทะเลตะวันออกแล้ว ก็ไม่แพ้อันดามันนะครับ หากพูดถึงเกาะกูด เกาะมันนอก บางหาดของเสม็ด ที่มีน้ำฟ้าใสเอามากๆ
แต่ถ้านึกถึง "บนฝั่ง" ตะวันออกแล้ว ... นึกถึงชายหาดที่มีน้ำฟ้าใส ชายหาดขาวๆยากเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ที่ที่ได้รับการกล่าวขานถึง ว่าเป็นทะเลที่สวยใสที่สุดสำหรับชายหาดบนฝั่งทะเลตะวันออกนั้นก็คือที่สัตหีบครับ (หลายๆคนอาจจะไม่รู้) ซึ่งสาเหตุที่ที่นี่ไม่ได้ดัง หรือได้ยินว่ามีโรงแรมรีสอร์ทมาเปิดมากมายนั้น ก็เพราะที่นี่เป็นพื้นที่ของทหารนั่นเองครับ ทำให้แม้จะมีความสวยงามอันดับต้นๆ แต่ก็ไม่ได้ดังหรือเป็นที่นิยมมากมายไปยังไง (แต่คนพื้นที่ไปเที่ยวพักผ่อนกันเยอะครับ)
ที่หนึ่งที่จะขอพาไป สำหรับทะเลสัตหีบนั้นก็คือ "หาดทรายแก้ว" ครับ ชื่อนี้มีหลายที่ ^ ^
ซึ่งเป็นหาดสวยขึ้นชื่อเป็นอันดับสองของที่สัตหีบเค้าครับ ที่คนว่ากันว่าสวยสุดบนฝั่งทะเลตะวันออกจริงๆก็คือหาดนางรำครับผม
และนี่คือคลิปของหาดทรายแก้วครับ เฉพาะช่วงต้นคลิปจนถึงนาทีที่ 2:23 นะครับ
Credit : alexpi7
...
เห็นแล้วก็แบบว่า ... สวยมากเหมือนกัน เทียบกับทะเลบนฝั่งตะวันออกแล้ว ส่วนใหญ่ไม่สวยและมีน้ำฟ้าใสแบบนี้ครับ
อย่างไรก็ตาม เห็นเค้าว่ากันว่า หาดนางรำ ที่สัตหีบเหมือนกันนี่ล่ะครับ สวยกว่านี้อีกครับ
หากใครมองหาชายหาดใหม่ๆสวยๆที่ยังไม่เคยไป ก็แนะนำให้ลองนำหาดทรายแก้วและหาดนางรำไปพิจารณาดูได้ครับ มีที่พักด้วยนะครับ แต่เป็นของทางทหารเค้าครับ มีกฎระเบียบอยู่บ้างเหมือนกัน แต่นั่นก็เป็นข้อดีที่ทำให้ทะเลสวยๆบางแห่ง อยู่คู่กับประเทศไทยไปนานๆโดยที่ธรรมชาติไม่เสียหายไปมากนั่นเองครับ ^ ^
แต่ถ้านึกถึง "บนฝั่ง" ตะวันออกแล้ว ... นึกถึงชายหาดที่มีน้ำฟ้าใส ชายหาดขาวๆยากเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ที่ที่ได้รับการกล่าวขานถึง ว่าเป็นทะเลที่สวยใสที่สุดสำหรับชายหาดบนฝั่งทะเลตะวันออกนั้นก็คือที่สัตหีบครับ (หลายๆคนอาจจะไม่รู้) ซึ่งสาเหตุที่ที่นี่ไม่ได้ดัง หรือได้ยินว่ามีโรงแรมรีสอร์ทมาเปิดมากมายนั้น ก็เพราะที่นี่เป็นพื้นที่ของทหารนั่นเองครับ ทำให้แม้จะมีความสวยงามอันดับต้นๆ แต่ก็ไม่ได้ดังหรือเป็นที่นิยมมากมายไปยังไง (แต่คนพื้นที่ไปเที่ยวพักผ่อนกันเยอะครับ)
ที่หนึ่งที่จะขอพาไป สำหรับทะเลสัตหีบนั้นก็คือ "หาดทรายแก้ว" ครับ ชื่อนี้มีหลายที่ ^ ^
ซึ่งเป็นหาดสวยขึ้นชื่อเป็นอันดับสองของที่สัตหีบเค้าครับ ที่คนว่ากันว่าสวยสุดบนฝั่งทะเลตะวันออกจริงๆก็คือหาดนางรำครับผม
และนี่คือคลิปของหาดทรายแก้วครับ เฉพาะช่วงต้นคลิปจนถึงนาทีที่ 2:23 นะครับ
Credit : alexpi7
...
เห็นแล้วก็แบบว่า ... สวยมากเหมือนกัน เทียบกับทะเลบนฝั่งตะวันออกแล้ว ส่วนใหญ่ไม่สวยและมีน้ำฟ้าใสแบบนี้ครับ
อย่างไรก็ตาม เห็นเค้าว่ากันว่า หาดนางรำ ที่สัตหีบเหมือนกันนี่ล่ะครับ สวยกว่านี้อีกครับ
หากใครมองหาชายหาดใหม่ๆสวยๆที่ยังไม่เคยไป ก็แนะนำให้ลองนำหาดทรายแก้วและหาดนางรำไปพิจารณาดูได้ครับ มีที่พักด้วยนะครับ แต่เป็นของทางทหารเค้าครับ มีกฎระเบียบอยู่บ้างเหมือนกัน แต่นั่นก็เป็นข้อดีที่ทำให้ทะเลสวยๆบางแห่ง อยู่คู่กับประเทศไทยไปนานๆโดยที่ธรรมชาติไม่เสียหายไปมากนั่นเองครับ ^ ^
หาดไหนสวยที่สุดในภูเก็ต พิจารณาตามนี้ครับ ^ ^
ภูเก็ตที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกของประเทศไทยเรานั้น มีทำเลที่พักบนตัวเกาะภูเก็ตมากมาย โดยหลักๆแล้วก็คือที่พักตามย่านชายหาดต่างๆ
ปัจจัยหนึ่งที่หลายๆคนจะเลือกว่าจะพักย่านไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่า "หาดใดสวยที่สุด" ล่ะมั้ง ^ ^"
ใครชอบหาดไหน หรือคิดว่าหาดไหนสวยก็คงพักชายหาดแถวนั้น
... ว่าแต่ หาดไหนล่ะ ที่สวยทีสุดในภูเก็ต?? (ไม่รวมหาดบนเกาะอื่นๆที่ไม่ใช่บนฝั่งเกาะภูเก็ตนะครับ)
ส่วนตัวผมแล้ว หาดแต่ละหาดจะมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน ตามช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวด้วยครับ
โดยช่วง High กับ Low Season นั้น หาดจะคนละแนวกันเลยทีเดียว
1. High Season
ช่วงนี้ ขอบอกว่า ไม่ว่าหาดไหนๆก็สวยมากๆทั้งนั้น!!
น้ำนิ่ง คลื่นไม่แรง ทำให้น้ำกลายเป็นสีฟ้าใสราวกระจกแทบทุกหาดครับ
ดังนั้น ช่วงนี้ก็จะไม่ค่อยต่างกันมากนักในแต่ละหาด
ถ้าจะให้บอกว่าที่ใดสวยกว่าที่ใดเพื่อพิจารณาที่พักล่ะก็ ส่วนตัวผมให้พิจารณาไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวที่หาดแทนดีกว่า อย่าไปสนมากเลยว่าที่ไหนสวยไม่สวย เพราะมันสวยทุกที่
ชอบสีสัน พลุกพล่าน ก็ป่าตอง
คึกคักหน่อย แต่ไม่เท่าป่าตองก็ กะตะ กะรน กมลา ในทอน
ชอบเงียบนิดสงบหน่อย ก็สุรินทร์ บางเทา ลายัน ในยาง ยะุนุ้ย ไตรตัง
...
จุดเด่นๆที่น่าสนใจก็คือ
- ยะนุ้ย ดำน้ำตื้นได้ที่หน้าหาด
- กะตะทรายแน่นจนเวลาเดินมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดด้วย
- ป่าตองแสงสีเสียง ฝรั่งเอย มีเพียบ
- สุรินทร์ ทรายขาวแสบตาดี
2. Low Season
ช่วงนี้ หาดแต่ละหาดจะมีคาแรคเตอร์ต่างกันพอประมาณครับ ถ้าจะบอกว่าหาดไหนสวยที่สุด ก็ต้องถามใจตัวเองก่อนว่าชอบหาดแบบไหน
ขอแบ่งเป็น 2 แบบ
2.1 คลื่นแรง เล่นกระดานโต้คลืนได้เลย ได้เห็นคลื่นและฟองสีขาว ถาโถมเข้าหาชายหาด
หาดประเภทนี้ได้แต่ กะตะ กมลา กะรน ป่าตอง
2.2 มีโซนคลื่นนิ่งๆอยู่บ้าง ทำให้เห็นน้ำใสๆหน่อย
หาดประเภทนี้ได้แก่ ไตรตรัง ยะนุ้ย หาดลายัน หาดในยาง
ส่วนตัวก็แบ่งประมาณนี้ล่ะครับ ชอบแบบไหน ไลฟ์สไตล์แบบไหน
ก็ลองเลือกดูครับ ^ ^
ปัจจัยหนึ่งที่หลายๆคนจะเลือกว่าจะพักย่านไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่า "หาดใดสวยที่สุด" ล่ะมั้ง ^ ^"
ใครชอบหาดไหน หรือคิดว่าหาดไหนสวยก็คงพักชายหาดแถวนั้น
... ว่าแต่ หาดไหนล่ะ ที่สวยทีสุดในภูเก็ต?? (ไม่รวมหาดบนเกาะอื่นๆที่ไม่ใช่บนฝั่งเกาะภูเก็ตนะครับ)
ส่วนตัวผมแล้ว หาดแต่ละหาดจะมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน ตามช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวด้วยครับ
โดยช่วง High กับ Low Season นั้น หาดจะคนละแนวกันเลยทีเดียว
1. High Season
ช่วงนี้ ขอบอกว่า ไม่ว่าหาดไหนๆก็สวยมากๆทั้งนั้น!!
น้ำนิ่ง คลื่นไม่แรง ทำให้น้ำกลายเป็นสีฟ้าใสราวกระจกแทบทุกหาดครับ
ดังนั้น ช่วงนี้ก็จะไม่ค่อยต่างกันมากนักในแต่ละหาด
ถ้าจะให้บอกว่าที่ใดสวยกว่าที่ใดเพื่อพิจารณาที่พักล่ะก็ ส่วนตัวผมให้พิจารณาไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวที่หาดแทนดีกว่า อย่าไปสนมากเลยว่าที่ไหนสวยไม่สวย เพราะมันสวยทุกที่
ชอบสีสัน พลุกพล่าน ก็ป่าตอง
คึกคักหน่อย แต่ไม่เท่าป่าตองก็ กะตะ กะรน กมลา ในทอน
ชอบเงียบนิดสงบหน่อย ก็สุรินทร์ บางเทา ลายัน ในยาง ยะุนุ้ย ไตรตัง
...
จุดเด่นๆที่น่าสนใจก็คือ
- ยะนุ้ย ดำน้ำตื้นได้ที่หน้าหาด
- กะตะทรายแน่นจนเวลาเดินมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดด้วย
- ป่าตองแสงสีเสียง ฝรั่งเอย มีเพียบ
- สุรินทร์ ทรายขาวแสบตาดี
2. Low Season
ช่วงนี้ หาดแต่ละหาดจะมีคาแรคเตอร์ต่างกันพอประมาณครับ ถ้าจะบอกว่าหาดไหนสวยที่สุด ก็ต้องถามใจตัวเองก่อนว่าชอบหาดแบบไหน
ขอแบ่งเป็น 2 แบบ
2.1 คลื่นแรง เล่นกระดานโต้คลืนได้เลย ได้เห็นคลื่นและฟองสีขาว ถาโถมเข้าหาชายหาด
หาดประเภทนี้ได้แต่ กะตะ กมลา กะรน ป่าตอง
2.2 มีโซนคลื่นนิ่งๆอยู่บ้าง ทำให้เห็นน้ำใสๆหน่อย
หาดประเภทนี้ได้แก่ ไตรตรัง ยะนุ้ย หาดลายัน หาดในยาง
ส่วนตัวก็แบ่งประมาณนี้ล่ะครับ ชอบแบบไหน ไลฟ์สไตล์แบบไหน
ก็ลองเลือกดูครับ ^ ^
แผนที่เทพ!! วางแผนเที่ยวกับทำเลรีสอร์ท โรงแรม ร้านอาหาร ดั่งตาเห็น!!
แผนที่เทพ!! ใช้คำนี้ก็คงจะเหมาะ สำหรับเวบไซต์แผนที่แห่งหนึ่ง ที่อยากจะแนะนำกันครับ ^ ^ (กูเกิ้ลก็เริ่มทำแล้วครับ แต่ยังไม่ครบ)
เพราะแผนที่เทพนี้ สามารถดูภาพแบบ 360 องศา ของสถานที่ตั้งนั้นๆได้เลยครับ โดยจะไม่ได้เห็นแค่มุมมองจากดาวเทียมอีกต่อไป
ทำให้เราสามารถรู้ได้เลยว่า ตรงนั้น มีอะไรอยู่บ้าง? หน้าโรงแรมมีเซเว่นไหม? หน้าโรงแรมมีร้านอาหารไหม? หน้าโรงแรมเปลี่ยวไหม?
ซึ่งจะทำให้เราวางแผนเที่ยวได้ง่ายขึ้นเยอะมากๆเลยครับ กับแผนที่เทพเหล่านี้ ^ ^
ซึ่งเวบไซต์แผนที่เทพที่อยากจะแนะนำก็คือ mapjack.com และ pattayaphotoguide.com ครับ
เรามาลองดูกันเลยดีกว่า ว่าแผนที่เทพเหล่านี้ทำอะไรได้บ้าง
ภาพที่นำมาให้ชมเป็นของ MapJack นะครับ ทั้งสองเวบทำงานคล้ายๆกันครับ ไม่ต่างกันเลย ^ ^
หน้าจอจะแบ่งเป็นสามส่วน โดยซ้ายสุดนั้นเป็นเมนูครับ
ส่วนด้านล่างจะเป็นแผนที่ที่มองจากทางอากาศหรือ aerial view ครับ
ส่วนด้านบน จะเป็นภาพแบบมุมมอง 360 องศา (ใช้เมาท์หมุนภาพแบบพาโนรามา 360 องศาได้เลย)
วิธีใช้ ก่อนอื่นก็เลือกแผนที่เมืองที่เราจะไปเที่ยว ที่เมนูด้านซ้ายสุดครับ (ของ MapJack มีแผนที่ของเชียงใหม่ ภูเก็ต หัวหิน กระบี่ อยุธยา แม่ฮ่องสอน และปายครับ)
จากนั้นก็แค่ใช้เมาท์คลิกที่จุดสีน้ำเงิน ที่กรอบด้านล่างของแผนที่มุมมองทางอากาศ
แล้วกรอบด้านบนก็จะแสดงภาพ 360 องศารอบตัว จากจุดสีน้ำเงินนั้น ไปรอบๆ ว่ามีอะไรบ้าง!! ง่ายมากๆเลย!!
อย่างในรูปด้านบนนั้น ก็จะเห็นโรงแรมแห่งหนึ่งทางด้านซ้ายและด้านขวาคือชายหาดครับ จากแผนที่จะบอกให้รู้กันชัดๆว่า โรงแรมนี้ติดชายหาดจริงๆนะ ไม่ได้เอาภาพชายหาดมาหลอกในเวบโรงแรมแล้วให้คนไปใช้บริการคิดเอาเองว่ามันใกล้หรือไกลหาดแค่ไหน ^ ^
นอกจากนั้นก็ยังบอกได้ีอีกว่า ทำเลตรงนั้นไม่เปลี่ยว แต่ก็ไม่พลุกพล่านมากนัก หากจะหาร้านอาหารถ้าไม่ใช้บริการของโรงแรม ก็ต้องเดินหน่อย ... บอกเราได้มากถึงขนาดนี้เลยเชียว ^ ^
...
อันนี้เป็นภาพจุดสีน้ำเงินที่เรามองเห็นจากแผนที่มุมมองทางอากาศครับ
คลิกที่จุดสีน้ำเงิน แล้วก็แพนกล้องไปรอบๆตัวได้เลยครับ ^ ^
ซึ่งความแตกต่างของ Mapjack กับ Pattayaphotoguide นั้นก็คือ
Mapjack จะมีแผนที่ของ เชียงใหม่ ภูเก็ต หัวหิน กระบี่ อยุธยา แม่ฮ่องสอน และปายครับ
ส่วน Pattayaphotoguide นั้นก็ตามชื่อครับ เป็นแผนที่ของโซนพัทยาครับ และก็เลยไปถึงย่านจอมเทียนอีกนิดหน่อย
...
อันนี้เป็นโซนหัวหินของเวบ MapJack ครับ หน้าโซฟิเทล ^ ^
...
ก็คาดว่าเวบไซต์แผนที่เทพเหล่านี้ จะช่วยให้วางแผนเที่ยว หรือเลือกที่พักโรงแรมรีสอร์ทต่างๆ ได้ตรงใจมากขึ้นครับ ^ ^
อย่างไรก็ตาม ภาพที่เห็นในแผนที่นั้น อาจจะเก่าไป 1-2 ปี แล้วแต่ช่วงที่เวบอัำพเดทด้วยล่ะครับ อาจจะไม่ตรงจริง 100% แต่ก็พอบอกอะไรได้มากทีเดียวครับ ^ ^
เพราะแผนที่เทพนี้ สามารถดูภาพแบบ 360 องศา ของสถานที่ตั้งนั้นๆได้เลยครับ โดยจะไม่ได้เห็นแค่มุมมองจากดาวเทียมอีกต่อไป
ทำให้เราสามารถรู้ได้เลยว่า ตรงนั้น มีอะไรอยู่บ้าง? หน้าโรงแรมมีเซเว่นไหม? หน้าโรงแรมมีร้านอาหารไหม? หน้าโรงแรมเปลี่ยวไหม?
ซึ่งจะทำให้เราวางแผนเที่ยวได้ง่ายขึ้นเยอะมากๆเลยครับ กับแผนที่เทพเหล่านี้ ^ ^
ซึ่งเวบไซต์แผนที่เทพที่อยากจะแนะนำก็คือ mapjack.com และ pattayaphotoguide.com ครับ
เรามาลองดูกันเลยดีกว่า ว่าแผนที่เทพเหล่านี้ทำอะไรได้บ้าง
ภาพที่นำมาให้ชมเป็นของ MapJack นะครับ ทั้งสองเวบทำงานคล้ายๆกันครับ ไม่ต่างกันเลย ^ ^
หน้าจอจะแบ่งเป็นสามส่วน โดยซ้ายสุดนั้นเป็นเมนูครับ
ส่วนด้านล่างจะเป็นแผนที่ที่มองจากทางอากาศหรือ aerial view ครับ
ส่วนด้านบน จะเป็นภาพแบบมุมมอง 360 องศา (ใช้เมาท์หมุนภาพแบบพาโนรามา 360 องศาได้เลย)
วิธีใช้ ก่อนอื่นก็เลือกแผนที่เมืองที่เราจะไปเที่ยว ที่เมนูด้านซ้ายสุดครับ (ของ MapJack มีแผนที่ของเชียงใหม่ ภูเก็ต หัวหิน กระบี่ อยุธยา แม่ฮ่องสอน และปายครับ)
จากนั้นก็แค่ใช้เมาท์คลิกที่จุดสีน้ำเงิน ที่กรอบด้านล่างของแผนที่มุมมองทางอากาศ
แล้วกรอบด้านบนก็จะแสดงภาพ 360 องศารอบตัว จากจุดสีน้ำเงินนั้น ไปรอบๆ ว่ามีอะไรบ้าง!! ง่ายมากๆเลย!!
อย่างในรูปด้านบนนั้น ก็จะเห็นโรงแรมแห่งหนึ่งทางด้านซ้ายและด้านขวาคือชายหาดครับ จากแผนที่จะบอกให้รู้กันชัดๆว่า โรงแรมนี้ติดชายหาดจริงๆนะ ไม่ได้เอาภาพชายหาดมาหลอกในเวบโรงแรมแล้วให้คนไปใช้บริการคิดเอาเองว่ามันใกล้หรือไกลหาดแค่ไหน ^ ^
นอกจากนั้นก็ยังบอกได้ีอีกว่า ทำเลตรงนั้นไม่เปลี่ยว แต่ก็ไม่พลุกพล่านมากนัก หากจะหาร้านอาหารถ้าไม่ใช้บริการของโรงแรม ก็ต้องเดินหน่อย ... บอกเราได้มากถึงขนาดนี้เลยเชียว ^ ^
...
อันนี้เป็นภาพจุดสีน้ำเงินที่เรามองเห็นจากแผนที่มุมมองทางอากาศครับ
คลิกที่จุดสีน้ำเงิน แล้วก็แพนกล้องไปรอบๆตัวได้เลยครับ ^ ^
ซึ่งความแตกต่างของ Mapjack กับ Pattayaphotoguide นั้นก็คือ
Mapjack จะมีแผนที่ของ เชียงใหม่ ภูเก็ต หัวหิน กระบี่ อยุธยา แม่ฮ่องสอน และปายครับ
ส่วน Pattayaphotoguide นั้นก็ตามชื่อครับ เป็นแผนที่ของโซนพัทยาครับ และก็เลยไปถึงย่านจอมเทียนอีกนิดหน่อย
...
อันนี้เป็นโซนหัวหินของเวบ MapJack ครับ หน้าโซฟิเทล ^ ^
...
ก็คาดว่าเวบไซต์แผนที่เทพเหล่านี้ จะช่วยให้วางแผนเที่ยว หรือเลือกที่พักโรงแรมรีสอร์ทต่างๆ ได้ตรงใจมากขึ้นครับ ^ ^
อย่างไรก็ตาม ภาพที่เห็นในแผนที่นั้น อาจจะเก่าไป 1-2 ปี แล้วแต่ช่วงที่เวบอัำพเดทด้วยล่ะครับ อาจจะไม่ตรงจริง 100% แต่ก็พอบอกอะไรได้มากทีเดียวครับ ^ ^
น้ำท่วมดีกว่าฝนแล้ง หรือ ฝนแล้งดีกว่าน้ำท่วมกันแน่ ?
วิกฤตน้ำท่วมประเทศไทยอันสุดแสนจะร้อนแรงในปี 2554 นี้ ดับทุกกระแสจริงๆ ไม่ว่าจะปัญหาชายแดนภาคใต้ ดารา นักร้อง ข่าวฉาวทุกข่าว ... แต่ก็ยังดับการเมืองได้ไม่มากอ่ะนะ เหอๆ หลายๆคนยังเอาการเมืองไปปนๆกันสนุกปากอยู่ ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม
แต่เอาเถอะ ยังไงๆ น้ำท่วมปีนี้ก็เป็นประวัติศาสตร์ของไทยอีกปีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะท่วมหนักเข้ากรุงเทพฯจนได้ ก็ลุ้นๆกันอยู่ว่า กทม.จะท่วมแค่ไหน แค่รอบนอก หรือท่วมหมดกันแน่
จากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ หลายๆคนก็หามุขแป๊กๆเกี่ยวกับน้ำท่วมมาดับความเครียดกันมากมาย แต่ส่วนใหญ่ หากใครบ้านน้ำท่วม มุขไหนก็ไม่ได้ผลทั้งนั้นอ่ะนะ เหอๆๆ
ที่สำคัญก็คือ คำกล่าวที่เป็นคำคุ้นหู เล่าขานสืบมาปานจะเห็นด้วยกับถ้อยคำว่า "น้ำท่วมดีกว่าฝนแล้ง" แทบจะอยู่ไม่ได้กับเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ... นั่นก็เพราะใครต่อใครก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ฝนแล้งดีกว่าน้ำท่วมตั้งเยอะ"
เพราะ
- น้ำท่วมไปไหนไม่ได้เลย
- น้ำก็เน่า ใช่ว่าจะกินดื่มหรืออุปโภคได้
- งูเอย จระเข้เอย
- ข้าวของก็เสียหาย บ้านซ่องก็เสียหาย
- เสี่ยงต่อการโดนขโมยขึ้นบ้าน
- ปัญหาไฟฟ้าช้อต จมน้ำอีก
... มากมาย
...
ยังงี้แล้ว น้ำท่วมมันจะดีกว่าฝนแล้ง จริงๆน่ะหรือ? -*-
จริงๆแล้วก็ขึ้นกับว่าฝนจะแล้งมากจริงๆ หรือน้ำจะท่วมมากจริงๆน่ะนะ
ถ้าแล้งแค่ว่าทำนาลำบากขึ้นมานิดๆหน่อยๆ จากทำนาได้ปีละ 3 ครั้ง ก็กลายเป็น 2 ครั้ง ... แบบนี้ก็แล้งเบเบ๋ ไม่มีปัญหาอะไรมากมาย
หรือถ้าน้ำท่วม ถ้าท่วมแค่เข่า วันสองวันก็น้ำลดจนแห้ง แบบนี้ก็จัดว่าน้ำท่วมเบเบ๋เหมือนกัน ^ ^
แต่ถ้าแล้งขนาดไม่มีน้ำใช้ กลายเป็นทะเลทรายทั้งประเทศ แบบนี้ก็น่าคิดว่าน้ำท่วมจะดีกว่าหรือไม่
...
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวแล้วก็มองว่า หากมองในมุมของประเทศไทยเราแล้ว น้ำท่วมก็ดีกว่าฝนแล้งนะ ^ ^
เพราะประเทศไทยเรา อย่างมากก็แค่แล้งแค่ทำนาได้น้อยลง น้ำใช้ไม่ค่อยมี แต่ยังพอมีน้ำดื่มน้ำใช้อยู่บ้าง เพียงแต่ต้องลำบากซื้อน้ำ หอบน้ำจากบ่อไปเก็บในบ้าน ... นี่คือหนักสุดสำหรับฝนแล้งของไทย (ไม่ได้แล้งขนาดอดตายแบบแอฟริกา)
แต่น้ำท่วมในไทยที่หนักๆหน่อยนี่ค่อนข้างเสียหายหนักน่ะครับ ... คำกล่าวที่ว่า น้ำท่วมดีกว่าฝนแล้ง นั้น ผมก็เลยคิดว่า เอาไปใช้แถวทะเลทรายน่าจะเหมาะ แต่สำหรับประเทศเรานั้น ฝนแล้งดีกว่าน้ำท่วมจะเหมาะกว่าน่ะนะ ^ ^"
แต่เอาเถอะ ยังไงๆ น้ำท่วมปีนี้ก็เป็นประวัติศาสตร์ของไทยอีกปีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะท่วมหนักเข้ากรุงเทพฯจนได้ ก็ลุ้นๆกันอยู่ว่า กทม.จะท่วมแค่ไหน แค่รอบนอก หรือท่วมหมดกันแน่
จากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ หลายๆคนก็หามุขแป๊กๆเกี่ยวกับน้ำท่วมมาดับความเครียดกันมากมาย แต่ส่วนใหญ่ หากใครบ้านน้ำท่วม มุขไหนก็ไม่ได้ผลทั้งนั้นอ่ะนะ เหอๆๆ
ที่สำคัญก็คือ คำกล่าวที่เป็นคำคุ้นหู เล่าขานสืบมาปานจะเห็นด้วยกับถ้อยคำว่า "น้ำท่วมดีกว่าฝนแล้ง" แทบจะอยู่ไม่ได้กับเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ... นั่นก็เพราะใครต่อใครก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ฝนแล้งดีกว่าน้ำท่วมตั้งเยอะ"
เพราะ
- น้ำท่วมไปไหนไม่ได้เลย
- น้ำก็เน่า ใช่ว่าจะกินดื่มหรืออุปโภคได้
- งูเอย จระเข้เอย
- ข้าวของก็เสียหาย บ้านซ่องก็เสียหาย
- เสี่ยงต่อการโดนขโมยขึ้นบ้าน
- ปัญหาไฟฟ้าช้อต จมน้ำอีก
... มากมาย
...
ยังงี้แล้ว น้ำท่วมมันจะดีกว่าฝนแล้ง จริงๆน่ะหรือ? -*-
จริงๆแล้วก็ขึ้นกับว่าฝนจะแล้งมากจริงๆ หรือน้ำจะท่วมมากจริงๆน่ะนะ
ถ้าแล้งแค่ว่าทำนาลำบากขึ้นมานิดๆหน่อยๆ จากทำนาได้ปีละ 3 ครั้ง ก็กลายเป็น 2 ครั้ง ... แบบนี้ก็แล้งเบเบ๋ ไม่มีปัญหาอะไรมากมาย
หรือถ้าน้ำท่วม ถ้าท่วมแค่เข่า วันสองวันก็น้ำลดจนแห้ง แบบนี้ก็จัดว่าน้ำท่วมเบเบ๋เหมือนกัน ^ ^
แต่ถ้าแล้งขนาดไม่มีน้ำใช้ กลายเป็นทะเลทรายทั้งประเทศ แบบนี้ก็น่าคิดว่าน้ำท่วมจะดีกว่าหรือไม่
...
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวแล้วก็มองว่า หากมองในมุมของประเทศไทยเราแล้ว น้ำท่วมก็ดีกว่าฝนแล้งนะ ^ ^
เพราะประเทศไทยเรา อย่างมากก็แค่แล้งแค่ทำนาได้น้อยลง น้ำใช้ไม่ค่อยมี แต่ยังพอมีน้ำดื่มน้ำใช้อยู่บ้าง เพียงแต่ต้องลำบากซื้อน้ำ หอบน้ำจากบ่อไปเก็บในบ้าน ... นี่คือหนักสุดสำหรับฝนแล้งของไทย (ไม่ได้แล้งขนาดอดตายแบบแอฟริกา)
แต่น้ำท่วมในไทยที่หนักๆหน่อยนี่ค่อนข้างเสียหายหนักน่ะครับ ... คำกล่าวที่ว่า น้ำท่วมดีกว่าฝนแล้ง นั้น ผมก็เลยคิดว่า เอาไปใช้แถวทะเลทรายน่าจะเหมาะ แต่สำหรับประเทศเรานั้น ฝนแล้งดีกว่าน้ำท่วมจะเหมาะกว่าน่ะนะ ^ ^"
Palawan, Philippines ทะเลสวยของฟิลิปปินส์ ที่นักท่องเที่ยวหลายๆคนไม่เคยรู้!!
ฟิลิปปินส์นั้นเป็นประเทศหมู่เกาะที่มีเกาะนับพันเกาะ ซึ่งตามคอมมอนเซนส์แล้ว น่าจะเป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ชายหาด ที่สวยสุดๆอีกแห่งหนึ่งของโลกได้เลย ... และในความเป็นจริง มันก็เป็นตามคอมมอนเซนส์นี่ล่ะครับ ที่ประเทศฟิลิปปินส์นั้น มีหมู่เกาะ มีชายหาด มีปะการัง ฯลฯ ที่สวยมากๆครับ
แต่พอพูดถึงการ "ท่องเที่ยวทางทะเล" แล้ว คนไทยไม่ค่อยนึกถึงฟิลิปปินส์กันครับ นึกถึงทะเลของไทยเอง หรือไม่ก็ไปทางบาหลี มาเลฯ หรือที่เป็นที่ใฝ่ฝันของใครหลายต่อหลายคนอย่างเช่น มัลดีฟส์แทน
สาเหตุก็เป็นเพราะว่า การเดินทางไปเที่ยวทะเลสวยของฟิลิปปินส์นั้น ค่าเดินทางเท่าๆกับไปมัลดีฟส์น่ะสิครับ ^ ^"
จริงอยู่ ว่าถ้าไปแค่กรุงมะนิลา ก็ต้องถูกกว่าแน่ๆ แต่กรุงมะนิลาไม่ได้มีทะเลสวย ... ดังนั้น หากจะไปเที่ยวทะเลสวยของฟิลิปปินส์ คุณต้องนั่งเครื่องไปลงมะนิลาแล้วก็ต่อเครื่องอีกต่อหนึ่ง ซึ่งนั่นแหละ ที่มันจะเริ่มแพงพอๆกับมัลดีฟส์แถมยุ่งยากในการเดินทางมากกว่าด้วย (ราคาพอๆกับนั่ง Srilankan Airlines ไปมัลดีฟส์น่ะครับ ซึ่งแม้จะต่อเครื่องเหมือนกัน แต่ก็เป็นระบบไม่ยุ่งยากมาก ... แถมถ้านั่ง Bangkok Airways ที่แพงกว่านิดหน่อยแล้ว ไปมัลดีฟส์ก็ยิ่งสะดวกสบายมากขึ้นไปอีก)
...
แต่กระนั้นก็ตาม หากคุณชอบทะเลจริงๆ และพอมีเวลาล่ะก็ Philippines จัดเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ!!
เพราะโดยส่วนตัวผมแล้ว ที่นี่สวยพอๆกับมัลดีฟส์ ในอีกรูปแบบหนึ่งนั่นเอง
ที่ๆจะขอพาไปชมนี้ก็คือ จังหวัด Palawan จังหวัดที่เป็นเกาะยาว แห่ง Philippines นั่นเอง
Palawan นั้นเป็นเกาะที่เป็นจังหวัดเหมือนๆภูเก็ตนั่นล่ะครับ แต่ยาวและใหญ่กว่า
และที่สำคัญ ส่วนตัวผมมองว่าลักษณะทะเลของ Palawan นั้นเป็นสไตล์เดียวกับอันดามันของไทยและในขณะเดียวกันก็มีกลิ่นอายแบบมัลดีฟส์ และในขณะเดียวกันก็คล้ายๆกับสิปะดันของมาเลเซียด้วย ... และอีกหลายในขณะเดียวกันเลย ^ ^"
ลองดูคลิปนี้ครับ
Credit : twg20101
จากคลิปจะเห็นว่า ลักษณะแบคกราวน์ เทือกเขา เห็นแล้วนึกถึงทะเลไทยฝั่งอันดามันเลยครับ ที่มีเทือกเขาสูงๆรอบๆหาด
แต่พอมองไปในหาด พบว่าปะการัง ปลาสวยๆ คุณจะเห็นได้จากหน้าหาดเลยโดยที่ไม่ต้องให้เรือพาไปลงจุดดำน้ำแต่อย่างใด (ของไทยก็มีครับ จุดที่ดำน้ำจากหน้าหาดได้เลย แต่โดนทำลายไปเยอะจนไม่สวยเท่านี้แล้ว)
แถมรีสอร์ทบางจุด ชายหาดบางจุด ยังเหมือนๆกับมัลดีฟส์อีกด้วย คือมีวอเตอร์บังกะโล น้ำก็ฟ้าใสมากๆ
และนี่คือจุดเด่นที่ทำให้ทะเลฟิลิปปินส์หลากหลายเที่ยวได้หลายอารมณ์นั่นเองครับ ^ ^
รีสอร์ทในคลิปคือรีสอร์ท El Nido Resort Miniloc กับ El Nido Lagen ครับ ซึ่ง El Nido ก็คือชื่ออำเภอหนึ่งของจังหวัด Palawan นั่นเอง เป็นย่านดังของเกาะพาลาวันเค้าละ
อันนี้ภาพตัวอย่างเพิ่มเติมของ El Nido ในเกาะ Palawan ครับ จาก El Nido Resort Miniloc มีบังกะโลบนน้ำ แล้วก็ที่เห็นจากผืนน้ำนั้นก็ ปะการังล้วนๆเลย เกาะของมัลดีฟส์บางเกาะทรายสวยทะเลใสก็จริง แต่ปะการังไม่ค่อยมีก็มีครับ
...
หากบอกว่าทะเลแหวกของไทยสวยและ amazing มากๆ ... อันนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Snake Island ที่ Palawan ครับ
มีเนินทรายขึ้นมายามน้ำลด แถมยาวมากๆ ... แล้วดูข้างๆเนินทรายสิครับ ปะการังล้วนๆ ระบบนิเวศสมบูรณ์มากๆ
ก็ ภาพทั้งหมดก็จากเวบ http://www.elnidoresorts.com นะครับ ไปดูข้อมูลย่าน Elnido ในเวบนี้ก็ได้ครับ
...
ก็ ถ้าใครสนใจเที่ยว Palawan ก็ลองดูๆตารางการบินของ Cebu Pacific ได้ครับ มีเส้นทางจากมะนิลาไป Palawan ด้วย
รวมๆแล้วอาจจะลำบากต่อนั่นนี่นิดหน่อยแถมราคาำพอๆกับมัลดีฟส์อีกต่างหาก แต่ถ้ารักทะเลจริงๆ ลองความแตกต่างที่ Palawan ดูก็ไม่เสียหายครับ ^ ^
แต่พอพูดถึงการ "ท่องเที่ยวทางทะเล" แล้ว คนไทยไม่ค่อยนึกถึงฟิลิปปินส์กันครับ นึกถึงทะเลของไทยเอง หรือไม่ก็ไปทางบาหลี มาเลฯ หรือที่เป็นที่ใฝ่ฝันของใครหลายต่อหลายคนอย่างเช่น มัลดีฟส์แทน
สาเหตุก็เป็นเพราะว่า การเดินทางไปเที่ยวทะเลสวยของฟิลิปปินส์นั้น ค่าเดินทางเท่าๆกับไปมัลดีฟส์น่ะสิครับ ^ ^"
จริงอยู่ ว่าถ้าไปแค่กรุงมะนิลา ก็ต้องถูกกว่าแน่ๆ แต่กรุงมะนิลาไม่ได้มีทะเลสวย ... ดังนั้น หากจะไปเที่ยวทะเลสวยของฟิลิปปินส์ คุณต้องนั่งเครื่องไปลงมะนิลาแล้วก็ต่อเครื่องอีกต่อหนึ่ง ซึ่งนั่นแหละ ที่มันจะเริ่มแพงพอๆกับมัลดีฟส์แถมยุ่งยากในการเดินทางมากกว่าด้วย (ราคาพอๆกับนั่ง Srilankan Airlines ไปมัลดีฟส์น่ะครับ ซึ่งแม้จะต่อเครื่องเหมือนกัน แต่ก็เป็นระบบไม่ยุ่งยากมาก ... แถมถ้านั่ง Bangkok Airways ที่แพงกว่านิดหน่อยแล้ว ไปมัลดีฟส์ก็ยิ่งสะดวกสบายมากขึ้นไปอีก)
...
แต่กระนั้นก็ตาม หากคุณชอบทะเลจริงๆ และพอมีเวลาล่ะก็ Philippines จัดเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ!!
เพราะโดยส่วนตัวผมแล้ว ที่นี่สวยพอๆกับมัลดีฟส์ ในอีกรูปแบบหนึ่งนั่นเอง
ที่ๆจะขอพาไปชมนี้ก็คือ จังหวัด Palawan จังหวัดที่เป็นเกาะยาว แห่ง Philippines นั่นเอง
Palawan นั้นเป็นเกาะที่เป็นจังหวัดเหมือนๆภูเก็ตนั่นล่ะครับ แต่ยาวและใหญ่กว่า
และที่สำคัญ ส่วนตัวผมมองว่าลักษณะทะเลของ Palawan นั้นเป็นสไตล์เดียวกับอันดามันของไทยและในขณะเดียวกันก็มีกลิ่นอายแบบมัลดีฟส์ และในขณะเดียวกันก็คล้ายๆกับสิปะดันของมาเลเซียด้วย ... และอีกหลายในขณะเดียวกันเลย ^ ^"
ลองดูคลิปนี้ครับ
Credit : twg20101
จากคลิปจะเห็นว่า ลักษณะแบคกราวน์ เทือกเขา เห็นแล้วนึกถึงทะเลไทยฝั่งอันดามันเลยครับ ที่มีเทือกเขาสูงๆรอบๆหาด
แต่พอมองไปในหาด พบว่าปะการัง ปลาสวยๆ คุณจะเห็นได้จากหน้าหาดเลยโดยที่ไม่ต้องให้เรือพาไปลงจุดดำน้ำแต่อย่างใด (ของไทยก็มีครับ จุดที่ดำน้ำจากหน้าหาดได้เลย แต่โดนทำลายไปเยอะจนไม่สวยเท่านี้แล้ว)
แถมรีสอร์ทบางจุด ชายหาดบางจุด ยังเหมือนๆกับมัลดีฟส์อีกด้วย คือมีวอเตอร์บังกะโล น้ำก็ฟ้าใสมากๆ
และนี่คือจุดเด่นที่ทำให้ทะเลฟิลิปปินส์หลากหลายเที่ยวได้หลายอารมณ์นั่นเองครับ ^ ^
รีสอร์ทในคลิปคือรีสอร์ท El Nido Resort Miniloc กับ El Nido Lagen ครับ ซึ่ง El Nido ก็คือชื่ออำเภอหนึ่งของจังหวัด Palawan นั่นเอง เป็นย่านดังของเกาะพาลาวันเค้าละ
อันนี้ภาพตัวอย่างเพิ่มเติมของ El Nido ในเกาะ Palawan ครับ จาก El Nido Resort Miniloc มีบังกะโลบนน้ำ แล้วก็ที่เห็นจากผืนน้ำนั้นก็ ปะการังล้วนๆเลย เกาะของมัลดีฟส์บางเกาะทรายสวยทะเลใสก็จริง แต่ปะการังไม่ค่อยมีก็มีครับ
...
หากบอกว่าทะเลแหวกของไทยสวยและ amazing มากๆ ... อันนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Snake Island ที่ Palawan ครับ
มีเนินทรายขึ้นมายามน้ำลด แถมยาวมากๆ ... แล้วดูข้างๆเนินทรายสิครับ ปะการังล้วนๆ ระบบนิเวศสมบูรณ์มากๆ
ก็ ภาพทั้งหมดก็จากเวบ http://www.elnidoresorts.com นะครับ ไปดูข้อมูลย่าน Elnido ในเวบนี้ก็ได้ครับ
...
ก็ ถ้าใครสนใจเที่ยว Palawan ก็ลองดูๆตารางการบินของ Cebu Pacific ได้ครับ มีเส้นทางจากมะนิลาไป Palawan ด้วย
รวมๆแล้วอาจจะลำบากต่อนั่นนี่นิดหน่อยแถมราคาำพอๆกับมัลดีฟส์อีกต่างหาก แต่ถ้ารักทะเลจริงๆ ลองความแตกต่างที่ Palawan ดูก็ไม่เสียหายครับ ^ ^
Hunter x Hunter คนเขียนเป็นแฟนการ์ตูนจุนจิ อิโตะ แน่ๆ!!
Hunter x Hunter การ์ตูนดังแห่งโชเน็นจัมป์ ซึ่งนอกจากจะเลื่องชื่อในด้านความสนุกและเดาไม่ถูกแล้ว สิ่งที่เลื่องชื่อที่สุดก็คือเป็นหนึ่งในการ์ตูนหยุดยาวที่ไม่โดนตัดจบ แล้วก็คนแต่งเป็นแฟนกับคนเขียนเซเลอร์มูน (แม้ตอนหลังจะเลิกกันแล้วก็เหอะนะ)
แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว คนแต่ง Hunter x Hunter ที่ชื่อว่าโยชิฮิโร่ โทงาชิ นั้น ยังเป็นสาวกเครซี่กับผลงานของ จุนจิ อิโตะ (Junji Ito) นักเขียนการ์ตูนแนวหลอน เจ้าของผลงาน "ก้นหอยมรณะ" อีกด้วย
...
ซึ่งเรื่องนี้นั้น มันฟ้องด้วยภาพ ^ ^
เริ่มแรกนั้น คนแต่ง Hunter x Hunter นั้น ได้แอบใส่ภาพสไตล์จุนจิ อิโตะ ในตอนที่ 218 เป็นตอนแรกๆ
เป็นฉากที่ปาล์มออกเดทกับกอร์นนั่นเอง
ใครเห็นหน้าปาล์มตอนนี้ ก็พาลนึกถึงภาพของจุนจิกันทั้งนั้น
... ซึ่งในตอนนั้น คนอ่านก็นึกว่า อ.โยชิฮิโร่ โทงาชิ คงเล่นมุขสนุกๆ เอาภาพสไตล์จุนจิมาล้อเลียนเอามันส์สักตอน แบบว่ามีตัวละครหลอนๆอยู่อย่างปาล์ม ก็ขอเอาภาพสไตล์นี้มาใช้บ้างละกัน
...
แต่ทว่า ภาพสไตล์ของจุนจิอิโตะ ไม่ได้หยุดแค่ปาล์มตอนนั้น กลับมาปรากฎช่วงหลังๆหลังจบภาคคิเมร่าแอนท์ไปอีกหลายยกเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงความสามารถของอารุกะ
ขอหยิบมาเป็นบางภาพละกันครับ
เิริ่มด้วยหนึ่งใน Butler ของตระกูลโซลดิ๊กค์คนนี้
หรือช่วงที่อิรูมิ ทำหน้าหลอนแผ่จิตสังหาร ในรูปนี้
...
ทำให้หลายๆคน พอจะจับทางคนแต่ง HxH ได้แล้วว่า แอบเป็นสาวกเครซี่ผลงานของจุนจิ อิโตะแน่ๆเลย
พอนึกได้เช่นนั้น เมื่อย้อนกลับไปตั้งแต่ HxH เล่มแรกๆก็พบว่า มีอีกหลายภาพเหมือนกัน ที่เป็นสไตล์นี้
เช่นภาพตอนสอบฮันเตอร์ที่ฮิโซกะกระหายอยากจะฆ่าคนขึ้นมา ก่อนจะโดนกอร์นฉกป้ายเบอร์ 44 ไปน่ะครับ ^ ^
... แสดงว่าแอบปลื้มจุนจิมานานแล้วแน่ๆ
แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว คนแต่ง Hunter x Hunter ที่ชื่อว่าโยชิฮิโร่ โทงาชิ นั้น ยังเป็นสาวกเครซี่กับผลงานของ จุนจิ อิโตะ (Junji Ito) นักเขียนการ์ตูนแนวหลอน เจ้าของผลงาน "ก้นหอยมรณะ" อีกด้วย
...
ซึ่งเรื่องนี้นั้น มันฟ้องด้วยภาพ ^ ^
เริ่มแรกนั้น คนแต่ง Hunter x Hunter นั้น ได้แอบใส่ภาพสไตล์จุนจิ อิโตะ ในตอนที่ 218 เป็นตอนแรกๆ
เป็นฉากที่ปาล์มออกเดทกับกอร์นนั่นเอง
ใครเห็นหน้าปาล์มตอนนี้ ก็พาลนึกถึงภาพของจุนจิกันทั้งนั้น
... ซึ่งในตอนนั้น คนอ่านก็นึกว่า อ.โยชิฮิโร่ โทงาชิ คงเล่นมุขสนุกๆ เอาภาพสไตล์จุนจิมาล้อเลียนเอามันส์สักตอน แบบว่ามีตัวละครหลอนๆอยู่อย่างปาล์ม ก็ขอเอาภาพสไตล์นี้มาใช้บ้างละกัน
...
แต่ทว่า ภาพสไตล์ของจุนจิอิโตะ ไม่ได้หยุดแค่ปาล์มตอนนั้น กลับมาปรากฎช่วงหลังๆหลังจบภาคคิเมร่าแอนท์ไปอีกหลายยกเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงความสามารถของอารุกะ
ขอหยิบมาเป็นบางภาพละกันครับ
เิริ่มด้วยหนึ่งใน Butler ของตระกูลโซลดิ๊กค์คนนี้
หรือช่วงที่อิรูมิ ทำหน้าหลอนแผ่จิตสังหาร ในรูปนี้
...
ทำให้หลายๆคน พอจะจับทางคนแต่ง HxH ได้แล้วว่า แอบเป็นสาวกเครซี่ผลงานของจุนจิ อิโตะแน่ๆเลย
พอนึกได้เช่นนั้น เมื่อย้อนกลับไปตั้งแต่ HxH เล่มแรกๆก็พบว่า มีอีกหลายภาพเหมือนกัน ที่เป็นสไตล์นี้
เช่นภาพตอนสอบฮันเตอร์ที่ฮิโซกะกระหายอยากจะฆ่าคนขึ้นมา ก่อนจะโดนกอร์นฉกป้ายเบอร์ 44 ไปน่ะครับ ^ ^
... แสดงว่าแอบปลื้มจุนจิมานานแล้วแน่ๆ
Tom Pizza Resort รีสอร์ทใหม่ ที่อ่าววงเดือน เกาะเสม็ดครับ ^ ^
มีรีสอร์ทเปิดใหม่ที่อ่าววงเดือน เกาะเสม็ด มานำเสนอครับ ชื่อว่า Tom Pizza Resort - ทอมพิซซ่า รีสอร์ท
รีสอร์ทนี้ตอนแรกคงเป็นร้านอาหารมาก่อนน่ะครับ แล้วก็เพิ่มกิจการรีสอร์ทเ้ข้ามาอีกที ก็เลยได้ชื่อว่าทอมพิซซ่านั่นเอง ^ ^ (เดาเอานะครับ)
เพราะนอกจากทาง Tom Pizza Resort จะให้บริการรีสอร์ทที่พักแล้ว ก็ยังให้บริการร้านอาหารหลากหลายทั้งไทย-เทศหรือซีฟู้ด โดยมีพิซซ่าเป็นเมนูเด็ดนั่นเองครับ
ห้องพักของ Tom Pizza Resort ก็มีหลายแบบครับ ทั้งที่พักแบบ 2 คน หรือ 3-5 คน หรือเป็นหมู่คณะ 8-10 คนครับ
ตามรูปเลยครับ
ตัวที่พักน่าจะไม่ติดกับชายหาด แต่ก็คงเดินไปชายหาดของอ่าววงเดือนได้ไม่ยากหรอกครับ เพราะโซนร้านอาหารของเค้าน่าจะติดหาดอยู่แล้ว
สนใจก็ดูราคาและการติดต่อเพิ่มเติมได้ที่เวบไซต์ของทางรีสอร์ทที่ http://tompizzaresort.com ได้เลยครับ
รีสอร์ทนี้ตอนแรกคงเป็นร้านอาหารมาก่อนน่ะครับ แล้วก็เพิ่มกิจการรีสอร์ทเ้ข้ามาอีกที ก็เลยได้ชื่อว่าทอมพิซซ่านั่นเอง ^ ^ (เดาเอานะครับ)
เพราะนอกจากทาง Tom Pizza Resort จะให้บริการรีสอร์ทที่พักแล้ว ก็ยังให้บริการร้านอาหารหลากหลายทั้งไทย-เทศหรือซีฟู้ด โดยมีพิซซ่าเป็นเมนูเด็ดนั่นเองครับ
ห้องพักของ Tom Pizza Resort ก็มีหลายแบบครับ ทั้งที่พักแบบ 2 คน หรือ 3-5 คน หรือเป็นหมู่คณะ 8-10 คนครับ
ตามรูปเลยครับ
ตัวที่พักน่าจะไม่ติดกับชายหาด แต่ก็คงเดินไปชายหาดของอ่าววงเดือนได้ไม่ยากหรอกครับ เพราะโซนร้านอาหารของเค้าน่าจะติดหาดอยู่แล้ว
สนใจก็ดูราคาและการติดต่อเพิ่มเติมได้ที่เวบไซต์ของทางรีสอร์ทที่ http://tompizzaresort.com ได้เลยครับ
Viral video ระบาด กับ Jesus Christ & Benton the Dog!!
วันสองวันมานี้ เกิด Viral video มากมาย โดยชื่อของวิดีโอนั้นขึ้นด้วยคำว่า Jesus Christ in "....." อะไรสักอย่าง ^ ^"
เช่น
Jesus Christ in Jurassic Park
Jesus Christ in Lion King
Jesus Christ in King Kong
Jesus Christ in Pride lands
แม้แต่ Jesus Christ in Dragon Ball Z ยังมีเลย -*-
...
และหนึ่งในคลิปเหล่านี้ก็มีคนดูมากจนเป็นคลิปแนะนำของ Youtube เลยทีเดียว
หลายๆคนอาจจะงงมุขในคลิปเหล่านั้น ^ ^
และต้นเหตุของคลิปเหล่านั้นก็คือคลิปนี้ครับ Benton The Dog (บ้างก็บอกว่า Fenton ต่างหาก ไม่ใช่ Benton)
เป็นคลิปที่จะว่าขำก็ไม่ขำ จะว่าสงสารก็น่าจะเหมาะกว่าอ่ะนะ ^ ^"
เป็นคลิปของลุงคนหนึ่ง วิ่งไล่ตามพร้อมร้องตะโกนเรียกสุนัขของเค้าที่ชื่อว่า Benton น่ะครับ พร้อมๆกัน แกก็อุทานออกมาเป็นพักๆว่า Jesus Christ น่ะครับ
สาเหตุก็เพราะสุนัขที่ชื่อว่า Benton นั้น ไปวิ่งไล่ฝูงกวางที่ Richmond Park จนกระเจิดกระเจิงไปหมดน่ะสิครับ แถมฝูงกวางก็วิ่งไปบนถนน อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้อีก ลุงคนนี้ก็เลยวิ่งไล่ร้องเรียกเจ้าสุนัขตัวปัญหาเสียงหลงเลย ... น่าสงสารมาก
แต่กระนั้นก็มีคนเอาไปทำเป็นคลิปล้อเลียนสนุกสนานมากมาย จนกลายเป็น Viral video ดังในสัปดาห์นี้เลยล่ะครับ ^ ^"
เช่น
Jesus Christ in Jurassic Park
Jesus Christ in Lion King
Jesus Christ in King Kong
Jesus Christ in Pride lands
แม้แต่ Jesus Christ in Dragon Ball Z ยังมีเลย -*-
...
และหนึ่งในคลิปเหล่านี้ก็มีคนดูมากจนเป็นคลิปแนะนำของ Youtube เลยทีเดียว
หลายๆคนอาจจะงงมุขในคลิปเหล่านั้น ^ ^
และต้นเหตุของคลิปเหล่านั้นก็คือคลิปนี้ครับ Benton The Dog (บ้างก็บอกว่า Fenton ต่างหาก ไม่ใช่ Benton)
เป็นคลิปที่จะว่าขำก็ไม่ขำ จะว่าสงสารก็น่าจะเหมาะกว่าอ่ะนะ ^ ^"
เป็นคลิปของลุงคนหนึ่ง วิ่งไล่ตามพร้อมร้องตะโกนเรียกสุนัขของเค้าที่ชื่อว่า Benton น่ะครับ พร้อมๆกัน แกก็อุทานออกมาเป็นพักๆว่า Jesus Christ น่ะครับ
สาเหตุก็เพราะสุนัขที่ชื่อว่า Benton นั้น ไปวิ่งไล่ฝูงกวางที่ Richmond Park จนกระเจิดกระเจิงไปหมดน่ะสิครับ แถมฝูงกวางก็วิ่งไปบนถนน อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้อีก ลุงคนนี้ก็เลยวิ่งไล่ร้องเรียกเจ้าสุนัขตัวปัญหาเสียงหลงเลย ... น่าสงสารมาก
แต่กระนั้นก็มีคนเอาไปทำเป็นคลิปล้อเลียนสนุกสนานมากมาย จนกลายเป็น Viral video ดังในสัปดาห์นี้เลยล่ะครับ ^ ^"
Mercure Koh Chang Hideaway รีสอร์ทใหม่!! จากเครือแอคคอร์ สู่เกาะช้างครับ ^ ^
ครั้งนี้ ทาง Accor บุกเกาะช้างกันบ้างแล้ว กับการเปิดรีสอร์ทแห่งใหม่ของเครือ Accor ที่นั่นกับ Mercure Koh Chang Hideaway Resort - เมอร์เคียว เกาะช้าง ไฮด์อะเวย์ รีสอร์ท
ซึ่งสำหรับการเปิดรีสอร์ทใหม่ครั้้งนี้ ก็ไม่ได้เป็นการมาสร้างรีสอร์ทใหม่ซิงๆนะครับ แต่ที่นี่คือ Dusit Princess Koh Chang เดิมนั่นเองครับ แต่ไม่รู้จับผลัดจับผลูยังไงกลายเป็นแบรนด์เมอร์เคียวของแอคคอร์ไปแล้ว ซึ่งถ้าใครจำได้ จะรู้ว่าที่นี่คือหนึ่งในรีสอร์ทสวยมากๆของเกาะช้างเค้าล่ะครับ
จะมีสระว่ายน้ำติดหน้าหาดบนหาดส่วนตัวแบบนี้
มี Pool Villa ให้เลือกพักในราคาไม่แรงมากนัก
ห้องพักแบบ beachfront ชมวิวชายหาดสวยๆ
หรือจะเลือกแบบ Pool Access ลงสระว่ายน้ำได้ทุกเมื่อ
หากสนใจ ก็ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mercure.com ครับผม
เท่าที่ดูก็เห็นว่ายังสวยน่าพักเหมือนเดิมเลยครับ ราคาก็กำลังดีอีกด้วย ^ ^
ซึ่งสำหรับการเปิดรีสอร์ทใหม่ครั้้งนี้ ก็ไม่ได้เป็นการมาสร้างรีสอร์ทใหม่ซิงๆนะครับ แต่ที่นี่คือ Dusit Princess Koh Chang เดิมนั่นเองครับ แต่ไม่รู้จับผลัดจับผลูยังไงกลายเป็นแบรนด์เมอร์เคียวของแอคคอร์ไปแล้ว ซึ่งถ้าใครจำได้ จะรู้ว่าที่นี่คือหนึ่งในรีสอร์ทสวยมากๆของเกาะช้างเค้าล่ะครับ
จะมีสระว่ายน้ำติดหน้าหาดบนหาดส่วนตัวแบบนี้
มี Pool Villa ให้เลือกพักในราคาไม่แรงมากนัก
ห้องพักแบบ beachfront ชมวิวชายหาดสวยๆ
หรือจะเลือกแบบ Pool Access ลงสระว่ายน้ำได้ทุกเมื่อ
หากสนใจ ก็ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mercure.com ครับผม
เท่าที่ดูก็เห็นว่ายังสวยน่าพักเหมือนเดิมเลยครับ ราคาก็กำลังดีอีกด้วย ^ ^
รีสอร์ทอ่าวช่อ : Grand View Ao Cho Hideaway Resort ที่เกาะเสม็ด ครับ ^ ^
มีรีสอร์ทสวยที่อ่าวช่อ หรืออ่าวลุงหวัง ที่เกาะเสม็ดมาแนะนำกันครับ
รีสอร์ทนี้ชื่อว่า Grand View Ao Cho Hideaway Resort - แกรนด์ วิว อ่าวช่อ ไฮด์อะเวย์ รีสอร์ท ครับ
อ่าวช่อหรืออ่าวลุงหวังนั้นจะเป็นอ่าวที่มีน้ำฟ้าใสสวยงาม แต่เนื่องด้วยหน้าหาดที่ไม่ได้กว้างมากนัก ก็เลยทำให้ที่นี่ไม่ถึงกับคึกคักมากมาย แต่ก็ไม่ได้เงียบจนเหงานะครับ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบคนพลุกพล่านมากจนเกินไปนักครับ ครั้นอยากจะเดินไปในส่วนที่ครึกครื้นขึ้นมาหน่อย จากอ่าวช่อก็สามารถเดินไปอ่าววงเดือนได้ง่ายๆ สั้นนิดเดียวครับ ^ ^
และสำหรับที่พักที่ชื่อ Grand View Ao Cho Hideaway Resort ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่อ่าวช่อ สำหรับคนที่ต้องการความหรูขึ้นมาหน่อย สำหรับการพักที่อ่าวนี้ครับ ^ ^
ลองดูภาพคร่าวๆกันก่อนครับ ที่นี่จัดว่าสวยมากๆสำหรับที่พักย่านอ่าววงเดือนและอ่าวช่อเลยครับ ^ ^
ที่พักจะติดหน้าหาดแบบนี้ครับ
ภายในห้องพักค่อนข้างหรูหราดีครับ
อีกบรรยากาศของอ่าวช่อหน้ารีสอร์ท
ห้องน้ำที่กว้างขวาง
...
ส่วนตัวก็คิดว่าที่นี่ก็น่าสนใจดีครับ ถ้าไม่เกี่ยงราคามากน่ะนะ ... แต่ดูภาพแล้วที่พักเค้าก็สมราคาล่ะครับ
แต่ถ้าอยากประหยัดหน่อยและไปกับเพื่อนเป็นกลุ่มสัก 4 คน ผมว่าห้องพักแบบ 4 คนราคาคุ้มดีครับ เท่าๆกับรีสอร์ทอื่นนั่นล่ะ (3-4 พันบาท ต่อห้องพัก 4 คน)
สนใจดูข้อมูลเพิ่มได้ที่เวบ http://www.grandviewgroupresort.com/aocho/index.html ครับผม มีรูปให้ดูอีกเยอะเลย ^ ^
รีสอร์ทนี้ชื่อว่า Grand View Ao Cho Hideaway Resort - แกรนด์ วิว อ่าวช่อ ไฮด์อะเวย์ รีสอร์ท ครับ
อ่าวช่อหรืออ่าวลุงหวังนั้นจะเป็นอ่าวที่มีน้ำฟ้าใสสวยงาม แต่เนื่องด้วยหน้าหาดที่ไม่ได้กว้างมากนัก ก็เลยทำให้ที่นี่ไม่ถึงกับคึกคักมากมาย แต่ก็ไม่ได้เงียบจนเหงานะครับ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบคนพลุกพล่านมากจนเกินไปนักครับ ครั้นอยากจะเดินไปในส่วนที่ครึกครื้นขึ้นมาหน่อย จากอ่าวช่อก็สามารถเดินไปอ่าววงเดือนได้ง่ายๆ สั้นนิดเดียวครับ ^ ^
และสำหรับที่พักที่ชื่อ Grand View Ao Cho Hideaway Resort ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่อ่าวช่อ สำหรับคนที่ต้องการความหรูขึ้นมาหน่อย สำหรับการพักที่อ่าวนี้ครับ ^ ^
ลองดูภาพคร่าวๆกันก่อนครับ ที่นี่จัดว่าสวยมากๆสำหรับที่พักย่านอ่าววงเดือนและอ่าวช่อเลยครับ ^ ^
ที่พักจะติดหน้าหาดแบบนี้ครับ
ภายในห้องพักค่อนข้างหรูหราดีครับ
อีกบรรยากาศของอ่าวช่อหน้ารีสอร์ท
ห้องน้ำที่กว้างขวาง
...
ส่วนตัวก็คิดว่าที่นี่ก็น่าสนใจดีครับ ถ้าไม่เกี่ยงราคามากน่ะนะ ... แต่ดูภาพแล้วที่พักเค้าก็สมราคาล่ะครับ
แต่ถ้าอยากประหยัดหน่อยและไปกับเพื่อนเป็นกลุ่มสัก 4 คน ผมว่าห้องพักแบบ 4 คนราคาคุ้มดีครับ เท่าๆกับรีสอร์ทอื่นนั่นล่ะ (3-4 พันบาท ต่อห้องพัก 4 คน)
สนใจดูข้อมูลเพิ่มได้ที่เวบ http://www.grandviewgroupresort.com/aocho/index.html ครับผม มีรูปให้ดูอีกเยอะเลย ^ ^
Thai Smile Air สายการบินน้องใหม่!! จากการบินไทย!! - Thai Airways
Thai Smile Airways - ไทยสไมล์แอร์เวย์ หรือ ไทยสมายแอร์เวย์นี้ เป็นสายการบินน้องใหม่ จาก Thai Air ที่มาในลุคราคาย่อมเยาว์ภายใต้คอนเซปท์ Light Premium กำลังจะเปิดให้บริการในช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2012 / 2555 นี้แล้วครับ ^ ^
ก็ ตอนนี้ทางการบินไทย หรือ Thai Airways สายการบินไทยระัดับ premium ราคาแรงหน่อยของไทยเรานั้น เตรียมเปิด sub-brand ที่ชื่อว่า Thai Smile Air ออกมาแล้วครับ อย่างที่บอกก็คือเปิดเดือนก.ค. 55 โดยคอนเซปท์ที่ว่า Light Premium นั้น ทางการบินไทยได้กล่าวว่า ลูกค้าจะได้รับบริการที่เกือบจะเท่าๆกับบินกับการบินไทยบนไทยสไมล์ในราคาที่ถูกกว่า!! ซึ่งน่าจะแตะตลาดสายการบินโลวคอสท์ได้เลย
โดยเส้นทางที่จะเปิดให้บริการก่อนนั้น ก็เปิดจำนวน 5 เส้นทางในประเทศครับ ตามนี้เลย
- ไป-กลับ กทม. - อุบลราชธานี
- ไป-กลับ กทม. - อุดรธานี
- ไป-กลับ กทม. - ขอนแก่น
- ไป-กลับ กทม. - เชียงราย
- ไป-กลับ กทม. - สุราษฎร์ธานี
นั่นเองครับ ^ ^
ไม่ใช่แค่นั้น ทางไทยสมายล์นั้น ยังมีแผนเปิดเส้นทาง international route ด้วยในปี 2013 ซึ่งก็คงจะค่อยๆคลืบคลาน เปิดเพิ่มทีละเส้นสองเส้นล่ะนะครับ
โดยจะมีเส้นทางไปยังประเทศต่างๆเช่น อินเดีย จีน และในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้น่ะครับ อยากให้มีบาหลี กับมัลดีฟส์จัง (บาหลีน่าจะมี แต่มัลดีฟส์นี่ ไม่รู้สิ -*-)
...
ก็รอดูข่าวกันครับ ตอนแรกๆที่เปิดอาจจะมีโปรราคาเบาๆให้ได้ใช้กันด้วยก็ได้ใครจะรู้
ติดตามข่าวได้จาก facebook ของ Thai Smile Air ได้ที่ http://www.facebook.com/Thaismileairways ครับผม ^ ^
ก็ ตอนนี้ทางการบินไทย หรือ Thai Airways สายการบินไทยระัดับ premium ราคาแรงหน่อยของไทยเรานั้น เตรียมเปิด sub-brand ที่ชื่อว่า Thai Smile Air ออกมาแล้วครับ อย่างที่บอกก็คือเปิดเดือนก.ค. 55 โดยคอนเซปท์ที่ว่า Light Premium นั้น ทางการบินไทยได้กล่าวว่า ลูกค้าจะได้รับบริการที่เกือบจะเท่าๆกับบินกับการบินไทยบนไทยสไมล์ในราคาที่ถูกกว่า!! ซึ่งน่าจะแตะตลาดสายการบินโลวคอสท์ได้เลย
โดยเส้นทางที่จะเปิดให้บริการก่อนนั้น ก็เปิดจำนวน 5 เส้นทางในประเทศครับ ตามนี้เลย
- ไป-กลับ กทม. - อุบลราชธานี
- ไป-กลับ กทม. - อุดรธานี
- ไป-กลับ กทม. - ขอนแก่น
- ไป-กลับ กทม. - เชียงราย
- ไป-กลับ กทม. - สุราษฎร์ธานี
นั่นเองครับ ^ ^
ไม่ใช่แค่นั้น ทางไทยสมายล์นั้น ยังมีแผนเปิดเส้นทาง international route ด้วยในปี 2013 ซึ่งก็คงจะค่อยๆคลืบคลาน เปิดเพิ่มทีละเส้นสองเส้นล่ะนะครับ
โดยจะมีเส้นทางไปยังประเทศต่างๆเช่น อินเดีย จีน และในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้น่ะครับ อยากให้มีบาหลี กับมัลดีฟส์จัง (บาหลีน่าจะมี แต่มัลดีฟส์นี่ ไม่รู้สิ -*-)
...
ก็รอดูข่าวกันครับ ตอนแรกๆที่เปิดอาจจะมีโปรราคาเบาๆให้ได้ใช้กันด้วยก็ได้ใครจะรู้
ติดตามข่าวได้จาก facebook ของ Thai Smile Air ได้ที่ http://www.facebook.com/Thaismileairways ครับผม ^ ^
ไอโฟน แม้แต่หมายัง... (อยากได้?, เกลียด?) คิดเอาเอง ^ ^" - iPhone
iPhone - ไอโฟน ... โทรศัพท์มือถือแบบ smart phone ที่เป็นที่ฮอตฮิตจากค่าย Apple ในตอนนี้นั้น กลายเป็นกระแสสังคมสำหรับเทรนด์สินค้า IT อย่างหนึ่งเลยล่ะครับ ไปทางไหนก็แบบว่า ต้องไอโฟน ไอโฟนและไอโฟน ... จนเรียกได้ว่า ใครมีแล้วเท่นั้น อาจจะกลายเป็นมีแล้วเชยก็ได้ เพราะเริ่มมีกันเยอะจริงๆ เหอๆๆ
สำหรับรุ่นล่าสุดในตอนนี้ก็คือ iPhone 4s นั่นเอง (จะ 5 ไปเลยก็ไม่เอา คงคิดว่ายังอัพเดทไม่แรงพอที่จะเป็นรุ่นใหม่ล่ะมั้ง)
สำหรับผลกระทบของไอโฟนต่อสังคมมนุษย์นั้น หลายๆคนก็คงพอจะรู้กันอยู่แล้ว (โดยเฉพาะพ่อแม่ของเด็กที่อยากได้ไอโฟนเข้าเส้น ^ ^")
แต่เชื่อไหมว่า? เจ้าไอโฟนเครื่องนี้ส่งผลต่อสัตว์เช่นกัน!! โดยเฉพาะเจ้าสุนัขพันธุ์ปั๊ก ตัวนี้!!
ลองชมกันครับ
นี่เป็นคลิปที่เจ้าสุนัขปั๊ก จะแสดงท่าทางกระวีกระวาดและเห่าเมื่อได้เห็นเจ้าโฆษณา iPhone ปรากฎขึ้นบนจอโปรเจคเตอร์
คนถ่ายคลิปลองเปลี่ยนวิดีโอไปยังเรื่องอื่นๆ จะพบว่าเจ้าปั๊กนั้น เฉยๆ ไม่ตอบสนองอะไร ประมาณหนึ่งออกแนวเซ็งๆ
...
คนโพสต์คลิปบอกว่า เจ้าปั๊กน่ะ เกลียดไอโฟน เห็นเป็นต้องเห่า
แต่บางคนที่ดูคลิปก็พูดหลายคนว่า เจ้าปั๊กมันชอบไอโฟนต่างหาก ประหนึ่งร้องว่า "จะเอาๆ" -*-
...
ดูแล้วก็คิดกันเอาเองนะจ๊ะ ว่าเจ้าปั๊กนั้น อยากได้ หรือเกลียดไอโฟนกันแน่ (ต้องลองถามคนเลี้ยงปั๊กดู ^ ^")
สำหรับรุ่นล่าสุดในตอนนี้ก็คือ iPhone 4s นั่นเอง (จะ 5 ไปเลยก็ไม่เอา คงคิดว่ายังอัพเดทไม่แรงพอที่จะเป็นรุ่นใหม่ล่ะมั้ง)
สำหรับผลกระทบของไอโฟนต่อสังคมมนุษย์นั้น หลายๆคนก็คงพอจะรู้กันอยู่แล้ว (โดยเฉพาะพ่อแม่ของเด็กที่อยากได้ไอโฟนเข้าเส้น ^ ^")
แต่เชื่อไหมว่า? เจ้าไอโฟนเครื่องนี้ส่งผลต่อสัตว์เช่นกัน!! โดยเฉพาะเจ้าสุนัขพันธุ์ปั๊ก ตัวนี้!!
ลองชมกันครับ
นี่เป็นคลิปที่เจ้าสุนัขปั๊ก จะแสดงท่าทางกระวีกระวาดและเห่าเมื่อได้เห็นเจ้าโฆษณา iPhone ปรากฎขึ้นบนจอโปรเจคเตอร์
คนถ่ายคลิปลองเปลี่ยนวิดีโอไปยังเรื่องอื่นๆ จะพบว่าเจ้าปั๊กนั้น เฉยๆ ไม่ตอบสนองอะไร ประมาณหนึ่งออกแนวเซ็งๆ
...
คนโพสต์คลิปบอกว่า เจ้าปั๊กน่ะ เกลียดไอโฟน เห็นเป็นต้องเห่า
แต่บางคนที่ดูคลิปก็พูดหลายคนว่า เจ้าปั๊กมันชอบไอโฟนต่างหาก ประหนึ่งร้องว่า "จะเอาๆ" -*-
...
ดูแล้วก็คิดกันเอาเองนะจ๊ะ ว่าเจ้าปั๊กนั้น อยากได้ หรือเกลียดไอโฟนกันแน่ (ต้องลองถามคนเลี้ยงปั๊กดู ^ ^")
Early Bird House รีสอร์ทที่พักเปิดใหม่ ที่เชียงใหม่จ้า ^ ^
Early Bird House หรือ Early Bird Bed & Breakfast แห่งนี้คือที่พักใหม่ๆแนวเกสเฮาส์ที่เพิ่งเปิดใหม่ในเชียงใหม่ครับ
การตกแต่งดูเรียบง่ายแบบติดน่ารัก ดูมีดีไซน์ดีทีเดียวครับ
แถมจุดที่น่าสนใจเป็นที่สุดของ Early Bird Bed & Breakfast นั้น ก็คือทำเลที่ตั้งกับราคาครับ
ตัว Early Bird House อยู่กลางสี่เหลี่ยมของเชียงใหม่ครับ(คงเข้าใจคำว่าสี่เหลี่ยมเชียงใหม่เนอะ ^ ^) ซึ่งใกล้ประตูท่าแพ เดินไปไม่ยากเลยครับ
ส่วนราคาน่ะหรือ? เริ่มต้นที่ 800 บาทเท่านั้นครับ!! ถูกดี
มาชมภาพของ Early Bird Bed & Breakfast กันเลยจ้า ^ ^
การดีไซน์ของห้องพักจะออกแนวสบายๆที่แฝงน่ารักนิดๆ น่านอนน่ากลิ้งมากๆ
facilities ก็ครบครับเนท Wi-Fi หรือ facilites พื้นฐานมีครบครับ ที่เหนือจากพื้นฐานก็มี iPod Dock, DVD Player, Safety box น่ะครับ
หลังธ.ค. 2011 ราคาจะปรับนะครับ ที่ว่าราคา 800 บาทหลักร้อยนั้นเป็นเวลาช่วงโปรครับ หลังจากนั้นจะปรับราคาเป็นพัก 1 ท่าน 990 บาท พัก 2 ท่าน 1,300 บาท ครับ ซึ่งเป็นราคาที่รวมอาหารเช้าแล้ว ซึ่งผมว่าราคาก็โอเคดีนะครับ
อย่างไรก็ตาม หาดสนใจที่พักแห่งนี้ ดูข้อมูลเพิ่มได้ที่เวบไซต์ http://www.earlybirdhouse.com ครับผม
ที่นั่นมีรูปภาพและข้อมูลการติดต่ออีกมากมายจ้า ^ ^
การตกแต่งดูเรียบง่ายแบบติดน่ารัก ดูมีดีไซน์ดีทีเดียวครับ
แถมจุดที่น่าสนใจเป็นที่สุดของ Early Bird Bed & Breakfast นั้น ก็คือทำเลที่ตั้งกับราคาครับ
ตัว Early Bird House อยู่กลางสี่เหลี่ยมของเชียงใหม่ครับ(คงเข้าใจคำว่าสี่เหลี่ยมเชียงใหม่เนอะ ^ ^) ซึ่งใกล้ประตูท่าแพ เดินไปไม่ยากเลยครับ
ส่วนราคาน่ะหรือ? เริ่มต้นที่ 800 บาทเท่านั้นครับ!! ถูกดี
มาชมภาพของ Early Bird Bed & Breakfast กันเลยจ้า ^ ^
การดีไซน์ของห้องพักจะออกแนวสบายๆที่แฝงน่ารักนิดๆ น่านอนน่ากลิ้งมากๆ
facilities ก็ครบครับเนท Wi-Fi หรือ facilites พื้นฐานมีครบครับ ที่เหนือจากพื้นฐานก็มี iPod Dock, DVD Player, Safety box น่ะครับ
หลังธ.ค. 2011 ราคาจะปรับนะครับ ที่ว่าราคา 800 บาทหลักร้อยนั้นเป็นเวลาช่วงโปรครับ หลังจากนั้นจะปรับราคาเป็นพัก 1 ท่าน 990 บาท พัก 2 ท่าน 1,300 บาท ครับ ซึ่งเป็นราคาที่รวมอาหารเช้าแล้ว ซึ่งผมว่าราคาก็โอเคดีนะครับ
อย่างไรก็ตาม หาดสนใจที่พักแห่งนี้ ดูข้อมูลเพิ่มได้ที่เวบไซต์ http://www.earlybirdhouse.com ครับผม
ที่นั่นมีรูปภาพและข้อมูลการติดต่ออีกมากมายจ้า ^ ^
รีสอร์ทใหม่ ดีที่สุด คุ้มค่าที่สุด ใน "บ้านของคุณเอง" !!
ขณะนี้ มีรีสอร์ทเปิดใหม่สดๆ ที่ดีที่สุดในโลกมาฝากกันครับ!!
รีสอร์ทนี้ดีที่สุดในโลกอย่างไร? ดีที่สุดจริงๆหรือ
ขอบอกว่า ... คงไม่มีรีสอร์ทไหนจะดีกว่านี้ไปอีกแล้ว!!
เพราะรีสอร์ทนี้ คุณจะได้สัมผัสกับน้ำทะเลใสสีคราม ได้ดำน้ำ ได้เล่นเจ็ทสกี
เพราะรีสอร์ทนี้ คุณจะได้สัมผัสกับหิมะ เล่นสกี
เพราะรีสอร์ทนี้ คุณจะได้พบกับทุกหญ้าเขียวขจี ได้ขี่ม้า
เพราะรีสอร์ทนี้ คุณจะได้พบน้ำตกสวย ได้ล่องแก่งสุดมันส์
...
เอ๊ะ!! นี่มันรีสอร์ทบ้าอะไรเนี่ย?? บนโลกนี้มีรีสอร์ทแบบนี้ด้วยหรือ!!??
นี่เลยครับ Go Vacation!! เกมออกใหม่บนเครื่องเล่นเกม "Nintendo Wii" ครับผม!! 555+
โดยในเกมนี้ คุณจะได้ทำกิจกรรมต่างๆที่หลากหลายเหมือนอยู่ทุกมุมโลกเลยทีเดียว ตามที่กล่าวมาแล้วว่า ทะเลเอย หิมะเอย มีครบจริงๆ!!
ลองชม trailer ของ Go Vacation ดูครับ ^ ^
เป็นไงครับ น่าสนุกใช่ไหมล่ะ ถ้ามีรีสอร์ทแบบนี้จริงบนโลกก็ดีสิ เกาะส่วนตัวซะด้วย
(สรุปแล้ว นี่คือรีสอร์ทสำหรับคนอดเที่ยวครับ เหอๆ นั่งเล่นเกม Go Vacation อยู่บ้านเอาละกัน)
ว่าแต่ Namco กับ Bandai รวมค่ายกันเมื่อไหร่เนี่ย -*- (ไม่ได้ตามข่าวเกมมาเกือบ 10 ปีแล้ว -*-)
รีสอร์ทนี้ดีที่สุดในโลกอย่างไร? ดีที่สุดจริงๆหรือ
ขอบอกว่า ... คงไม่มีรีสอร์ทไหนจะดีกว่านี้ไปอีกแล้ว!!
เพราะรีสอร์ทนี้ คุณจะได้สัมผัสกับน้ำทะเลใสสีคราม ได้ดำน้ำ ได้เล่นเจ็ทสกี
เพราะรีสอร์ทนี้ คุณจะได้สัมผัสกับหิมะ เล่นสกี
เพราะรีสอร์ทนี้ คุณจะได้พบกับทุกหญ้าเขียวขจี ได้ขี่ม้า
เพราะรีสอร์ทนี้ คุณจะได้พบน้ำตกสวย ได้ล่องแก่งสุดมันส์
...
เอ๊ะ!! นี่มันรีสอร์ทบ้าอะไรเนี่ย?? บนโลกนี้มีรีสอร์ทแบบนี้ด้วยหรือ!!??
นี่เลยครับ Go Vacation!! เกมออกใหม่บนเครื่องเล่นเกม "Nintendo Wii" ครับผม!! 555+
โดยในเกมนี้ คุณจะได้ทำกิจกรรมต่างๆที่หลากหลายเหมือนอยู่ทุกมุมโลกเลยทีเดียว ตามที่กล่าวมาแล้วว่า ทะเลเอย หิมะเอย มีครบจริงๆ!!
ลองชม trailer ของ Go Vacation ดูครับ ^ ^
เป็นไงครับ น่าสนุกใช่ไหมล่ะ ถ้ามีรีสอร์ทแบบนี้จริงบนโลกก็ดีสิ เกาะส่วนตัวซะด้วย
(สรุปแล้ว นี่คือรีสอร์ทสำหรับคนอดเที่ยวครับ เหอๆ นั่งเล่นเกม Go Vacation อยู่บ้านเอาละกัน)
ว่าแต่ Namco กับ Bandai รวมค่ายกันเมื่อไหร่เนี่ย -*- (ไม่ได้ตามข่าวเกมมาเกือบ 10 ปีแล้ว -*-)
กล้องกันน้ำง่ายๆ กับ Seashell SS-1, SS-2 เปลี่ยนคอมแพคของคุณเป็นกล้องดำน้ำกันเถอะ!!
หลายๆคนที่กำลังมองหากล้องกันน้ำ ซองกันน้ำ หรือ Housing สำหรับกล้องคอมแพคของคุณเพื่อไปดำน้ำ ไม่ว่าจะดำน้ำตื้น หรือดำน้ำลึุก หรือแค่เอาไว้เล่นน้ำทะเลแบบไม่ต้องห่วงกล้องอยู่ล่ะก็
ตอนนี้มีทางเลือกใหม่ๆง่ายๆมาเสนอครับ
กับ Waterproof Housing หรือเคสกันน้ำครอบจักรวาลที่ใช้ได้สำหรับกล้องดิจิตอลหลายร้อยรุ่น!!
เจ้าเคสกันน้ำครอบจักรวาลนี้มีชื่อยี่ห้อว่า Seashell ครับ แบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ Seashell SS-1 กับ Seashell SS-2
โดย SS-1 จะใช้กับกล้องคอมแพคที่มีเลนส์ซูมยื่นออกมาจากตัวกล้อง หรือมีเลนส์รับภาพอยู่กลางเยื้องขวาของตัวกล้อง
ส่วน SS-2 จะใช้กับกล้องคอมแพคที่ไม่มีเลนส์ซูมยื่นออกมาครับ โดยมักจะมีเลนส์รับภาพอยู่ที่ด้านบนขวาของตัวกล้อง
ตามรูปเลยครับ
...
ถ้าไม่แน่ใจ ว่ากล้องตนเองจะใช้กับ SeaShell รุ่นใดได้บ้าง? ให้ดูตามลิสต์นี้ครับ จะบอกไว้ว่า Seashell SS-1 กับ SS-2 นั้น ใช้กับกล้องรุ่นอะไรได้บ้าง http://www.seashell.hk/PublishWebSite/seashell/en/contentPage28733.htm
ซึ่ง SS-1 นั้นใช้ได้กับกล้องดิจิตอลได้ถึง 600 กว่ารุ่น
และ SS-2 นั้นก็ใช้ได้ถึง 200 กว่ารุ่น
ซึ่งในอนาคตแม้จะมีกล้องออกใหม่ๆตามมาก็ตาม ก็คาดว่าเจ้า Seashell นี้แทบจะรองรับได้เกือบหมดครับ!!
สาเหตุที่ทำให้เจ้า Seashell Waterproof case นี้ใช้ได้กับกล้องเยอะแยะไปหมดนั้น สาเหตุก็เพราะ Seashell จะมีบล็อคยางสำหรับการล็อคพื้นที่ขนาดต่างๆให้พอดีกับบอดี้กล้องน่ะครับ
โดยดูหลักการการติดตั้งกล้องกับตัวเฮาส์ซิ่งได้ตามคลิปนี้เลยครับ
จะเห็นว่าวิธีการใช้ก็สะดวกสบายไม่ยากนัก เพราะว่ามีชีทกระดาษให้เอากล้องไปวางทาบขนาดดูด้วยครับ แล้วจะเลือกยางขนาดไหนก็จะมีบอกไว้ให้เอง
และอันนี้คือคลิปผลการใช้งานจริงในทะเลครับ ต้องขอบคุณคุณ davidjray1 ที่อัพโหลดคลิปมาให้ชมกัน ^ ^
จะเห็นว่าคุณภาพเลนส์ไม่ค่อยเสียครับ ใช้ได้ดีทีเดียว (ลองเสิร์ชๆดูคลิปจากกล้องคอมแพคกันน้ำหรือกล้องคอมแพคพร้อมกล่องกันน้ำแบบต่างๆก็ไม่ต่างจากนี้เยอะครับ)
ก็ขอสรุปข้อดีข้อเสียของ Seashell ดังนี้ครับ
1. ข้อดี
- ใช้กับกล้องได้หลากหลายรุ่นมาก ดังนั้น ถ้าคุณอยากได้ภาำพถ่ายใต้น้ำที่ดีขึ้น ก็เพียงซื้อกล้องคอมแพคที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาใส่กับ Seashell อันเดิมได้ ... ซึ่งถ้าเป็น housing เฉพาะรุ่นนั้นก็จะใช้ได้กับกล้องตัวเดิม ถ้าจะเปลี่ยนคุณต้องเปลี่ยนใหม่หมดเลย
- ใช้กับกล้องที่ไม่มี housing เฉพาะรุ่นได้
- เทียบกับกล้องกันน้ำในตัวแล้วมีประสิทธิภาพดีกว่าตรงที่สามารถดำน้ำได้ลึกถึง 40 เมตร ไป scuba diving ได้เลย แต่ถ้ากล้องกันน้ำในตัวทั่วๆไปนั้น กันได้ลึกแค่ 3 เมตรเป็นส่วนใหญ่ครับ
- ราคากลางๆไม่ถูกก็จริง แต่ก็ไม่แพง (เทียบกับ housing ของยี่ห้อกล้อง)
- นำมาใช้เป็น housing ซ้อนสองชั้นกับกล้องกันน้ำอีกทีก็ได้ (กล้องกันน้ำในตัว ผู้ใช้มักพบปัญหาโชคร้ายกล้องเสียกันบ่อยๆ เนื่องจากน้ำดันเข้าได้ซะงั้น)
- หากเทียบกับซองกันน้ำแล้ว จะใช้ได้สะดวกกว่า(จากประสบการณ์การใช้ซองกันน้ำมาแล้ว พบว่ากล้องเลื่อนไปมาในซองกันน้ำได้ ทำให้เลนส์ของตัวกล้องไม่พอดีกับช่องส่องเลนส์ของซองกันน้ำ และซองกันน้ำนำกล้องเข้าออกยากลำบาก
2. ข้อเสีย
- ใช้ได้เฉพาะปุ่มเปิดเครื่อง และปุ่มชัตเตอร์เท่านั้น ดังนั้นถ้าจะต้องปรับอะไรในตัวกล้อง ต้องปรับก่อนเอาลงน้ำ (แปลว่ามักจะใช้ได้กับโหมดออโต้เท่านั้น) จะเลือกถ่ายวิดีโอหรือถ่ายภาพ ก็ต้องเลือกก่อนลงน้ำด้วย ... ซึ่งถ้าเป็น Housing เฉพาะรุ่นจริงๆนั้นจะปรับได้เกือบหมด(แต่มันก็แพงกว่าล่ะนะ)
- ถ้ากล้องที่คุณมี มี Housing เฉพาะรุ่นให้เลือกใช้ เจ้า Seashell นี้จะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าใดนัก (เว้นแต่ว่า Housing ที่ว่านั้น แพงกว่ามากๆ)
ก็ ข้อดีข้อเสียนี้ ก็คิดเอาเองล้วนๆจากการมองสเปคและความสามารถคร่าวๆของเ้จ้า Underwater case housing ตัวนี้น่ะนะครับ
ยังไงผมเองก็เล็งไว้ว่าจะลองซื้อมาใช้เหมือนกัน ถ้าได้มาเมื่อไหร่ จะมารีวิวให้ดูกันจากประสบการณ์จริงอีกทีครับ ^ ^
เกือบลืมบอกราคา เจ้า Seashell นี้ราคาประมาณ 3,750 บาท ครับ ขึ้นกับร้านขายด้วยซึ่งอาจจะเจอแพงกว่านี้
(เห็นว่าตามแหล่งท่องเที่ยวที่เน้นด้านการดำน้ำมีเจ้านี่ขายด้วย เช่นที่เกาะเต่า แต่ไม่รู้ร้านไหนเหมือนกันครับ)
ตอนนี้มีทางเลือกใหม่ๆง่ายๆมาเสนอครับ
กับ Waterproof Housing หรือเคสกันน้ำครอบจักรวาลที่ใช้ได้สำหรับกล้องดิจิตอลหลายร้อยรุ่น!!
เจ้าเคสกันน้ำครอบจักรวาลนี้มีชื่อยี่ห้อว่า Seashell ครับ แบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ Seashell SS-1 กับ Seashell SS-2
โดย SS-1 จะใช้กับกล้องคอมแพคที่มีเลนส์ซูมยื่นออกมาจากตัวกล้อง หรือมีเลนส์รับภาพอยู่กลางเยื้องขวาของตัวกล้อง
ส่วน SS-2 จะใช้กับกล้องคอมแพคที่ไม่มีเลนส์ซูมยื่นออกมาครับ โดยมักจะมีเลนส์รับภาพอยู่ที่ด้านบนขวาของตัวกล้อง
ตามรูปเลยครับ
...
ถ้าไม่แน่ใจ ว่ากล้องตนเองจะใช้กับ SeaShell รุ่นใดได้บ้าง? ให้ดูตามลิสต์นี้ครับ จะบอกไว้ว่า Seashell SS-1 กับ SS-2 นั้น ใช้กับกล้องรุ่นอะไรได้บ้าง http://www.seashell.hk/PublishWebSite/seashell/en/contentPage28733.htm
ซึ่ง SS-1 นั้นใช้ได้กับกล้องดิจิตอลได้ถึง 600 กว่ารุ่น
และ SS-2 นั้นก็ใช้ได้ถึง 200 กว่ารุ่น
ซึ่งในอนาคตแม้จะมีกล้องออกใหม่ๆตามมาก็ตาม ก็คาดว่าเจ้า Seashell นี้แทบจะรองรับได้เกือบหมดครับ!!
สาเหตุที่ทำให้เจ้า Seashell Waterproof case นี้ใช้ได้กับกล้องเยอะแยะไปหมดนั้น สาเหตุก็เพราะ Seashell จะมีบล็อคยางสำหรับการล็อคพื้นที่ขนาดต่างๆให้พอดีกับบอดี้กล้องน่ะครับ
โดยดูหลักการการติดตั้งกล้องกับตัวเฮาส์ซิ่งได้ตามคลิปนี้เลยครับ
จะเห็นว่าวิธีการใช้ก็สะดวกสบายไม่ยากนัก เพราะว่ามีชีทกระดาษให้เอากล้องไปวางทาบขนาดดูด้วยครับ แล้วจะเลือกยางขนาดไหนก็จะมีบอกไว้ให้เอง
และอันนี้คือคลิปผลการใช้งานจริงในทะเลครับ ต้องขอบคุณคุณ davidjray1 ที่อัพโหลดคลิปมาให้ชมกัน ^ ^
จะเห็นว่าคุณภาพเลนส์ไม่ค่อยเสียครับ ใช้ได้ดีทีเดียว (ลองเสิร์ชๆดูคลิปจากกล้องคอมแพคกันน้ำหรือกล้องคอมแพคพร้อมกล่องกันน้ำแบบต่างๆก็ไม่ต่างจากนี้เยอะครับ)
ก็ขอสรุปข้อดีข้อเสียของ Seashell ดังนี้ครับ
1. ข้อดี
- ใช้กับกล้องได้หลากหลายรุ่นมาก ดังนั้น ถ้าคุณอยากได้ภาำพถ่ายใต้น้ำที่ดีขึ้น ก็เพียงซื้อกล้องคอมแพคที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาใส่กับ Seashell อันเดิมได้ ... ซึ่งถ้าเป็น housing เฉพาะรุ่นนั้นก็จะใช้ได้กับกล้องตัวเดิม ถ้าจะเปลี่ยนคุณต้องเปลี่ยนใหม่หมดเลย
- ใช้กับกล้องที่ไม่มี housing เฉพาะรุ่นได้
- เทียบกับกล้องกันน้ำในตัวแล้วมีประสิทธิภาพดีกว่าตรงที่สามารถดำน้ำได้ลึกถึง 40 เมตร ไป scuba diving ได้เลย แต่ถ้ากล้องกันน้ำในตัวทั่วๆไปนั้น กันได้ลึกแค่ 3 เมตรเป็นส่วนใหญ่ครับ
- ราคากลางๆไม่ถูกก็จริง แต่ก็ไม่แพง (เทียบกับ housing ของยี่ห้อกล้อง)
- นำมาใช้เป็น housing ซ้อนสองชั้นกับกล้องกันน้ำอีกทีก็ได้ (กล้องกันน้ำในตัว ผู้ใช้มักพบปัญหาโชคร้ายกล้องเสียกันบ่อยๆ เนื่องจากน้ำดันเข้าได้ซะงั้น)
- หากเทียบกับซองกันน้ำแล้ว จะใช้ได้สะดวกกว่า(จากประสบการณ์การใช้ซองกันน้ำมาแล้ว พบว่ากล้องเลื่อนไปมาในซองกันน้ำได้ ทำให้เลนส์ของตัวกล้องไม่พอดีกับช่องส่องเลนส์ของซองกันน้ำ และซองกันน้ำนำกล้องเข้าออกยากลำบาก
2. ข้อเสีย
- ใช้ได้เฉพาะปุ่มเปิดเครื่อง และปุ่มชัตเตอร์เท่านั้น ดังนั้นถ้าจะต้องปรับอะไรในตัวกล้อง ต้องปรับก่อนเอาลงน้ำ (แปลว่ามักจะใช้ได้กับโหมดออโต้เท่านั้น) จะเลือกถ่ายวิดีโอหรือถ่ายภาพ ก็ต้องเลือกก่อนลงน้ำด้วย ... ซึ่งถ้าเป็น Housing เฉพาะรุ่นจริงๆนั้นจะปรับได้เกือบหมด(แต่มันก็แพงกว่าล่ะนะ)
- ถ้ากล้องที่คุณมี มี Housing เฉพาะรุ่นให้เลือกใช้ เจ้า Seashell นี้จะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าใดนัก (เว้นแต่ว่า Housing ที่ว่านั้น แพงกว่ามากๆ)
ก็ ข้อดีข้อเสียนี้ ก็คิดเอาเองล้วนๆจากการมองสเปคและความสามารถคร่าวๆของเ้จ้า Underwater case housing ตัวนี้น่ะนะครับ
ยังไงผมเองก็เล็งไว้ว่าจะลองซื้อมาใช้เหมือนกัน ถ้าได้มาเมื่อไหร่ จะมารีวิวให้ดูกันจากประสบการณ์จริงอีกทีครับ ^ ^
เกือบลืมบอกราคา เจ้า Seashell นี้ราคาประมาณ 3,750 บาท ครับ ขึ้นกับร้านขายด้วยซึ่งอาจจะเจอแพงกว่านี้
(เห็นว่าตามแหล่งท่องเที่ยวที่เน้นด้านการดำน้ำมีเจ้านี่ขายด้วย เช่นที่เกาะเต่า แต่ไม่รู้ร้านไหนเหมือนกันครับ)
Nikon 1 ทั้ง V1 และ J1 ขายดีเกินคาด!! คนอเมริกันตอบรับ!!
ใครที่ปรามาสเจ้ากล้อง Mirrorless Camera ของ Nikon ไว้ ว่าทำมาน่าจะเจ๊งนั้น
ครั้งนี้คงต้องยอมรับแล้วล่ะครับ ว่าชื่อชั้นของ "ยี่ห้อ" ที่สั่งสมมานาน ทำให้เจ้า Nikon 1 ไม่เจ๊งแถมขายดีอีกต่างหาก!!
เล่นเอา Mirrorless ยี่ห้ออื่นๆเห็นแล้วเซ็งไปตามๆกัน!!
Nikon 1 กล้องดิจิตอล mirrorless ตัวแรกของ Nikon ที่ออกมาพร้อมกัน 2 รุ่นคือ Nikon J1 กับ V1 นั้น
เป็นกล้องที่โดนเหล่าเวบกล้องและนิตยสารกล้องสับเละไปพอประมาณเมื่อหลายๆคนเห็น "ราคา" ของเจ้ากล้องตัวนี้
เนื่องจาก Nikon 1 มีเซนเซอร์ที่เล็กกว่า M4/3 แถมอย่าว่าแต่ M4/3 เลย ในตลาดกล้อง mirrorless เองนั้น ก็มี Sony NEX ที่เซ็นเซอร์และภาพนั้น ระดับเดียวกับกล้อง DSLR อีกต่างหาก
แต่ Nikon 1 นั้น ดันขายกล้องในราคาที่แพงกว่า M4/3 และ Sony NEX มาก!!
ยิ่งเทียบกับ Olympus E-PM1 แล้ว ต้องบอกว่าเจ้า Nikon V1 นั้น แพงกว่าถึง "หมื่นกว่าบาท" เลยทีเดียว!!
แถมรีวิวภาพที่ออกมา ก็ตรงๆกับขนาดของเซนเซอร์ไม่ได้บิดพริ้ว
...
แต่กระนั้น Nikon ก็กล้าที่จะขายกล้องในราคาที่แพงกว่า!! อย่างไม่แคร์สื่อ (จริงๆแค่แพงกว่านิดหน่อยก็น่าเกลียดแล้ว แต่พี่นิคแก เล่นล่อซะครึ่งหมื่นจนถึงหลักหมื่น)
ทำให้หลายๆสื่อ ปรามาสกันอย่างหนักว่า อย่างนี้จะขายได้หรือ?? เพราะจริงๆแล้ว Nikon 1 ควรจะขายถูกกว่าใครเพื่อนมิใช่หรือ?
ทว่า
จากข้อมูลการขายกล้องของ Amazon.com ตอนที่ Nikon V1 และ J1 เปิดตัวนั้น
กลับพบว่า กล้องขายดีเอามากๆ ขายดีกว่า M4/3 ทุกตัว!!
และซ้ำร้ายไปกว่านั้น กลับขายดีกว่า Sony NEX อีกต่างหาก!!
ในเวบ dpreview.com ได้มีข้อมูลออกมาว่า
ชื่อเสียงของ Nikon นั้นส่งผลอย่างมากต่อผู้บริโภค
ตามนี้ครับ http://www.dpreview.com/news/2011/11/18/customersvaluenikon
หลายๆคนซื้อกล้อง Nikon มากกว่า Olympus, Panasonic รวมทั้ง Sony เพราะคำว่า "Nikon"
ซึ่งเป็นเรื่องที่จริงๆก็ไม่น่าแปลกใจมาก สำหรับคนที่ไม่มีความรู้เรื่องกล้องเอาซะเลย หากอยากได้กล้องดีๆสักตัว พวกเค้าก็คงอยากจะเลือกซื้อกล้องภายใต้แบรนด์ Nikon กันทั้งนั้น
บางคนซื้อเพราะคิดว่าที่ Nikon ตั้งราคาแพงกว่าก็เพราะว่าเป็นกล้อง mirrorless ตัวที่ดีที่สุดในตลาดซะงั้น???
แต่ที่น่าแปลกใจจริงๆก็คือ มีแฟนๆ Nikon จำนวนมาก ที่มีความรู้เรื่องกล้อง และก็รู้ว่า Sony NEX นั้นให้ไฟล์ภาพระดับ DSLR ... แต่พวกเค้าก็ยังคงจะเลือก Nikon 1 ที่ขายแพงกว่า
สาเหตุก็เพราะ พวกเค้ามั่นใจในแบรนด์ และรู้สึกว่าในอนาคต Nikon จะสร้างสิ่งตอบรับความต้องการของผู้ใช้กล้องได้ดีกว่ายี่ห้ออื่นๆ ไม่ว่าจะอุปกรณ์เสริมหรือของเล่นต่างๆนาๆ
จากเหตุการณ์นี้ ทำเอากูรูกล้องหน้าแตกไม่รับเย็บกันเป็นแถบๆ(ผมเองก็หน้าแตก แต่โชคดีที่ไม่ใช่กูรูกล้อง 555+)
เพราะสิ่งที่ Nikon มี แต่กูรูกล้องไม่มีก็คือ "ความรู้ด้านธุรกิจและการตลาด" นั่นเอง
เมื่อ Nikon รู้ว่าตั้งราคานี้ก็ขายได้ แล้วทำไม Nikon ต้องขายถูกกว่า ^ ^" (ใครหน้าแตกมั่ง ยกมือ!!)
ครั้งนี้คงต้องยอมรับแล้วล่ะครับ ว่าชื่อชั้นของ "ยี่ห้อ" ที่สั่งสมมานาน ทำให้เจ้า Nikon 1 ไม่เจ๊งแถมขายดีอีกต่างหาก!!
เล่นเอา Mirrorless ยี่ห้ออื่นๆเห็นแล้วเซ็งไปตามๆกัน!!
Nikon 1 กล้องดิจิตอล mirrorless ตัวแรกของ Nikon ที่ออกมาพร้อมกัน 2 รุ่นคือ Nikon J1 กับ V1 นั้น
เป็นกล้องที่โดนเหล่าเวบกล้องและนิตยสารกล้องสับเละไปพอประมาณเมื่อหลายๆคนเห็น "ราคา" ของเจ้ากล้องตัวนี้
เนื่องจาก Nikon 1 มีเซนเซอร์ที่เล็กกว่า M4/3 แถมอย่าว่าแต่ M4/3 เลย ในตลาดกล้อง mirrorless เองนั้น ก็มี Sony NEX ที่เซ็นเซอร์และภาพนั้น ระดับเดียวกับกล้อง DSLR อีกต่างหาก
แต่ Nikon 1 นั้น ดันขายกล้องในราคาที่แพงกว่า M4/3 และ Sony NEX มาก!!
ยิ่งเทียบกับ Olympus E-PM1 แล้ว ต้องบอกว่าเจ้า Nikon V1 นั้น แพงกว่าถึง "หมื่นกว่าบาท" เลยทีเดียว!!
แถมรีวิวภาพที่ออกมา ก็ตรงๆกับขนาดของเซนเซอร์ไม่ได้บิดพริ้ว
...
แต่กระนั้น Nikon ก็กล้าที่จะขายกล้องในราคาที่แพงกว่า!! อย่างไม่แคร์สื่อ (จริงๆแค่แพงกว่านิดหน่อยก็น่าเกลียดแล้ว แต่พี่นิคแก เล่นล่อซะครึ่งหมื่นจนถึงหลักหมื่น)
ทำให้หลายๆสื่อ ปรามาสกันอย่างหนักว่า อย่างนี้จะขายได้หรือ?? เพราะจริงๆแล้ว Nikon 1 ควรจะขายถูกกว่าใครเพื่อนมิใช่หรือ?
ทว่า
จากข้อมูลการขายกล้องของ Amazon.com ตอนที่ Nikon V1 และ J1 เปิดตัวนั้น
กลับพบว่า กล้องขายดีเอามากๆ ขายดีกว่า M4/3 ทุกตัว!!
และซ้ำร้ายไปกว่านั้น กลับขายดีกว่า Sony NEX อีกต่างหาก!!
ในเวบ dpreview.com ได้มีข้อมูลออกมาว่า
ชื่อเสียงของ Nikon นั้นส่งผลอย่างมากต่อผู้บริโภค
ตามนี้ครับ http://www.dpreview.com/news/2011/11/18/customersvaluenikon
หลายๆคนซื้อกล้อง Nikon มากกว่า Olympus, Panasonic รวมทั้ง Sony เพราะคำว่า "Nikon"
ซึ่งเป็นเรื่องที่จริงๆก็ไม่น่าแปลกใจมาก สำหรับคนที่ไม่มีความรู้เรื่องกล้องเอาซะเลย หากอยากได้กล้องดีๆสักตัว พวกเค้าก็คงอยากจะเลือกซื้อกล้องภายใต้แบรนด์ Nikon กันทั้งนั้น
บางคนซื้อเพราะคิดว่าที่ Nikon ตั้งราคาแพงกว่าก็เพราะว่าเป็นกล้อง mirrorless ตัวที่ดีที่สุดในตลาดซะงั้น???
แต่ที่น่าแปลกใจจริงๆก็คือ มีแฟนๆ Nikon จำนวนมาก ที่มีความรู้เรื่องกล้อง และก็รู้ว่า Sony NEX นั้นให้ไฟล์ภาพระดับ DSLR ... แต่พวกเค้าก็ยังคงจะเลือก Nikon 1 ที่ขายแพงกว่า
สาเหตุก็เพราะ พวกเค้ามั่นใจในแบรนด์ และรู้สึกว่าในอนาคต Nikon จะสร้างสิ่งตอบรับความต้องการของผู้ใช้กล้องได้ดีกว่ายี่ห้ออื่นๆ ไม่ว่าจะอุปกรณ์เสริมหรือของเล่นต่างๆนาๆ
จากเหตุการณ์นี้ ทำเอากูรูกล้องหน้าแตกไม่รับเย็บกันเป็นแถบๆ(ผมเองก็หน้าแตก แต่โชคดีที่ไม่ใช่กูรูกล้อง 555+)
เพราะสิ่งที่ Nikon มี แต่กูรูกล้องไม่มีก็คือ "ความรู้ด้านธุรกิจและการตลาด" นั่นเอง
เมื่อ Nikon รู้ว่าตั้งราคานี้ก็ขายได้ แล้วทำไม Nikon ต้องขายถูกกว่า ^ ^" (ใครหน้าแตกมั่ง ยกมือ!!)
รีวิวคร่าวๆ Ark Bar Beach Resort เกาะสมุย หาดเฉวงครับ - Koh Samui, Chaweng Beach
หาดพูดถึงทำเลย่านหาดเฉวงที่เกาะสมุยแล้ว ก็มักจะรู้กันว่าที่พักมีมากมาย แต่ที่พักที่ติดหาดนั้น ราคามักจะแรง~~ กันทั้งนั้น ^ ^"
ถ้าอยากได้โรงแรมรีสอร์ทถูกๆที่หาดเฉวง คงต้องเปลี่ยนไปใช้บริการเกสท์เฮ้าส์ หรือโรงแรมขนาดย่อมๆที่อยู่ไม่ติดหาดมากกว่า
แต่สำหรับรีสอร์ทที่จะแนะนำนี้ จัดว่าถูกพอได้ แล้วก็อยู่ติดกับหาดเฉวงอีกด้วยครับ ^ ^ (คือไม่ได้ถูกมากหรอกครับ แต่ถ้าเทียบกับรีสอร์ทติดหาดเฉวงเหมือนกัน ที่นี่ก็คุ้มดี)
รีสอร์ทที่ว่านี้ก็คือ Ark Bar Beach Resort Koh Samui - อาร์คบาร์บีชรีสอร์ท เกาะสมุย ... นั่นเองครับ
ที่ Ark Bar Beach Resort นี้จะเป็นรีสอร์ทที่เป็นร้านอาหารติดชายหาดด้วยน่ะครับ มีสระ่ว่ายน้ำที่หน้าชายหาดอีกโซนนึงด้วย ดูโอเคดี
ในส่วนของห้องพักก็ดูแยกออกมาจากโซนร้านอาหาร ดูเป็นส่วนตัวดีเหมือนกัน
พอดีไปเห็นคลิปวิดีโอรีวิวของที่นี่ เห็นว่าดูสะอาดร่มรื่น อยู่ใกล้หาด แล้วราคาไม่แรงนัก ก็เลยขอนำมาให้ดูด้วยกันเลยครับ
Credit : tahoenerd
ต้นคลิปจนถึงนาทีที่ 0.20 น่าจะเป็นโซนห้อง superior ครับ(ไม่แน่ใจนะครับ แต่เทียบกับรูปในเวบ Ark Bar Beach Resort แล้วเหมือนอยู่เหมือนกัน) จากนั้นส่วนถัดมาก่อนถึงร้านอาหาร ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า Deluxe หรือว่า Suite แต่เดาว่า Deluxe เพราะ Suite น่าจะอยู่ติดๆกับสระว่ายน้ำมากกว่าน่ะครับ
แล้วก็จะเห็นว่าอยู่ติดหาดสวยๆอย่างเฉวงเลยครับ ในช่วงท้ายๆคลิป ซึ่งดูแล้วน่าจะเริ่มตกเย็นแล้วก็เมฆเยอะ น้ำถึงได้ขึ้นมาสูง(ปกติหาดเฉวงจะกว้างกว่านี้) แล้วก็สีท้องฟ้าไม่ค่อยฟ้ามาก ดูหม่นๆ ไม่งั้นก็คงจะได้เ็ห็นวิวชายหาดสีฟ้าใสที่สวยกว่านี้อีกครับ
...
ก็คิดว่ารีสอร์ทแห่งนี้น่าจะพอเป็นทางเลือกที่ดีของคนที่มองหาที่พักที่หาดเฉวงได้ครับ (อ้อ ลืมบอกราคาเลย อยู่ที่พันปลายๆต่อคืนครับ)
ถ้าอยากได้โรงแรมรีสอร์ทถูกๆที่หาดเฉวง คงต้องเปลี่ยนไปใช้บริการเกสท์เฮ้าส์ หรือโรงแรมขนาดย่อมๆที่อยู่ไม่ติดหาดมากกว่า
แต่สำหรับรีสอร์ทที่จะแนะนำนี้ จัดว่าถูกพอได้ แล้วก็อยู่ติดกับหาดเฉวงอีกด้วยครับ ^ ^ (คือไม่ได้ถูกมากหรอกครับ แต่ถ้าเทียบกับรีสอร์ทติดหาดเฉวงเหมือนกัน ที่นี่ก็คุ้มดี)
รีสอร์ทที่ว่านี้ก็คือ Ark Bar Beach Resort Koh Samui - อาร์คบาร์บีชรีสอร์ท เกาะสมุย ... นั่นเองครับ
ที่ Ark Bar Beach Resort นี้จะเป็นรีสอร์ทที่เป็นร้านอาหารติดชายหาดด้วยน่ะครับ มีสระ่ว่ายน้ำที่หน้าชายหาดอีกโซนนึงด้วย ดูโอเคดี
ในส่วนของห้องพักก็ดูแยกออกมาจากโซนร้านอาหาร ดูเป็นส่วนตัวดีเหมือนกัน
พอดีไปเห็นคลิปวิดีโอรีวิวของที่นี่ เห็นว่าดูสะอาดร่มรื่น อยู่ใกล้หาด แล้วราคาไม่แรงนัก ก็เลยขอนำมาให้ดูด้วยกันเลยครับ
Credit : tahoenerd
ต้นคลิปจนถึงนาทีที่ 0.20 น่าจะเป็นโซนห้อง superior ครับ(ไม่แน่ใจนะครับ แต่เทียบกับรูปในเวบ Ark Bar Beach Resort แล้วเหมือนอยู่เหมือนกัน) จากนั้นส่วนถัดมาก่อนถึงร้านอาหาร ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า Deluxe หรือว่า Suite แต่เดาว่า Deluxe เพราะ Suite น่าจะอยู่ติดๆกับสระว่ายน้ำมากกว่าน่ะครับ
แล้วก็จะเห็นว่าอยู่ติดหาดสวยๆอย่างเฉวงเลยครับ ในช่วงท้ายๆคลิป ซึ่งดูแล้วน่าจะเริ่มตกเย็นแล้วก็เมฆเยอะ น้ำถึงได้ขึ้นมาสูง(ปกติหาดเฉวงจะกว้างกว่านี้) แล้วก็สีท้องฟ้าไม่ค่อยฟ้ามาก ดูหม่นๆ ไม่งั้นก็คงจะได้เ็ห็นวิวชายหาดสีฟ้าใสที่สวยกว่านี้อีกครับ
...
ก็คิดว่ารีสอร์ทแห่งนี้น่าจะพอเป็นทางเลือกที่ดีของคนที่มองหาที่พักที่หาดเฉวงได้ครับ (อ้อ ลืมบอกราคาเลย อยู่ที่พันปลายๆต่อคืนครับ)
ผู้หญิงรักผู้ชายเลว ชอบคนเลว ... จริงหรือ??
มักมีคำกล่าวจากหนุ่มๆแสนดีทั้งหลายกันว่า "ผู้หญิงรักผู้ชายเลว" หรือ "ผู้หญิงชอบคนเลว"
บ้างก็แต่งเป็นคำพูดยาวเชียวว่า "ผู้หญิงรักคนเลว ชอบคนดี แต่งงานกับคนรวย" ... แต่ต่อให้ไปแต่งงานกับคนรวยก็เหอะ สุดท้ายก็บ่งบอกออกมากันมาก ว่าจิตใจลึกๆของผู้หญิงนั้นมักจะรักคนเลว
ในทัศนคติส่วนตัวแล้ว ไม่คิดเช่นนั้นครับ ผู้หญิงไม่ได้รักคนเลวหรอกครับ
ส่วนตัวกลับมองว่า เรายกย่องเพศหญิงเกินไปหรือเปล่า??? ว่าเพศหญิงทุกคนต้องเป็นเพศที่แสนดี แสนหวาน อ่อนช้อย ละเมียดละไม น่ารัก น่าทะนุทะนอม???
จึงทำให้เรามองว่า "ผู้หญิงรักผู้ชายเลว" เป็นเรื่องที่แปลกแต่จริง???
...
จริงๆผู้หญิงก็ "คน" นี่แหละครับ
หากมองว่าวิญญาณไม่มีเพศ ผู้หญิงคนหนึ่งก็มีแค่จิตใจของมนุษย์คนหนึ่งที่อยู่ในร่างเพศหญิงเท่านั้นเอง
แล้วคุณเห็นด้วยไหม? ว่ามนุษย์เราหลายๆคน ยึดมั่นในด้านวัตถุมากกว่าจิตใจ
ดังนั้นไม่ว่าชายหรือหญิงก็ตามแต่ ส่วนใหญ่ก็ชอบคนที่รูปร่างหน้าตา ปากดี คารมณ์เป็นต่อ เป็นส่วนใหญ่กันทั้งนั้น
คุณจะเห็นกันบ่อย ว่าผู้ชายคนหนึ่งเจ้าชู้แท้ๆ แต่ผู้หญิงก็เผลอไปติด ไปชอบไปหลง ... จนผู้ชายดีๆพากันเซ็ง ว่าตัวเองเป็นคนดี ไม่เจ้าชู้ ไม่เล่นการพนัน แต่ผู้หญิงไม่ชอบ ทำไมกันหนอ?
จริงๆแล้วผู้หญิงไม่ได้ชอบคนเจ้าชู้หรือคนเลวหรอกครับ แต่ชอบวัตถุที่มองเห็นจับต้องได้ของคนเจ้าชู้นั่นเอง ... ชอบผู้ชายปากดี อารมณ์ขัน มุขเยอะ หล่อหน่อย เท่นิด เถื่อนๆดิบๆบ้าง ก็ถือว่าโอเคดี ... นี่คือภาพลักษณ์ภายนอกที่ผู้หญิงชอบนั่นเอง เรื่องอื่น ไม่มอง ไม่คิด เพราะข้อดีที่ตอบสนองความต้องการได้มีครบแล้ว อนาคตจะไปโดนผู้ชายตบตีทำร้าย ก็ไม่ใส่ใจ เสมือนกับว่าตัวเองเป็นนางเอกจำเลยรักก็ไม่ปาน
ก็เหมือนกับผู้ชายล่ะครับ ชอบผู้หญิงสวย น่ารัก ... โดยไม่ได้สนเล้ย ว่าผู้หญิงคนนั้นนิสัยดีเหมือนนางเอก หรือประมาณหนึ่งว่านางอิจฉากันแน่?
ดังนั้น ถ้าคุณยังสงสัยว่า ทำไมผู้หญิงชอบผู้ชายเลวๆ
ก็ขอให้คิดเปรียบเทียบดูกับเพศชายครับ
ว่ามีผู้ชาย ชอบผู้หญิงสวย น่ารัก แต่โง่ ขี้วีน ขี้งอน ไร้เหตุผล นุ่งสั้น แต่งตัวโชว์สัดส่วน ไม่รักนวลสงวนตัว ... มากแค่ไหน?????!!
ก็มีผู้หญิง ชอบผู้ชายหล่อๆ คารมณ์ดี ตัวสูง มีซิกแพค แต่เถื่อนๆ งานการไม่มี กินเหล้า มุขเยอะ เฮฮาเคล้านารีไปวันๆ ... มากเท่านั้น!!!!
ดังนั้น ก็ขอบอกหนุ่มๆไว้เลยว่า
หากจะมามัวคิดว่า "ทำไมผู้หญิงจึงชอบคนเลว" ก็ให้มองเพศชายเหมือนกันนี่แหละครับ ชอบผู้หญิงเลวๆเหมือนกันนั่นล่ะ 555+ ^ ^"
ดังนั้น ถ้าคุณมั่นใจว่าตัวเองดี แต่ผู้หญิงเลือกคนเลว ก็ให้บอกตัวเองไว้เลยว่า นั่นแหละ คือคนที่แพ้กิเลส หลงและยึดติดกับวัตถุ ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของมนุษย์ทุกคน ไม่ใช่เฉพาะผู้หญิงหรอกครับ
...
...
...
หากเทียบกันต่อว่า แล้วผู้หญิงดีๆล่ะ? มีเท่าไหร่
ก็ขอบอกว่า ผู้หญิงดีๆ ชอบผู้ชายดีๆ นิสัยดี จริงๆนั้น
ก็มีเท่าๆกับผู้ชายที่ชอบผู้หญิงที่นิสัยใจคอ ไม่ใช่หน้าตา นั่นล่ะครับ ^ ^
หายากหรือไม่? ก็คิดเอาเองจ้า~~ ^ ^
สรุป
ผู้หญิงไม่ได้ชอบคนเลว รักคนเลว
แต่มนุษย์ส่วนใหญ่ชอบแบบนั้นต่างหากล่ะครับ ทั้งชายและหญิง
ปล. แค่ความเห็นส่วนตัวที่อยากจะเมาธ์ครับ ^ ^"
บ้างก็แต่งเป็นคำพูดยาวเชียวว่า "ผู้หญิงรักคนเลว ชอบคนดี แต่งงานกับคนรวย" ... แต่ต่อให้ไปแต่งงานกับคนรวยก็เหอะ สุดท้ายก็บ่งบอกออกมากันมาก ว่าจิตใจลึกๆของผู้หญิงนั้นมักจะรักคนเลว
ในทัศนคติส่วนตัวแล้ว ไม่คิดเช่นนั้นครับ ผู้หญิงไม่ได้รักคนเลวหรอกครับ
ส่วนตัวกลับมองว่า เรายกย่องเพศหญิงเกินไปหรือเปล่า??? ว่าเพศหญิงทุกคนต้องเป็นเพศที่แสนดี แสนหวาน อ่อนช้อย ละเมียดละไม น่ารัก น่าทะนุทะนอม???
จึงทำให้เรามองว่า "ผู้หญิงรักผู้ชายเลว" เป็นเรื่องที่แปลกแต่จริง???
...
จริงๆผู้หญิงก็ "คน" นี่แหละครับ
หากมองว่าวิญญาณไม่มีเพศ ผู้หญิงคนหนึ่งก็มีแค่จิตใจของมนุษย์คนหนึ่งที่อยู่ในร่างเพศหญิงเท่านั้นเอง
แล้วคุณเห็นด้วยไหม? ว่ามนุษย์เราหลายๆคน ยึดมั่นในด้านวัตถุมากกว่าจิตใจ
ดังนั้นไม่ว่าชายหรือหญิงก็ตามแต่ ส่วนใหญ่ก็ชอบคนที่รูปร่างหน้าตา ปากดี คารมณ์เป็นต่อ เป็นส่วนใหญ่กันทั้งนั้น
คุณจะเห็นกันบ่อย ว่าผู้ชายคนหนึ่งเจ้าชู้แท้ๆ แต่ผู้หญิงก็เผลอไปติด ไปชอบไปหลง ... จนผู้ชายดีๆพากันเซ็ง ว่าตัวเองเป็นคนดี ไม่เจ้าชู้ ไม่เล่นการพนัน แต่ผู้หญิงไม่ชอบ ทำไมกันหนอ?
จริงๆแล้วผู้หญิงไม่ได้ชอบคนเจ้าชู้หรือคนเลวหรอกครับ แต่ชอบวัตถุที่มองเห็นจับต้องได้ของคนเจ้าชู้นั่นเอง ... ชอบผู้ชายปากดี อารมณ์ขัน มุขเยอะ หล่อหน่อย เท่นิด เถื่อนๆดิบๆบ้าง ก็ถือว่าโอเคดี ... นี่คือภาพลักษณ์ภายนอกที่ผู้หญิงชอบนั่นเอง เรื่องอื่น ไม่มอง ไม่คิด เพราะข้อดีที่ตอบสนองความต้องการได้มีครบแล้ว อนาคตจะไปโดนผู้ชายตบตีทำร้าย ก็ไม่ใส่ใจ เสมือนกับว่าตัวเองเป็นนางเอกจำเลยรักก็ไม่ปาน
ก็เหมือนกับผู้ชายล่ะครับ ชอบผู้หญิงสวย น่ารัก ... โดยไม่ได้สนเล้ย ว่าผู้หญิงคนนั้นนิสัยดีเหมือนนางเอก หรือประมาณหนึ่งว่านางอิจฉากันแน่?
ดังนั้น ถ้าคุณยังสงสัยว่า ทำไมผู้หญิงชอบผู้ชายเลวๆ
ก็ขอให้คิดเปรียบเทียบดูกับเพศชายครับ
ว่ามีผู้ชาย ชอบผู้หญิงสวย น่ารัก แต่โง่ ขี้วีน ขี้งอน ไร้เหตุผล นุ่งสั้น แต่งตัวโชว์สัดส่วน ไม่รักนวลสงวนตัว ... มากแค่ไหน?????!!
ก็มีผู้หญิง ชอบผู้ชายหล่อๆ คารมณ์ดี ตัวสูง มีซิกแพค แต่เถื่อนๆ งานการไม่มี กินเหล้า มุขเยอะ เฮฮาเคล้านารีไปวันๆ ... มากเท่านั้น!!!!
ดังนั้น ก็ขอบอกหนุ่มๆไว้เลยว่า
หากจะมามัวคิดว่า "ทำไมผู้หญิงจึงชอบคนเลว" ก็ให้มองเพศชายเหมือนกันนี่แหละครับ ชอบผู้หญิงเลวๆเหมือนกันนั่นล่ะ 555+ ^ ^"
ดังนั้น ถ้าคุณมั่นใจว่าตัวเองดี แต่ผู้หญิงเลือกคนเลว ก็ให้บอกตัวเองไว้เลยว่า นั่นแหละ คือคนที่แพ้กิเลส หลงและยึดติดกับวัตถุ ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของมนุษย์ทุกคน ไม่ใช่เฉพาะผู้หญิงหรอกครับ
...
...
...
หากเทียบกันต่อว่า แล้วผู้หญิงดีๆล่ะ? มีเท่าไหร่
ก็ขอบอกว่า ผู้หญิงดีๆ ชอบผู้ชายดีๆ นิสัยดี จริงๆนั้น
ก็มีเท่าๆกับผู้ชายที่ชอบผู้หญิงที่นิสัยใจคอ ไม่ใช่หน้าตา นั่นล่ะครับ ^ ^
หายากหรือไม่? ก็คิดเอาเองจ้า~~ ^ ^
สรุป
ผู้หญิงไม่ได้ชอบคนเลว รักคนเลว
แต่มนุษย์ส่วนใหญ่ชอบแบบนั้นต่างหากล่ะครับ ทั้งชายและหญิง
ปล. แค่ความเห็นส่วนตัวที่อยากจะเมาธ์ครับ ^ ^"
Brave ตัวอย่างหนังอนิเมชั่น จากผู้สร้างนีโม่, วอลอี และอัพ!! - Trailer ทีเซอร์
Brave เป็นภาพยนตร์การ์ตูนอนิเมชั่นเรื่องใหม่ของ DisneyPixar ที่เตรียมตัวเป็นอนิเมชั่นเรื่องเยี่ยมแห่งปี 2012
เพราะการัณตีมาด้วยทีมผู้สร้าง Finding Nemo, Wall E และ UP ปู่ซ่าบ้าพลัง ... ซึ่งแต่ละเรื่องนั้น นอกจากในฐานะอนิเมแล้ว ในฐานะภาพยนตร์เองก็ถือเป็นหนังชั้นอ๋องที่เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่
คราวนี้ กับหนังเรื่อง Brave - เบรฟ ... มาในธีมที่หลายๆคนไม่นึกถึงแน่ๆว่าจะมีธีมแบบนี้เป็นการ์ตูนอนิเมกับเค้าด้วย
กับแบคกราวน์แบบการรบกันในสมัยก่อนของพวกฝาหรั่งเค้าล่ะ มีปราสาท มีเหล่าทัพทหาร ต่อสู้ๆ ฟันๆ ธนูๆ ซึ่งปกติจะไม่ค่อยเห็นสไตล์นี้ในการ์ตูนอนิเมฯเท่าไหร่
เนื้อเรื่องครั้งนี้ ตัวเอกเป็น Heroine ที่เป็นเจ้าหญิงที่ต้องการตามความฝันและเส้นทางชีวิตของตัวเอง ซึ่งมันเป็นที่มาของการเกิดเรื่องยุ่งๆของอาณาจักรของตนเอง เพื่อแก้การณ์นั้น เจ้าหญิงทั้งใช้ความกล้าหาญ (Brave) เข้าต่อสู้ ... ครั้งนี้เราจะได้เห็นตัวเอกเป็นผู้หญิง ที่เก่งธนูกันครับ ^ ^
อันนี้ก็เป็นตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Brave ครับ Trailer & Teaser ลองชมกันเลยครับ
สำหรับวันเวลาเข้าฉาย ก็โน่นเลยครับ กลางปี 2555 / 2012 ช่วงเดือนมิถุนายนครับ ^ ^"
นานเหมือนกัน ... แต่ถ้าเปิดตัวนานแบบนี้ คาดว่าทาง Disney Pixar กะดันเป็นหนังทำเงินแน่ๆ
ใครชอบการ์ตูนอนิเมชั่นจากผลงานเก่าๆที่ดังมาแล้วของค่ายนี้ เตรียมตัวรอชมกันได้ครับ ^ ^
เพราะการัณตีมาด้วยทีมผู้สร้าง Finding Nemo, Wall E และ UP ปู่ซ่าบ้าพลัง ... ซึ่งแต่ละเรื่องนั้น นอกจากในฐานะอนิเมแล้ว ในฐานะภาพยนตร์เองก็ถือเป็นหนังชั้นอ๋องที่เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่
คราวนี้ กับหนังเรื่อง Brave - เบรฟ ... มาในธีมที่หลายๆคนไม่นึกถึงแน่ๆว่าจะมีธีมแบบนี้เป็นการ์ตูนอนิเมกับเค้าด้วย
กับแบคกราวน์แบบการรบกันในสมัยก่อนของพวกฝาหรั่งเค้าล่ะ มีปราสาท มีเหล่าทัพทหาร ต่อสู้ๆ ฟันๆ ธนูๆ ซึ่งปกติจะไม่ค่อยเห็นสไตล์นี้ในการ์ตูนอนิเมฯเท่าไหร่
เนื้อเรื่องครั้งนี้ ตัวเอกเป็น Heroine ที่เป็นเจ้าหญิงที่ต้องการตามความฝันและเส้นทางชีวิตของตัวเอง ซึ่งมันเป็นที่มาของการเกิดเรื่องยุ่งๆของอาณาจักรของตนเอง เพื่อแก้การณ์นั้น เจ้าหญิงทั้งใช้ความกล้าหาญ (Brave) เข้าต่อสู้ ... ครั้งนี้เราจะได้เห็นตัวเอกเป็นผู้หญิง ที่เก่งธนูกันครับ ^ ^
อันนี้ก็เป็นตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Brave ครับ Trailer & Teaser ลองชมกันเลยครับ
สำหรับวันเวลาเข้าฉาย ก็โน่นเลยครับ กลางปี 2555 / 2012 ช่วงเดือนมิถุนายนครับ ^ ^"
นานเหมือนกัน ... แต่ถ้าเปิดตัวนานแบบนี้ คาดว่าทาง Disney Pixar กะดันเป็นหนังทำเงินแน่ๆ
ใครชอบการ์ตูนอนิเมชั่นจากผลงานเก่าๆที่ดังมาแล้วของค่ายนี้ เตรียมตัวรอชมกันได้ครับ ^ ^
แถลงข่าวน้ำท่วมที่ดีที่สุด เพื่อแฟนๆของเหล่า อุลตร้าแมน!! - เลื่อนงาน Ultraman Live 2011
แถลงการณ์อุลตร้าแมน!! จากดาวอุลตร้า!!
เพื่อเด็กๆและแฟนๆอุลตร้าแมนโดยเฉพาะ!!
...
ฟังกันเลยจ้า ^ ^
จริงๆจุดประสงค์หลักของการจัดทำแถลงการณ์อุลตร้าแมนในครั้งนี้ ก็คงเพื่อเป็นอีกช่องทางฮาๆ เพื่อแจ้งข่าวการเลื่อนงาน Ultraman Live 2011 นั่นเองครับ
แต่ในด้านหนึ่ง มันก็เป็นสิ่งคลายเครียดเล็กๆ สนุกๆสำหรับเหล่าเด็กๆที่เผชิญปัญหาน้ำท่วมเป็นอย่างดี ^ ^
^ ^ ... เจ๋งดีครับ งานนี้ Dex ทำได้เจ๋งไปเลย~~
เพื่อเด็กๆและแฟนๆอุลตร้าแมนโดยเฉพาะ!!
...
ฟังกันเลยจ้า ^ ^
จริงๆจุดประสงค์หลักของการจัดทำแถลงการณ์อุลตร้าแมนในครั้งนี้ ก็คงเพื่อเป็นอีกช่องทางฮาๆ เพื่อแจ้งข่าวการเลื่อนงาน Ultraman Live 2011 นั่นเองครับ
แต่ในด้านหนึ่ง มันก็เป็นสิ่งคลายเครียดเล็กๆ สนุกๆสำหรับเหล่าเด็กๆที่เผชิญปัญหาน้ำท่วมเป็นอย่างดี ^ ^
^ ^ ... เจ๋งดีครับ งานนี้ Dex ทำได้เจ๋งไปเลย~~
มาชมกัน ^ ^ Tim Boutique Hotel โรงแรมใหม่ ที่พัทยาครับ - Pattaya
Tim Boutique Hotel Pattaya เป็นโรงแรมรีสอร์ทเปิดใหม่ที่พัทยาที่อยากนำมาฝากกันครับ
ที่ Tim Boutique Hotel นี้เพิ่งเปิดปี 2011 นี้เองด้วยครับ ก็จัดว่าเป็นโรงแรมที่ใหม่มากๆน่าลองอีกแห่งหนึ่ง สำหรับคนชอบลองของใหม่น่ะครับ ^ ^
สำหรับทำเลที่ตั้งของ Tim Boutique Hotel จัดว่าโอเคดีทีเดียวครับ เพราะอยู่โซนๆพัทยาสายสองครับ ทำให้ไม่ห่างจากชายหาดมากนัก พูดง่ายๆคืออยู่ห่างจากหาดแค่ประมาณ 200 กว่าเมตร ทำให้เดินไปชายหาดพัทยาได้ไม่ยาก ... แต่หากมาพัทยา แต่ไม่ได้เน้นเรื่องชายหาดพัทยามากนัก (เช่น สนทะเลเกาะล้านมากกว่า หรือสนแสงสีมากกว่า) ก็ต้องบอกว่าทำเลตรงนั้นถือเป็นใจกลางย่านพัทยาอีกแห่งหนึ่ง รถรามากมาย เดินทางสะดวกครับ ^ ^ (สะดวกแบบรถติดหน่อยนะ เย็นๆย่านนี้รถเพียบเลย)
ลองชมรูปบางส่วนของ Tim Boutique Hotel กันดูครับ
ห้องพักสวยงามเข้าท่ามากๆครับ บางมุึมห้องก็เป็นกระจกเต็มๆ เห็นวิวเมืองพัทยาได้สบายๆ ห้องสูงๆก็น่าจะเห็นทะเลได้ง่ายด้วยเพราะห่างจากชายหาดไม่มากนักครับ
ห้องน้ำสำหรับห้องแพงๆหน่อยของโรงแรมจะเป็นแบบนี้ครับ มีอ่างจากุซซี่ให้ด้วย ^ ^
มีสระว่ายน้ำด้วยล่ะครับ น่าจะเป็นโซนดาดฟ้าของทางโรงแรมน่ะครับ
หากเดินไปทางหน้าหาด ถึงถนนติดหน้าหาดแล้วเลี้ยวซ้าย ก็ถือว่าไม่ไกลจาก Central Festival ด้วยนะครับ
ถ้าสนใจ Tim Boutique Hotel แห่งนี้ก็ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เวบไซต์ http://www.timboutiquehotel.com ได้เลยครับ ^ ^
ที่ Tim Boutique Hotel นี้เพิ่งเปิดปี 2011 นี้เองด้วยครับ ก็จัดว่าเป็นโรงแรมที่ใหม่มากๆน่าลองอีกแห่งหนึ่ง สำหรับคนชอบลองของใหม่น่ะครับ ^ ^
สำหรับทำเลที่ตั้งของ Tim Boutique Hotel จัดว่าโอเคดีทีเดียวครับ เพราะอยู่โซนๆพัทยาสายสองครับ ทำให้ไม่ห่างจากชายหาดมากนัก พูดง่ายๆคืออยู่ห่างจากหาดแค่ประมาณ 200 กว่าเมตร ทำให้เดินไปชายหาดพัทยาได้ไม่ยาก ... แต่หากมาพัทยา แต่ไม่ได้เน้นเรื่องชายหาดพัทยามากนัก (เช่น สนทะเลเกาะล้านมากกว่า หรือสนแสงสีมากกว่า) ก็ต้องบอกว่าทำเลตรงนั้นถือเป็นใจกลางย่านพัทยาอีกแห่งหนึ่ง รถรามากมาย เดินทางสะดวกครับ ^ ^ (สะดวกแบบรถติดหน่อยนะ เย็นๆย่านนี้รถเพียบเลย)
ลองชมรูปบางส่วนของ Tim Boutique Hotel กันดูครับ
ห้องพักสวยงามเข้าท่ามากๆครับ บางมุึมห้องก็เป็นกระจกเต็มๆ เห็นวิวเมืองพัทยาได้สบายๆ ห้องสูงๆก็น่าจะเห็นทะเลได้ง่ายด้วยเพราะห่างจากชายหาดไม่มากนักครับ
ห้องน้ำสำหรับห้องแพงๆหน่อยของโรงแรมจะเป็นแบบนี้ครับ มีอ่างจากุซซี่ให้ด้วย ^ ^
มีสระว่ายน้ำด้วยล่ะครับ น่าจะเป็นโซนดาดฟ้าของทางโรงแรมน่ะครับ
หากเดินไปทางหน้าหาด ถึงถนนติดหน้าหาดแล้วเลี้ยวซ้าย ก็ถือว่าไม่ไกลจาก Central Festival ด้วยนะครับ
ถ้าสนใจ Tim Boutique Hotel แห่งนี้ก็ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เวบไซต์ http://www.timboutiquehotel.com ได้เลยครับ ^ ^
Hunter x Hunter เลโอลีโอ กลับมาซะที!! ในตอน 325 ครับ ^ ^
ไม่รู้จะเป็นเรื่องน่ายินดี สำหรับแฟนๆการ์ตูน Hunter x Hunter หรือเปล่า?
แต่ที่แน่ๆ หลายๆคนเก็งกันถูกน่าดูชมครับ ว่าเลโอลีโอ โผล่มาแน่ๆ ใน HxH ภาคต่อจากภาคมด เพราะเลโอลีโออยากเป็นหมอ มาครั้งนี้เลโอลีโออาจจะมีความสามารถในการรักษากอร์นก็ได้ ใครจะไปรู้ ^ ^
ก็สรุปว่า HxH ในตอน 325 นี้
เลโอลีโอ กลับมาจริงครับ ^ ^
แต่เนื้อเรื่องเป็นอย่างไร ไม่ขอสปอยล์มากไปกว่านี้แล้วกันจ้า~~ ให้ชมภาพตัวอย่างเล็กๆน้อยๆเป็นน้ำจิ้มก็แล้วกัน (ให้ดูำพอให้รู้ว่ากลับมาแน่ แต่ไม่ขอแจงเนื้อเรื่องจ้า~~)
...
ก็รอลุ้นกันเอาเองนะครับ ว่าเลโอลีโอ จะมีบทบาทอย่างไร หลังจากหายหน้าไปหลายตอนมากๆ (ถ้านับเวลาจริงก็หายหน้าไปเกือบ 10 ปีได้เลยเชียว 555+ ทั้งๆที่ตอนแรกโดนจัดเป็น 1 ใน 4 ตัวละครหลักนะเนี่ย ^ ^")
เพียงแต่ ตอนนี้เรื่อง HxH จะได้มาลงบูมเมื่อไหร่นั้น ยังไม่ทราบเลยครับ -*-
แต่ก็โทษทางบูมไม่ได้อยู่ดี เพราะว่าเรื่อง HxH หายไปนานมากๆ ก็ต้องหาเรื่องอื่นมาลงแทนที่ ถ้าเรื่องอื่นที่ว่านี้ ยังไม่จบ ... ทางบูมก็คงไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ก็ได้แต่คอยครับ ^ ^"
แต่ที่แน่ๆ หลายๆคนเก็งกันถูกน่าดูชมครับ ว่าเลโอลีโอ โผล่มาแน่ๆ ใน HxH ภาคต่อจากภาคมด เพราะเลโอลีโออยากเป็นหมอ มาครั้งนี้เลโอลีโออาจจะมีความสามารถในการรักษากอร์นก็ได้ ใครจะไปรู้ ^ ^
ก็สรุปว่า HxH ในตอน 325 นี้
เลโอลีโอ กลับมาจริงครับ ^ ^
แต่เนื้อเรื่องเป็นอย่างไร ไม่ขอสปอยล์มากไปกว่านี้แล้วกันจ้า~~ ให้ชมภาพตัวอย่างเล็กๆน้อยๆเป็นน้ำจิ้มก็แล้วกัน (ให้ดูำพอให้รู้ว่ากลับมาแน่ แต่ไม่ขอแจงเนื้อเรื่องจ้า~~)
...
ก็รอลุ้นกันเอาเองนะครับ ว่าเลโอลีโอ จะมีบทบาทอย่างไร หลังจากหายหน้าไปหลายตอนมากๆ (ถ้านับเวลาจริงก็หายหน้าไปเกือบ 10 ปีได้เลยเชียว 555+ ทั้งๆที่ตอนแรกโดนจัดเป็น 1 ใน 4 ตัวละครหลักนะเนี่ย ^ ^")
เพียงแต่ ตอนนี้เรื่อง HxH จะได้มาลงบูมเมื่อไหร่นั้น ยังไม่ทราบเลยครับ -*-
แต่ก็โทษทางบูมไม่ได้อยู่ดี เพราะว่าเรื่อง HxH หายไปนานมากๆ ก็ต้องหาเรื่องอื่นมาลงแทนที่ ถ้าเรื่องอื่นที่ว่านี้ ยังไม่จบ ... ทางบูมก็คงไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ก็ได้แต่คอยครับ ^ ^"
Fuji LX10 กล้อง Mirrorless เปลี่ยนเลนส์ได้ของ Fujifilm แน่หรือไม่?
Fuji LX เป็นชื่อที่เริ่มเก็งกันว่า นี่คือชื่อของเจ้ากล้อง Mirrorless Interchangeable Lens ของฟูจิเค้ากันล่ะครับ
สาเหตุก็เพราะไปเห็น "รูปหลุด" ที่อ้างกันว่า มันเป็นรูปของกล้อง mirrorless ตัวใหม่ของฟูจิกันนั่นเอง แล้วที่เมาท์ของบอดี้กล้องนั้น มีคำว่า LX เขียนเอาไว้ด้วย และก็มีเวบข่าวลือต่างๆบอกว่า ชื่อเต็มๆคือ Fuji LX10
ซึ่งจากรูปที่หลุดมานั้น ขอบอกว่า หน้าตาเหมือน Fuji X100 มาก!! แต่เปลี่ยนเลนส์ได้นั่นเอง
ถ้าเป็นจริงล่ะก็ ... มีแต่ดีกับดีครับ
ข้อแรก Fuji X100 ราคาน่าจะลง!! (เลนส์คู่ตัวของ Fuji X100 ก็ค่อนข้างเป็นช่วงที่สารพัดประโยชน์อยู่ครับ แม้จะเป็นเลนส์ฟิกซ์ก็เถอะ)
ข้อสองก็คือ Fuji LX ก็เหมือนกับ Fuji X100 ที่เปลี่ยนเลนส์ได้ มันก็ต้องดีแน่ๆอยู่แล้วสิ!! และที่สำคัญ ถ้าไฟล์ภาพเท่าๆกับหรือดีกว่า Fuji X100 ล่ะก็ Fuji LX เกิดแน่นอน ยิ่งถ้าได้ปรับปรุงข้อเสียของ Fuji X100 ที่ผ่านมาด้วยแล้ว จะยิ่งเป็นกล้องที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ขนาดเรียกได้ว่ามีดีทั้งคุณภาพและหน้าตาเลยล่ะครับ
อันนี้คือหน้าตา Fuji X100 ที่หลายๆคนชื่นชอบ แล้วใครจะไปคิดกันเล่า ว่าเจ้า Mirrorless ตัวใหม่จะได้หน้าตาประมาณๆนี้เช่นกัน!!
สำหรับข้อมูลเลนส์ที่จะออกมาพร้อมกับกล้องนั้น เห็นว่าจะเป็นเลนส์ฟิกซ์หมดเลย ที่ช่วง 3 ช่วงด้วยกันคือ
- 18mm f/2.0 pancake
- 35mm f/1.4
- 60mm (ยังไม่รู้ค่า f)
ซึ่งทั้งหลายแหล่นี้ก็ยังเป็นแค่ข่าวลือทั้งนั้นนะครับ แต่ก็มีมูลน่าสนใจมากอยู่ครับ ช่วงเลนส์ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็แนวมากๆครับ พี่แกเล่นออกฟิก 3 ช่วงเลย -*-
ยังไงถ้ามีข้อมูลอัพเดท(หรือข่าวนี้อาจจะเป็นข่าวปลอม?) ก็จะมาแจ้งกันอีกทีครับ ^ ^
สาเหตุก็เพราะไปเห็น "รูปหลุด" ที่อ้างกันว่า มันเป็นรูปของกล้อง mirrorless ตัวใหม่ของฟูจิกันนั่นเอง แล้วที่เมาท์ของบอดี้กล้องนั้น มีคำว่า LX เขียนเอาไว้ด้วย และก็มีเวบข่าวลือต่างๆบอกว่า ชื่อเต็มๆคือ Fuji LX10
ซึ่งจากรูปที่หลุดมานั้น ขอบอกว่า หน้าตาเหมือน Fuji X100 มาก!! แต่เปลี่ยนเลนส์ได้นั่นเอง
ถ้าเป็นจริงล่ะก็ ... มีแต่ดีกับดีครับ
ข้อแรก Fuji X100 ราคาน่าจะลง!! (เลนส์คู่ตัวของ Fuji X100 ก็ค่อนข้างเป็นช่วงที่สารพัดประโยชน์อยู่ครับ แม้จะเป็นเลนส์ฟิกซ์ก็เถอะ)
ข้อสองก็คือ Fuji LX ก็เหมือนกับ Fuji X100 ที่เปลี่ยนเลนส์ได้ มันก็ต้องดีแน่ๆอยู่แล้วสิ!! และที่สำคัญ ถ้าไฟล์ภาพเท่าๆกับหรือดีกว่า Fuji X100 ล่ะก็ Fuji LX เกิดแน่นอน ยิ่งถ้าได้ปรับปรุงข้อเสียของ Fuji X100 ที่ผ่านมาด้วยแล้ว จะยิ่งเป็นกล้องที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ขนาดเรียกได้ว่ามีดีทั้งคุณภาพและหน้าตาเลยล่ะครับ
อันนี้คือหน้าตา Fuji X100 ที่หลายๆคนชื่นชอบ แล้วใครจะไปคิดกันเล่า ว่าเจ้า Mirrorless ตัวใหม่จะได้หน้าตาประมาณๆนี้เช่นกัน!!
สำหรับข้อมูลเลนส์ที่จะออกมาพร้อมกับกล้องนั้น เห็นว่าจะเป็นเลนส์ฟิกซ์หมดเลย ที่ช่วง 3 ช่วงด้วยกันคือ
- 18mm f/2.0 pancake
- 35mm f/1.4
- 60mm (ยังไม่รู้ค่า f)
ซึ่งทั้งหลายแหล่นี้ก็ยังเป็นแค่ข่าวลือทั้งนั้นนะครับ แต่ก็มีมูลน่าสนใจมากอยู่ครับ ช่วงเลนส์ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็แนวมากๆครับ พี่แกเล่นออกฟิก 3 ช่วงเลย -*-
ยังไงถ้ามีข้อมูลอัพเดท(หรือข่าวนี้อาจจะเป็นข่าวปลอม?) ก็จะมาแจ้งกันอีกทีครับ ^ ^
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)