ตอนนี้สถิติหรือยอดผู้ป่วยผู้ติดเชื้อเอดส์ - HIV ที่เพิ่งพบว่าเพิ่งป่วยเป็นเอดส์ใหม่ๆในช่วง 2554 นั้น
ไม่ใช่กลุ่มนักเรียน-นักศึกษา ไม่ใช่กลุ่มทหารตำรวจ และไม่ใช่กลุ่มผู้ขายบริการอีกต่อไปแล้ว!!
แต่ที่มาแรงแซงทางโค้งนั้น คือกลุ่มชายรักชาย หรือเกย์นั่นเองครับ (สถิติน่าจะนับรวมตุ๊ดหรือกระเทยเข้าไปด้วย)
โดยพบว่า 33% (1 ใน 3) จากผู้ติดเชื้่อรายใหม่ทั้งหมดนั้น เป็นกลุ่มชายรักชายครับ
พูดง่ายๆคือ ทุกๆคนที่มีผลตรวจหาเชื้อเอดส์ คนเว้นสองคน จะต้องเป็นชายรักชายนั่นเอง
จริงๆแล้วแนวโน้มกลุ่มชายรักชายที่เพิ่มมากขึ้นนั้น เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 3-5 ปีก่อนแล้วครับ แล้วก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างน่าตกใจ
จนมาอยู่ที่ 33% ในปีนี้ ซึ่งถือว่ามากสุดๆเลยทีเดียว
... บางคนอาจจะมองว่า ห๊ะ 33% เหรอ? ไม่เห็นเยอะเลย ไม่ถึง 50% ซะหน่อย
ให้นึกภาพอย่างนี้ครับว่า ในสังคมปกตินั้นสัดส่วนเกย์หรือชายรักชายอยู่ที่เท่าไหร่?
จริงอยู่ว่าปัจจุบันนี้ เกย์ กระเทย มีเยอะขึ้นมากและพบเห็นได้ทั่วไป
แต่อย่างมาก ก็แค่ประมาณว่า "ห้องเรียนหนึ่งห้อง มีเกย์หรือกระเทยอยู่ 1-2 คน จากนักเรียนทั้งห้อง 50 คน" หรือบางห้องก็ไม่มีเกย์กระเทยเลยก็มีเช่นกัน สมมุติว่ามีเกย์ที่ไม่เปิดเผยอีกสัก 1-2 คน ให้มากสุดก็คือ จากคน 50 คนจะมีชายรักชายอยู่มากสุดแค่ 3-4 คนเท่านั้น
นั่นหมายความว่า จากคน 100 คนรวมทั้งชายและหญิง น่าจะมีเกย์หรือชายรักชายไม่เกิน 6-8 คน (ย้ำว่า "ไม่เกิน" นะครับ ส่วนใหญ่อาจจะมีแค่ 1-2 หรือไม่มีเลยก็ได้)
แต่จากผู้ติดเชื้อเอดส์หรือเอชไอวีรายใหม่นั้น กลับมากถึง 33 คน จาก 100 คน!! ... เริ่มจะมองภาพออกหรือยังครับ ว่าทำไมตัวเลขนี้จึงได้น่าตกใจอย่างมาก
ปัญหาก็คือ ค่านิยมการมีเพศสัมพันธ์ในกลุ่มชายรักชายนั่นเองครับ
คุณเคยได้ยินไหมครับ? "ผู้ชายมีอะไรกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ แม้ไม่ใช่คนรัก" ซึ่งน่าจะเป็นเช่นนี้กับผู้ชายทุกคนร้อยละ 95-99%
แต่ชายที่ชอบผู้หญิงนั้น ถ้าจะไปมีอะไรกับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยานั้น ถ้าไม่ได้ไปทำผิดศีลธรรม ก็ต้องเที่ยวหญิงบริการ
ซึ่งในกลุ่มชายผิดศีลธรรมนั้น ใช่ว่าจะไปหาหญิงผิดศีลธรรมมามีอะไรด้วยได้ง่ายๆ (แม้หญิงเช่นนั้นจะมีเยอะขึ้น แต่ก็ไม่ได้มากนักหรอกครับ) ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเที่ยวหญิงขายบริการนั่นเอง ซึ่งหญิงกลุ่มนี้นั้น ชายส่วนใหญ่ก็มักจะป้องกันด้วยถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ด้วยอยู่แล้ว
...
พอกลายมาเป็นกลุ่มชายรักชายนั้น ต่างฝ่ายต่างเป็นประเภท "ผู้ชายมีอะไรกับผู้ชายคนไหนก็ได้ แม้ไม่ใช่ชายที่ตนรัก" ... ซึ่งเป็นนิสัยส่วนใหญ่ของผู้ชายนั่นเอง ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่เจอคู่ที่เป็นชายรักชายเหมือนกัน จึงมีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายกว่าชายผิดศีลธรรม และกลุ่มนี้ยิ่งไม่ค่อยใช้ถุงยางอนามัยกันเลย!! (พอจะนึกภาพออกกันใช่ไหมล่ะครับ)
ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ต่อให้คนๆนั้นเป็นชายรักชายประเภทรักเดียวใจเดียว มีเพศสัมพันธ์กับคนรักแค่คนเดียว ... แต่คู่ของชายรักชายคนนั้นก็อาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นไม่ ... พูดง่ายๆคือ ชายรักชายประเภทรักเดียวใจเดียวมาจับคู่กันพอดิบพอดีนั้น มันเป็นเรื่องหายากเหมือนกันครับ
...
และด้วยประการฉะนี้เอง ที่ทำให้ยอดการติดเชื้อเอดส์ในกลุ่มนี้พุ่งแรงแซงทางโค้งมาได้!!
ก็อยากจะบอกชายรักชายทุกคนครับ ว่าการซื่อสัตย์รักเดียวใจเดียวนั้น สำคัญมากๆแม้ว่าคุณจะเป็นชายรักชาย หรือหากจะมีเพศสัมพันธ์ก็ควรจะใช้ถุงยางอนามัย ไม่ต่างจากหญิงชายทั่วไปนะครับ
ใครมีเพื่อนเป็นเกย์ ก็กระซิบบอกๆเพื่อนไว้บ้างก็ดีครับ
หมายเหตุ : ตัวเลข 33% เป็นตัวเลขจากกรมควบคุมโรคนะครับ
แต่ตัวเลขจากการยกตัวอย่างนั้น เป็นการยกตัวอย่างตามความรู้สึกส่วนตัวของเจ้าของบล็อกเองให้คนอ่านเห็นภาพตามน่ะครับ อย่าเอาไปอ้างอิงที่ไหนนะ ^ ^
The Surin Phuket Resort อีกรีสอร์ทใหม่ที่หาดสุรินทร์ ภูเก็ตครับ ^ ^
The Surin Phuket - เดอะสุรินทร์ ภูเก็ต เป็นรีสอร์ทที่หลายๆคนอาจจะไม่คุ้นชื่อมากนัก และคิดว่าต้องเป็นรีสอร์ทใหม่แน่ๆเลย
แต่จริงๆแล้ว The Surin Phuket เปิดมานานแล้วในนามของโรงแรมรีสอร์ท 5 ดาวอย่าง The Chedi Phuket ครับ
ดังนั้น ก็ไม่ต้องแปลกใจไป หากจะหาข้อมูลของรีสอร์ทนี้ไม่ค่อยเจอนะครับ ^ ^ ถ้าอย่างไรลองเสิร์ชดูด้วยชื่อ The Chedi Phuket ดูดีกว่าครับ (ส่วนสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนชื่อนั้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าโดนเทคโอเวอร์หรือเปลี่ยนแปลงภายในอะไรยังไงเหมือนกันครับ ... จากการเปลี่ยนชื่อนี้ก็อาจจะมีการรีโนเวทใหม่เพิ่มเข้าไปด้วยก็ได้ครับ ^ ^")
จุดเด่นของ The Surin Phuket ก็ึคืออยู่ที่หาดพันซีในโซนเดียวกับหาดสุรินทร์ ภูเก็ต ครับ ซึ่งหาดนี้จะมีน้ำฟ้าใส น่าเล่นมากๆครับ ^ ^ (แต่ถ้าไปช่วงที่คลื่นแรงหน่อย ก็จะไม่ใสมากนะครับ ซึ่งก็เป็นแบบนี้แทบทุกหาดล่ะครับ ^ ^")
ไม่เชื่อลองดูรูปครับ อันนี้เป็นรูปจากเวบของ The Surin Phuket เองเลย
จะเห็นว่า ถัดจากหน้าหาดไปไกลแล้่ว ก็ยังน้ำฟ้าใสเห็นพื้นทรายด้านล่างอยู่เลย!! ^ ^
ส่วนตัวรีสอร์ทนั้นก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความหรูหราครับ ชื่อของ The Chedi รับประกันไว้อยู่แล้ว
สนใจรีสอร์ทหน้าหาดสวยๆ หรูระดับ 5 ดาวแบบนี้ก็ดูข้อมูลการติดต่อและเข้าพักเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thesurinphuket.com ครับ ^ ^
แต่จริงๆแล้ว The Surin Phuket เปิดมานานแล้วในนามของโรงแรมรีสอร์ท 5 ดาวอย่าง The Chedi Phuket ครับ
ดังนั้น ก็ไม่ต้องแปลกใจไป หากจะหาข้อมูลของรีสอร์ทนี้ไม่ค่อยเจอนะครับ ^ ^ ถ้าอย่างไรลองเสิร์ชดูด้วยชื่อ The Chedi Phuket ดูดีกว่าครับ (ส่วนสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนชื่อนั้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าโดนเทคโอเวอร์หรือเปลี่ยนแปลงภายในอะไรยังไงเหมือนกันครับ ... จากการเปลี่ยนชื่อนี้ก็อาจจะมีการรีโนเวทใหม่เพิ่มเข้าไปด้วยก็ได้ครับ ^ ^")
จุดเด่นของ The Surin Phuket ก็ึคืออยู่ที่หาดพันซีในโซนเดียวกับหาดสุรินทร์ ภูเก็ต ครับ ซึ่งหาดนี้จะมีน้ำฟ้าใส น่าเล่นมากๆครับ ^ ^ (แต่ถ้าไปช่วงที่คลื่นแรงหน่อย ก็จะไม่ใสมากนะครับ ซึ่งก็เป็นแบบนี้แทบทุกหาดล่ะครับ ^ ^")
ไม่เชื่อลองดูรูปครับ อันนี้เป็นรูปจากเวบของ The Surin Phuket เองเลย
จะเห็นว่า ถัดจากหน้าหาดไปไกลแล้่ว ก็ยังน้ำฟ้าใสเห็นพื้นทรายด้านล่างอยู่เลย!! ^ ^
ส่วนตัวรีสอร์ทนั้นก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความหรูหราครับ ชื่อของ The Chedi รับประกันไว้อยู่แล้ว
สนใจรีสอร์ทหน้าหาดสวยๆ หรูระดับ 5 ดาวแบบนี้ก็ดูข้อมูลการติดต่อและเข้าพักเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thesurinphuket.com ครับ ^ ^
The Davis Bangkok โรงแรมใหม่ใกล้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และห้างเอ็มโพเรี่ยม กรุงเทพฯ
The Davis Bangkok Boutique Hotel เป็นโรงแรมเปิดใหม่ในกรุงเทพฯช่วงปี 2010 ครับ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าต้นปีหรือปลายปี
โดยทำเลที่ตั้งของ The Davis Bangkok Hotel นั้นจะอยู่ในถนนสุขุมวิทซอย 24 แต่จะอยู่ฝั่งที่เกือบจะติดกับถนนพระราม 4 ครับ
ดังนั้น ตรงจุดนั้น จะทำใ้ห้ใกล้กับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรี่ยม - Emporium Shopping Mall
การเดินทาง ก็จะพอใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส - BTS พร้อมพงษ์ครับ
แต่ก็ไม่ได้ใกล้แบบว่าเดินก๊อกแก๊กถึงนะครับ เดินนานพอดู แต่ก็เดินไหวนั่นล่ะครับ (น่าจะคล้ายๆเดินจากพารากอนไปเซ็นทรัลเวิร์ลมั้ง)
จุดเด่นของที่ The Davis Bangkok Hotel คือเป็นโรงแรมแนวบูติค ที่มีห้องพักแตกต่างกันทั้งหมด 60 แบบ!! คือต่างดีไซน์การประดับประดาน่ะครับ ดังนั้นหากคุณมาพักที่ The Davis Bangkok Hotel จำนวน 60 ครั้ง คุณก็สามารถเลือกพักห้องที่ไม่ซ้ำเิดิมได้ตลอดทั้ง 60 ครั้งครับ!! (ว่าแต่ใครจะมาพักตั้ง 60 ครั้งล่ะเนี่ย -*-)
ก็ลองดูรูปครับ ^ ^ เริ่มจากด้านนอกโรงแรม ... ผมว่าดูคลาสสิกดีนะ เหมาะกับคำว่าคลาสสิกมากกว่าบูติคนะผมว่า
โซนสระว่ายน้ำที่ชั้นลอย น่าว่ายมากๆ
และหนึ่งในห้องพักดีไซน์สบายๆของ The Davis Bangkok Hotel ครับ
สำหรับโซนที่พักก็จะแบ่งเป็น 3 โซนอีกครับ
ภาพแรกนั้นเป็นตัวอาคารของ corner wing ครับ
นอกจากนี้ยังมีโซน main wing กับ baan davis ด้วย ซึ่งโซน baan davis จะออกแนวไทยๆครับ
สนใจโรงแรมเปิดใหม่แห่งนี้ ก็ดูข้อมูลได้ที่ http://www.davisbangkok.net ครับ
โดยทำเลที่ตั้งของ The Davis Bangkok Hotel นั้นจะอยู่ในถนนสุขุมวิทซอย 24 แต่จะอยู่ฝั่งที่เกือบจะติดกับถนนพระราม 4 ครับ
ดังนั้น ตรงจุดนั้น จะทำใ้ห้ใกล้กับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรี่ยม - Emporium Shopping Mall
การเดินทาง ก็จะพอใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส - BTS พร้อมพงษ์ครับ
แต่ก็ไม่ได้ใกล้แบบว่าเดินก๊อกแก๊กถึงนะครับ เดินนานพอดู แต่ก็เดินไหวนั่นล่ะครับ (น่าจะคล้ายๆเดินจากพารากอนไปเซ็นทรัลเวิร์ลมั้ง)
จุดเด่นของที่ The Davis Bangkok Hotel คือเป็นโรงแรมแนวบูติค ที่มีห้องพักแตกต่างกันทั้งหมด 60 แบบ!! คือต่างดีไซน์การประดับประดาน่ะครับ ดังนั้นหากคุณมาพักที่ The Davis Bangkok Hotel จำนวน 60 ครั้ง คุณก็สามารถเลือกพักห้องที่ไม่ซ้ำเิดิมได้ตลอดทั้ง 60 ครั้งครับ!! (ว่าแต่ใครจะมาพักตั้ง 60 ครั้งล่ะเนี่ย -*-)
ก็ลองดูรูปครับ ^ ^ เริ่มจากด้านนอกโรงแรม ... ผมว่าดูคลาสสิกดีนะ เหมาะกับคำว่าคลาสสิกมากกว่าบูติคนะผมว่า
โซนสระว่ายน้ำที่ชั้นลอย น่าว่ายมากๆ
และหนึ่งในห้องพักดีไซน์สบายๆของ The Davis Bangkok Hotel ครับ
สำหรับโซนที่พักก็จะแบ่งเป็น 3 โซนอีกครับ
ภาพแรกนั้นเป็นตัวอาคารของ corner wing ครับ
นอกจากนี้ยังมีโซน main wing กับ baan davis ด้วย ซึ่งโซน baan davis จะออกแนวไทยๆครับ
สนใจโรงแรมเปิดใหม่แห่งนี้ ก็ดูข้อมูลได้ที่ http://www.davisbangkok.net ครับ
สีรถถูกโฉลกตามวันเกิด ...จะเลือกเชื่อเวบไหนดีเนี่ย!! -*-
ผมนั้น กำลังจะเลือกซื้อรถใหม่ และก็เริ่มจะทำตามเรื่องดวงตามคนอื่นๆเค้าไปซะแล้ว -*-
เพราะ ... คิดว่าถ้าเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ไม่ได้ลงทุนอะไรมากมาย ทำตามไปก็ไม่เสียหายมั้ง อย่างเรื่องสีรถนี่ก็เช่นกัน ทำตามก็ไม่ได้เดือดร้อนหัวใจแต่อย่างใด (อาจจะเดือดร้อนเซลล์ขายรถอ่ะนะ ที่ต้องไปหาสีตามใจเราต้องการ เหอๆๆ)
...
และผมเอง ก็ตระเวณเสิร์ชหา สีรถถูกโฉลก ในอินเตอร์เนทอยู่เหมือนกันครับ ... ซึ่งพบว่า มีแต่เกณฑ์เลือกสีรถตามวันเกิดทั้งนั้นเลย ไม่มีตามราศีหรือตามปีเกิดแต่อย่างใด
ก็เอาเถอะ สีถูกโฉลกตามวันเกิดก็วันเกิดนี่ล่ะ ลองดูสิว่าสีไหนดี
... ทว่า ...
... บางเวบ ข้อมูลไม่ตรงกัน ... ส่วนเวบที่ตรงกัน ก็เห็นได้ชัดว่าก๊อปกันมาอีกทีจึงจะตรงกับอีกเวบหนึ่ง ก็ไม่รู้ใครก๊อปใครละนะ -*- ...
สร้างความงงงวยอย่างมาก ว่าจะเชื่อเวบไหนดี แถมยังแตกแขนงไปอีกแน่ะ ว่าสีนี้ดีด้านโชคลาภ สีนี้ดีด้านคนยำเกรง สีนี้ดีด้านปลอดภัย ... -*- หลากหลายเกินไปแล้ว!!
สรุปแล้ว ผมก็เลยสรุปเอาแค่ ขอไม่เลือกสีที่เป็นกาลกิณีเป็นพอ ไม่งั้นเลือกไม่ได้ (อีกอย่าง สีรถสมัยนี้ ยี่ห้อหนึ่งๆก็มีไม่กี่สีเองอ่ะ เลือกไม่ได้มากอะไร -*-)
โดยเอากาลกิณีของทุกเวบที่ไม่ซ้ำกัน มารวมๆกันไว้
ก็ตามนี้ครับ
วันอาทิตย์ สีต้องห้ามคือ สีฟ้า สีน้ำเงิน
วันจันทร์ สีต้องห้ามคือ สีแดง สีทอง
วันอังคาร สีต้องห้ามคือ สีขาว สีเหลือง สีเหลืองอ่อน สีนวล สีครีม สีเงิน
วันพุธ(กลางวัน) สีต้องห้ามคือ สีชมพู สีแสด(สีส้ม) สีโอลโรส
วันพุธ(กลางคืน) สีต้องห้ามคือ สีเหลือง สีแสด(สีส้ม) สีทอง
วันพฤหัส สีต้องห้ามคือ สีดำ สีน้ำเงิน สีม่วง
วันศุกร์ สีต้องห้ามคือ สีำเทา(ควันบุหรี่) สีเงิน สีม่วง สีดำ
วันเสาร์ สีต้องห้ามคือ สีเขียว สีแสด(สีส้ม)
... จะเห็นว่า ข้อมูลของผมนั้น ในบางข้อช่างมีหลายสีเหลือเกิน แต่เทียบกับบางเวบแล้ว มีแค่ 1-2 สีเอง -*-
คือผมเอาที่ไม่ซ้ำกันจากหลายๆเวบมารวมกันน่ะครับ ตัดปัญหา ง่ายดี ^ ^"
ก็หวังว่าสีรถถูกโฉลกตามวันเกิดนี้ จะเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านนะครับ
เพราะ ... คิดว่าถ้าเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ไม่ได้ลงทุนอะไรมากมาย ทำตามไปก็ไม่เสียหายมั้ง อย่างเรื่องสีรถนี่ก็เช่นกัน ทำตามก็ไม่ได้เดือดร้อนหัวใจแต่อย่างใด (อาจจะเดือดร้อนเซลล์ขายรถอ่ะนะ ที่ต้องไปหาสีตามใจเราต้องการ เหอๆๆ)
...
และผมเอง ก็ตระเวณเสิร์ชหา สีรถถูกโฉลก ในอินเตอร์เนทอยู่เหมือนกันครับ ... ซึ่งพบว่า มีแต่เกณฑ์เลือกสีรถตามวันเกิดทั้งนั้นเลย ไม่มีตามราศีหรือตามปีเกิดแต่อย่างใด
ก็เอาเถอะ สีถูกโฉลกตามวันเกิดก็วันเกิดนี่ล่ะ ลองดูสิว่าสีไหนดี
... ทว่า ...
... บางเวบ ข้อมูลไม่ตรงกัน ... ส่วนเวบที่ตรงกัน ก็เห็นได้ชัดว่าก๊อปกันมาอีกทีจึงจะตรงกับอีกเวบหนึ่ง ก็ไม่รู้ใครก๊อปใครละนะ -*- ...
สร้างความงงงวยอย่างมาก ว่าจะเชื่อเวบไหนดี แถมยังแตกแขนงไปอีกแน่ะ ว่าสีนี้ดีด้านโชคลาภ สีนี้ดีด้านคนยำเกรง สีนี้ดีด้านปลอดภัย ... -*- หลากหลายเกินไปแล้ว!!
สรุปแล้ว ผมก็เลยสรุปเอาแค่ ขอไม่เลือกสีที่เป็นกาลกิณีเป็นพอ ไม่งั้นเลือกไม่ได้ (อีกอย่าง สีรถสมัยนี้ ยี่ห้อหนึ่งๆก็มีไม่กี่สีเองอ่ะ เลือกไม่ได้มากอะไร -*-)
โดยเอากาลกิณีของทุกเวบที่ไม่ซ้ำกัน มารวมๆกันไว้
ก็ตามนี้ครับ
วันอาทิตย์ สีต้องห้ามคือ สีฟ้า สีน้ำเงิน
วันจันทร์ สีต้องห้ามคือ สีแดง สีทอง
วันอังคาร สีต้องห้ามคือ สีขาว สีเหลือง สีเหลืองอ่อน สีนวล สีครีม สีเงิน
วันพุธ(กลางวัน) สีต้องห้ามคือ สีชมพู สีแสด(สีส้ม) สีโอลโรส
วันพุธ(กลางคืน) สีต้องห้ามคือ สีเหลือง สีแสด(สีส้ม) สีทอง
วันพฤหัส สีต้องห้ามคือ สีดำ สีน้ำเงิน สีม่วง
วันศุกร์ สีต้องห้ามคือ สีำเทา(ควันบุหรี่) สีเงิน สีม่วง สีดำ
วันเสาร์ สีต้องห้ามคือ สีเขียว สีแสด(สีส้ม)
... จะเห็นว่า ข้อมูลของผมนั้น ในบางข้อช่างมีหลายสีเหลือเกิน แต่เทียบกับบางเวบแล้ว มีแค่ 1-2 สีเอง -*-
คือผมเอาที่ไม่ซ้ำกันจากหลายๆเวบมารวมกันน่ะครับ ตัดปัญหา ง่ายดี ^ ^"
ก็หวังว่าสีรถถูกโฉลกตามวันเกิดนี้ จะเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านนะครับ
รีวิว Nikki Beach Resort Koh Samui - นิกกิ รีสอร์ทสวยที่เกาะสมุยครับ!!
Nikki Beach Resort Koh Samui - นิกกิบีชรีสอร์ทเกาะสมุย เป็นรีสอร์ทบูติคสวยที่มีความแตกต่างจากรีสอร์ททั่วๆไปในที่อื่นๆครับ เป็นสไตล์ของ Nikki เค้าล่ะ แบรนด์นี้ก็เป็นงี้อ่ะนะ -*-
Nikki Beach Resort Koh Samui นั้น เป็นรีสอร์ทเปิดใหม่เมื่อช่วงปี 2009 / 2552 ครับ
ก็ถือว่าไม่ได้เก่าแก่อะไร ยังใหม่ๆอยู่น่ะล่ะครับ
ทำเลตั้งอยู่ที่หาดลิปะน้อย - Lipa Noi ของเกาะสมุยครับ
...
แต่อย่างที่เกริ่นไว้ว่า มีความแตกต่างจากรีสอร์ททั่วๆไปในที่อื่นๆ ก็คือ ... ออกแนวคลับเฮฮาปาจิงโกะเหมือนกัน (ยังไม่เคยไปนะครับ แต่เท่าที่ดูจากคลิปวิดีโอ กับภาพประกอบเวบไซต์เค้าน่ะครับ)
เริ่มจากคลิปรีวิวโซนสระว่ายน้ำครับ
Credit : TravisBogard
อย่างที่เห็นล่ะครับ คนที่สระว่ายน้ำเพียบเลย เหมือนคลับย่อยๆ ... ว่าแต่ เสียงดนตรีนั่นอะไรหนอ? อ๊ะ มีคนมาเปิดเพลงอยู่กลางสระว่ายน้ำเลย!! ... ^ ^"
สรุปคือ ที่นี่จะมี Beach Club น่ะครับ สระว่ายน้ำก็อยู่โซนติดกับชายหาดพอดี มีเปิดเพลงแดนซ์็ๆบันเทิงกันกลางสระว่ายน้ำกลางวันแสกๆงี้่ล่ะครับ ไม่ต้องรอให้ดึกดื่นค่ำมืด แล้วเอาไฟแสงสีมาช่วยแต่อย่างใด
ดังนั้น ใครชอบลอยคอสบายๆ แบบ Private นิดหน่อยกลางสระว่ายน้ำใหญ่หรูๆ ... อาจจะไม่เหมาะกับที่นี่ก็ได้
แต่หาดใครชอบความครึกครื้นคึกคัก ที่นี่ก็เหมาะครับ
อย่างไรก็ตาม ลองไปดูวิดีโอรีวิวในโซนบ้านพักกันด้วยดีกว่าครับ ^ ^
Credit : mikibgd
ไม่แน่ใจว่าเป็นห้องประเภทไหนนะครับ แต่เท่าที่เห็นคือทำเลอยู่ใกล้ชายหาดมาก แต่ดันไม่ค่อยจะได้ซีวิวเท่าไหร่เลย น่าเสียดาย
ห้องอุตส่าห์เป็นกระจกเต็มๆรอบด้านซะด้วย ถ้าได้ห้องนี้ ทำเลบีชฟรอนท์ คงจะงามขึ้นผิดหูผิดตาเชียว
แต่นี่ก็สวยมากแล้วครับ ^ ^
ก็ มีคลับที่สระว่ายน้ำที่ดูน่าสนดีสำหรับคนชอบความคึกคักครับ แต่ถ้าคนชอบความสงบ ก็อาจจะเน้นอยู่ในบริเวณอื่นๆของรีสอร์ทก็น่าจะโอเคอยู่ครับ ที่นี่มี Bakers Cafe สำหรับคนชอบทานพวกพาสทรี่ด้วยครับ ^ ^
ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่เืลือกว่าพักหรือไม่พักได้ไม่ยากครับ สำหรับรีสอร์ทที่มีสไตล์ส่วนตัวแบบ Nikki Beach Koh Samui แห่งนี้
Nikki Beach Resort Koh Samui นั้น เป็นรีสอร์ทเปิดใหม่เมื่อช่วงปี 2009 / 2552 ครับ
ก็ถือว่าไม่ได้เก่าแก่อะไร ยังใหม่ๆอยู่น่ะล่ะครับ
ทำเลตั้งอยู่ที่หาดลิปะน้อย - Lipa Noi ของเกาะสมุยครับ
...
แต่อย่างที่เกริ่นไว้ว่า มีความแตกต่างจากรีสอร์ททั่วๆไปในที่อื่นๆ ก็คือ ... ออกแนวคลับเฮฮาปาจิงโกะเหมือนกัน (ยังไม่เคยไปนะครับ แต่เท่าที่ดูจากคลิปวิดีโอ กับภาพประกอบเวบไซต์เค้าน่ะครับ)
เริ่มจากคลิปรีวิวโซนสระว่ายน้ำครับ
Credit : TravisBogard
อย่างที่เห็นล่ะครับ คนที่สระว่ายน้ำเพียบเลย เหมือนคลับย่อยๆ ... ว่าแต่ เสียงดนตรีนั่นอะไรหนอ? อ๊ะ มีคนมาเปิดเพลงอยู่กลางสระว่ายน้ำเลย!! ... ^ ^"
สรุปคือ ที่นี่จะมี Beach Club น่ะครับ สระว่ายน้ำก็อยู่โซนติดกับชายหาดพอดี มีเปิดเพลงแดนซ์็ๆบันเทิงกันกลางสระว่ายน้ำกลางวันแสกๆงี้่ล่ะครับ ไม่ต้องรอให้ดึกดื่นค่ำมืด แล้วเอาไฟแสงสีมาช่วยแต่อย่างใด
ดังนั้น ใครชอบลอยคอสบายๆ แบบ Private นิดหน่อยกลางสระว่ายน้ำใหญ่หรูๆ ... อาจจะไม่เหมาะกับที่นี่ก็ได้
แต่หาดใครชอบความครึกครื้นคึกคัก ที่นี่ก็เหมาะครับ
อย่างไรก็ตาม ลองไปดูวิดีโอรีวิวในโซนบ้านพักกันด้วยดีกว่าครับ ^ ^
Credit : mikibgd
ไม่แน่ใจว่าเป็นห้องประเภทไหนนะครับ แต่เท่าที่เห็นคือทำเลอยู่ใกล้ชายหาดมาก แต่ดันไม่ค่อยจะได้ซีวิวเท่าไหร่เลย น่าเสียดาย
ห้องอุตส่าห์เป็นกระจกเต็มๆรอบด้านซะด้วย ถ้าได้ห้องนี้ ทำเลบีชฟรอนท์ คงจะงามขึ้นผิดหูผิดตาเชียว
แต่นี่ก็สวยมากแล้วครับ ^ ^
ก็ มีคลับที่สระว่ายน้ำที่ดูน่าสนดีสำหรับคนชอบความคึกคักครับ แต่ถ้าคนชอบความสงบ ก็อาจจะเน้นอยู่ในบริเวณอื่นๆของรีสอร์ทก็น่าจะโอเคอยู่ครับ ที่นี่มี Bakers Cafe สำหรับคนชอบทานพวกพาสทรี่ด้วยครับ ^ ^
ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่เืลือกว่าพักหรือไม่พักได้ไม่ยากครับ สำหรับรีสอร์ทที่มีสไตล์ส่วนตัวแบบ Nikki Beach Koh Samui แห่งนี้
Chandra Luxury Villas Bali : รีสอร์ทเปิดใหม่หรูๆที่บาหลี ย่าน Seminyak ครับ
Chandra Luxury Villas Bali Resort เป็นรีสอร์ทเปิดใหม่ที่บาหลีช่วงปี 2010-2011 ไม่ค่อยแน่ใจเวลาครับ แต่เปิดใหม่ช่วงๆนี้แหละครับ เป็นหนึ่งในรีสอร์ทหรูในกลุ่มของ 8Hotels น่ะครับ ซึ่งกลุ่มนี้จะเน้นโรงแรมรีสอร์ทหรูๆเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น ใครมองหาที่พักหลักร้อย หรือถูกๆ ก็จงมองข้ามรีสอร์ทนี้ไปเสีย ^ ^"
สำหรับรูปร่างหน้าตาของรีสอร์ทนั้น ก็เป็นแนวบูติคครับ จากนั้นก็ตามชื่อว่า Villas แหละครับ
ที่ Chandra Luxury Villas Bali Resort นั้น ห้องพักจะเป็นวิลล่าหลังๆทั้งนั้นครับ โดยมีแบบ Pool Villas ด้วย เหมาะสำหรับคนชอบความหรูที่มาพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ซึ่งราคาก็แน่นอนล่ะครับ ไม่ถูกแน่ๆ
ลองดูภาพกันก่อนครับ เริ่มด้วยห้องพักที่มีสวนกว้างๆเป็นส่วนตัวอยู่ด้วย ซึ่งวิลล่าของ Chandra Luxury Villas Bali นั้น มักจะมีห้องนอน 2-3 ห้องต่อวิลล่าหลังนึงเลยครับ ซึ่งถ้ามาเป็นครอบครัว ที่นี่ก็เหมาะครับ
และที่ขาดไม่ได้สำหรับโรงแรมหรูในบาหลี นั่นก็คือ Bathtub ที่ต้องดูดี ... ในโรงแรมรีสอร์ทราคาถูกๆของบาหลีก็ตามครับ มักจะมี Bathtub ที่ใหญ่และดูดี
และ ที่ยิ่งขาดไม่ได้สำหรับวิลล่าหรูๆ ก็คือสระว่ายน้ำส่วนตัว ไม่ต้องไปแจมใครนั่นเอง ^ ^
ใครมองหาที่พักหรูๆ แพงหน่อย ในย่านเขต Seminyak ก็แนะนำว่าให้ลองดูข้อมูลของรีสอร์ทนี้ดูครับ อาจจะถูกใจคุณก็ได้
เพิ่มเติม http://www.8hotels.com/chandra-luxury-villas-bali-welcome.html ครับ
สำหรับรูปร่างหน้าตาของรีสอร์ทนั้น ก็เป็นแนวบูติคครับ จากนั้นก็ตามชื่อว่า Villas แหละครับ
ที่ Chandra Luxury Villas Bali Resort นั้น ห้องพักจะเป็นวิลล่าหลังๆทั้งนั้นครับ โดยมีแบบ Pool Villas ด้วย เหมาะสำหรับคนชอบความหรูที่มาพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ซึ่งราคาก็แน่นอนล่ะครับ ไม่ถูกแน่ๆ
ลองดูภาพกันก่อนครับ เริ่มด้วยห้องพักที่มีสวนกว้างๆเป็นส่วนตัวอยู่ด้วย ซึ่งวิลล่าของ Chandra Luxury Villas Bali นั้น มักจะมีห้องนอน 2-3 ห้องต่อวิลล่าหลังนึงเลยครับ ซึ่งถ้ามาเป็นครอบครัว ที่นี่ก็เหมาะครับ
และที่ขาดไม่ได้สำหรับโรงแรมหรูในบาหลี นั่นก็คือ Bathtub ที่ต้องดูดี ... ในโรงแรมรีสอร์ทราคาถูกๆของบาหลีก็ตามครับ มักจะมี Bathtub ที่ใหญ่และดูดี
และ ที่ยิ่งขาดไม่ได้สำหรับวิลล่าหรูๆ ก็คือสระว่ายน้ำส่วนตัว ไม่ต้องไปแจมใครนั่นเอง ^ ^
ใครมองหาที่พักหรูๆ แพงหน่อย ในย่านเขต Seminyak ก็แนะนำว่าให้ลองดูข้อมูลของรีสอร์ทนี้ดูครับ อาจจะถูกใจคุณก็ได้
เพิ่มเติม http://www.8hotels.com/chandra-luxury-villas-bali-welcome.html ครับ
พาชม ช่องฟ้ารีสอร์ท - Chongfah Resort Khaolak ที่เขาหลักครับ!!
ขอพาไปชมอีกรีสอร์ทที่เขาหลักครับ เป็นคลิปวิดีโอรีวิวจากทางรีสอร์ทเองน่ะครับ แต่ดูแล้่วไม่ค่อยได้ตัดแต่งหลอกตาดี ดูเป็นของแท้ๆดีครับ เลยนำมาให้ชมกัน
รีสอร์ทนี้ชื่อว่า Chongfah Resort Khaolak - ช่องฟ้ารีสอร์ทเขาหลัก ครับ ^ ^
รีสอร์ทนี้ตั้งอยู่ที่หาดบางเนียงน่ะครับ ตัวรีสอร์ทอยู่ติดหน้าชายหาดเลย และบริเวณนั้นก็ไม่ได้พลุกพล่านมากนัก เหมาะแก่การพักผ่อนในแบบสบายๆเป็นส่วนตัวมากครับ
ลองชมดูครับ ^ ^
ติดหาด ที่พักสวย วิวดี สระว่ายน้ำก็โอเค
โดยราคาในช่วง Summer Season จะถูกดีครับ คือเริ่มต้นที่ 3,500 บาทต่อคืนเท่านั้นครับ ห้อง Beachfront ก็อยู่ที่ 6,000 ถ้วนๆเท่าั้นั้น แต่ถ้าเป็นช่วง High กับ Peak ราคาจะขึ้นมาเท่าัตัวเลย
ดูรายละเอียดของช่องฟ้ารีสอร์ทเพิ่มเติมได้ที่ http://www.chongfahresort.com ครับ
รีสอร์ทนี้ชื่อว่า Chongfah Resort Khaolak - ช่องฟ้ารีสอร์ทเขาหลัก ครับ ^ ^
รีสอร์ทนี้ตั้งอยู่ที่หาดบางเนียงน่ะครับ ตัวรีสอร์ทอยู่ติดหน้าชายหาดเลย และบริเวณนั้นก็ไม่ได้พลุกพล่านมากนัก เหมาะแก่การพักผ่อนในแบบสบายๆเป็นส่วนตัวมากครับ
ลองชมดูครับ ^ ^
ติดหาด ที่พักสวย วิวดี สระว่ายน้ำก็โอเค
โดยราคาในช่วง Summer Season จะถูกดีครับ คือเริ่มต้นที่ 3,500 บาทต่อคืนเท่านั้นครับ ห้อง Beachfront ก็อยู่ที่ 6,000 ถ้วนๆเท่าั้นั้น แต่ถ้าเป็นช่วง High กับ Peak ราคาจะขึ้นมาเท่าัตัวเลย
ดูรายละเอียดของช่องฟ้ารีสอร์ทเพิ่มเติมได้ที่ http://www.chongfahresort.com ครับ
เพิ่งรถคว่ำมาครับ พังหมดเลย แต่ปลอดภัยดีครับ ^ ^
เจ้าของบล็อคเพิ่งรถคว่ำมาครับและโชคดีมากๆที่ไม่เป็นอะไร (ประมาณ 2 ชม.ก่อนหน้านี้เอง เพิ่งกลับมาถึงบ้านสดๆร้อนๆเลย -*- จัดการทุกอย่างหมดแล้วอย่างง่ายดาย เพราะไม่มีคู่กรณีและ ... ไม่ได้ทำประกัน -*-)
เลยอยากมาเล่าประสบการณ์ให้หลายๆคนได้อ่านกัน
ใจนึงนั้น เสียดายรถมากๆเพราะเพิ่งผ่อนหมดได้แค่ปีเดียวเอง และพ่อแม่ก็ช่วยออกให้เยอะด้วย แต่รถก็มาพังซะแล้ว ดูรูปร่างแล้วคิดว่า ... ค่าซ่อมน่าจะ 2-3 แสน ... มั้ง -*-
แต่เมื่อคิดว่าเราปลอดภัย แถมแทบไม่เจ็บอะไรเลย ถือว่าโชคดีอย่างที่สุดแล้ว รถหาใหม่ได้ แต่ชีวิตเราหาใหม่ไม่ได้นะครับ ดีแล้วที่ปลอดภัยกลับมา
เหตุการณ์ก็คือว่า "ขับรถหลบงู" ครับ คาดว่าเป็นงูเหลือมเพราะสีเหลืองๆดำๆและตัวใหญ่มากขึ้นมาได้กลางถนนแล้ว เข้าโค้งมาเจอมันบนถนน ก็หักหลบและรถเสียศูนย์ลงไปข้างทางพร้อมกับพลิกหงายแล้วก็กลับมาคว่ำได้อีกครั้งหนึ่ง คนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่ามีรถลอยตอนลงถนนด้วยล่ะครับ
ก็เลยอยากจะบอกเตือนหลายๆคนที่ได้อ่านบล็อคนี้ครับว่า
1. อย่าขับรถเร็วจะดีที่สุด
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมเองไม่ใช่ไม่ทราบนะครับ ว่า้ถ้าเจออะไรกระทันหันและขับมาไวเช่นสุนัข อย่าหลบ เพราะเราอาจจะแย่แทนได้
แต่เอาเข้าจริงๆนั้น ... มือมันหักพวงมาลัยไปเอง นอกเหนือจากการคิดวิเคราะห์จริงๆ
เพราะตรงส่วนที่ผมเจองูนั้น เป็นโค้ง เรียกว่าเข้าโค้งไปปุ๊บ ก็เจองูปั๊บเลยครับ เรียกว่าไม่ได้ทันคิดอะไรเลย แล้วมันก็หักหลบไปตามสัญชาตญาณแ่ล้วล่ะครับ
ดังนั้น ถ้าผมขับรถมาช้าอีกสักนิด ผมก็อาจจะหักหลบได้โดยง่ายและรถก็ไม่คว่ำจนพังยับอย่างนี้
หรือไม่เช่นนั้น ผมก็จะมีสติ คิดวิเคราะห์ได้ทัน พูดง่ายๆคือมีเวลาให้คิดเพิ่มขึ้นแม้เสี้ยววินาทีก็ตาม
แต่เพราะขับเร็วจึงไม่ทันได้คิดอะไรเลย
...
หากติดขับรถเร็วจนติดเป็นนิสัียจริงๆ ขณะเข้าโค้ง ก็เบาไว้ก่อนดีกว่า ไม่ใช่ว่าเค้าโค้งฉุบฉับทันที เพราะเราไม่รู้ว่ามีอะไรรออยู่ที่โค้ง อาจจะมีรถจักรยานหรือรถอื่นๆที่แล่นช้ามากๆ คอยอยู่หลังโค้งก็ได้ครับ
2. คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง
ผมคาดเข็มขัดนิรภัยครับ และรู้ได้ทันทีจากการนั่งรถครั้งนี้เลยว่า เรารอดได้เพราะคาดเข็มขัดนิรภัยจริงๆ
แน่นอนว่าโชคดีก็ส่วนหนึ่งที่รถไม่ได้กระแทกบริเวณคนขับ
แต่ถ้าผมไม่ได้ขาดเข็มขัดนิรภัย ก็น่าจะแย่กว่านี้มากๆครับ เพราะตัวก็คงกระเด้งไปลอยไปมากระแทกอะไรต่อมิอะไรได้ง่ายๆ (คนเห็นเหตุการณ์บอกว่ารถลอยด้วยครับ แถมพลิกหนึ่งตลบแล้วก็กลับมาคว่ำ(ไม่ได้หงาย)ใหม่อีกรอบ ... ซึ่งก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน รู้สึกยิ่งกว่านั่งรถไฟเหาะอีก
...
ซึ่งขณะที่รถพลิกคว่ำนั้น ผมรู้ตัวอยู่ตลอด และรู้ตัวชัดเจนเลยว่าตัวผมไม่ได้ขยับไปไหนจากเบาะนั่ง และ "ไม่กระแทก" อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว และนี่คือประสบการณ์ด้วยตัวเองจริงๆ ว่าเข็มขัดนิรภัย มันช่วยชีวิตอย่างนี้นี่เอง
3. เป็นคนดีกันนะครับ
ส่วนตัวมั่นใจค่อนข้างมาก ว่าตัวเองเป็นคนดีมากๆคนหนึ่ง แม้จะไม่ค่อยได้ทำบุญที่วัดอะไรก็ตามที
แต่เป็นคนที่แทบไม่เคยทำเวรทำกรรม หรือทำร้ายใครไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่เลย และรู้ว่าตนเองเป็นคนที่ซื่อสัตย์คนหนึ่ง
แค่นี้เท่านั้น ที่ผมเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมปลอดภัยและมาพิมพ์บล็อคอยู่ได้อย่างสบายๆทั้งๆที่เหตุการณ์เพิ่งเกิดแค่ 2 ชม.ก่อนหน้านี้เอง
ถ้าขณะที่รถผมเสีียหลักมีรถสวนมา ก็คงแย่กว่านี้
หรือมีใครเดินอยู่บริเวณนั้น ผมก็คงไปทำผู้อื่นเสียชีวิตได้
... แต่เพราะโชคดี ทำให้ไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น
และที่ผมโชคดี ผมคิดว่าเป็นเพราะผลบุญที่ผมมีจริงๆ
ทั้งข้อ 1. และ 2. นั้น
หลายๆคนคงทราบอยู่แล้ว และเป็นหลักการทั่วๆไปของการขับรถที่เรียกว่าเกร่อมากๆ คาดเ็ข็มขัด อย่าขับเร็ว
แต่ก็ต้องบอกเลยว่า เรื่องพื้นฐานง่ายๆแค่นี้แหละครับ ที่ช่วยได้ ไม่ต้องมามีเทคนิคอะไรมากมายเลย
ถ้าผมไม่ขับเร็ว รถก็คงไม่คว่ำ
และที่รถคว่ำ และผมไม่เป็นไร ก็เพราะผมคาดเข็มขัดนิรภัย
มันช่วยได้จริงๆครับ
...
ส่วนข้อ 3. นั้น ก็แล้วแต่ความเชื่อกันนะครับ
เพียงแต่ว่า ไม่ว่าผลบุญมันจะมีจริงหรือไม่ก็เถอะ แต่เป็นคนดีนี่มันรู้สึกดีจริงๆนะครับ ^ ^
นอกจากประโยชน์ด้านความรู้สึกส่วนตัวแล้ว สิ่งที่เราได้จากคนรอบข้างก็ดีตามกันด้วย
ก็เหมือนกับว่าเราเคยทำประโยชน์ให้ใครไว้ แล้วเค้าก็ตอบแทนเรามานั่นแหละครับ
เมื่อเราก่อกรรมดีไว้ กรรมดีก็ตอบแทนเรามา ^ ^
แน่นอนครับว่า อุบัติเหตุหลายๆอย่าง มัีนก็มีสิ่งที่เราป้องกันไม่ได้อยู่ด้วย แต่อย่างน้อยก็มีอุบัติเหตุหลากหลายอย่างที่เราป้องกันได้ มีอุบัติเหตุหลายๆอย่างที่เรา้เปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นเบาได้
กันไว้ก่อนดีกว่านะครับ
สุดท้ายก็ขอให้ทุกๆคนปลอดภัยจากการใช้รถใช้ถนนและอื่นๆกันนะครับ ^ ^
ถ้าคิดว่าประสบการณ์ของผมมีประโยชน์ก็ส่งต่อให้คนอื่นๆอ่านกันได้ครับ ก๊อปข้อความไปได้เลยครับ ^ ^
เลยอยากมาเล่าประสบการณ์ให้หลายๆคนได้อ่านกัน
ใจนึงนั้น เสียดายรถมากๆเพราะเพิ่งผ่อนหมดได้แค่ปีเดียวเอง และพ่อแม่ก็ช่วยออกให้เยอะด้วย แต่รถก็มาพังซะแล้ว ดูรูปร่างแล้วคิดว่า ... ค่าซ่อมน่าจะ 2-3 แสน ... มั้ง -*-
แต่เมื่อคิดว่าเราปลอดภัย แถมแทบไม่เจ็บอะไรเลย ถือว่าโชคดีอย่างที่สุดแล้ว รถหาใหม่ได้ แต่ชีวิตเราหาใหม่ไม่ได้นะครับ ดีแล้วที่ปลอดภัยกลับมา
เหตุการณ์ก็คือว่า "ขับรถหลบงู" ครับ คาดว่าเป็นงูเหลือมเพราะสีเหลืองๆดำๆและตัวใหญ่มากขึ้นมาได้กลางถนนแล้ว เข้าโค้งมาเจอมันบนถนน ก็หักหลบและรถเสียศูนย์ลงไปข้างทางพร้อมกับพลิกหงายแล้วก็กลับมาคว่ำได้อีกครั้งหนึ่ง คนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่ามีรถลอยตอนลงถนนด้วยล่ะครับ
ก็เลยอยากจะบอกเตือนหลายๆคนที่ได้อ่านบล็อคนี้ครับว่า
1. อย่าขับรถเร็วจะดีที่สุด
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมเองไม่ใช่ไม่ทราบนะครับ ว่า้ถ้าเจออะไรกระทันหันและขับมาไวเช่นสุนัข อย่าหลบ เพราะเราอาจจะแย่แทนได้
แต่เอาเข้าจริงๆนั้น ... มือมันหักพวงมาลัยไปเอง นอกเหนือจากการคิดวิเคราะห์จริงๆ
เพราะตรงส่วนที่ผมเจองูนั้น เป็นโค้ง เรียกว่าเข้าโค้งไปปุ๊บ ก็เจองูปั๊บเลยครับ เรียกว่าไม่ได้ทันคิดอะไรเลย แล้วมันก็หักหลบไปตามสัญชาตญาณแ่ล้วล่ะครับ
ดังนั้น ถ้าผมขับรถมาช้าอีกสักนิด ผมก็อาจจะหักหลบได้โดยง่ายและรถก็ไม่คว่ำจนพังยับอย่างนี้
หรือไม่เช่นนั้น ผมก็จะมีสติ คิดวิเคราะห์ได้ทัน พูดง่ายๆคือมีเวลาให้คิดเพิ่มขึ้นแม้เสี้ยววินาทีก็ตาม
แต่เพราะขับเร็วจึงไม่ทันได้คิดอะไรเลย
...
หากติดขับรถเร็วจนติดเป็นนิสัียจริงๆ ขณะเข้าโค้ง ก็เบาไว้ก่อนดีกว่า ไม่ใช่ว่าเค้าโค้งฉุบฉับทันที เพราะเราไม่รู้ว่ามีอะไรรออยู่ที่โค้ง อาจจะมีรถจักรยานหรือรถอื่นๆที่แล่นช้ามากๆ คอยอยู่หลังโค้งก็ได้ครับ
2. คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง
ผมคาดเข็มขัดนิรภัยครับ และรู้ได้ทันทีจากการนั่งรถครั้งนี้เลยว่า เรารอดได้เพราะคาดเข็มขัดนิรภัยจริงๆ
แน่นอนว่าโชคดีก็ส่วนหนึ่งที่รถไม่ได้กระแทกบริเวณคนขับ
แต่ถ้าผมไม่ได้ขาดเข็มขัดนิรภัย ก็น่าจะแย่กว่านี้มากๆครับ เพราะตัวก็คงกระเด้งไปลอยไปมากระแทกอะไรต่อมิอะไรได้ง่ายๆ (คนเห็นเหตุการณ์บอกว่ารถลอยด้วยครับ แถมพลิกหนึ่งตลบแล้วก็กลับมาคว่ำ(ไม่ได้หงาย)ใหม่อีกรอบ ... ซึ่งก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน รู้สึกยิ่งกว่านั่งรถไฟเหาะอีก
...
ซึ่งขณะที่รถพลิกคว่ำนั้น ผมรู้ตัวอยู่ตลอด และรู้ตัวชัดเจนเลยว่าตัวผมไม่ได้ขยับไปไหนจากเบาะนั่ง และ "ไม่กระแทก" อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว และนี่คือประสบการณ์ด้วยตัวเองจริงๆ ว่าเข็มขัดนิรภัย มันช่วยชีวิตอย่างนี้นี่เอง
3. เป็นคนดีกันนะครับ
ส่วนตัวมั่นใจค่อนข้างมาก ว่าตัวเองเป็นคนดีมากๆคนหนึ่ง แม้จะไม่ค่อยได้ทำบุญที่วัดอะไรก็ตามที
แต่เป็นคนที่แทบไม่เคยทำเวรทำกรรม หรือทำร้ายใครไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่เลย และรู้ว่าตนเองเป็นคนที่ซื่อสัตย์คนหนึ่ง
แค่นี้เท่านั้น ที่ผมเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมปลอดภัยและมาพิมพ์บล็อคอยู่ได้อย่างสบายๆทั้งๆที่เหตุการณ์เพิ่งเกิดแค่ 2 ชม.ก่อนหน้านี้เอง
ถ้าขณะที่รถผมเสีียหลักมีรถสวนมา ก็คงแย่กว่านี้
หรือมีใครเดินอยู่บริเวณนั้น ผมก็คงไปทำผู้อื่นเสียชีวิตได้
... แต่เพราะโชคดี ทำให้ไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น
และที่ผมโชคดี ผมคิดว่าเป็นเพราะผลบุญที่ผมมีจริงๆ
ทั้งข้อ 1. และ 2. นั้น
หลายๆคนคงทราบอยู่แล้ว และเป็นหลักการทั่วๆไปของการขับรถที่เรียกว่าเกร่อมากๆ คาดเ็ข็มขัด อย่าขับเร็ว
แต่ก็ต้องบอกเลยว่า เรื่องพื้นฐานง่ายๆแค่นี้แหละครับ ที่ช่วยได้ ไม่ต้องมามีเทคนิคอะไรมากมายเลย
ถ้าผมไม่ขับเร็ว รถก็คงไม่คว่ำ
และที่รถคว่ำ และผมไม่เป็นไร ก็เพราะผมคาดเข็มขัดนิรภัย
มันช่วยได้จริงๆครับ
...
ส่วนข้อ 3. นั้น ก็แล้วแต่ความเชื่อกันนะครับ
เพียงแต่ว่า ไม่ว่าผลบุญมันจะมีจริงหรือไม่ก็เถอะ แต่เป็นคนดีนี่มันรู้สึกดีจริงๆนะครับ ^ ^
นอกจากประโยชน์ด้านความรู้สึกส่วนตัวแล้ว สิ่งที่เราได้จากคนรอบข้างก็ดีตามกันด้วย
ก็เหมือนกับว่าเราเคยทำประโยชน์ให้ใครไว้ แล้วเค้าก็ตอบแทนเรามานั่นแหละครับ
เมื่อเราก่อกรรมดีไว้ กรรมดีก็ตอบแทนเรามา ^ ^
แน่นอนครับว่า อุบัติเหตุหลายๆอย่าง มัีนก็มีสิ่งที่เราป้องกันไม่ได้อยู่ด้วย แต่อย่างน้อยก็มีอุบัติเหตุหลากหลายอย่างที่เราป้องกันได้ มีอุบัติเหตุหลายๆอย่างที่เรา้เปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นเบาได้
กันไว้ก่อนดีกว่านะครับ
สุดท้ายก็ขอให้ทุกๆคนปลอดภัยจากการใช้รถใช้ถนนและอื่นๆกันนะครับ ^ ^
ถ้าคิดว่าประสบการณ์ของผมมีประโยชน์ก็ส่งต่อให้คนอื่นๆอ่านกันได้ครับ ก๊อปข้อความไปได้เลยครับ ^ ^
The Famous House รีสอร์ทใหม่ สวยแต่หลักร้อย!! ที่เกาะเต่า - Koh Tao
มีโรงแรมรีสอร์ทหลักร้อยเปิดใหม่มาแนะนำกันครับ โดยครั้งนี้ไปกันที่เกาะเต่า เขตชายหาดโฉลกบ้านเก่าครับ
รีสอร์ทนี้ชื่อว่า The Famous House Koh Tao Resort เป็นรีสอร์ทที่เพิ่งเปิดใหม่ช่วงปี 2010 / 2553 นี่เอง จัดว่าใหม่มากสำหรับที่เกาะเต่าครับ
ทำเลที่ตั้งก็คือหาดโฉลกบ้านเก่าที่เป็นที่นิยมพอควร
... แต่ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ รีสอร์ท The Famous House แห่งนี้ จัดว่ามีดีไซน์มากๆครับ แต่ดันมาคู่กับราคาหลักร้อยซะงั้น!!
สาเหตุก็คงเป็นเพราะว่าไม่ได้ติดทะเลหรือติดหน้าหาดนั่นเอง (แต่ก็ไม่ได้ไกลจากหาดมากนะครับ) ทำให้รีสอร์ทหน้าตาดูดีแห่งนี้ ราคาลงมาอยู่หลักร้อยไปโดยปริยาย ... ซึ่งส่วนตัวมองว่าคุ้มค่าดีครับ
ลองดูภาพของ The Famous House Koh Tao กันก่อนครับ
เริ่มด้วยห้องพักแบบ double ... จะเห็นว่าการตกแต่งจะออกโมเดิร์น+ความกิ๊บเก๋เข้าไป ดูดีมากทีเดียวสำหรับราคาหลักร้อยที่ได้
ห้องแบบเตียงเดี่ยวสองเตียงกันบ้าง
แถมยังมีสระว่ายน้ำด้วยนะครับ ^ ^
...
ก็เป็นตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจครับ
เพราะถ้าคิดจะประหยัดงบบนเกาะเต่า ไม่ได้เน้นวิวมากมาย เน้นออกทัวร์เกาะมากกว่า ... ถ้าประมาณนี้ รีสอร์ทนี้ก็เข้าข่ายละครับ แถมเป็นข่ายที่น่าสนใจตรงที่ว่างบก็ได้ประหยัด ที่พักก็สวยอีกด้วย
ดูข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เวบของ The Famous House Koh Tao ที่ http://www.thefamoushouse-kohtao.com ครับ ^0^
รีสอร์ทนี้ชื่อว่า The Famous House Koh Tao Resort เป็นรีสอร์ทที่เพิ่งเปิดใหม่ช่วงปี 2010 / 2553 นี่เอง จัดว่าใหม่มากสำหรับที่เกาะเต่าครับ
ทำเลที่ตั้งก็คือหาดโฉลกบ้านเก่าที่เป็นที่นิยมพอควร
... แต่ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ รีสอร์ท The Famous House แห่งนี้ จัดว่ามีดีไซน์มากๆครับ แต่ดันมาคู่กับราคาหลักร้อยซะงั้น!!
สาเหตุก็คงเป็นเพราะว่าไม่ได้ติดทะเลหรือติดหน้าหาดนั่นเอง (แต่ก็ไม่ได้ไกลจากหาดมากนะครับ) ทำให้รีสอร์ทหน้าตาดูดีแห่งนี้ ราคาลงมาอยู่หลักร้อยไปโดยปริยาย ... ซึ่งส่วนตัวมองว่าคุ้มค่าดีครับ
ลองดูภาพของ The Famous House Koh Tao กันก่อนครับ
เริ่มด้วยห้องพักแบบ double ... จะเห็นว่าการตกแต่งจะออกโมเดิร์น+ความกิ๊บเก๋เข้าไป ดูดีมากทีเดียวสำหรับราคาหลักร้อยที่ได้
ห้องแบบเตียงเดี่ยวสองเตียงกันบ้าง
แถมยังมีสระว่ายน้ำด้วยนะครับ ^ ^
...
ก็เป็นตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจครับ
เพราะถ้าคิดจะประหยัดงบบนเกาะเต่า ไม่ได้เน้นวิวมากมาย เน้นออกทัวร์เกาะมากกว่า ... ถ้าประมาณนี้ รีสอร์ทนี้ก็เข้าข่ายละครับ แถมเป็นข่ายที่น่าสนใจตรงที่ว่างบก็ได้ประหยัด ที่พักก็สวยอีกด้วย
ดูข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เวบของ The Famous House Koh Tao ที่ http://www.thefamoushouse-kohtao.com ครับ ^0^
โหรเผย คำทำนาย ปี 2554 ไทยเจอหนัก!! ... นอสตราดามุสเมืองไทย จะแม่นแน่หรือ??
ตอนนี้เห็นว่ามีข่าวออกในอินเตอร์เนทหลายเวบเหมือนกัน ว่าโหรดังทำนายดวงปี 2553 ไว้ได้แม่นจนน่าขนลุก!!
พร้อมทั้งนำคำทำนายปี 2554 ที่มาสร้างความน่าสะพรึงกลัวกันอีกครั้ง!!
ประกอบกับการเกิดสึนามิและแผ่นดินไหวทางตอนเหนือของไทย ทำให้หลายๆคนกังวลกันอย่างมาก ว่าโลกเราเป็นอะไรไปแล้ว!!?
...
เรื่องที่ว่าแม่น ก็เช่น ... ทายถูกเรื่องน้ำท่วมประเทศไทยปลายปี 53 และทายถูกเรื่องเหตุสลายม็อบเสื้อแดง ...
อ่านได้ตามเวบนี้ครับ
http://www.horoworld.com
...
หลังจากที่อ่านแล้ว ให้ความรู้สึกว่า แม่นจริงๆหรือ? ... ที่ยังแอบติดใจอยู่ เพราะเห็นว่าทำนายออกมาเป็นหนังสือเล่มๆเลย (หนังสือ ศาสตร์แห่งโหร 2553)
ก็แสดงว่าทำนายไว้เยอะน่ะสิ?
ก็เลยลองเสิร์ชหาข้อมูลเก่าๆที่ทำนายช่วงปี 2553 ดู
ก็พบกับเวบไซต์ของ Hunsa นี้ http://news.hunsa.com/detail.php?id=19293
... ก็ลองอ่านดู พบว่า ...
ที่ไม่ตรงตั้งหลายอันแน่ะ -*- ...
เช่น
- อาเพศสุดๆ จะเกิด "หิมะตกในกรุงเทพฯ" ... อันนี้ทำนายไว้ว่าจะเกิดปลายปี 2553 แต่ก็ไม่เกิด แล้วก็นำมาทำนายใหม่ว่าจะเกิดปี 2554 -*-
- ไข้หวัดนกจะเข้ามาทำลายล้างชีวิตมนุษย์ ทำให้้สูญเสียชีวิตมากมายเป็นที่สยดสยองต่อวงการแพทย์ ... สรุปก็คือมีกระแสหวัด 2009 ในปี 2010 อีกระลอก แต่ครั้งนี้เงียบและผู้เสียชีวิตไ่ม่ต่างจากผู้เสียชีวิตจาก Pneumonia ในแต่ละปีมากนัก
- เขื่อนยักษ์แตก ... ไม่แตก และก็เช่นกันพอสิ้นปี 2553 ก็เอามาทำนายใหม่ ปี 2554 -*-
- เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่เกาะสุมาตรา ทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ในหลายแห่งทั่วโลก ... ในปี 2553 ไม่เกิดเลย มีปี 2554 นี่แหละที่เกิดที่ญี่ปุ่น ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับเกาะสุมาตราเลย
ว่าแล้วก็ยกคำทำนายที่ไม่เกิดในปี 2553 มาบอกว่าจะเกิดในช่วง พ.ค. 2554 แทน
- น้ำแข็งละลาย น้ำท่วมโลกใหญ่ แผ่นดินหายไปหลายส่วน ... ส่วนตัวเท่าที่เห็น ก็มีพื้นที่ชายฝั่งพังทลาย หายไป 1-2 เมตรแถวสมุทรปราการ(มั้ง) จะว่าทำนายตรงได้ไหมเนี่ย?
...
ว่าแล้ว ก็ลองมาดูอันที่ตรงกันบ้าง
- ปี 2553 จะเกิดการรบนองเลือดถึงขั้นเสียชีวิตผู้คนมาก ถึงจะได้คืนมาซึ่งแผ่นดิน อาจจะถึงขั้นประกาศสงครามกับเพื่อนบ้าน
จะเห็นว่า หลายๆคนก็ทายอย่างนี้เหมือนกัน เพราะมีเรื่องยืดเยื้อมาตั้งแต่ก่อนปี 2553 แล้ว
และที่สำคัญ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้รุนแรงเหมือนกับที่คำทำนายบอกไว้ แค่มีการรบกันพอหอมปากหอมคอช่วงสั้นๆ ในบริเวณปัญหาเท่านั้น
- ปัญหาเรื่องม็อบ ... ก่อนเข้าสู่ปี 2553 ก็เกิดปัญหารุนแรงอยู่แล้ว และก็เป็นสิ่งที่หลายๆคนคิดว่ามีโอกาสเกิดสูงเช่นกัน
...
...
พอเห็นเช่นนี้แล้ว ส่วนตัวเห็นว่าคำทำนายอ้างอิงหลักวิทยาศาสตร์ค่อนข้างมาก
อย่างเช่นเรื่องน้ำท่วมต่างๆ วิทยาศาสตร์ก็ตื่นตูมกันเป็นตุเป็นตะก่อนหน้าคำทำนายนี้มาก ในเรื่องน้ำแข็งละลาย น้ำท่วมโลก
หรือเกาะสุมาตรานั้น ภายใต้เป็นรอยเลื่อนขนาดยักษ์มากๆแห่งหนึ่งของโลก หรือที่เรียกว่า Ring of fire ไม่แปลกที่จะเกิดแผ่นดินไหวที่นี่
...
จากนั้นก็เหมือนกับว่า คำทำนายจับเอาสิ่งที่วิทยาศาสตร์เพ่งเล็งให้เฝ้าระวังเอาไว้มาเป็นคำำทำนาย เพราะวิทยาศาสตร์ออกมาก่อนที่คำทำนายนี้จะเกิด
ส่วนเรื่องการเมืองต่างๆ หลายๆฝ่ายก็คิดกันอยู่แล้วว่าถ้าปล่อยต่อไป มีปัญหาใหญ่แน่ๆ ... ส่วนใหญ่แค่มองรูปการณ์ก็ทายกันได้แล้ว ไม่ต้องถึงขั้นคำทำนายหรอก
...
...
ดังนั้น ผมเองไม่ขอฟันธงนะ ว่าคำทำนายจะไม่เกิดขึ้นจริง มันอาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ อาจจะแม่นก็ได้ ใครจะรู้ ^ ^
เพียงแต่ไม่ต้องกังวลว่า คำทำนายที่ผ่านมามีประวัติ "แม่นมาก" และครั้งนี้คงต้องเกิดแน่ๆ ... หรอกครับ
ประวัติที่ผ่านมาในปี 2553 บ่งชี้ไม่ได้เลย ว่าทำนายแม่นนะครับ
ดังนั้น เค้าทำนายไว้ก็ระวังไว้บ้างก็ดี เพราะมันก็ล้อๆมาจากวิทยาศาสตร์บางสายที่สนใจในเรื่องเหล่านี้ (แต่วิทยาศาสตร์สายที่แย้งก็มี ^ ^)
แต่จะให้ตระหนกตกใจ กลัว หรือคิดว่าเกิดแน่ๆ คงไม่ต้องหรอกครับ ^ ^
พร้อมทั้งนำคำทำนายปี 2554 ที่มาสร้างความน่าสะพรึงกลัวกันอีกครั้ง!!
ประกอบกับการเกิดสึนามิและแผ่นดินไหวทางตอนเหนือของไทย ทำให้หลายๆคนกังวลกันอย่างมาก ว่าโลกเราเป็นอะไรไปแล้ว!!?
...
เรื่องที่ว่าแม่น ก็เช่น ... ทายถูกเรื่องน้ำท่วมประเทศไทยปลายปี 53 และทายถูกเรื่องเหตุสลายม็อบเสื้อแดง ...
อ่านได้ตามเวบนี้ครับ
http://www.horoworld.com
...
หลังจากที่อ่านแล้ว ให้ความรู้สึกว่า แม่นจริงๆหรือ? ... ที่ยังแอบติดใจอยู่ เพราะเห็นว่าทำนายออกมาเป็นหนังสือเล่มๆเลย (หนังสือ ศาสตร์แห่งโหร 2553)
ก็แสดงว่าทำนายไว้เยอะน่ะสิ?
ก็เลยลองเสิร์ชหาข้อมูลเก่าๆที่ทำนายช่วงปี 2553 ดู
ก็พบกับเวบไซต์ของ Hunsa นี้ http://news.hunsa.com/detail.php?id=19293
... ก็ลองอ่านดู พบว่า ...
ที่ไม่ตรงตั้งหลายอันแน่ะ -*- ...
เช่น
- อาเพศสุดๆ จะเกิด "หิมะตกในกรุงเทพฯ" ... อันนี้ทำนายไว้ว่าจะเกิดปลายปี 2553 แต่ก็ไม่เกิด แล้วก็นำมาทำนายใหม่ว่าจะเกิดปี 2554 -*-
- ไข้หวัดนกจะเข้ามาทำลายล้างชีวิตมนุษย์ ทำให้้สูญเสียชีวิตมากมายเป็นที่สยดสยองต่อวงการแพทย์ ... สรุปก็คือมีกระแสหวัด 2009 ในปี 2010 อีกระลอก แต่ครั้งนี้เงียบและผู้เสียชีวิตไ่ม่ต่างจากผู้เสียชีวิตจาก Pneumonia ในแต่ละปีมากนัก
- เขื่อนยักษ์แตก ... ไม่แตก และก็เช่นกันพอสิ้นปี 2553 ก็เอามาทำนายใหม่ ปี 2554 -*-
- เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่เกาะสุมาตรา ทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ในหลายแห่งทั่วโลก ... ในปี 2553 ไม่เกิดเลย มีปี 2554 นี่แหละที่เกิดที่ญี่ปุ่น ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับเกาะสุมาตราเลย
ว่าแล้วก็ยกคำทำนายที่ไม่เกิดในปี 2553 มาบอกว่าจะเกิดในช่วง พ.ค. 2554 แทน
- น้ำแข็งละลาย น้ำท่วมโลกใหญ่ แผ่นดินหายไปหลายส่วน ... ส่วนตัวเท่าที่เห็น ก็มีพื้นที่ชายฝั่งพังทลาย หายไป 1-2 เมตรแถวสมุทรปราการ(มั้ง) จะว่าทำนายตรงได้ไหมเนี่ย?
...
ว่าแล้ว ก็ลองมาดูอันที่ตรงกันบ้าง
- ปี 2553 จะเกิดการรบนองเลือดถึงขั้นเสียชีวิตผู้คนมาก ถึงจะได้คืนมาซึ่งแผ่นดิน อาจจะถึงขั้นประกาศสงครามกับเพื่อนบ้าน
จะเห็นว่า หลายๆคนก็ทายอย่างนี้เหมือนกัน เพราะมีเรื่องยืดเยื้อมาตั้งแต่ก่อนปี 2553 แล้ว
และที่สำคัญ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้รุนแรงเหมือนกับที่คำทำนายบอกไว้ แค่มีการรบกันพอหอมปากหอมคอช่วงสั้นๆ ในบริเวณปัญหาเท่านั้น
- ปัญหาเรื่องม็อบ ... ก่อนเข้าสู่ปี 2553 ก็เกิดปัญหารุนแรงอยู่แล้ว และก็เป็นสิ่งที่หลายๆคนคิดว่ามีโอกาสเกิดสูงเช่นกัน
...
...
พอเห็นเช่นนี้แล้ว ส่วนตัวเห็นว่าคำทำนายอ้างอิงหลักวิทยาศาสตร์ค่อนข้างมาก
อย่างเช่นเรื่องน้ำท่วมต่างๆ วิทยาศาสตร์ก็ตื่นตูมกันเป็นตุเป็นตะก่อนหน้าคำทำนายนี้มาก ในเรื่องน้ำแข็งละลาย น้ำท่วมโลก
หรือเกาะสุมาตรานั้น ภายใต้เป็นรอยเลื่อนขนาดยักษ์มากๆแห่งหนึ่งของโลก หรือที่เรียกว่า Ring of fire ไม่แปลกที่จะเกิดแผ่นดินไหวที่นี่
...
จากนั้นก็เหมือนกับว่า คำทำนายจับเอาสิ่งที่วิทยาศาสตร์เพ่งเล็งให้เฝ้าระวังเอาไว้มาเป็นคำำทำนาย เพราะวิทยาศาสตร์ออกมาก่อนที่คำทำนายนี้จะเกิด
ส่วนเรื่องการเมืองต่างๆ หลายๆฝ่ายก็คิดกันอยู่แล้วว่าถ้าปล่อยต่อไป มีปัญหาใหญ่แน่ๆ ... ส่วนใหญ่แค่มองรูปการณ์ก็ทายกันได้แล้ว ไม่ต้องถึงขั้นคำทำนายหรอก
...
...
ดังนั้น ผมเองไม่ขอฟันธงนะ ว่าคำทำนายจะไม่เกิดขึ้นจริง มันอาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ อาจจะแม่นก็ได้ ใครจะรู้ ^ ^
เพียงแต่ไม่ต้องกังวลว่า คำทำนายที่ผ่านมามีประวัติ "แม่นมาก" และครั้งนี้คงต้องเกิดแน่ๆ ... หรอกครับ
ประวัติที่ผ่านมาในปี 2553 บ่งชี้ไม่ได้เลย ว่าทำนายแม่นนะครับ
ดังนั้น เค้าทำนายไว้ก็ระวังไว้บ้างก็ดี เพราะมันก็ล้อๆมาจากวิทยาศาสตร์บางสายที่สนใจในเรื่องเหล่านี้ (แต่วิทยาศาสตร์สายที่แย้งก็มี ^ ^)
แต่จะให้ตระหนกตกใจ กลัว หรือคิดว่าเกิดแน่ๆ คงไม่ต้องหรอกครับ ^ ^
Courtyard Bali Nusa Dua รีสอร์ทใหม่!! ที่บาหลี นูซาดัว ครับ!!
สำหรับใครที่กำลังเล็งๆที่โรงแรมรีสอร์ทที่บาหลี ย่าน Nusa Dua
ก็ขอแนะนำรีสอร์ทเปิดใหม่ครับ Courtyard Bali Nusa Dua หรือชื่อเต็มๆว่า Courtyard by Marriott Bali Nusa Dua
โดยเพิ่งเปิดในช่วงเดือน มี.ค. 2011 / 2554 กันนี้เองครับ!! ใหม่มากๆ มีห้องพักจำนวน 250 ห้อง ซึ่งก็ถือว่าเป็นโรงแรมใหญ่พอควรเลย
... ราคาห้อง Deluxe ถูกสุดก็อยู่ที่ประมาณ 2,100 บาทไทยเท่านั้น ซึ่งถือว่าราคาถูกนะครับ เพราะย่าน Nusa Dua ในบาหลีเนี่ย แพงๆทั้งนั้นครับ
ตอนนี้ทางเวบไซต์ของ Courtyard Bali Nusa Dua เองก็ยังไม่ค่อยมีข้อมูลออกมามากเท่าไหร่ แม้แต่รูปภาพยังไม่ค่อยมีเลยครับ
แต่ที่แน่ๆคือ ติดหาด มีสระว่ายน้ำ ซึ่งโรงแรมระดับ Courtyard มีครบครันแน่ๆครับ
และนี่คือรูปบางส่วนจากเวบของ Courtyard by Marriott Bali Nusa Dua ครับ
...
ดูข้อมูลเพิ่มเติมของรีสอร์ท Courtyard Bali Nusa Dua Resort ได้ที่ https://www.marriott.com/hotels/travel/dpscy-courtyard-bali-nusa-dua/ ครับ
ก็ขอแนะนำรีสอร์ทเปิดใหม่ครับ Courtyard Bali Nusa Dua หรือชื่อเต็มๆว่า Courtyard by Marriott Bali Nusa Dua
โดยเพิ่งเปิดในช่วงเดือน มี.ค. 2011 / 2554 กันนี้เองครับ!! ใหม่มากๆ มีห้องพักจำนวน 250 ห้อง ซึ่งก็ถือว่าเป็นโรงแรมใหญ่พอควรเลย
... ราคาห้อง Deluxe ถูกสุดก็อยู่ที่ประมาณ 2,100 บาทไทยเท่านั้น ซึ่งถือว่าราคาถูกนะครับ เพราะย่าน Nusa Dua ในบาหลีเนี่ย แพงๆทั้งนั้นครับ
ตอนนี้ทางเวบไซต์ของ Courtyard Bali Nusa Dua เองก็ยังไม่ค่อยมีข้อมูลออกมามากเท่าไหร่ แม้แต่รูปภาพยังไม่ค่อยมีเลยครับ
แต่ที่แน่ๆคือ ติดหาด มีสระว่ายน้ำ ซึ่งโรงแรมระดับ Courtyard มีครบครันแน่ๆครับ
และนี่คือรูปบางส่วนจากเวบของ Courtyard by Marriott Bali Nusa Dua ครับ
...
ดูข้อมูลเพิ่มเติมของรีสอร์ท Courtyard Bali Nusa Dua Resort ได้ที่ https://www.marriott.com/hotels/travel/dpscy-courtyard-bali-nusa-dua/ ครับ
บังคลาเทศ Dhaka - ธากา สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าสนใจ ^ ^
Dhaka (ธากา) เมืองหลวงของประเทศบังกลาเทศนั้น ตอนนี้เราสามารถไปเยือนที่นั่นได้อย่างง่ายๆกันแล้วล่ะครับ
เพราะตอนนี้ทาง Bangkok Airways ได้เปิดเส้นทางการบินใหม่ขึ้นแล้ว~~!! โดยจะเริ่มเที่ยวบิน กรุงเทพฯ - บังคลาเทศ (ธากา) - กรุงเทพฯ ในวันที่ 27 มีนาคม 2554 นี้ครับ (หวังว่าคงจะอยู่ยืนนะ ^ ^")
ซึ่งราคาไปกลับก็เพียง 5,590 บาทเท่าันั้น (ยังไม่รวมภาษี)
...
ดังนั้น ใครที่ท่องเที่ยวมาหลายประเทศแล้ว อยากหาความแปลกใหม่กับบังคลาเทศในราคาไม่แรงนักก็ดูจะเป็นทางเลือกใหม่ๆดี
Bangladesh - บังคลาเทศ เป็นประเทศที่อยู่ทางทิศตะวันตกของพม่านี่เองครับ ทางตะวันตกของบังคลาเทศก็ติดกับอินเดียอีกต่อ จัดเป็นประเทศใกล้ๆไทย แต่เราก็ไม่ค่อยจะคุ้นเคยกับประเทศนี้กันมากนัก
แหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะเป็นเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติครับ ส่วนทะเลนั้น ที่บังคลาเทศไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เทียบไทยเราไม่ไ้ด้เลยครับ
ประเทศนี้จึงเหมาะแก่การท่องเที่ยวเิชิงวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และธรรมชาิติพวกพืชพรรณ เป็นหลักๆครับ
และนี่ Somapura Mahavihara สถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาอีกแห่ง ที่ยิ่งใหญ่มากๆที่ประเทศบังคลาเทศครับ
ยังไงก็ลองชมวิดีโอเกี่ยวกับประเทศบังกลาเทศดูครับ แล้วคุณจะรู้ว่าที่นี่มีที่ท่องเที่ยวน่าสนใจเยอะ โดยเฉพาะคนสนใจด้านสถาปัตยกรรม ที่นี่น่าดูชมทีเดียว
...
ส่วนคลิปนี้จะมีให้ดูแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลบ้าง แต่ทะเลแถวประเทศบังคลาเทศไม่ค่อยสวยมากครับ แต่ยังเป็นธรรมชาิติและไม่พลุกพล่านด้วยผู้คนมากนักครับ เกาะที่ดังๆก็คือที่ St. Martins Island ครับ
Credit : sabuj263
...
ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวครับ ^ ^
เพราะตอนนี้ทาง Bangkok Airways ได้เปิดเส้นทางการบินใหม่ขึ้นแล้ว~~!! โดยจะเริ่มเที่ยวบิน กรุงเทพฯ - บังคลาเทศ (ธากา) - กรุงเทพฯ ในวันที่ 27 มีนาคม 2554 นี้ครับ (หวังว่าคงจะอยู่ยืนนะ ^ ^")
ซึ่งราคาไปกลับก็เพียง 5,590 บาทเท่าันั้น (ยังไม่รวมภาษี)
...
ดังนั้น ใครที่ท่องเที่ยวมาหลายประเทศแล้ว อยากหาความแปลกใหม่กับบังคลาเทศในราคาไม่แรงนักก็ดูจะเป็นทางเลือกใหม่ๆดี
Bangladesh - บังคลาเทศ เป็นประเทศที่อยู่ทางทิศตะวันตกของพม่านี่เองครับ ทางตะวันตกของบังคลาเทศก็ติดกับอินเดียอีกต่อ จัดเป็นประเทศใกล้ๆไทย แต่เราก็ไม่ค่อยจะคุ้นเคยกับประเทศนี้กันมากนัก
แหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะเป็นเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติครับ ส่วนทะเลนั้น ที่บังคลาเทศไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เทียบไทยเราไม่ไ้ด้เลยครับ
ประเทศนี้จึงเหมาะแก่การท่องเที่ยวเิชิงวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และธรรมชาิติพวกพืชพรรณ เป็นหลักๆครับ
และนี่ Somapura Mahavihara สถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาอีกแห่ง ที่ยิ่งใหญ่มากๆที่ประเทศบังคลาเทศครับ
ยังไงก็ลองชมวิดีโอเกี่ยวกับประเทศบังกลาเทศดูครับ แล้วคุณจะรู้ว่าที่นี่มีที่ท่องเที่ยวน่าสนใจเยอะ โดยเฉพาะคนสนใจด้านสถาปัตยกรรม ที่นี่น่าดูชมทีเดียว
...
ส่วนคลิปนี้จะมีให้ดูแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลบ้าง แต่ทะเลแถวประเทศบังคลาเทศไม่ค่อยสวยมากครับ แต่ยังเป็นธรรมชาิติและไม่พลุกพล่านด้วยผู้คนมากนักครับ เกาะที่ดังๆก็คือที่ St. Martins Island ครับ
Credit : sabuj263
...
ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวครับ ^ ^
Olympus E-PL1 ถูกนำเอามาถ่ายวิดีโอทำโฆษณา!!
โฆษณา Coke ที่จะเห็นต่อไปนี้ คือโฆษณาที่ถ่ายทำจากกล้อง Mirrorless อย่าง Olympus E-PL1
ซึ่งน่าประหลาดมาก ที่กล้องราคารวมเลนส์ไม่ถึง 2 หมื่น ตัวนี้ จะถูกเอามาใช้กับงานระดับโฆษณาทีวี!!??
ลองชมกันดูครับ ว่าถ่ายวิดีโอแบบ Olympus E-PL1 จะได้แค่ไหน!!
...
เจ๋งดีครับ ... แน่นอนว่ากล้องที่ถ่ายวิดีโอระดับ HD ได้จริงๆก็มีเยอะแยะ
แต่สิ่งที่ทำให้ E-PL1 ถูกเืลือก คาดว่าเป็นเพราะขนาดของเจ้า Mirrorless ด้วยล่ะครับ ที่ทำให้กล้องตัวนี้ถูกเลือกมาใช้ถ่ายทำวิดีโอโฆษณา
คลิปนี้ถ่ายทำในมาเลเซียนะครับ แล้วก็เห็นว่าจะ broadcast ไปในอีก 10 ประเทศ ก็ไม่รู้ว่าจะมีประเทศไทยบ้างหรือเปล่า ... ถ้าโฆษณาเข้าไทย ก็บอกใครต่อใครได้เลยครับ ว่าระดับ Mirrorless เค้าได้ระดับนี้กันแล้ว!!
ซึ่งน่าประหลาดมาก ที่กล้องราคารวมเลนส์ไม่ถึง 2 หมื่น ตัวนี้ จะถูกเอามาใช้กับงานระดับโฆษณาทีวี!!??
ลองชมกันดูครับ ว่าถ่ายวิดีโอแบบ Olympus E-PL1 จะได้แค่ไหน!!
...
เจ๋งดีครับ ... แน่นอนว่ากล้องที่ถ่ายวิดีโอระดับ HD ได้จริงๆก็มีเยอะแยะ
แต่สิ่งที่ทำให้ E-PL1 ถูกเืลือก คาดว่าเป็นเพราะขนาดของเจ้า Mirrorless ด้วยล่ะครับ ที่ทำให้กล้องตัวนี้ถูกเลือกมาใช้ถ่ายทำวิดีโอโฆษณา
คลิปนี้ถ่ายทำในมาเลเซียนะครับ แล้วก็เห็นว่าจะ broadcast ไปในอีก 10 ประเทศ ก็ไม่รู้ว่าจะมีประเทศไทยบ้างหรือเปล่า ... ถ้าโฆษณาเข้าไทย ก็บอกใครต่อใครได้เลยครับ ว่าระดับ Mirrorless เค้าได้ระดับนี้กันแล้ว!!
โปรเสือ Thai Tiger Airways กับ Stripes Member!! โปรถูกเกินห้ามใจ!!
Thai Tiger Airways สายการบิน Low cost ที่เพิ่งรุกตลาดเข้ามาในไทยแบบใหม่ๆซิงๆสายการบินนี้ เริ่มออกโปรกันแล้ว!! ขอเรียกว่า "โปรเสือ" ละกันครับ ^ ^
โดยตอนนี้ เห็นมีโปรบินไปสิงคโปร์ ไป-กลับ (ย้ำว่า ไป-กลับ!!) ที่ 27 บาทเท่านั้น!!
และนี่คือรูปจากเวบของ tigerairways.com ณ ตอนนี้ครับ ... ยังงี้ Thai Tiger Airways ก็เป็นอีกเวบที่ต้องคอยเช็คโปรโมชั่นสิเนี่ย!!
...
แต่อ๊ะๆ อย่าเพิ่งรีบจองตั๋วไปครับ
โปรเสือของทาง Thai Tiger Airways นั้น สำหรับสมาชิกนะครับ เรียกว่า Stripes Member
ซึ่งต้องเสียค่าสมาชิก ปีละ 29.95 USD หรือประมาณ 900 บาทนั่นเองครับ
ดังนั้น ถ้าคุณอยากได้โปรนี้ คุณก็ต้องเป็นสมาชิก Stripes Member ก่อน ไม่ใช่ว่าเอะอะก็จองได้เลยแบบโปรหางแดงนะครับ
...
อย่างไรก็ตาม เท่าที่เห็นว่า ไปสิงคโปร์เพียง 27 บาทไปกลับนี้ รวมกับอีก 900 บาท ... โปรนี้ ปีนึงใช้แค่หนเดียวก็ยังคุ้มครับ!!
แต่ส่วนตัวขอรอดูไฟลทของทาง Thai Tiger Airways ก่อนแล้วกันครับ ว่าจะมีไฟล์ทเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เพราะถ้าออกจากกทม. ตอนนี้ก็มีไปแค่สิงคโปร์กับเพิร์ธ สองที่เองครับ -*-
คงไม่คิดจะไปสิงคโปร์ปีละครั้งอ่ะนะครับ -*- ไม่งั้นปีอื่นๆก็เสียค่าสมาชิกฟรีๆ รอดูทีท่าไปก่อนครับ
โดยตอนนี้ เห็นมีโปรบินไปสิงคโปร์ ไป-กลับ (ย้ำว่า ไป-กลับ!!) ที่ 27 บาทเท่านั้น!!
และนี่คือรูปจากเวบของ tigerairways.com ณ ตอนนี้ครับ ... ยังงี้ Thai Tiger Airways ก็เป็นอีกเวบที่ต้องคอยเช็คโปรโมชั่นสิเนี่ย!!
...
แต่อ๊ะๆ อย่าเพิ่งรีบจองตั๋วไปครับ
โปรเสือของทาง Thai Tiger Airways นั้น สำหรับสมาชิกนะครับ เรียกว่า Stripes Member
ซึ่งต้องเสียค่าสมาชิก ปีละ 29.95 USD หรือประมาณ 900 บาทนั่นเองครับ
ดังนั้น ถ้าคุณอยากได้โปรนี้ คุณก็ต้องเป็นสมาชิก Stripes Member ก่อน ไม่ใช่ว่าเอะอะก็จองได้เลยแบบโปรหางแดงนะครับ
...
อย่างไรก็ตาม เท่าที่เห็นว่า ไปสิงคโปร์เพียง 27 บาทไปกลับนี้ รวมกับอีก 900 บาท ... โปรนี้ ปีนึงใช้แค่หนเดียวก็ยังคุ้มครับ!!
แต่ส่วนตัวขอรอดูไฟลทของทาง Thai Tiger Airways ก่อนแล้วกันครับ ว่าจะมีไฟล์ทเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เพราะถ้าออกจากกทม. ตอนนี้ก็มีไปแค่สิงคโปร์กับเพิร์ธ สองที่เองครับ -*-
คงไม่คิดจะไปสิงคโปร์ปีละครั้งอ่ะนะครับ -*- ไม่งั้นปีอื่นๆก็เสียค่าสมาชิกฟรีๆ รอดูทีท่าไปก่อนครับ
Novotel Bangkok Platinum โรงแรมใหม่!! โนโวเทล ย่านประตูน้ำ แพลตตินั่ม
Novotel Bangkok Platinum - โนโวเทล กรุงเทพฯ แพลตตินั่ม เป็นโรงแรมใหม่ล่าสุดที่ทาง Accor เตรียมตัวส่งลงกรุงเทพฯในช่วงปี 2011 / 2554
โดย Novotel Bangkok Platinum นั้น จะเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ ที่มีห้องพักมากถึง 289 ห้อง
และมีทำเลที่ตั้งในย่านศูนย์การค้าการจับจ่ายใช้สอยที่เป็นที่นิยมและพลุกพล่านมากๆอีกแห่งหนึ่งในกทม. นั่นคือ Novotel Bangkok Platinum จะอยู่ติดกับศูนย์การค้า Platinum และใกล้ๆกับตลาดประตูน้ำนั่นเอง ... ส่วนความหรูหรา ก็ต้องสมชื่อ Novotel แน่นอน เพราะโรงแรมนี้ลงทุนไปเฉียดพันล้านเลยครับ โดยลงทุนไปทั้งหมด 930 ล้านบาท สำหรับ Novotel Bangkok Platinum แห่งนี้
...
โดยตัวโรงแรมนั้น ก็จะคล้ายๆกับ Centara ที่ Central World หรือ Hilton ที่ Central Festival น่ะครับ
คือจะผนวกรวมเข้ากับห้าง Platinum Shopping Mall เลย โดยจะเป็นโซนของโรงแรม Novotel Bangkok Platinum ที่ติดอยู่ในตัวห้างน่ะครับ
ก็คงไม่นานแล้วล่ะครับ ที่ Novotel แห่งที่ 5 ในกทม.จะเปิดตัว มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมจะมาอัพเดทกันอีกทีครับ ^ ^
โดย Novotel Bangkok Platinum นั้น จะเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ ที่มีห้องพักมากถึง 289 ห้อง
และมีทำเลที่ตั้งในย่านศูนย์การค้าการจับจ่ายใช้สอยที่เป็นที่นิยมและพลุกพล่านมากๆอีกแห่งหนึ่งในกทม. นั่นคือ Novotel Bangkok Platinum จะอยู่ติดกับศูนย์การค้า Platinum และใกล้ๆกับตลาดประตูน้ำนั่นเอง ... ส่วนความหรูหรา ก็ต้องสมชื่อ Novotel แน่นอน เพราะโรงแรมนี้ลงทุนไปเฉียดพันล้านเลยครับ โดยลงทุนไปทั้งหมด 930 ล้านบาท สำหรับ Novotel Bangkok Platinum แห่งนี้
...
โดยตัวโรงแรมนั้น ก็จะคล้ายๆกับ Centara ที่ Central World หรือ Hilton ที่ Central Festival น่ะครับ
คือจะผนวกรวมเข้ากับห้าง Platinum Shopping Mall เลย โดยจะเป็นโซนของโรงแรม Novotel Bangkok Platinum ที่ติดอยู่ในตัวห้างน่ะครับ
ก็คงไม่นานแล้วล่ะครับ ที่ Novotel แห่งที่ 5 ในกทม.จะเปิดตัว มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมจะมาอัพเดทกันอีกทีครับ ^ ^
พาชม Paradee Resort - ปารดี รีสอร์ท ที่เกาะเสม็ดครับ!!
Paradee Resort Koh Samed - ปารดี รีสอร์ท เกาะเสม็ด จ.ระยอง
ก็ ... เพิ่งเห็นคลิปวิดีโอรีวิวของ ปารดี รีสอร์ท ที่เกาะเสม็ดมาน่ะครับ ก็เลยเอามาฝากกันหน่อย เป็นรีสอร์ทหรูราคาแพงเพียงแห่งเดียวที่อ่าวกิ่ว - Ao Kiew ครับ ซึ่งทำเลที่ตั้งของอ่าวกิ่วนั้น เป็นหาดขาวทรายละเอียด น้ำฟ้าใส คนส่วนใหญ่จะบอกว่าที่นี่สวยพอๆกับอ่าวหวายที่เสม็ดน่ะครับ
ส่วนตัวรีสอร์ทอย่างปารดีรีสอร์ทนั้น ก็เป็นรีสอร์ทที่ห้องพักเป็นวิลล่าแทบทั้งหมด และมากกว่าครึ่งของวิลล่าที่รีสอร์ทนี้เป็นแบบ Pool Villa ทั้งนั้นครับ!! มีทั้งแบบติดหาดและวิวสวนครับ
และนี่คือวิดีโอรีิวิวของ Paradee Resort ที่เกาะเสม็ดครับ ไปชมกันเลยว่าจะสวยหรูแค่ไหน ^ ^
Credit : vmmc1634
จากคลิปนี้ คาดว่าจะเป็น Garden Pool Villa ครับ เพราะไม่ได้ติดหน้าหาด แต่ก็พอมองเห็นวิวทะเลนิดๆนะครับ ต้นไม้บังนิดหน่อย ภายในสวยหรูสมราคาที่แพงล่ะครับ คนรีวิวก็ส่องกล้องได้ละเอียดมาก ส่องให้ดูกระทั่งเพดาน เหอๆ ... แต่ก็สวยทุกมุมจริงๆครับ
ก็ ... เพิ่งเห็นคลิปวิดีโอรีวิวของ ปารดี รีสอร์ท ที่เกาะเสม็ดมาน่ะครับ ก็เลยเอามาฝากกันหน่อย เป็นรีสอร์ทหรูราคาแพงเพียงแห่งเดียวที่อ่าวกิ่ว - Ao Kiew ครับ ซึ่งทำเลที่ตั้งของอ่าวกิ่วนั้น เป็นหาดขาวทรายละเอียด น้ำฟ้าใส คนส่วนใหญ่จะบอกว่าที่นี่สวยพอๆกับอ่าวหวายที่เสม็ดน่ะครับ
ส่วนตัวรีสอร์ทอย่างปารดีรีสอร์ทนั้น ก็เป็นรีสอร์ทที่ห้องพักเป็นวิลล่าแทบทั้งหมด และมากกว่าครึ่งของวิลล่าที่รีสอร์ทนี้เป็นแบบ Pool Villa ทั้งนั้นครับ!! มีทั้งแบบติดหาดและวิวสวนครับ
และนี่คือวิดีโอรีิวิวของ Paradee Resort ที่เกาะเสม็ดครับ ไปชมกันเลยว่าจะสวยหรูแค่ไหน ^ ^
Credit : vmmc1634
จากคลิปนี้ คาดว่าจะเป็น Garden Pool Villa ครับ เพราะไม่ได้ติดหน้าหาด แต่ก็พอมองเห็นวิวทะเลนิดๆนะครับ ต้นไม้บังนิดหน่อย ภายในสวยหรูสมราคาที่แพงล่ะครับ คนรีวิวก็ส่องกล้องได้ละเอียดมาก ส่องให้ดูกระทั่งเพดาน เหอๆ ... แต่ก็สวยทุกมุมจริงๆครับ
Hotel Indigo Phuket Naithon Beach Resort รีสอร์ทใหม่ ที่หาดในทอน ภูเก็ต
Hotel Indigo Phuket Naithon Beach Resort - โฮเทล อินดิโก ภูเก็ต ในทอน
โรงแรมนี้เป็นรีสอร์ทในเครือเดียวกับ Intercontinental ที่เตรียมเปิดใหม่ในชื่อแบรนด์ Hotel Indigo เป็นแห่งที่สองในประเทศไทยครับ โดยแห่งแรกก็คือในกรุงเทพฯนั่นเองครับ (จริงๆแห่งแรกก็ยังไม่เปิดเหมือนกันครับ ^ ^" ดูข้อมูลได้ที่ Hotel Indigo Bangkok ครับ)
ซึ่ง Hotel Indigo Phuket Naithon Beach Resort นี้ กว่าจะเปิดก็โน่นเลยครับ ปี 2014 หรือ 2557 นั่นเอง -*- (อีกนาน) แล้วก็ไม่แน่ว่าจะมีเลื่อนมีอะไรอีกหรือไม่ (เท่าที่เคยเห็น ไม่เห็นเคยเจอโรงแรมไหนเปิดก่อนกำหนด มีแต่เลื่อน -*-)
โดย Hotel Indigo Phuket Naithon Beach Resort นี้วางแผนว่าจะมีห้องพักจำนวน 120 ห้อง ติดหาดในทอนครับ
ส่วนสไตล์ก็จะเป็นแนวบูติคครับ ก็รอให้ที่กรุงเทพฯเปิดก่อนแล้วกันครับ ก็คงจะเห็นสไตล์กันว่า Hotel Indigo ในประเทศไทยจะแนวไหนยังไง
ถ้ามีข้อมูลของ Hotel Indigo Phuket เพิ่มเติมก็จะมาอัพเดทอีกทีครับ
โรงแรมนี้เป็นรีสอร์ทในเครือเดียวกับ Intercontinental ที่เตรียมเปิดใหม่ในชื่อแบรนด์ Hotel Indigo เป็นแห่งที่สองในประเทศไทยครับ โดยแห่งแรกก็คือในกรุงเทพฯนั่นเองครับ (จริงๆแห่งแรกก็ยังไม่เปิดเหมือนกันครับ ^ ^" ดูข้อมูลได้ที่ Hotel Indigo Bangkok ครับ)
ซึ่ง Hotel Indigo Phuket Naithon Beach Resort นี้ กว่าจะเปิดก็โน่นเลยครับ ปี 2014 หรือ 2557 นั่นเอง -*- (อีกนาน) แล้วก็ไม่แน่ว่าจะมีเลื่อนมีอะไรอีกหรือไม่ (เท่าที่เคยเห็น ไม่เห็นเคยเจอโรงแรมไหนเปิดก่อนกำหนด มีแต่เลื่อน -*-)
โดย Hotel Indigo Phuket Naithon Beach Resort นี้วางแผนว่าจะมีห้องพักจำนวน 120 ห้อง ติดหาดในทอนครับ
ส่วนสไตล์ก็จะเป็นแนวบูติคครับ ก็รอให้ที่กรุงเทพฯเปิดก่อนแล้วกันครับ ก็คงจะเห็นสไตล์กันว่า Hotel Indigo ในประเทศไทยจะแนวไหนยังไง
ถ้ามีข้อมูลของ Hotel Indigo Phuket เพิ่มเติมก็จะมาอัพเดทอีกทีครับ
InterContinental Samui รีสอร์ทเปิดใหม่ที่เกาะสมุยมาแล้วครับ!!
InterContinental Samui Resort - อินเตอร์คอนทิเนนทัล เกาะสมุย หรือชื่อเต็มๆว่า InterContinental Samui Baan Taling Ngam Resort
คือรีสอร์ทแห่งที่สองในชื่อ Intercontinental ที่จะมาเปิดในประเทศไทย ต่อจาก Intercontinental Hua Hin ครับ โดยวางแผนจะเปิดในช่วงปลายปี 2011 หรือไม่ก็ต้นปี 2012 ครับ (คือถ้าตามกำหนดไม่มีเลื่อน ก็ ปลาย 2011 ครับ)
แต่สำหรับรีสอร์ท InterContinental Samui นี้ ... ไม่ใช่รีสอร์ทใหม่เอี่ยมอ่องครับ แต่เป็นการจับเอารีสอร์ทสวยหรูแห่งหนึ่งมารีแบรนด์ ซึ่งทาง Intercontinental ไปเทคโอเวอร์มาน่ะครับ
...
เมื่อดูจากชื่อเต็มๆที่มีคำว่า Baan Taling Ngam Resort พ่วงเข้ามาด้วยแล้ว ก็หนีไม่พ้นรีสอร์ท Baan Taling Ngam Resort & Spa นั่นเองครับ
รีสอร์ทนี้ จัดเป็นรีสอร์ทที่วิวสวยมากๆครับ คือตัวรีสอร์ทจะมีวิวสูงของชายทะเล ได้วิวมหาสมุทรเต็มๆ แต่ในขณะเดียวกันถ้าอยากได้วิวชายหาด ก็มีวิวชายหาดให้เต็มๆเช่นกัน เพราะทำเลบริเวณบ้านตลิ่งงานรีสอร์ทนี้ เป็นเนินเขาไล่ระดับไปจากหน้าชายหาดน่ะครับ ตัวรีสอร์ทก็เลยมีที่พักทุกแบบทุกวิว จะ Beachfront ก็ได้ หรือจะ Ocean view ก็ได้
... สิ่งที่ผมกลัวก็คือ พอรีแบรนด์เป็น Intercontinental แล้ว ราคาจะแพงขึ้นอีกป่าวเนี่ย -*-
ลองชมภาพกันดูครับ
เริ่มด้วยวิวชายหาดครับ ชายหาดที่นี่สวยและเป็นส่วนตัวครับ
เมื่อติดกับชายหาด อยากได้วิวแบบ Beachfront? ก็ได้เลยครับ ที่นี่มีวิวแบบนี้จัดไว้ให้ครับ ^ ^
...
อยากได้วิวมหาสมุทร? ก็นี่เลยครับ ห้องแบบนี้ก็มีให้พัก ^ ^
สระว่ายน้ำแบบ infinity edge วิวมหาสมุทรสวยๆครับ
...
หากสนใจ Intercontinental Samui ก็สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมล่วงหน้าได้ที่เวบของบ้านตลิ่งงามรีสอร์ทครับ ที่ http://www.baan-taling-ngam.com ครับ
ส่วนตัวคิดว่าทาง Intercontinental คงไม่ได้ปรับปรุงจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมแน่ๆ แต่น่าจะเป็นโครงเดิมเกือบเต็มๆเลยล่ะครับ เปลี่ยนโลโก้ และรายละเอียดนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเองครับ เพราะของเดิมก็สวยมากอยู่แล้ว แต่ชื่อของรีสอร์ทอาจจะไม่เตะหูคนได้ยินเท่าไหร่นั่นเองครับ คล้ายๆกับว่าจะรุกตลาดใหม่ด้วยชื่อของ Intercontinental นั่นล่ะครับ
คือรีสอร์ทแห่งที่สองในชื่อ Intercontinental ที่จะมาเปิดในประเทศไทย ต่อจาก Intercontinental Hua Hin ครับ โดยวางแผนจะเปิดในช่วงปลายปี 2011 หรือไม่ก็ต้นปี 2012 ครับ (คือถ้าตามกำหนดไม่มีเลื่อน ก็ ปลาย 2011 ครับ)
แต่สำหรับรีสอร์ท InterContinental Samui นี้ ... ไม่ใช่รีสอร์ทใหม่เอี่ยมอ่องครับ แต่เป็นการจับเอารีสอร์ทสวยหรูแห่งหนึ่งมารีแบรนด์ ซึ่งทาง Intercontinental ไปเทคโอเวอร์มาน่ะครับ
...
เมื่อดูจากชื่อเต็มๆที่มีคำว่า Baan Taling Ngam Resort พ่วงเข้ามาด้วยแล้ว ก็หนีไม่พ้นรีสอร์ท Baan Taling Ngam Resort & Spa นั่นเองครับ
รีสอร์ทนี้ จัดเป็นรีสอร์ทที่วิวสวยมากๆครับ คือตัวรีสอร์ทจะมีวิวสูงของชายทะเล ได้วิวมหาสมุทรเต็มๆ แต่ในขณะเดียวกันถ้าอยากได้วิวชายหาด ก็มีวิวชายหาดให้เต็มๆเช่นกัน เพราะทำเลบริเวณบ้านตลิ่งงานรีสอร์ทนี้ เป็นเนินเขาไล่ระดับไปจากหน้าชายหาดน่ะครับ ตัวรีสอร์ทก็เลยมีที่พักทุกแบบทุกวิว จะ Beachfront ก็ได้ หรือจะ Ocean view ก็ได้
... สิ่งที่ผมกลัวก็คือ พอรีแบรนด์เป็น Intercontinental แล้ว ราคาจะแพงขึ้นอีกป่าวเนี่ย -*-
ลองชมภาพกันดูครับ
เริ่มด้วยวิวชายหาดครับ ชายหาดที่นี่สวยและเป็นส่วนตัวครับ
เมื่อติดกับชายหาด อยากได้วิวแบบ Beachfront? ก็ได้เลยครับ ที่นี่มีวิวแบบนี้จัดไว้ให้ครับ ^ ^
...
อยากได้วิวมหาสมุทร? ก็นี่เลยครับ ห้องแบบนี้ก็มีให้พัก ^ ^
สระว่ายน้ำแบบ infinity edge วิวมหาสมุทรสวยๆครับ
...
หากสนใจ Intercontinental Samui ก็สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมล่วงหน้าได้ที่เวบของบ้านตลิ่งงามรีสอร์ทครับ ที่ http://www.baan-taling-ngam.com ครับ
ส่วนตัวคิดว่าทาง Intercontinental คงไม่ได้ปรับปรุงจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมแน่ๆ แต่น่าจะเป็นโครงเดิมเกือบเต็มๆเลยล่ะครับ เปลี่ยนโลโก้ และรายละเอียดนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเองครับ เพราะของเดิมก็สวยมากอยู่แล้ว แต่ชื่อของรีสอร์ทอาจจะไม่เตะหูคนได้ยินเท่าไหร่นั่นเองครับ คล้ายๆกับว่าจะรุกตลาดใหม่ด้วยชื่อของ Intercontinental นั่นล่ะครับ
แนะนำจ้า!! โรงแรมหรู เปิดใหม่ที่อูบุด บาหลี Royal Kamuela Ubud Hotel Bali
Royal Kamuela Ubud Hotel Bali เป็นโรงแรมใหม่หรู ล่าสุดเพิ่งเปิดใหม่ที่บาหลีช่วงปี 2011 นี้เลยครับ
โดยโรงแรมนี้เป็นโรงแรมในเครือ Aston ซึ่งเป็นเครือยักษ์ของอินโดนีเซียเค้าเองเลยครับ เปิดโรงแรมรีสอร์ทในประเทศตัวเอง ไม่เคยจะเปิดถูกๆเล้ย~~ อย่างที่เคยเปิดมาแล้วในบาหลีก็เช่น Kamuela Villas Seminyak ซึ่งนั่นก็หรูเลิศเหมือนกัน
สำหรับราคาของ Royal Kamuela Ubud นั้น ก็อยู่ที่ หมื่นต้นๆอ่ะครับ -*- (ตอนนี้กำหนดราคาเมื่อเทียบเป็นเงินไทยมาที่ 12,000 บาทต่อคืน โดยช่วงโปรโมชั่นเปิดใหม่อยู่ที่ 9,600 บาท ... แพงจัง -*-) ก็หวังว่าราคามันจะลดๆลงบ้้างอ่ะนะครับ ... คาดเดาเอาครับ เพราะคนมาพักอูบุด ส่วนใหญ่จะให้พักหรูก็คงไม่ยอมจ่ายเท่านี้มั้ง
แต่ถ้าใครงบแรง ขอพักหรูหน่อย ก็เอาไปพิจารณาได้เลยจ้า ลองดูก่อนเลยครับ ^ ^
ก็แน่นอนครับ ราคาแบบนี้จะไม่ให้เป็นห้องแบบ Pool Villa ได้อย่างไร!!
การตกแต่งภายในห้องพักที่สมราคา กระจกรอบด้านเห็นวิวเต็มๆ
และสิ่งที่โรงแรมในบาหลีมักจะดูดีอยู่เสมอก็คือในส่วนของ Bath Tub ครับ หลายๆโรงแรมในบาหลี ไม่ว่าจะถูกจะแพง โซนนี้จะทำดีเกินราคาเมื่อเทียบกับโรงแรมในไทยครับ และที่ Royal Kamuela Ubud ก็เช่นกัน เปิดใหม่ด้วยแล้ว ก็ต้องสมราคาหน่อย ^ ^ (ไม่ใช่โซนสปานะครับเนี่ย)
ก็สวยหรูสมราคาแหละครับ
แต่เมื่อไปเปิดในย่านโรงแรมรีสอร์ทเกสท์เฮาส์ถูกแพงมากมายก่ายกองเช่นนี้ ก็ต้องมีจุดเด่นจริงๆล่ะครับ ไม่งั้นคงไม่กล้าเปิด
สนใจดูรายละเอียดของ Royal Kamuela Ubud เพิ่มเติมได้ที่เวบ http://www.aston-international.com ครับ
โดยโรงแรมนี้เป็นโรงแรมในเครือ Aston ซึ่งเป็นเครือยักษ์ของอินโดนีเซียเค้าเองเลยครับ เปิดโรงแรมรีสอร์ทในประเทศตัวเอง ไม่เคยจะเปิดถูกๆเล้ย~~ อย่างที่เคยเปิดมาแล้วในบาหลีก็เช่น Kamuela Villas Seminyak ซึ่งนั่นก็หรูเลิศเหมือนกัน
สำหรับราคาของ Royal Kamuela Ubud นั้น ก็อยู่ที่ หมื่นต้นๆอ่ะครับ -*- (ตอนนี้กำหนดราคาเมื่อเทียบเป็นเงินไทยมาที่ 12,000 บาทต่อคืน โดยช่วงโปรโมชั่นเปิดใหม่อยู่ที่ 9,600 บาท ... แพงจัง -*-) ก็หวังว่าราคามันจะลดๆลงบ้้างอ่ะนะครับ ... คาดเดาเอาครับ เพราะคนมาพักอูบุด ส่วนใหญ่จะให้พักหรูก็คงไม่ยอมจ่ายเท่านี้มั้ง
แต่ถ้าใครงบแรง ขอพักหรูหน่อย ก็เอาไปพิจารณาได้เลยจ้า ลองดูก่อนเลยครับ ^ ^
ก็แน่นอนครับ ราคาแบบนี้จะไม่ให้เป็นห้องแบบ Pool Villa ได้อย่างไร!!
การตกแต่งภายในห้องพักที่สมราคา กระจกรอบด้านเห็นวิวเต็มๆ
และสิ่งที่โรงแรมในบาหลีมักจะดูดีอยู่เสมอก็คือในส่วนของ Bath Tub ครับ หลายๆโรงแรมในบาหลี ไม่ว่าจะถูกจะแพง โซนนี้จะทำดีเกินราคาเมื่อเทียบกับโรงแรมในไทยครับ และที่ Royal Kamuela Ubud ก็เช่นกัน เปิดใหม่ด้วยแล้ว ก็ต้องสมราคาหน่อย ^ ^ (ไม่ใช่โซนสปานะครับเนี่ย)
ก็สวยหรูสมราคาแหละครับ
แต่เมื่อไปเปิดในย่านโรงแรมรีสอร์ทเกสท์เฮาส์ถูกแพงมากมายก่ายกองเช่นนี้ ก็ต้องมีจุดเด่นจริงๆล่ะครับ ไม่งั้นคงไม่กล้าเปิด
สนใจดูรายละเอียดของ Royal Kamuela Ubud เพิ่มเติมได้ที่เวบ http://www.aston-international.com ครับ
รีวิว Areca Lodge Hotel โรงแรมที่พัทยาครับ!! ^ ^ - Pattaya
รอบนี้ขอพาไปชม Areca Lodge Pattaya - อารีคา ลอดจ์ โรงแรมทำเลดีอีกแห่งของพัทยาครับ
โรงแรม Areca Lodge นี้อยู่ถัดมาบริเวณพัทยาสายสองในซอย 13 ซึ่งบริเวณนั้นจะใกล้ๆกับซอย 11 กับ ซอย 12 ของพัทยาสายหนึ่ง(หรือสายเลียบหาด) ครับ
ทำให้โรงแรม Areca Lodge แห่งนี้ไม่ไกลจากหาดมาก และอยู่กึ่งกลางกับแหล่งบันเิทิงหลายๆอย่าง
หากชอบ Walking Street ก็เดินไปได้ (แต่ก็เดินเหนื่อยนิด) หรือจะเดินไปทาง Central Festival หรือเดินเที่ยวถนนริมหาดก็พอมีอะไรให้ดูเยอะแยะ ก็ได้เช่นกัน
และที่สำคัญ ห้องพักของ Areca Lodge ก็ไม่แพงมากครับ ทำเลโอเคดี โดยจะอยู่ที่ พันกลางๆถึงสองพันกลางๆขึ้นกับห้องพักและฤดูกาลท่องเที่ยวด้วยน่ะครับ
พอเห็นว่ามีวิดีโอรีวิวเกี่ยวกับ Areca Lodge ก็เลยขอหยิบมาให้ดูกันซะหน่อย (ใน tripadvisor ก็ได้คะแนนดี อยู่ระดับ 4 ดาวจากความเห็นสองร้อยกว่าๆ ก็ถือว่าเป็นที่นิยมเหมือนกันครับ ที่นี่)
ก็ลองดูวิดีโอรีวิวกันเลยครับ มีให้ดูตั้งแต่หน้าโรงแรมไปจนถึงในตัวห้องกันเลยครับ ^ ^
โดยคลิปแรกนี้จะให้ดูโซนหน้าโรงแรมแล้วก็ล็อบบี้ครับ (มีให้ดูร้านค้าด้านหน้าฝั่งตรงข้ามโรงแรมด้วย แต่ให้ดูเยอะไปหน่อย)
ต่อมาเป็นคลิปที่ให้ดูห้องพักครับ แต่ก็ไม่แน่ใจครับ ว่าเป็นห้องพักระดับไหนของทางโรงแรม Areca Lodge เค้า
น่าจะเป็นห้อง standard เตียง twin น่ะครับ ... ช่วงท้ายก็จะมีกลับไปที่ล็อบบี้อีกรอบ
Credit : ted601031
ส่วนตัวเท่าที่เห็นก็ดูเรียบๆปกติครับ ไม่หวือหวาหรือมีจุดเด่นอะไร
แต่ก็เป็นโรงแรมที่น่าพักดูสะอาดสะอ้านดีครับ ห้องพักแบบนี้เมื่อเทียบกับทำเลที่ตั้งก็จัดว่าราคาก็สมเหตุสมผลดี
อย่างไรก็ตาม ถ้ายังไม่ถูกใจมาก ทาง Areca Lodge เค้าเปิดโซนใหม่ที่ชื่อว่า Evergreen ด้วยนะครับ
ไปดูข้อมูลของ Areca Lodge โซน Evergreen ได้ที่นี่ครับ
ก็คิดว่าคลิปวิดีโอนี้พอจะเป็นตัวเลือกให้คนที่กำลังมองหาที่พักที่พัทยาอยู่ พอจะตัดสินใจได้บ้างครับ ^ ^
โรงแรม Areca Lodge นี้อยู่ถัดมาบริเวณพัทยาสายสองในซอย 13 ซึ่งบริเวณนั้นจะใกล้ๆกับซอย 11 กับ ซอย 12 ของพัทยาสายหนึ่ง(หรือสายเลียบหาด) ครับ
ทำให้โรงแรม Areca Lodge แห่งนี้ไม่ไกลจากหาดมาก และอยู่กึ่งกลางกับแหล่งบันเิทิงหลายๆอย่าง
หากชอบ Walking Street ก็เดินไปได้ (แต่ก็เดินเหนื่อยนิด) หรือจะเดินไปทาง Central Festival หรือเดินเที่ยวถนนริมหาดก็พอมีอะไรให้ดูเยอะแยะ ก็ได้เช่นกัน
และที่สำคัญ ห้องพักของ Areca Lodge ก็ไม่แพงมากครับ ทำเลโอเคดี โดยจะอยู่ที่ พันกลางๆถึงสองพันกลางๆขึ้นกับห้องพักและฤดูกาลท่องเที่ยวด้วยน่ะครับ
พอเห็นว่ามีวิดีโอรีวิวเกี่ยวกับ Areca Lodge ก็เลยขอหยิบมาให้ดูกันซะหน่อย (ใน tripadvisor ก็ได้คะแนนดี อยู่ระดับ 4 ดาวจากความเห็นสองร้อยกว่าๆ ก็ถือว่าเป็นที่นิยมเหมือนกันครับ ที่นี่)
ก็ลองดูวิดีโอรีวิวกันเลยครับ มีให้ดูตั้งแต่หน้าโรงแรมไปจนถึงในตัวห้องกันเลยครับ ^ ^
โดยคลิปแรกนี้จะให้ดูโซนหน้าโรงแรมแล้วก็ล็อบบี้ครับ (มีให้ดูร้านค้าด้านหน้าฝั่งตรงข้ามโรงแรมด้วย แต่ให้ดูเยอะไปหน่อย)
ต่อมาเป็นคลิปที่ให้ดูห้องพักครับ แต่ก็ไม่แน่ใจครับ ว่าเป็นห้องพักระดับไหนของทางโรงแรม Areca Lodge เค้า
น่าจะเป็นห้อง standard เตียง twin น่ะครับ ... ช่วงท้ายก็จะมีกลับไปที่ล็อบบี้อีกรอบ
Credit : ted601031
ส่วนตัวเท่าที่เห็นก็ดูเรียบๆปกติครับ ไม่หวือหวาหรือมีจุดเด่นอะไร
แต่ก็เป็นโรงแรมที่น่าพักดูสะอาดสะอ้านดีครับ ห้องพักแบบนี้เมื่อเทียบกับทำเลที่ตั้งก็จัดว่าราคาก็สมเหตุสมผลดี
อย่างไรก็ตาม ถ้ายังไม่ถูกใจมาก ทาง Areca Lodge เค้าเปิดโซนใหม่ที่ชื่อว่า Evergreen ด้วยนะครับ
ไปดูข้อมูลของ Areca Lodge โซน Evergreen ได้ที่นี่ครับ
ก็คิดว่าคลิปวิดีโอนี้พอจะเป็นตัวเลือกให้คนที่กำลังมองหาที่พักที่พัทยาอยู่ พอจะตัดสินใจได้บ้างครับ ^ ^
แนะนำ Villa Nalinnadda - วิลล่า นลินนัดดา Samui ที่เกาะสมุยครับ
มีรีสอร์ทเล็กๆแต่ครบเครื่อง สงบส่วนตัวแห่งหนึ่งของสมุยมาฝากกันครับ
รีสอร์ทนี้คือ Villa Nalinnadda Resort Koh Samui - วิลล่านลินนัดดา ครับ
Villa Nalinnadda เป็นรีสอร์ทติดชายหาดบริเวณหาดหัวถนนครับ ตกแต่งแนวเมดิเตอร์เรเนียนเป็นวิลล่าหลังใหญ่ 2 ชั้นรวมดาดฟ้า
แต่วิลล่าหลังนึงก็ซอยได้เป็นสองห้องน่ะนะครับ ชั้นล่างกับชั้นบน ทุกห้องหันหน้าไปทางวิวชายหาด ได้ seaview ทั้งหมดครับ (แต่ก็คงมีอะไรบังแตกต่างกันนิดๆหน่อยๆล่ะนะ ^ ^")
จุดเด่นก็คือมีจากุซซี่ที่ระเบียง ได้วิวและบรรยากาศเป็นอย่างดีเลยครับ
ส่วนจำนวนห้องพักก็มีไม่มากนักครับ มีแค่ 8 ห้องเอง ก็อย่างที่บอกว่าเป็นรีสอร์ทเล็กๆ เป็นส่วนตัวครับ แต่คงความหรูไว้โอเคทีเดียว
ก็จะเป็นวิลล่าสองชั้นแบบนี้ครับ มีสระว่ายน้ำอยู่กลางรีสอร์ทเลยครับ
ห้องพักก็จะเป็นโทนสไตล์ขาว วิวทะเลครับ แต่ถ้าเป็นห้องหลังสระว่ายน้ำก็จะมีวิวสระว่ายน้ำก่อนถึงทะเลนิดครับ
สนใจ Villa Nalinnadda ก็เข้าไปจองหรือดูข้อมูลเพิ่มที่ http://www.nalinnadda.com ครับ
รีสอร์ทนี้คือ Villa Nalinnadda Resort Koh Samui - วิลล่านลินนัดดา ครับ
Villa Nalinnadda เป็นรีสอร์ทติดชายหาดบริเวณหาดหัวถนนครับ ตกแต่งแนวเมดิเตอร์เรเนียนเป็นวิลล่าหลังใหญ่ 2 ชั้นรวมดาดฟ้า
แต่วิลล่าหลังนึงก็ซอยได้เป็นสองห้องน่ะนะครับ ชั้นล่างกับชั้นบน ทุกห้องหันหน้าไปทางวิวชายหาด ได้ seaview ทั้งหมดครับ (แต่ก็คงมีอะไรบังแตกต่างกันนิดๆหน่อยๆล่ะนะ ^ ^")
จุดเด่นก็คือมีจากุซซี่ที่ระเบียง ได้วิวและบรรยากาศเป็นอย่างดีเลยครับ
ส่วนจำนวนห้องพักก็มีไม่มากนักครับ มีแค่ 8 ห้องเอง ก็อย่างที่บอกว่าเป็นรีสอร์ทเล็กๆ เป็นส่วนตัวครับ แต่คงความหรูไว้โอเคทีเดียว
ก็จะเป็นวิลล่าสองชั้นแบบนี้ครับ มีสระว่ายน้ำอยู่กลางรีสอร์ทเลยครับ
ห้องพักก็จะเป็นโทนสไตล์ขาว วิวทะเลครับ แต่ถ้าเป็นห้องหลังสระว่ายน้ำก็จะมีวิวสระว่ายน้ำก่อนถึงทะเลนิดครับ
สนใจ Villa Nalinnadda ก็เข้าไปจองหรือดูข้อมูลเพิ่มที่ http://www.nalinnadda.com ครับ
รวมร้านอาหารแนะนำ พัทยา อาหารเช้า เย็น - Recommended Restaurant in Pattaya
ช่วงนี้กำลังหาข้อมูลร้านอาหารแนะนำในพัทยาอยู่ครับ ก็เลยอยากมาแชร์ๆข้อมูลกันหน่อย ^ ^
ใครมีร้านไหนเสนอแนะเพิ่มเติม ก็มาบอกๆกันได้นะครับ
ส่วนใครสนใจร้านไหน ก็ copy ชื่อร้านไปเสิร์ชดูอีกทีเน้อ ^ ^
ร้านอาหารเช้า
- เลือดหมู คุณศรี = เป็นต้มเลือดหมูชื่อดัง น้ำซุปเข้มข้น
- แดง-ดำ = ร้านเย็นตาโฟ ก๋วยเดี๋ยว กระเพาะปลา และอื่นๆ
ทั้งสองร้านไม่ได้มีดีแค่เป็นอาหารเช้านะครับ จะทานเที่ยงหรือเย็น ก็เหมาะทั้งนั้น เพียงแต่ร้านที่มีสไตล์เฉพาะตัวที่หากินได้ในพัทยานั้น มีไม่กี่ร้านครับ ที่เปิดเช้าด้วย ^ ^"
ส่วนหากใครที่ชอบทานพวก American หรือ English Breakfast ที่พัทยาจะมีมากมายหลายร้านอยู่ครับ ขับรถวนไปวนมาแถวไม่ว่าจะพัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ มีพร้อมสรรพครับ ^ ^
ร้านอาหารกลางวันและอาหารเย็น
- ลุงไสว = ร้านดังในอดีตที่อร่อยมากๆ ปัจจุบันมีคนบ่นว่ารสชาติไม่นิ่ง แต่ก็ยังจัดว่าอร่อยและคนแวะเวียนไปเยอะอยู่ครับ
- ปูเป็น = ร้านดังใกล้ๆร้านลุงไสว คนเยอะ มีกรุ๊ปทัวร์มาลงบ่อย
- ปรีชาซีฟู้ด = อาหารทะเลที่มีคนชมเยอะเหมือนกันอีกร้าน แต่อยู่ไกลพัทยาหน่อย
- เอ๋ อร่อย = มีคนชมว่าอร่อยมากๆเยอะ ทำเลงั้นๆ เป็นร้านธรรมดา แต่คาดว่ารสคงดีจริง คนเลยพูดถึงเยอะ แต่บางคนก็ว่าติดหวานเหมือนกัน
- มุมอร่อย = ส่วนใหญ่บอกว่าอาหารธรรมดา แต่เมนูบางเมนู เค้าบอกว่าอร่อยจัดๆ (อาจจะต้องเืลือกเมนูนิดนึง) ข้อดีคือวิวดี บรรยากาศโรแมนซ์อย่าบอกใคร
- เจ๊จุก = มีสองสาขา สาขานึงติดถนน อีกสาขาติดหาด ที่นี่ก็มีคนว่ากันว่าอร่อยดี โดยเฉพาะสาขาติดหาดก็จะได้วิวสวยๆแถมมาด้วย
- บุฟเฟต์ที่พัทยาปาร์ค = ส่วนใหญ่บอกว่ารสชาติธรรมดา แต่ก็ดีตรงหลากหลายเพราะเป็นบุฟเฟ่ต์ และที่สำคัญคือวิวดีสุดๆนั่นเอง ถ้าเ้น้นวิว อาหารแค่โอเคก็พอ ก็อาจจะเน้นทานที่นี่
- ปันปัน = ร้านอาหารอิตาเลี่ยนและซีฟู้ดแบบฝรั่งๆชื่อดังอีกร้านครับ เหมาะสำหรับคนเล็งอาหารอิตาเลี่ยน
- สุดทางรัก = ร้านวิวดี ตกแต่งสวย รสชาติโอเค
- นินจา หมู กุ้งย่างเกาหลี = บุฟเฟ่ต์หมูกระทะ ที่มีซีฟู้ดอยู่ด้วย มีคนบอกว่าสดขนาดกุ้งยังดิ้นได้อยู่เลย ใครใจอ่อนไม่สมควรไปกิน แต่ถ้าชอบเป็นยักษ์ ขออร่อยอย่างเดียว ก็แนะนำเลยครับ (ร้านนี้ผมไปกินแล้ว ไม่เห็นกุ้งดิ้นๆนะครับ อาจจะเป็นช่วงๆ)
ร้านไอศครีม เบเกอรี่ พาสทรี่
- La Baguette Pattaya = ร้านพาสทรี่ชั้นเลิศของรีสอร์ท Woodland มีขนมหลากหลายน่ากินมากมาย
เท่าที่มองหาร้านอาหารจากพัทยา ที่เห็นคนแนะนำกันเยอะหน่อยก็ประมาณนี้แหละครับ
ถ้ามีร้านอื่นๆเพิ่มเข้ามาก็จะเอามาเพิ่มเติมอีกทีครับ
หรือใครไม่เห็นด้วย หรืออยากแนะนำร้านอาหารที่พัทยาเพิ่งเติมก็แนะนำกันเข้ามาได้ครับ ^ ^
ใครมีร้านไหนเสนอแนะเพิ่มเติม ก็มาบอกๆกันได้นะครับ
ส่วนใครสนใจร้านไหน ก็ copy ชื่อร้านไปเสิร์ชดูอีกทีเน้อ ^ ^
ร้านอาหารเช้า
- เลือดหมู คุณศรี = เป็นต้มเลือดหมูชื่อดัง น้ำซุปเข้มข้น
- แดง-ดำ = ร้านเย็นตาโฟ ก๋วยเดี๋ยว กระเพาะปลา และอื่นๆ
ทั้งสองร้านไม่ได้มีดีแค่เป็นอาหารเช้านะครับ จะทานเที่ยงหรือเย็น ก็เหมาะทั้งนั้น เพียงแต่ร้านที่มีสไตล์เฉพาะตัวที่หากินได้ในพัทยานั้น มีไม่กี่ร้านครับ ที่เปิดเช้าด้วย ^ ^"
ส่วนหากใครที่ชอบทานพวก American หรือ English Breakfast ที่พัทยาจะมีมากมายหลายร้านอยู่ครับ ขับรถวนไปวนมาแถวไม่ว่าจะพัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ มีพร้อมสรรพครับ ^ ^
ร้านอาหารกลางวันและอาหารเย็น
- ลุงไสว = ร้านดังในอดีตที่อร่อยมากๆ ปัจจุบันมีคนบ่นว่ารสชาติไม่นิ่ง แต่ก็ยังจัดว่าอร่อยและคนแวะเวียนไปเยอะอยู่ครับ
- ปูเป็น = ร้านดังใกล้ๆร้านลุงไสว คนเยอะ มีกรุ๊ปทัวร์มาลงบ่อย
- ปรีชาซีฟู้ด = อาหารทะเลที่มีคนชมเยอะเหมือนกันอีกร้าน แต่อยู่ไกลพัทยาหน่อย
- เอ๋ อร่อย = มีคนชมว่าอร่อยมากๆเยอะ ทำเลงั้นๆ เป็นร้านธรรมดา แต่คาดว่ารสคงดีจริง คนเลยพูดถึงเยอะ แต่บางคนก็ว่าติดหวานเหมือนกัน
- มุมอร่อย = ส่วนใหญ่บอกว่าอาหารธรรมดา แต่เมนูบางเมนู เค้าบอกว่าอร่อยจัดๆ (อาจจะต้องเืลือกเมนูนิดนึง) ข้อดีคือวิวดี บรรยากาศโรแมนซ์อย่าบอกใคร
- เจ๊จุก = มีสองสาขา สาขานึงติดถนน อีกสาขาติดหาด ที่นี่ก็มีคนว่ากันว่าอร่อยดี โดยเฉพาะสาขาติดหาดก็จะได้วิวสวยๆแถมมาด้วย
- บุฟเฟต์ที่พัทยาปาร์ค = ส่วนใหญ่บอกว่ารสชาติธรรมดา แต่ก็ดีตรงหลากหลายเพราะเป็นบุฟเฟ่ต์ และที่สำคัญคือวิวดีสุดๆนั่นเอง ถ้าเ้น้นวิว อาหารแค่โอเคก็พอ ก็อาจจะเน้นทานที่นี่
- ปันปัน = ร้านอาหารอิตาเลี่ยนและซีฟู้ดแบบฝรั่งๆชื่อดังอีกร้านครับ เหมาะสำหรับคนเล็งอาหารอิตาเลี่ยน
- สุดทางรัก = ร้านวิวดี ตกแต่งสวย รสชาติโอเค
- นินจา หมู กุ้งย่างเกาหลี = บุฟเฟ่ต์หมูกระทะ ที่มีซีฟู้ดอยู่ด้วย มีคนบอกว่าสดขนาดกุ้งยังดิ้นได้อยู่เลย ใครใจอ่อนไม่สมควรไปกิน แต่ถ้าชอบเป็นยักษ์ ขออร่อยอย่างเดียว ก็แนะนำเลยครับ (ร้านนี้ผมไปกินแล้ว ไม่เห็นกุ้งดิ้นๆนะครับ อาจจะเป็นช่วงๆ)
ร้านไอศครีม เบเกอรี่ พาสทรี่
- La Baguette Pattaya = ร้านพาสทรี่ชั้นเลิศของรีสอร์ท Woodland มีขนมหลากหลายน่ากินมากมาย
เท่าที่มองหาร้านอาหารจากพัทยา ที่เห็นคนแนะนำกันเยอะหน่อยก็ประมาณนี้แหละครับ
ถ้ามีร้านอื่นๆเพิ่มเข้ามาก็จะเอามาเพิ่มเติมอีกทีครับ
หรือใครไม่เห็นด้วย หรืออยากแนะนำร้านอาหารที่พัทยาเพิ่งเติมก็แนะนำกันเข้ามาได้ครับ ^ ^
Martha Argerich กับ Evgeny Kissin เล่นเปียโนด้วยกัน 4 มือ!! Mozart Sonata KV 521
อุ๊โฮ่ๆๆ เมื่อนักเปียโนที่ผมชอบมากๆ มาบรรเลงด้วยกัน งานนี้ก็มีเฮสิครับ ^ ^
แต่ฟังแล้วก็ไม่ถึงกับเป็น piece ที่ชอบเท่าไหร่หรอกครับ แต่เพลงบรรเลงจากระดับพระกาฬมาเข้าคู่กับมือกันแบบนี้ หาดูยากอยู่นา (ถึง Argerich จะบรรเลงร่วมกับ Kissin บ่อยก็เหอะ แต่ก็หาคลิปเหมาะๆให้ชมไม่ค่อยได้สักที ^ ^")
ที่สำคัญคือ Argerich กับ Kissin เป็นเปียโนสไตล์ใกล้ๆกันด้วยสิ เลยเข้าคู่กันดีเลยทีเดียว
(ก่อนหน้านี้ก็มีคลิป Bumble Bee ที่เล่นกัน 6 คน ที่มี Kissin กับ Lang Lang แล้วก็นักเปียโนดังๆเล่นพร้อมกันมาแล้ว แต่คลิปนั้นไม่ปลิ้มอ่ะครับ เหมือนจับคนเก่งๆมาเล่นด้วยกัน แต่ไม่ค่อยเข้ากันมากนัก)
ก็ลองฟังดูครับ Martha Argerich & Evgeny Kissin Mozart Sonata KV 521
Credit : andriventu
แต่ฟังแล้วก็ไม่ถึงกับเป็น piece ที่ชอบเท่าไหร่หรอกครับ แต่เพลงบรรเลงจากระดับพระกาฬมาเข้าคู่กับมือกันแบบนี้ หาดูยากอยู่นา (ถึง Argerich จะบรรเลงร่วมกับ Kissin บ่อยก็เหอะ แต่ก็หาคลิปเหมาะๆให้ชมไม่ค่อยได้สักที ^ ^")
ที่สำคัญคือ Argerich กับ Kissin เป็นเปียโนสไตล์ใกล้ๆกันด้วยสิ เลยเข้าคู่กันดีเลยทีเดียว
(ก่อนหน้านี้ก็มีคลิป Bumble Bee ที่เล่นกัน 6 คน ที่มี Kissin กับ Lang Lang แล้วก็นักเปียโนดังๆเล่นพร้อมกันมาแล้ว แต่คลิปนั้นไม่ปลิ้มอ่ะครับ เหมือนจับคนเก่งๆมาเล่นด้วยกัน แต่ไม่ค่อยเข้ากันมากนัก)
ก็ลองฟังดูครับ Martha Argerich & Evgeny Kissin Mozart Sonata KV 521
Credit : andriventu
พาชมรีวิว Pattaya Discovery Beach Hotel โรงแรมติดหาดพัทยา ครับ ^ ^
มาดูวิดีโอรีวิวของโรงแรม Pattaya Discovery Beach Hotel (พัทยาิดิสคัฟเวอรี่บีช โฮเต็ล) กันครับ
โรงแรม Pattaya Discovery Beach Hotel นี้ ตั้งอยู่ที่ต้นซอยของพัทยาเหนือ ซอย 6/1 ครับ ทำเลก็จะใกล้ๆกับ Hard Rock Hotel แล้วก็อยู่ใกล้กับ Alcazar ด้วยครับ ... นอกจากนี้โรงแรมนี้ก็อยู่ติดหน้าหาดพัทยาเลยครับ วิวจากห้องพักของโรงแรมก็จะเห็นวิวทะเลจากห้องพักได้ครับ
ลองดูคลิปแรกกันครับ
Credit : waovppl
คลิปวิดีโอนี้จะรีวิวส่วนสระว่ายน้ำด้านหน้าของโรงแรมครับ จะเห็นว่าแม้สระว่ายน้ำจะดูเหมือนติดถนนและข้ามไปนิดหน่อยก็ถึงชายหาดก็จริง แต่ก็ดูเป็นส่วนตัวดีครับ ไม่ใช่ว่าใครเดินผ่านหน้าโรงแรมก็เห็นคนว่ายน้ำได้ ... แต่ก็ไม่ได้ดูมิดชิดจนอึดอัด
...
ต่อมา ลองดูห้องพักและวิวจากระเบียงของห้องพักกันครับ
คลิปนี้จะเห็นห้องพักแทบจะทุกส่วนเลย พาไปดูทุกมุมเลยเหมือนกัน วิวทะเลจะเห็นไม่ชัดมาก แม้จะออกแบบให้ทุกห้องเห็นวิวทะเลชัดๆก็เถอะครับ เพราะจากคลิปเป็นห้องฝั่งทิศเหนือ ที่มุมหาดจะโค้งขึ้น เลยอาจจะไม่เห็นวิวเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากนัก ถ้าพักด้านหน้าๆ(คงเป็นห้องแพง) หรือพักฝั่งทิศใต้ วิวจะดีกว่านี้ครับ
จากทั้งสองคลิปจะเห็นว่าสะอาดดีครับ ตกแต่งไม่เว่อร์ แต่เน้นเรียบหรู สบายๆครับ
สำหรับราคาหน้าเวบก็จะเริ่มต้นที่ 2 พันปลายๆ โดยห้องส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 3 พันบาทขึ้นไปครับ
โรงแรม Pattaya Discovery Beach Hotel นี้ ตั้งอยู่ที่ต้นซอยของพัทยาเหนือ ซอย 6/1 ครับ ทำเลก็จะใกล้ๆกับ Hard Rock Hotel แล้วก็อยู่ใกล้กับ Alcazar ด้วยครับ ... นอกจากนี้โรงแรมนี้ก็อยู่ติดหน้าหาดพัทยาเลยครับ วิวจากห้องพักของโรงแรมก็จะเห็นวิวทะเลจากห้องพักได้ครับ
ลองดูคลิปแรกกันครับ
Credit : waovppl
คลิปวิดีโอนี้จะรีวิวส่วนสระว่ายน้ำด้านหน้าของโรงแรมครับ จะเห็นว่าแม้สระว่ายน้ำจะดูเหมือนติดถนนและข้ามไปนิดหน่อยก็ถึงชายหาดก็จริง แต่ก็ดูเป็นส่วนตัวดีครับ ไม่ใช่ว่าใครเดินผ่านหน้าโรงแรมก็เห็นคนว่ายน้ำได้ ... แต่ก็ไม่ได้ดูมิดชิดจนอึดอัด
...
ต่อมา ลองดูห้องพักและวิวจากระเบียงของห้องพักกันครับ
คลิปนี้จะเห็นห้องพักแทบจะทุกส่วนเลย พาไปดูทุกมุมเลยเหมือนกัน วิวทะเลจะเห็นไม่ชัดมาก แม้จะออกแบบให้ทุกห้องเห็นวิวทะเลชัดๆก็เถอะครับ เพราะจากคลิปเป็นห้องฝั่งทิศเหนือ ที่มุมหาดจะโค้งขึ้น เลยอาจจะไม่เห็นวิวเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากนัก ถ้าพักด้านหน้าๆ(คงเป็นห้องแพง) หรือพักฝั่งทิศใต้ วิวจะดีกว่านี้ครับ
จากทั้งสองคลิปจะเห็นว่าสะอาดดีครับ ตกแต่งไม่เว่อร์ แต่เน้นเรียบหรู สบายๆครับ
สำหรับราคาหน้าเวบก็จะเริ่มต้นที่ 2 พันปลายๆ โดยห้องส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 3 พันบาทขึ้นไปครับ
Ramada Encore Bangkok โรงแรมใหม่!! สุขุมวิท ซอย 10 กรุงเทพฯ
Ramada Encore Bangkok Hotel - โรงแรมรามาด้า อังกอร์ กรุงเทพฯ
โรงแรมใหม่ล่าสุดจาก Ramada เพิ่งเปิดเดือนเม.ย. 2011 / 2554 นี้เองครับ จัดว่าใหม่มากๆ
ทำเลที่ตั้งนั้น ก็อยู่ที่ถนนสุขุมวิทย์ ซอย 10 ครับ ซึ่งตรงโซนนี้ก็จะเดินทางสะดวกตรงที่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก และใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า MRT สุขุมวิท ครับ ^ ^
และนี่คือหน้าตาตัวอาคารของ Ramada Encore Hotel ครับ หากคิดจะไปลองของเปิดใหม่ ก็มองหาตึกรูปร่างแบบนี้ได้เลยครับ (เป็นกระจกแผ่นยักษ์ๆแรนดอมขนาด แปะไปมาด้านบน ดูแปลกตาดี)
การตกแต่งโดยรวมภายในจะเป็นแนวโมเดิร์นสีสันสะดุดตาครับ
และนี่คือภาพห้องพักของโรงแรมแห่งนี้ครับ ภายในโซนที่ไม่ใช่ห้องพักเช่นห้องอาหารหรือ reception จะทำสีออกมาแสบๆหน่อย แต่ห้องพักสีจะสบายตาให้เหมาะแก่การพักผ่อนครับ
และของแถมที่ถือเป็นไฮไลท์ของโรงแรม Ramada Encore Bangkok ก็คือห้องอาหารที่ชื่อว่า Chakra - จักระ ครับ
Chakra Restaurant and Bar เป็นห้องอาหารที่มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor ตั้งอยู่ชั้นดาดฟ้าของโรงแรม Ramada Encore Bangkok โดยโซน outdoor เหมาะแก่การนั่งสวีทหวานกับคู่รักดีด้วยครับ
และนี่คือภาพบางส่วนของ Chakra Restaurant and Bar ครับ
...
Ramada Encore Bangkok นั้นจะเปิดให้เข้าพักแน่นอนในวันที่ 20 เม.ย. 2554
ช่วงนั้นใครมองหาที่พักทำเลแถวถนนสุขุมวิทซอย 10 ก็แนะนำให้ลองที่นี่ครับ
มีโปรโมชั่นช่วงเปิดใหม่ด้วยล่ะครับ คือห้องพักจะอยู่ที่ 2,011 บาทจนถึง 31 ส.ค. 2554 ครับ (ราคาเีดียวกับปีที่เปิดตัวนั่นเอง ^ ^)
ดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ http://www.ramadaencorebangkok.com
โรงแรมใหม่ล่าสุดจาก Ramada เพิ่งเปิดเดือนเม.ย. 2011 / 2554 นี้เองครับ จัดว่าใหม่มากๆ
ทำเลที่ตั้งนั้น ก็อยู่ที่ถนนสุขุมวิทย์ ซอย 10 ครับ ซึ่งตรงโซนนี้ก็จะเดินทางสะดวกตรงที่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก และใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า MRT สุขุมวิท ครับ ^ ^
และนี่คือหน้าตาตัวอาคารของ Ramada Encore Hotel ครับ หากคิดจะไปลองของเปิดใหม่ ก็มองหาตึกรูปร่างแบบนี้ได้เลยครับ (เป็นกระจกแผ่นยักษ์ๆแรนดอมขนาด แปะไปมาด้านบน ดูแปลกตาดี)
การตกแต่งโดยรวมภายในจะเป็นแนวโมเดิร์นสีสันสะดุดตาครับ
และนี่คือภาพห้องพักของโรงแรมแห่งนี้ครับ ภายในโซนที่ไม่ใช่ห้องพักเช่นห้องอาหารหรือ reception จะทำสีออกมาแสบๆหน่อย แต่ห้องพักสีจะสบายตาให้เหมาะแก่การพักผ่อนครับ
และของแถมที่ถือเป็นไฮไลท์ของโรงแรม Ramada Encore Bangkok ก็คือห้องอาหารที่ชื่อว่า Chakra - จักระ ครับ
Chakra Restaurant and Bar เป็นห้องอาหารที่มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor ตั้งอยู่ชั้นดาดฟ้าของโรงแรม Ramada Encore Bangkok โดยโซน outdoor เหมาะแก่การนั่งสวีทหวานกับคู่รักดีด้วยครับ
และนี่คือภาพบางส่วนของ Chakra Restaurant and Bar ครับ
...
Ramada Encore Bangkok นั้นจะเปิดให้เข้าพักแน่นอนในวันที่ 20 เม.ย. 2554
ช่วงนั้นใครมองหาที่พักทำเลแถวถนนสุขุมวิทซอย 10 ก็แนะนำให้ลองที่นี่ครับ
มีโปรโมชั่นช่วงเปิดใหม่ด้วยล่ะครับ คือห้องพักจะอยู่ที่ 2,011 บาทจนถึง 31 ส.ค. 2554 ครับ (ราคาเีดียวกับปีที่เปิดตัวนั่นเอง ^ ^)
ดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ http://www.ramadaencorebangkok.com
จัดงานแต่งงานริมทะเล กันดีกว่า!! กับ Sunset Park Resort & Spa ที่พัทยา ครับ ^ ^
สำหรับว่าที่คู่บ่าวสาวที่กำลังมองหาสถานที่จัดงานแต่งริมชายหาด ริมชายทะเลอยู่นั้น ก็อยากแนะำนำรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่พัทยาครับ
ก่อนอื่นก็ต้องบอกเลยว่า ถ้าจะเลือกจัดงานแต่งงานแถบพัทยา ชะิอำ หัวหิน ก็แสดงว่าคุณจะเน้นแขกบ้าง เพราะถ้าแขกส่วนใหญ่อยู่กทม. ก็พอจะไปร่วมงานไหว ^ ^ ... แต่ก็จะมาเฉพาะคนที่อยากมามากจริงๆ เพราะกทม.-พัทยา ก็ใช่ว่าจะใกล้มากเกินไป
แต่ถ้าอยากแต่งแบบเป็นส่วนตัวและเป็นกันเองจริงๆ สมุย ภูเก็ต ยังมีที่แนวๆอีกเยอะครับ ^ ^
รีสอร์ทที่ว่านี้ ชื่อว่า Sunset Park Resort & Spa ครับ
มีบริการ Wedding Package เอาไว้หลากหลายเลยทีเดียว ซึ่งลักษณะการแต่งงานแต่ละอย่างนั้น ก็จะมีวิวทะเลสวยๆเป็นพื้นหลังแบบไม่มีอะไรมาบัง เข้าท่าดีมากครับ เพราะทางรีสอร์ทนี้เป็นรีสอร์ทติดทะเล กินชายหาดเต็มๆ ตามรูปครับ
ที่ดีอีกอย่างก็คือไม่ใช่ย่านคนพลุกพล่าน ประหนึ่งชายหาดส่วนตัวเลยแหละ ... ทำให้ไม่ต้องกลัวใครที่ไหนก็ไม่รู้ เดินโฉบมาที่ชายหาดทำวิวเสียด้วย ^ ^
สำหรับแำพกเกจแต่งงานที่หลากหลายนั้น ก็คือมีทั้งแบบไทย สากล และแบบไทยก็มีให้เลือกด้วยว่าจะรวมทั้งพิธีแห่ขันหมากด้วยไหม หรือว่ามีแต่รดน้ำสังข์เท่านั้นก็ได้
อย่างรูปที่เห็นนี้คือพิธีรดน้ำสังข์ริมทะเลน่ะครับ บริษัทไม่เลวเลย ^ ^
...
หรือจะเป็น wedding party ก็สามารถเช่นกันครับ วิวริมสระว่ายน้ำ พร้อมๆกับวิวทะเลที่มีพระอาทิตย์ตกดิน สวยมากๆครับ ^ ^
สนใจเก็บข้อมูลที่ Sunset Park Resort & Spa Pattaya ไว้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมเผื่อเป็นตัวเลือกอีกตัว
ก็ดูข้อมูลได้ที่ http://www.sunsetpark.co.th ครับ
ขอบอกราคาคร่าวๆว่า พิธีรดน้ำสังข์ ก็ 28,000 บาท หากรวมทั้งหมดก็สี่หมื่นกว่าๆ ราคาไม่เลวเลยครับ ^ ^
ก่อนอื่นก็ต้องบอกเลยว่า ถ้าจะเลือกจัดงานแต่งงานแถบพัทยา ชะิอำ หัวหิน ก็แสดงว่าคุณจะเน้นแขกบ้าง เพราะถ้าแขกส่วนใหญ่อยู่กทม. ก็พอจะไปร่วมงานไหว ^ ^ ... แต่ก็จะมาเฉพาะคนที่อยากมามากจริงๆ เพราะกทม.-พัทยา ก็ใช่ว่าจะใกล้มากเกินไป
แต่ถ้าอยากแต่งแบบเป็นส่วนตัวและเป็นกันเองจริงๆ สมุย ภูเก็ต ยังมีที่แนวๆอีกเยอะครับ ^ ^
รีสอร์ทที่ว่านี้ ชื่อว่า Sunset Park Resort & Spa ครับ
มีบริการ Wedding Package เอาไว้หลากหลายเลยทีเดียว ซึ่งลักษณะการแต่งงานแต่ละอย่างนั้น ก็จะมีวิวทะเลสวยๆเป็นพื้นหลังแบบไม่มีอะไรมาบัง เข้าท่าดีมากครับ เพราะทางรีสอร์ทนี้เป็นรีสอร์ทติดทะเล กินชายหาดเต็มๆ ตามรูปครับ
ที่ดีอีกอย่างก็คือไม่ใช่ย่านคนพลุกพล่าน ประหนึ่งชายหาดส่วนตัวเลยแหละ ... ทำให้ไม่ต้องกลัวใครที่ไหนก็ไม่รู้ เดินโฉบมาที่ชายหาดทำวิวเสียด้วย ^ ^
สำหรับแำพกเกจแต่งงานที่หลากหลายนั้น ก็คือมีทั้งแบบไทย สากล และแบบไทยก็มีให้เลือกด้วยว่าจะรวมทั้งพิธีแห่ขันหมากด้วยไหม หรือว่ามีแต่รดน้ำสังข์เท่านั้นก็ได้
อย่างรูปที่เห็นนี้คือพิธีรดน้ำสังข์ริมทะเลน่ะครับ บริษัทไม่เลวเลย ^ ^
...
หรือจะเป็น wedding party ก็สามารถเช่นกันครับ วิวริมสระว่ายน้ำ พร้อมๆกับวิวทะเลที่มีพระอาทิตย์ตกดิน สวยมากๆครับ ^ ^
สนใจเก็บข้อมูลที่ Sunset Park Resort & Spa Pattaya ไว้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมเผื่อเป็นตัวเลือกอีกตัว
ก็ดูข้อมูลได้ที่ http://www.sunsetpark.co.th ครับ
ขอบอกราคาคร่าวๆว่า พิธีรดน้ำสังข์ ก็ 28,000 บาท หากรวมทั้งหมดก็สี่หมื่นกว่าๆ ราคาไม่เลวเลยครับ ^ ^
ดูเร้ว~~ La Baguette Pattaya ร้านเบเกอรี่ เค้ก พาสทรี่ น่าหม่ำที่พัทยาครับ ^ ^
La Baguette Pattaya, The French Bakery Cafe
สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านเบเกอรี่สวยๆ น่ารักน่านั่ง น่ากิน ก็ขอแนะนำร้าน La Baguette Pattaya, The French Bakery Cafe ครับผม
ชื่อยาวไปหน่อย เอาสั้นๆว่า La Baguette Pattaya ก็พอ ^ ^
ร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่เบเกอรี่นะครับ
แต่มีทั้งไอศครีม พาสทรี่ ชอคโกแลต กาแฟ สลัด เครป แซนวิช ให้ทานอีกด้วยครับ
และเมนูแต่ละอย่างนั้นไม่ใช่เบเกอรี่ไก่กานะครับ แต่เป็นเบเกอรี่ชั้นยอดที่มาจากส่วนผสมชั้นดีทั้งนั้นครับ
และนี่คือรูปร่างหน้าตาร้าน La Baguette Pattaya ครับผม ^ ^
มองดูทางขวาครับ เบเกอรี่ เค้ก พาสทรี่ หลากหลายเมนู ^ ^
การตกแต่งก็โทนขาวๆ ครับ
...
La Baguette Pattaya นี่ก็ออกทีวีไป 2-3 ครั้งได้ ผมเองอยากไปทานก็เพราะเห็นภาพเค้าไปกินกันแล้วมันน่ากินมากๆนี่แหละ
เป็นร้านที่บริหารโดย Woodland Resort Pattaya รีสอร์ทหรูอีกแห่งของพัทยาครับ
ดูรายละเอียดของ La Baguette Pattaya เพิมเติมได้ที่ http://www.labaguettepattaya.com ครับ (เค้ามีเวบไซต์ด้วยนา ^ ^)
สำหรับทำเลที่ตั้งนั้น จะให้ง่ายก็ จากเส้นสุขุมวิท ก็เลี้ยวมาที่เส้นพัทยาเหนือจนเจอวงเวียน จากนั้นก็เข้าขวาไปเส้นพัทยา-นาเกลือ เข้ามาแค่ 50 เมตรก็เจอ Woodland Resort แล้วครับ ร้าน La Baguette Pattaya ก็อยู่ที่นั่นจ้า ^ ^
สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านเบเกอรี่สวยๆ น่ารักน่านั่ง น่ากิน ก็ขอแนะนำร้าน La Baguette Pattaya, The French Bakery Cafe ครับผม
ชื่อยาวไปหน่อย เอาสั้นๆว่า La Baguette Pattaya ก็พอ ^ ^
ร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่เบเกอรี่นะครับ
แต่มีทั้งไอศครีม พาสทรี่ ชอคโกแลต กาแฟ สลัด เครป แซนวิช ให้ทานอีกด้วยครับ
และเมนูแต่ละอย่างนั้นไม่ใช่เบเกอรี่ไก่กานะครับ แต่เป็นเบเกอรี่ชั้นยอดที่มาจากส่วนผสมชั้นดีทั้งนั้นครับ
และนี่คือรูปร่างหน้าตาร้าน La Baguette Pattaya ครับผม ^ ^
มองดูทางขวาครับ เบเกอรี่ เค้ก พาสทรี่ หลากหลายเมนู ^ ^
การตกแต่งก็โทนขาวๆ ครับ
...
La Baguette Pattaya นี่ก็ออกทีวีไป 2-3 ครั้งได้ ผมเองอยากไปทานก็เพราะเห็นภาพเค้าไปกินกันแล้วมันน่ากินมากๆนี่แหละ
เป็นร้านที่บริหารโดย Woodland Resort Pattaya รีสอร์ทหรูอีกแห่งของพัทยาครับ
ดูรายละเอียดของ La Baguette Pattaya เพิมเติมได้ที่ http://www.labaguettepattaya.com ครับ (เค้ามีเวบไซต์ด้วยนา ^ ^)
สำหรับทำเลที่ตั้งนั้น จะให้ง่ายก็ จากเส้นสุขุมวิท ก็เลี้ยวมาที่เส้นพัทยาเหนือจนเจอวงเวียน จากนั้นก็เข้าขวาไปเส้นพัทยา-นาเกลือ เข้ามาแค่ 50 เมตรก็เจอ Woodland Resort แล้วครับ ร้าน La Baguette Pattaya ก็อยู่ที่นั่นจ้า ^ ^
รีสอร์ทใหม่บาหลี Banyan Tree Ungasan, Bali รีสอร์ทหรูที่ Uluwatu Bali ครับ
Banyan Tree Ungasan, Bali เป็นรีสอร์ทหรู เปิดใหม่ที่ย่าน อุลุวาตู บาหลี โดยเพิ่งเปิดเมื่อกลางปี 2010 นี้เองครับ
โดยทำเลที่ตั้งนั้น ก็จะอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆอย่างวัด Uluwatu ซึ่งใกล้ๆกับรีสอร์ทก็จะติดกับโซนของ Nusa Dua ด้วยครับ (ประมาณว่ารอยต่อของอุลุวาตู กับนูซาดัว)
สำหรับชื่อเสียงของ Banyan Tree นั้น ก็คาดว่าหลายๆคนคงพอจะทราบชื่อกันอยู่แล้ว เพราะในไทยก็มีมาเปิดอยู่หลายที่ เช่น Banyan Tree Bangkok ที่เด่นตรงมี Vertigo Bar ที่สุดไฮโซเลื่องชื่ออยู่ที่นั่น หรือที่เปิดใหม่อย่าง Banyan Tree Samui ที่เล่นสร้างวิลล่าระดับหรูล้อมหาดเล็กๆที่สมุยเอาไว้ (เอาไปกินเป็นหาดส่วนตัวของโรงแรมเลยอ่ะ -*- ทุนหนาจริงๆ)
ดังนั้น เมื่อ Banyan Tree ไปเปิดที่บาหลี และทำเลอย่างอุลุวาตู ก็พอจะจินตนาการได้เลยครับว่าต้องเป็นห้องพักหรูๆเน้นวิว เพราะวิวของ Uluwatu เป็นหน้าผาสูง วิวก็จะได้เป็นวิวทะเลมุมสูงเต็มๆ (ไม่ต้องกลัวสึนามิด้วย ^ ^) แล้วก็คงมีแบบ Pool Villa ที่มีสระว่ายน้ำหันหน้าสู่มหาสมุทรอินเดียอีกต่างหาก
ก็ลองดูรูปของ Banyan Tree Ungasan, Bali กันดูครับ ^ ^
เริ่มด้วยวิลล่าหรู Pool Villa ติดวิวของมหาสมุทรอินเดียเต็มๆ
ลองดูวิวจากโซนนั่งเล่น+ดินเนอร์ ที่เป็นวิวมหาสมุทรอินเดียที่อุลุวาตูบาหลีดูครับ
ถ้าใครชอบหรุที่บาหลี หรือคิดจะพักหรูๆหน่อยในคืนก่อนเดินทางกลัีบมาไทยก็อยากให้ลิสต์ที่นี่ไว้ด้วยครับ เพราะอุลุวาตูก็ไม่ไกลจากสนามบินเดนปาซาร์มากนัก สะดวกดีครับ (แต่ถ้าคิดจะเดินเที่ยวเดินช้อปด้วย ก็ไปพักแถว Kuta ดีกว่าจ้า)
ดูข้อมูลของ Banyan Tree Ungasan, Bali เพิ่มเติมได้ที่ http://www.banyantree.com/en/bali_ungasan ครับ
โดยทำเลที่ตั้งนั้น ก็จะอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆอย่างวัด Uluwatu ซึ่งใกล้ๆกับรีสอร์ทก็จะติดกับโซนของ Nusa Dua ด้วยครับ (ประมาณว่ารอยต่อของอุลุวาตู กับนูซาดัว)
สำหรับชื่อเสียงของ Banyan Tree นั้น ก็คาดว่าหลายๆคนคงพอจะทราบชื่อกันอยู่แล้ว เพราะในไทยก็มีมาเปิดอยู่หลายที่ เช่น Banyan Tree Bangkok ที่เด่นตรงมี Vertigo Bar ที่สุดไฮโซเลื่องชื่ออยู่ที่นั่น หรือที่เปิดใหม่อย่าง Banyan Tree Samui ที่เล่นสร้างวิลล่าระดับหรูล้อมหาดเล็กๆที่สมุยเอาไว้ (เอาไปกินเป็นหาดส่วนตัวของโรงแรมเลยอ่ะ -*- ทุนหนาจริงๆ)
ดังนั้น เมื่อ Banyan Tree ไปเปิดที่บาหลี และทำเลอย่างอุลุวาตู ก็พอจะจินตนาการได้เลยครับว่าต้องเป็นห้องพักหรูๆเน้นวิว เพราะวิวของ Uluwatu เป็นหน้าผาสูง วิวก็จะได้เป็นวิวทะเลมุมสูงเต็มๆ (ไม่ต้องกลัวสึนามิด้วย ^ ^) แล้วก็คงมีแบบ Pool Villa ที่มีสระว่ายน้ำหันหน้าสู่มหาสมุทรอินเดียอีกต่างหาก
ก็ลองดูรูปของ Banyan Tree Ungasan, Bali กันดูครับ ^ ^
เริ่มด้วยวิลล่าหรู Pool Villa ติดวิวของมหาสมุทรอินเดียเต็มๆ
ลองดูวิวจากโซนนั่งเล่น+ดินเนอร์ ที่เป็นวิวมหาสมุทรอินเดียที่อุลุวาตูบาหลีดูครับ
ถ้าใครชอบหรุที่บาหลี หรือคิดจะพักหรูๆหน่อยในคืนก่อนเดินทางกลัีบมาไทยก็อยากให้ลิสต์ที่นี่ไว้ด้วยครับ เพราะอุลุวาตูก็ไม่ไกลจากสนามบินเดนปาซาร์มากนัก สะดวกดีครับ (แต่ถ้าคิดจะเดินเที่ยวเดินช้อปด้วย ก็ไปพักแถว Kuta ดีกว่าจ้า)
ดูข้อมูลของ Banyan Tree Ungasan, Bali เพิ่มเติมได้ที่ http://www.banyantree.com/en/bali_ungasan ครับ
Mike Hotel Pattaya โรงแรมพัทยาที่ทำเลดีมั่กๆ!! ติดหน้าชายหาด ติด Walking Street
Mike Hotel Pattaya - ไมค์ โฮเต็ล พัทยา ... โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมที่ทำเลค่อนข้างดีมากๆแห่งหนึ่ง เลยอยากเอามาเสนอกันหน่อย โดยเฉพาะคนที่เล็งเที่ยว Walking Street ในพัทยาแบบดึกๆ แถมดันอยากได้โรงแรมติดหน้าหาดซะอีก
Mike Hotel นี้ จริงๆเ้ค้าเป็น Plaza ด้วยครับ บางทีอาจจะคุ้นกันในชื่อ Mike Plaza ครับ
สำหรับในโซนโรงแรมนั้น ก็เป็นโรงแรมเต็มตัว ไม่ได้เป็นของแถมจากการทำ Plaza แต่อย่างใดครับ มีสระว่ายน้ำด้วยนะเออ ^ ^
ซึ่งสิ่งที่น่าสนที่สุดก็คือ ทำเลครับ
อย่างผมเองนั้น ไม่ค่อยชอบ Walking Street นัก ก็อาจจะไม่สนที่นี่มาก
แต่ใครที่คิดจะไปเที่ยว Walking Street แบบอยู่กันดึกๆไปเลย และได้ที่พักติดหน้าหาด ก็ต้องที่ Mike Hotel นี่แหละครับ
เพราะหากคิดจะเที่ยวดึกๆ ก็ควรจะมีที่พักใกล้ๆ แต่พักในนั้นเลย มันก็หนวกหูอีก แถมบรรยากาศก็อึดอัดหน่อย -*-
... แต่ Mike Hotel Pattaya เค้า อยู่ห่างจากปากทางเข้า Walking Street ประมาณ 30 เมตรครับ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากเสียงมากนัก แต่จะเดินไปก็ไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ ... อีกอย่างคือ ที่นี่ติดหน้าชายหาดพัทยาเลยครับ!! บรรยากาศก็ดี โอเคทีเดียว
และสุดท้ายก็ืึคือ ราคาไม่แรงมากนัก เริ่มต้นที่ 1,800 บาทครับ ^ ^ ไม่ถึงกับถูก แต่ก็เรียกว่าราคาโอเค ไม่แพงเลยครับ
ลองดูภาพของ Mike Hotel Pattaya ก่อนครับ ^ ^
มีสระว่ายน้ำด้วยครับ บนชั้นดาดฟ้า ไม่ได้ประดับประดามากนัก แต่ก็โอเคดี
...
สนใจโรงแรมทำเลดีๆราคาไม่ถูกไม่แพงอย่างนี้ ก็ดูข้อมูลของไมค์เพิ่มได้ที่ http://www.mikehotel.com ครับ
Mike Hotel นี้ จริงๆเ้ค้าเป็น Plaza ด้วยครับ บางทีอาจจะคุ้นกันในชื่อ Mike Plaza ครับ
สำหรับในโซนโรงแรมนั้น ก็เป็นโรงแรมเต็มตัว ไม่ได้เป็นของแถมจากการทำ Plaza แต่อย่างใดครับ มีสระว่ายน้ำด้วยนะเออ ^ ^
ซึ่งสิ่งที่น่าสนที่สุดก็คือ ทำเลครับ
อย่างผมเองนั้น ไม่ค่อยชอบ Walking Street นัก ก็อาจจะไม่สนที่นี่มาก
แต่ใครที่คิดจะไปเที่ยว Walking Street แบบอยู่กันดึกๆไปเลย และได้ที่พักติดหน้าหาด ก็ต้องที่ Mike Hotel นี่แหละครับ
เพราะหากคิดจะเที่ยวดึกๆ ก็ควรจะมีที่พักใกล้ๆ แต่พักในนั้นเลย มันก็หนวกหูอีก แถมบรรยากาศก็อึดอัดหน่อย -*-
... แต่ Mike Hotel Pattaya เค้า อยู่ห่างจากปากทางเข้า Walking Street ประมาณ 30 เมตรครับ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากเสียงมากนัก แต่จะเดินไปก็ไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ ... อีกอย่างคือ ที่นี่ติดหน้าชายหาดพัทยาเลยครับ!! บรรยากาศก็ดี โอเคทีเดียว
และสุดท้ายก็ืึคือ ราคาไม่แรงมากนัก เริ่มต้นที่ 1,800 บาทครับ ^ ^ ไม่ถึงกับถูก แต่ก็เรียกว่าราคาโอเค ไม่แพงเลยครับ
ลองดูภาพของ Mike Hotel Pattaya ก่อนครับ ^ ^
มีสระว่ายน้ำด้วยครับ บนชั้นดาดฟ้า ไม่ได้ประดับประดามากนัก แต่ก็โอเคดี
...
สนใจโรงแรมทำเลดีๆราคาไม่ถูกไม่แพงอย่างนี้ ก็ดูข้อมูลของไมค์เพิ่มได้ที่ http://www.mikehotel.com ครับ
DoubleTree by Hilton, Sukhumvit Bangkok โรงแรมแห่งใหม่จากฮิลตัน ย่านสุขุมวิทย์ กรุงเทพฯ!!
DoubleTree by Hilton, Sukhumvit Bangkok - ดับเบิ้ลทรี บาย ฮิลตัน สุขุมวิทย์ กรุงเทพฯ
... เป็นอีกโรงแรมที่ทาง Hilton เตรียมจะมาเปิดที่สุขุมวิทย์กรุงเทพฯ เพื่อตอกย้ำให้สุขุมวิทย์กลายเป็นย่านโรงแรมติดแบรนด์มากยิ่งขึ้น ... โดยเฉพาะเมื่อทาง Hilton ได้วางแผนเปิดตัวโรงแรมใหม่ที่สุขุมวิทถึง 2 โรงแรมด้วยกัน คือ Hilton Sukhumvit Bangkok และ DoubleTree by Hilton, Sukhumvit Bangkok ในช่วงปีเดียวกัน!!
สิ่งที่ต่างออกไปจาก Hilton เดิมๆนั้น ก็ต้องบอกว่า โรงแรมนี้มาในแบรนด์ Double Tree ซึ่งจัดเป็นโรงแรม DoubleTree แห่งแรกในประเทศไทยกันเลยครับ ซึ่งจุดชูหลักๆของแบรนด์นี้ ... "คุกกี้" เป็นชอคชิพคุกกี้ที่ทำเสิร์ฟพร้อมจุ่มนมเป็นพิเศษไม่เหมือนใครเมื่อแขกทุกๆคนเข้ามาพักที่ DoubleTree by Hilton
... แต่แน่ละ คงไม่มีใครเลือกพักที่ DoubleTree Hotel เพียงเพราะต้องการจะชิมคุกกี้แน่นอน ^ ^" (แต่เชื่อไหม? ว่าคนที่เลือกพักที่ DoubleTree แทนที่จะไปโรงแรมอื่นในกรณีที่หลายๆอย่างใกล้เคียงกันนั้น ก็เป็นเพราะคุกกี้นี่แหละครับ เค้าว่ากันว่ามันอร่อยกว่าคุกกี้ชอคชิพที่อื่นน่ะครับ)
โรงแรมนี้ก็ต้องมีดีอย่างอื่นนั่นแหละครับ ซึ่งโดยชื่อของ Hilton นั้นก็เป็นตัวค้ำประกันอยู่แ้ล้วสำหรับความหรูเลิศของแบรนด์นี้ แต่จุดเด่นหลักๆที่ DoubleTree พยายามชูให้ไม่เหมือนกับใครก็คือ เลือกที่โฆษณา "บริการ" เป็นประเด็นหลักๆ (คือเริ่มตั้งแต่โฆษณาคุกกี้แล้ว ^ ^") คือเน้นว่าถ้าเป็นแบรนด์ DoubleTree คุณจะต้องได้รับบริการที่ประทับใจ ซึ่งมีผู้ให้บริการที่คอย CARE ดูแลผู้เข้าพักเป็นอย่างดีเยี่ยม
ก็รอดูครับ ปี 2012 / 2555 ที่โรงแรมใหม่แห่งนี้จะเปิดตัวที่กรุงเทพฯเราครับ ^ ^
... เป็นอีกโรงแรมที่ทาง Hilton เตรียมจะมาเปิดที่สุขุมวิทย์กรุงเทพฯ เพื่อตอกย้ำให้สุขุมวิทย์กลายเป็นย่านโรงแรมติดแบรนด์มากยิ่งขึ้น ... โดยเฉพาะเมื่อทาง Hilton ได้วางแผนเปิดตัวโรงแรมใหม่ที่สุขุมวิทถึง 2 โรงแรมด้วยกัน คือ Hilton Sukhumvit Bangkok และ DoubleTree by Hilton, Sukhumvit Bangkok ในช่วงปีเดียวกัน!!
สิ่งที่ต่างออกไปจาก Hilton เดิมๆนั้น ก็ต้องบอกว่า โรงแรมนี้มาในแบรนด์ Double Tree ซึ่งจัดเป็นโรงแรม DoubleTree แห่งแรกในประเทศไทยกันเลยครับ ซึ่งจุดชูหลักๆของแบรนด์นี้ ... "คุกกี้" เป็นชอคชิพคุกกี้ที่ทำเสิร์ฟพร้อมจุ่มนมเป็นพิเศษไม่เหมือนใครเมื่อแขกทุกๆคนเข้ามาพักที่ DoubleTree by Hilton
... แต่แน่ละ คงไม่มีใครเลือกพักที่ DoubleTree Hotel เพียงเพราะต้องการจะชิมคุกกี้แน่นอน ^ ^" (แต่เชื่อไหม? ว่าคนที่เลือกพักที่ DoubleTree แทนที่จะไปโรงแรมอื่นในกรณีที่หลายๆอย่างใกล้เคียงกันนั้น ก็เป็นเพราะคุกกี้นี่แหละครับ เค้าว่ากันว่ามันอร่อยกว่าคุกกี้ชอคชิพที่อื่นน่ะครับ)
โรงแรมนี้ก็ต้องมีดีอย่างอื่นนั่นแหละครับ ซึ่งโดยชื่อของ Hilton นั้นก็เป็นตัวค้ำประกันอยู่แ้ล้วสำหรับความหรูเลิศของแบรนด์นี้ แต่จุดเด่นหลักๆที่ DoubleTree พยายามชูให้ไม่เหมือนกับใครก็คือ เลือกที่โฆษณา "บริการ" เป็นประเด็นหลักๆ (คือเริ่มตั้งแต่โฆษณาคุกกี้แล้ว ^ ^") คือเน้นว่าถ้าเป็นแบรนด์ DoubleTree คุณจะต้องได้รับบริการที่ประทับใจ ซึ่งมีผู้ให้บริการที่คอย CARE ดูแลผู้เข้าพักเป็นอย่างดีเยี่ยม
ก็รอดูครับ ปี 2012 / 2555 ที่โรงแรมใหม่แห่งนี้จะเปิดตัวที่กรุงเทพฯเราครับ ^ ^
Hilton Sukhumvit Bangkok โรงแรมใหม่จากฮิลตัน!! ถนนสุขุมวิทย์ กรุงเทพฯ
หลังจากสร้างความฮือฮาในฐานะโรงแรมรีสอร์ทใหม่ ด้วยรูปลักษณะที่โดดเด่นอย่างฮิลตันพัทยามาแล้ว
ทาง Hilton ก็ยังไม่หยุดเททุนเข้าสู่ประเทศไทย ด้วยการปล่อย Conrad Samui ลงมาเป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทหรูเกาสมุยในปี 2011
โดยในปี 2012 / 2555 นี้ ทาง Hilton ก็จะกลับมาปล่อยโรงแรมหรูใส่กรุงเทพฯในย่านดังกันต่อเลยครับ!!
และโรงแรมที่ว่า ก็คือ Hilton Sukhumvit Bangkok นั่นเองครับ กำหนดเริ่มสร้างปี 2011 นี่เอง แล้วก็คงจะแล้วเสร็จในปี 2012 ครับ
จากชื่อ ก็คงเห็นทำเลชัดเจน ว่าอยู่บนย่านสุขุมวิทย์ ซึ่งเป็นย่านฮิตของโรงแรมดีๆอีกแห่งครับ โดยจะมีห้องพักจำนวนทั้งหมด 322 ห้อง โดยมีห้องสวีทจำนวน 35 ห้องครับ
ส่วนเรื่องของ Facilities นั้น โรงแรมระดับ Hilton ก็ไม่พลาดอยู่แล้วครับ ห้องอาหาร lounge บาร์ สระ่ว่ายน้ำ สปา ... ส่วนที่เป็นพื้นฐานๆก็มีครบถ้วนครับ
ก็รอดูกันต่อไป ว่าโรงแรมใหม่จากฮิลตันในกรุงเทพฯนั้น จะหรูหราแค่ไหน!!
หากมีรายละเอียดของ Hilton Sukhumvit Bangkok ก็จะนำมาแจ้งอีกทีครับ (ตอนนี้ก็คอยไปก่อนจ้า ^ ^)
ทาง Hilton ก็ยังไม่หยุดเททุนเข้าสู่ประเทศไทย ด้วยการปล่อย Conrad Samui ลงมาเป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทหรูเกาสมุยในปี 2011
โดยในปี 2012 / 2555 นี้ ทาง Hilton ก็จะกลับมาปล่อยโรงแรมหรูใส่กรุงเทพฯในย่านดังกันต่อเลยครับ!!
และโรงแรมที่ว่า ก็คือ Hilton Sukhumvit Bangkok นั่นเองครับ กำหนดเริ่มสร้างปี 2011 นี่เอง แล้วก็คงจะแล้วเสร็จในปี 2012 ครับ
จากชื่อ ก็คงเห็นทำเลชัดเจน ว่าอยู่บนย่านสุขุมวิทย์ ซึ่งเป็นย่านฮิตของโรงแรมดีๆอีกแห่งครับ โดยจะมีห้องพักจำนวนทั้งหมด 322 ห้อง โดยมีห้องสวีทจำนวน 35 ห้องครับ
ส่วนเรื่องของ Facilities นั้น โรงแรมระดับ Hilton ก็ไม่พลาดอยู่แล้วครับ ห้องอาหาร lounge บาร์ สระ่ว่ายน้ำ สปา ... ส่วนที่เป็นพื้นฐานๆก็มีครบถ้วนครับ
ก็รอดูกันต่อไป ว่าโรงแรมใหม่จากฮิลตันในกรุงเทพฯนั้น จะหรูหราแค่ไหน!!
หากมีรายละเอียดของ Hilton Sukhumvit Bangkok ก็จะนำมาแจ้งอีกทีครับ (ตอนนี้ก็คอยไปก่อนจ้า ^ ^)
แนะนำ Tune Hotels Kuta Bali โรงแรมถูกย่าน Kuta ที่บาหลี
สำหรับท่านที่กำลังมองหาโรงแรมย่านคุตา ที่บาหลี
ก็มีโรงแรม budget ที่พอจะเป็นที่นิยมอยู่บ้าง มาแนะนำกันหน่อยครับ
โรงแรมรีสอร์ทนี้ชื่อว่า Tune Hotel Kuta Bali ครับ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ low cost hotel ซึ่งมาแนวเดียวกับสายการบินแอร์เอเซียล่ะนะครับ ^ ^
Tune Hotels Kuta Bali นี้ เท่าที่เห็นรีวิวมา ก็จะเห็นว่าเป็นโรงแรมที่ตกแต่งแนวโมเดิร์น+คอนเทมพ์ ซึ่งใครที่ต้องการแนวบาหลีจ๋า ก็ไม่แนะนำครับ เพราะแม้จะเป็นย่าน Kuta ก็เถอะ ก็ยังพอมีที่พักแนวบาหลีแท้ๆอยู่อีกเหมือนกันครับ
และข้อเสียอีกอย่างก็คือ ตัวห้องพักจะแคบๆ แนว budget hotel นั่นแหละครับ ... แต่สิ่งที่ได้มาจาก Tune Hotels Kuta Bali ก็คือราคาที่ถูกกับทำเลที่โอเคดี สำหรับย่านคุตาน่ะครับ (จริงๆที่ถูกๆแบบ Tune Hotels Kuta Bali ก็มีอีกนะครับ ไว้จะเอามาเสนออีกที)
คือที่นี่จะใกล้กับ Kuta Square น่ะครับ ตอนเย็นๆจนถึงกลางคืนก็พอจะเดินเที่ยวและช้อปได้ ส่วนชายหาด Kuta นั้นก็อยู่ในระดับเดินไปได้ครับ แต่ก็ไม่ได้ใกล้มากอะไร (น่าจะสัก 400 เมตร)
ลองดูภาพคร่าวๆของ Tune Hotels Kuta Bali กันก่อนครับ ^ ^
ห้องพักก็จะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันครับ (โรงแรมนี้เป็นสไตล์อยากได้อะไรเพิ่มบอก แต่จ่ายตังค์เพิ่ม ^ ^")
อันนี้ห้องน้ำครับ
ก็จะเห็นว่าที่พักจะค่อนข้างแคบ แต่รูปแบบและสไตล์ก็ดูพักสบายดีครับ เว้นแต่ว่าถ้าไม่ชอบที่แคบก็คงจะรู้สึกอึดอัดบ้าง
สนใจ Tune Hotels Kuta Bali ก็ดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ http://www.tunehotels.com/our-hotels/kuta-bali-indonesia ครับ
ก็มีโรงแรม budget ที่พอจะเป็นที่นิยมอยู่บ้าง มาแนะนำกันหน่อยครับ
โรงแรมรีสอร์ทนี้ชื่อว่า Tune Hotel Kuta Bali ครับ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ low cost hotel ซึ่งมาแนวเดียวกับสายการบินแอร์เอเซียล่ะนะครับ ^ ^
Tune Hotels Kuta Bali นี้ เท่าที่เห็นรีวิวมา ก็จะเห็นว่าเป็นโรงแรมที่ตกแต่งแนวโมเดิร์น+คอนเทมพ์ ซึ่งใครที่ต้องการแนวบาหลีจ๋า ก็ไม่แนะนำครับ เพราะแม้จะเป็นย่าน Kuta ก็เถอะ ก็ยังพอมีที่พักแนวบาหลีแท้ๆอยู่อีกเหมือนกันครับ
และข้อเสียอีกอย่างก็คือ ตัวห้องพักจะแคบๆ แนว budget hotel นั่นแหละครับ ... แต่สิ่งที่ได้มาจาก Tune Hotels Kuta Bali ก็คือราคาที่ถูกกับทำเลที่โอเคดี สำหรับย่านคุตาน่ะครับ (จริงๆที่ถูกๆแบบ Tune Hotels Kuta Bali ก็มีอีกนะครับ ไว้จะเอามาเสนออีกที)
คือที่นี่จะใกล้กับ Kuta Square น่ะครับ ตอนเย็นๆจนถึงกลางคืนก็พอจะเดินเที่ยวและช้อปได้ ส่วนชายหาด Kuta นั้นก็อยู่ในระดับเดินไปได้ครับ แต่ก็ไม่ได้ใกล้มากอะไร (น่าจะสัก 400 เมตร)
ลองดูภาพคร่าวๆของ Tune Hotels Kuta Bali กันก่อนครับ ^ ^
ห้องพักก็จะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันครับ (โรงแรมนี้เป็นสไตล์อยากได้อะไรเพิ่มบอก แต่จ่ายตังค์เพิ่ม ^ ^")
อันนี้ห้องน้ำครับ
ก็จะเห็นว่าที่พักจะค่อนข้างแคบ แต่รูปแบบและสไตล์ก็ดูพักสบายดีครับ เว้นแต่ว่าถ้าไม่ชอบที่แคบก็คงจะรู้สึกอึดอัดบ้าง
สนใจ Tune Hotels Kuta Bali ก็ดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ http://www.tunehotels.com/our-hotels/kuta-bali-indonesia ครับ
โปรหางแดงมาใหม่!! Magnificent Thailand จากแอร์เอเซีย ครับ ^ ^
มีโปรหางแดง หรือจาก Air Asia มาแนะำนำครับ
โปรนี้แม้ไม่ได้ถูกขนาด 0 บาท หรือถูกเท่ากับโปรช่วง Bigger Than Big ที่เพิ่งผ่านมา
แต่ก็น่าสนใจไม่น้อยครับ เพราะราคานั้น ถูกกว่าราคาปกติประมาณ 50-60% เลยทีเดียวครับ!!
ดังนั้นใครที่ไม่ได้จองช่วง Bigger Than Big ก็มีโปรนี้แก้ขัดอยู่ครับ ก็ถือว่าคุ้มอยู่นะครับ ^ ^
โปรนี้คือโปรหางแดง Magnificent Thailand ครับ
ตามหน้าตาแบบนี้เลย
ระยะเวลาการจองก็ 15-20 มีนาคม 2554 ซึ่งผมลองเข้าไปแล้วก็ลองจองได้ราบรื่นและง่าย ไม่มีปัญหา คงเพราะไม่ใช่โปรที่จัดหนักจริงๆของทาง Air Asia น่ะครับ
ส่วนระยะเวลาการบินก็ช่วง 11 พ.ย. 2554 - 29 ก.พ. 2555 ซึ่งก็นับว่านานอยู่ครับ
แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจองครับ!! เพราะหากจะรอโปรกระหน่ำกว่านี้ ก็ต้องบอกว่ามีแน่ๆแหละครับเพียงแต่คงไม่ใช่เร็วๆนี้ สมมุติว่ามีโปรแบบ Bigger Than Big อีกในช่วง เม.ย. ... ระยะเวลาการได้เดินทางก็คงหลังก.พ. 2555 ไปอีก -*- (โปรยิ่งถูก ยิ่งคอยนาน)
ดังนั้นใครอยากเที่ยวไวๆหน่อย ก็จองได้ครับ เพราะถูกกว่าปกติถึงเท่าตัว (ไป-กลับ เหมือนซื้อเที่ยวไปขาเดียว)
แต่ถ้าไม่มีโปรแกรมอยากเที่ยวชัดเจนมากมายนัก ก็รอสอยถูกกว่านี้ก็ได้ครับ แต่คอยนานอีกหน่อยนะครับ
โดยราคาก็ตามรูปนี้ครับราคารวมหมดแล้วนะครับ
ถ้าไปกลับก็ตามนี้ครับ
- กรุงเทพฯ - ภูเก็ต/กระบี่ ไปกลับ ก็ 1,300 บาท
- กรุงเทพฯ - เชียงใหม่/เชียงราย ไปกลับ ก็ 1,300 บาท
- กรุงเทพฯ - สุราษฎ์/อุดร/อุบล ไปกลับก็ 900 บาท
... ก็ยวนใจอยู่นะครับ
ดูรายละเีอียดได้เลยที่ http://www.airasia.com/th/en/home.html ภายใน 20 มีนาคม 2554 นี้ครับ
โปรนี้แม้ไม่ได้ถูกขนาด 0 บาท หรือถูกเท่ากับโปรช่วง Bigger Than Big ที่เพิ่งผ่านมา
แต่ก็น่าสนใจไม่น้อยครับ เพราะราคานั้น ถูกกว่าราคาปกติประมาณ 50-60% เลยทีเดียวครับ!!
ดังนั้นใครที่ไม่ได้จองช่วง Bigger Than Big ก็มีโปรนี้แก้ขัดอยู่ครับ ก็ถือว่าคุ้มอยู่นะครับ ^ ^
โปรนี้คือโปรหางแดง Magnificent Thailand ครับ
ตามหน้าตาแบบนี้เลย
ระยะเวลาการจองก็ 15-20 มีนาคม 2554 ซึ่งผมลองเข้าไปแล้วก็ลองจองได้ราบรื่นและง่าย ไม่มีปัญหา คงเพราะไม่ใช่โปรที่จัดหนักจริงๆของทาง Air Asia น่ะครับ
ส่วนระยะเวลาการบินก็ช่วง 11 พ.ย. 2554 - 29 ก.พ. 2555 ซึ่งก็นับว่านานอยู่ครับ
แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจองครับ!! เพราะหากจะรอโปรกระหน่ำกว่านี้ ก็ต้องบอกว่ามีแน่ๆแหละครับเพียงแต่คงไม่ใช่เร็วๆนี้ สมมุติว่ามีโปรแบบ Bigger Than Big อีกในช่วง เม.ย. ... ระยะเวลาการได้เดินทางก็คงหลังก.พ. 2555 ไปอีก -*- (โปรยิ่งถูก ยิ่งคอยนาน)
ดังนั้นใครอยากเที่ยวไวๆหน่อย ก็จองได้ครับ เพราะถูกกว่าปกติถึงเท่าตัว (ไป-กลับ เหมือนซื้อเที่ยวไปขาเดียว)
แต่ถ้าไม่มีโปรแกรมอยากเที่ยวชัดเจนมากมายนัก ก็รอสอยถูกกว่านี้ก็ได้ครับ แต่คอยนานอีกหน่อยนะครับ
โดยราคาก็ตามรูปนี้ครับราคารวมหมดแล้วนะครับ
ถ้าไปกลับก็ตามนี้ครับ
- กรุงเทพฯ - ภูเก็ต/กระบี่ ไปกลับ ก็ 1,300 บาท
- กรุงเทพฯ - เชียงใหม่/เชียงราย ไปกลับ ก็ 1,300 บาท
- กรุงเทพฯ - สุราษฎ์/อุดร/อุบล ไปกลับก็ 900 บาท
... ก็ยวนใจอยู่นะครับ
ดูรายละเีอียดได้เลยที่ http://www.airasia.com/th/en/home.html ภายใน 20 มีนาคม 2554 นี้ครับ
โรงแรม อพาร์ทเม้นท์ เปิดใหม่!! อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ The Hostel - เดอะโฮสเทล กรุงเทพฯ ^ ^
มีที่พักเปิดใหม่ ที่อนุสาวรีย์ชัียสมรภูมิ กทม.มาแนะนำครับ ใครที่มองหาที่พักใกล้ๆบริเวณนั้น ไม่ว่าจะรายวันหรือรายเดือน ก็ขอแนะนำครับ
ที่พักแห่งนี้ชื่อว่า The Hostel - เดอะโฮสเทล
ที่นี่เป็น Service Apartment - เซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ ครับ ซึ่งคนที่มองหาโรงแรมพักไม่กี่คืนก็มาใช้บริการได้เช่นกันจ้า~~
แม้คำว่า Hostel จะโดนเอาไปทำเป็นหนังสยองฆ่ากันเลือกสาด ... แต่ที่พัก Hostel แห่งนี้ ทำออกมาได้ตามชื่อที่โฮสเทลควรจะเป็นครับ เป็นที่พักที่สวยสบายตา น่ารักกิ๊บเก๋นิดๆด้วยอีกล่ะครับ
นอกจากนั้นยังมี Facilities ที่น่าสนกว่าโรงแรมดีๆบางแห่งอีกครับ เพราะว่ามีซูเปอร์มาเก็ตเป็นของตัวเอง ไม่ต้องกระเสือกกระสนหาโรงแรมใกล้เซเว่น มีร้านทำผม เสริมสวย สปาครบครับ ^ ^
และนี่คือภาพห้องพักของทาง The Hostel ครับ เป็นภาพจากทางเวบของเดอะโฮสเทลเองเลยครับ
โซนห้องน้ำก็ทำออกมาได้ดีครับ
การตกแต่งและดีไซน์จะเป็นแนวคอนเทมแบบสวยสบายตา ทีวีก็ HD กันเลย!! มีคอมให้ด้วย!! (คงสำหรับพักรายเดือนมั้ง อันนี้)
ก็แนะนำครับ สำหรับที่นี่ เพิ่งเปิดใหม่ซะด้วย
ซึ่งดูจากรูปแล้ว ก็คงไม่ใช่ที่พักหลักร้อยล่ะมั้งครับ สวยเกินหลักร้อยอยู่นะ ... แต่ถ้าใช่ที่พักหลักร้อยก็น่าสนมากๆล่ะครับ (แบบว่า 950 ไรเงี๊ยะ ^ ^")
สนใจดูข้อมูลได้ที่เวบ http://www.thehostelthai.com ครับ
หรือสนใจราคาที่พักแห่งนี้ก็โทรสอบถามไำด้ที่ 0-2640-4200, 0-2354-8680-1 ครับ (ในเวบไม่ได้ลงราคาไว้น่ะครับ)
ที่พักแห่งนี้ชื่อว่า The Hostel - เดอะโฮสเทล
ที่นี่เป็น Service Apartment - เซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ ครับ ซึ่งคนที่มองหาโรงแรมพักไม่กี่คืนก็มาใช้บริการได้เช่นกันจ้า~~
แม้คำว่า Hostel จะโดนเอาไปทำเป็นหนังสยองฆ่ากันเลือกสาด ... แต่ที่พัก Hostel แห่งนี้ ทำออกมาได้ตามชื่อที่โฮสเทลควรจะเป็นครับ เป็นที่พักที่สวยสบายตา น่ารักกิ๊บเก๋นิดๆด้วยอีกล่ะครับ
นอกจากนั้นยังมี Facilities ที่น่าสนกว่าโรงแรมดีๆบางแห่งอีกครับ เพราะว่ามีซูเปอร์มาเก็ตเป็นของตัวเอง ไม่ต้องกระเสือกกระสนหาโรงแรมใกล้เซเว่น มีร้านทำผม เสริมสวย สปาครบครับ ^ ^
และนี่คือภาพห้องพักของทาง The Hostel ครับ เป็นภาพจากทางเวบของเดอะโฮสเทลเองเลยครับ
โซนห้องน้ำก็ทำออกมาได้ดีครับ
การตกแต่งและดีไซน์จะเป็นแนวคอนเทมแบบสวยสบายตา ทีวีก็ HD กันเลย!! มีคอมให้ด้วย!! (คงสำหรับพักรายเดือนมั้ง อันนี้)
ก็แนะนำครับ สำหรับที่นี่ เพิ่งเปิดใหม่ซะด้วย
ซึ่งดูจากรูปแล้ว ก็คงไม่ใช่ที่พักหลักร้อยล่ะมั้งครับ สวยเกินหลักร้อยอยู่นะ ... แต่ถ้าใช่ที่พักหลักร้อยก็น่าสนมากๆล่ะครับ (แบบว่า 950 ไรเงี๊ยะ ^ ^")
สนใจดูข้อมูลได้ที่เวบ http://www.thehostelthai.com ครับ
หรือสนใจราคาที่พักแห่งนี้ก็โทรสอบถามไำด้ที่ 0-2640-4200, 0-2354-8680-1 ครับ (ในเวบไม่ได้ลงราคาไว้น่ะครับ)
เที่ยวทะเลที่ใด ไม่เกิดสึนามิ? มาดูโอกาสเกิดสึนามิในไทยกันดีกว่า!!
เชื่อว่าเหตุการณ์สึนามิในญี่ปุ่นตอนนี้ และเมื่อย้อนไปถึงประเทศไทยที่เคยเกิดสึนามิในตอนปี 2004 นั้น ... ทำให้หลายๆคนกลัวสึนามิกันบ้างแล้ว บางคนไม่อยากไปทะเลกันเลย เพราะไม่รู้ว่าเราจะแจคพอตเจอสึนามิหรือไม่?
แม้จะมีนักวิชาการออกมาบอกว่าไม่เกิด และสึนามิในญี่ปุ่นไม่ส่งผลต่อไทยแน่ๆก็ตาม ... แต่หลายๆคนก็ยังกังขากับสึนามิที่เกิดในไทยครั้งก่อนไม่ได้ว่า "ทีตอนนั้นในไทยยังเกิดเลย" "ตอนนั้นก็มีนักวิชาการบอกว่าในไทยโอกาสเกิดน้อย แต่ก็เกิด" ... มันเป็นยังไงกันแน่?
เอาเป็นว่า เรามาดูภาพภูมิประเทศของทำเลที่ตั้งของไทยกันก่อนดีกว่า
เห็นแผนที่แล้วลองนึกภาพตามนะครับ
...
สึนามิก็เหมือนกับคลื่นที่คล้ายๆเวลาเราหยดน้ำลงบนผิวน้ำ แล้วก็เกิดคลื่นเป็นวงกลมหลายๆวงซ้อนไปบนผิวน้ำน่ะครับ โดยคลื่นแรกนั้นจะเป็นคลื่นที่สูงและแรงที่สุด ซึ่งคลื่นนี้ ถ้าอยู่บนพื้นที่แคบๆเช่นในแก้วน้ำ หากเราหยดน้ำลงไปในแก้วที่มีน้ำ คลื่นก็ชนขอบแก้วได้เลยอย่างรวดเร็ว แล้วก็แรง
แต่ถ้าเราหยดน้ำลงไปหยดเดียวในสระกว้างๆ ส่วนที่อยู่ไกลๆก็ไม่โดนคลื่น หรือที่ใดที่มีอะไรกั้นไว้ ก็จะไม่โดนคลื่น
...
คลื่นในทะเลก็ไม่ต่างกันครับ เพียงแต่ไม่ได้เกิดจากหยดน้ำ แต่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้น้ำแล้วทำให้เกิดคลื่นครับ แต่คลื่นที่ออกมาก็เคลื่อนที่ในลักษณะเดียวกัน
...
พอเรานึกภาพออกแล้ว ก็คงจะพอเห็นได้ว่า ส่วนใดในประเทศไทยที่มีโอกาศโดนคลื่น และไม่โดนคลื่นได้บ้าง
ตามรูปถัดมาครับ
เส้นสีแดงคือขอบแนวเืลื่อนที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงได้ง่ายครับ
และเส้นสีเหลือง ก็คือ ประเทศอื่นๆที่เป็นขอบกั้นประเทศไทยไม่ให้เจอสึนามินั่นเองครับ
...
พอเห็นภาพแล้วก็จะเห็นว่า ส่วนที่เป็นช่องโหว่ ที่ไม่มีเกราะสีเหลืองกำบัง ก็คือส่วนที่วงกลมด้วยสีเขียวนั่นเองครับ
ซึ่งจุดแผ่นดินไหวที่เกิดสึนามิในไทยในปี 2004 นั้น ก็คือจุดสีชมพูม่วงครับ ซึ่งหมายความว่า มันเกิดตรงๆกับช่องโหว่เลยทีเดียว ตอนนั้นประเทศไทยจึงเจอสึนามิเข้าอย่างจัง!!
หากถามว่า ทำไมตอนนั้นนักวิชาการบางส่วนจึงบอกว่าไม่น่ากลัว โอกาสเกิดน้อย?
นั่นก็เพราะว่า โอกาสที่จะเกิดจุดกำเนิดคลื่นที่ทะลุช่องโหว่ตรงนั้นพอดิบพอดี มีโอกาสน้อยไงล่ะครับ หากจุดกำเนิดคลื่น ต่ำลงไปทางใต้อีกหน่อย ประเทศไทยก็แทบไม่โดนแล้ว(มีเกาะสุมาตราบังไว้เต็มๆ) เพราะเช่นนั้น จึงบอกได้ว่า "โอกาสเกิดน้อย แต่ไม่ใช่ไม่มีโอกาส" นั่นเอง
ซึ่งจุดนี้ทำให้นักวิชาการในไทยเรื่องสึนามิแตกเป็นสองสาย
สายแรก โอกาสเกิดมี แต่มันยากน่า~~ เอางบประมาณไประวังหรือพัฒนาด้านอื่นก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งสนใจสึนามิเลย (เพราะตอนนั้นประเทศไทยก็มีปัญหาถาโถมอื่นๆเช่นกัน)
สายสอง โอกาสเกิดน้อยน่ะรู้แล้ว แต่มันก็มีโอกาส กันไว้ก่อนดีกว่าน่า~~ เพราะความสูญเสียหากเกิด ไม่ใช่น้อยๆ
...
จะเห็นว่า นักวิชาการทั้งสองฝ่ายต่างก็มีเหตุมีผลของตัวเอง ไม่เรียกว่าใครผิดหรือถูกหรอกครับ ขึ้นกับมุมมองมากกว่า
เพียงแต่มันน่าเศร้าตรงที่ว่า โอกาสเกิดอันน้อยนิดนั้น มันก็เกิดขึ้นมาจนได้ในปี 2004 ทะลุช่องโหว่ตามภาพเข้ามาเต็มๆพอดิบพอดี
...
...
ตรงจุดนี้ ทำให้หลายๆคนไม่ค่อยเชื่อนักวิชาการด้านสึนามิในไทยเท่าไหร่
โดยเฉพาะเรื่องที่นักวิชาการแจ้งว่า ไม่ต้องกังวลสึนามิในไทย ณ เวลานี้
แต่จริงๆแล้ว ก็ถือว่าเชื่อได้ครับ เพราะจริงๆแล้วสึนามิที่เกิดในไทยครั้งก่อนนั้น นักวิชาการเค้าก็รู้ครับ เพียงแต่เค้าคิดว่าโอกาสเกิดมันน้อยจึงทำให้หลายๆส่วนไม่ให้ความสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น หากมีนักวิชาการไปเสนอว่าประเทศไทยมีโอกาสเกิดสึนามิร้อยละ 1-2% ควรรีบป้องกัน ... รัฐก็คงไม่ออกงบสนับสนุนป้องกันหรอกครับเพราะเปอร์เซ็นต์มันน้อย แถมเรื่องความเสียหายนั้นหลายๆคนก็ยังจินตนาการไม่ถึงด้วยว่าจะรุนแรงขนาดนี้ (เพียงแต่ 1-2% ที่ว่า มันดันเกิดขึ้นจริงๆซะงั้นนั่นเอง)
...
หากถามว่า แล้วเวลานี้ล่ะ? สึนามิที่ญี่ปุ่นจะถึงไทยได้ไหม? ที่ใดบ้างในไทยที่แทบจะไม่ีมีโอกาสเกิดสึนามิเลย? (เรียกได้ว่าโอกาสเกิดเป็นศูนย์เลย)
ก็ขอให้ดูภาพด้านล่างนี่ก่อนครับ
กลุ่มคลื่นสีแดง คือการเกิดสึนามิเมื่อปี 2004 ในไทยครับ ดังนั้นส่วนใดที่เคยเกิดสึนามิเมื่อปี 2004 ก็จัดได้ว่า เกิดได้อีกนั่นเอง!!พูดง่ายๆก็คือภาคใต้ฝั่งอันดามันทั้งภาคครับ!!(พื้นที่สีเหลือง) ซึ่งเกิดจากแนว Ring of fire ที่อยู่ด้านล่างเกาะสุมาตรา
เพียงแต่ ณ เวลานี้ ในโซนนั้น มีระบบเตือนภัยแล้ว ก็ลดความน่ากลัวได้ระดับหนึ่งครับ
ถัดมาคือกลุ่มคลื่นสีชมพูอมม่วง ที่อยู่บน Ring of fire ข้างๆเกาะฟิลิปปินส์ แน่นอนว่าถ้าเกิดตรงนั้นจะไม่มีผลต่อไทยที่ใดเลย แม้แต่ฝั่งอ่าวไทยก็ตาม เพราะฟิลิปปินส์กำบังไว้ให้แล้ว และหากเกิดจริงๆก็จะโดนพื้นที่ฝั่งสีฟ้า
ท้ายสุด ถ้าจะเกิดสึนามิในไทยฝั่งอ่าวไทยได้ ต้องเกิดแผ่นดินไหวในกลางอ่าวไทยตรงๆไปเลยเท่านั้น!! หรือถัดไปนิดหน่อยตามรูปของคลื่นสีเขียว ก็จะมีผลกระทบต่อไทยภาคใต้ั่ฝั่งอ่าวไทยได้บ้าง ... ซึ่งโอกาสเกิดสึนามิในฝั่งอ่าวไทยหรือคลื่นสีเขียวนั้น จัดว่าแทบเป็นศูนย์เลยทีเดียว เพราะตรงนั้นไม่ตรงกับรอยต่อแผ่นเปลือกโลกอะไรเลย ซึ่งบริเวณแบบนั้นหากจะเกิดแผ่นดินไหวจริงๆก็ไม่รุนแรงจนเกิดสึนามิได้
ให้สังเกตสีน้ำนะครับ จะเห็นว่า Google Map ทำได้ดีมากๆ ... สีบริเวณอ่าวไทยเป็นสีฟ้าอ่อนๆไม่มีรอยต่อและจัดว่าน้ำตื้นมากๆครับ เมื่อเทียบกับโซน Ring of fire ที่จะเห็นว่าเป็นแถบคาดสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งจะแสดงความลึกที่ตัดตรงข้ามกับแผ่นดินที่พ้นน้ำชัดเจนและนั่นแหละ คือ Ring of fire ที่เมื่อใดก็ตามที่เกิดการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกที่มันซ้อนกันอยู่นี้ ก็จะทำให้เิิกิดแผ่นดินไหวครับ
ดังนั้น จากภูมิศาสตร์ที่เห็น
สรุปได้ว่า
1.) โซนที่มีโอกาสเกิดสึนามิแทบเรียกได้ว่า 0% ก็คือ
ภาคตะวันออก เช่น ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เกาะช้าง เกาะกูด
ภาคตะวันตก เช่น เพชรบุรี ประจวบฯ
ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เช่น สุราษฎ์ สงขลา เกาะสมุย เกาะเต่า ฯลฯ
เพราะโซนนี้อยู่ฝั่งอ่าวไทยนั่นเองครับ
2.) โซนที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้อีก คือโซนที่เกิดสึนามิเดิมครับ
คือภาคใต้ฝั่งอันดามัน เช่น ภูเก็ตฝั่งตะวันตก (ภูเก็ตฝั่งตะวันออกไม่โดนนะครับ) กระบี่ พังงา ตรัง เป็นต้นครับ
แต่!! ไม่ใช่อ่านแล้วกลัวไม่กล้าไปเที่ยวฝั่งอันดามันกันนะครับ -*-
เพราะจริงๆแล้ว มันวิเคราะห์ตามหลักความเป็นไปได้เท่านั้นเองว่ามันมีโอกาส แต่ในความเป็นจริงแล้ว น้อยมากๆครับ เพราะแผ่นเปลือกโลกตรงนั้น ไม่ใช่แผ่นที่เลื่อนและไหวกันบ่อยๆครับ เพราะประวัติที่เคยบันทึกมาตราบเท่าที่จะย้อนอดีตไปได้นั้น บริเวณนั้นไม่เคยเกิดมาก่อนด้วยซ้ำครับ
ส่วนใครที่อยู่ในฝั่งอ่าวไทยอย่าไปตื่นตระหนกครับ หรือใครที่กำลังจะไปเที่ยวฝั่งอ่าวไทยก็ไม่ต้องตระหนกเช่นกัน เพราะโอกาสเกิดแทบไม่มีเลย (เว้นแต่ว่าโลกใกล้จะแตกจริงๆ แผ่นดินใต้อ่าวไทยจึงจะเลื่อนได้ ซึ่งเวลานั้นอยู่ไหนก็คงหนีไม่พ้น)
ส่วนใครที่ไปฝั่งภูเก็ต ก็ขอบอกว่ามีโอกาสที่สึนามิมันดันทะลุช่องโหว่แบบครั้งนั้นอีกก็ได้ครับ แต่ก็น้อยมากๆๆๆ มันต้องพอดิบพอดีจริงๆ
และต่อให้โอกาสน้อยๆนั้นเกิดขึ้นจริงๆ ... ณ เวลานี้ ไทยเราก็มีระบบระวังสึนามิเตรียมพร้อมแล้วครับ ไม่ต้องกังวลครับ ^ ^
แม้จะมีนักวิชาการออกมาบอกว่าไม่เกิด และสึนามิในญี่ปุ่นไม่ส่งผลต่อไทยแน่ๆก็ตาม ... แต่หลายๆคนก็ยังกังขากับสึนามิที่เกิดในไทยครั้งก่อนไม่ได้ว่า "ทีตอนนั้นในไทยยังเกิดเลย" "ตอนนั้นก็มีนักวิชาการบอกว่าในไทยโอกาสเกิดน้อย แต่ก็เกิด" ... มันเป็นยังไงกันแน่?
เอาเป็นว่า เรามาดูภาพภูมิประเทศของทำเลที่ตั้งของไทยกันก่อนดีกว่า
เห็นแผนที่แล้วลองนึกภาพตามนะครับ
...
สึนามิก็เหมือนกับคลื่นที่คล้ายๆเวลาเราหยดน้ำลงบนผิวน้ำ แล้วก็เกิดคลื่นเป็นวงกลมหลายๆวงซ้อนไปบนผิวน้ำน่ะครับ โดยคลื่นแรกนั้นจะเป็นคลื่นที่สูงและแรงที่สุด ซึ่งคลื่นนี้ ถ้าอยู่บนพื้นที่แคบๆเช่นในแก้วน้ำ หากเราหยดน้ำลงไปในแก้วที่มีน้ำ คลื่นก็ชนขอบแก้วได้เลยอย่างรวดเร็ว แล้วก็แรง
แต่ถ้าเราหยดน้ำลงไปหยดเดียวในสระกว้างๆ ส่วนที่อยู่ไกลๆก็ไม่โดนคลื่น หรือที่ใดที่มีอะไรกั้นไว้ ก็จะไม่โดนคลื่น
...
คลื่นในทะเลก็ไม่ต่างกันครับ เพียงแต่ไม่ได้เกิดจากหยดน้ำ แต่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้น้ำแล้วทำให้เกิดคลื่นครับ แต่คลื่นที่ออกมาก็เคลื่อนที่ในลักษณะเดียวกัน
...
พอเรานึกภาพออกแล้ว ก็คงจะพอเห็นได้ว่า ส่วนใดในประเทศไทยที่มีโอกาศโดนคลื่น และไม่โดนคลื่นได้บ้าง
ตามรูปถัดมาครับ
เส้นสีแดงคือขอบแนวเืลื่อนที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงได้ง่ายครับ
และเส้นสีเหลือง ก็คือ ประเทศอื่นๆที่เป็นขอบกั้นประเทศไทยไม่ให้เจอสึนามินั่นเองครับ
...
พอเห็นภาพแล้วก็จะเห็นว่า ส่วนที่เป็นช่องโหว่ ที่ไม่มีเกราะสีเหลืองกำบัง ก็คือส่วนที่วงกลมด้วยสีเขียวนั่นเองครับ
ซึ่งจุดแผ่นดินไหวที่เกิดสึนามิในไทยในปี 2004 นั้น ก็คือจุดสีชมพูม่วงครับ ซึ่งหมายความว่า มันเกิดตรงๆกับช่องโหว่เลยทีเดียว ตอนนั้นประเทศไทยจึงเจอสึนามิเข้าอย่างจัง!!
หากถามว่า ทำไมตอนนั้นนักวิชาการบางส่วนจึงบอกว่าไม่น่ากลัว โอกาสเกิดน้อย?
นั่นก็เพราะว่า โอกาสที่จะเกิดจุดกำเนิดคลื่นที่ทะลุช่องโหว่ตรงนั้นพอดิบพอดี มีโอกาสน้อยไงล่ะครับ หากจุดกำเนิดคลื่น ต่ำลงไปทางใต้อีกหน่อย ประเทศไทยก็แทบไม่โดนแล้ว(มีเกาะสุมาตราบังไว้เต็มๆ) เพราะเช่นนั้น จึงบอกได้ว่า "โอกาสเกิดน้อย แต่ไม่ใช่ไม่มีโอกาส" นั่นเอง
ซึ่งจุดนี้ทำให้นักวิชาการในไทยเรื่องสึนามิแตกเป็นสองสาย
สายแรก โอกาสเกิดมี แต่มันยากน่า~~ เอางบประมาณไประวังหรือพัฒนาด้านอื่นก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งสนใจสึนามิเลย (เพราะตอนนั้นประเทศไทยก็มีปัญหาถาโถมอื่นๆเช่นกัน)
สายสอง โอกาสเกิดน้อยน่ะรู้แล้ว แต่มันก็มีโอกาส กันไว้ก่อนดีกว่าน่า~~ เพราะความสูญเสียหากเกิด ไม่ใช่น้อยๆ
...
จะเห็นว่า นักวิชาการทั้งสองฝ่ายต่างก็มีเหตุมีผลของตัวเอง ไม่เรียกว่าใครผิดหรือถูกหรอกครับ ขึ้นกับมุมมองมากกว่า
เพียงแต่มันน่าเศร้าตรงที่ว่า โอกาสเกิดอันน้อยนิดนั้น มันก็เกิดขึ้นมาจนได้ในปี 2004 ทะลุช่องโหว่ตามภาพเข้ามาเต็มๆพอดิบพอดี
...
...
ตรงจุดนี้ ทำให้หลายๆคนไม่ค่อยเชื่อนักวิชาการด้านสึนามิในไทยเท่าไหร่
โดยเฉพาะเรื่องที่นักวิชาการแจ้งว่า ไม่ต้องกังวลสึนามิในไทย ณ เวลานี้
แต่จริงๆแล้ว ก็ถือว่าเชื่อได้ครับ เพราะจริงๆแล้วสึนามิที่เกิดในไทยครั้งก่อนนั้น นักวิชาการเค้าก็รู้ครับ เพียงแต่เค้าคิดว่าโอกาสเกิดมันน้อยจึงทำให้หลายๆส่วนไม่ให้ความสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น หากมีนักวิชาการไปเสนอว่าประเทศไทยมีโอกาสเกิดสึนามิร้อยละ 1-2% ควรรีบป้องกัน ... รัฐก็คงไม่ออกงบสนับสนุนป้องกันหรอกครับเพราะเปอร์เซ็นต์มันน้อย แถมเรื่องความเสียหายนั้นหลายๆคนก็ยังจินตนาการไม่ถึงด้วยว่าจะรุนแรงขนาดนี้ (เพียงแต่ 1-2% ที่ว่า มันดันเกิดขึ้นจริงๆซะงั้นนั่นเอง)
...
หากถามว่า แล้วเวลานี้ล่ะ? สึนามิที่ญี่ปุ่นจะถึงไทยได้ไหม? ที่ใดบ้างในไทยที่แทบจะไม่ีมีโอกาสเกิดสึนามิเลย? (เรียกได้ว่าโอกาสเกิดเป็นศูนย์เลย)
ก็ขอให้ดูภาพด้านล่างนี่ก่อนครับ
กลุ่มคลื่นสีแดง คือการเกิดสึนามิเมื่อปี 2004 ในไทยครับ ดังนั้นส่วนใดที่เคยเกิดสึนามิเมื่อปี 2004 ก็จัดได้ว่า เกิดได้อีกนั่นเอง!!พูดง่ายๆก็คือภาคใต้ฝั่งอันดามันทั้งภาคครับ!!(พื้นที่สีเหลือง) ซึ่งเกิดจากแนว Ring of fire ที่อยู่ด้านล่างเกาะสุมาตรา
เพียงแต่ ณ เวลานี้ ในโซนนั้น มีระบบเตือนภัยแล้ว ก็ลดความน่ากลัวได้ระดับหนึ่งครับ
ถัดมาคือกลุ่มคลื่นสีชมพูอมม่วง ที่อยู่บน Ring of fire ข้างๆเกาะฟิลิปปินส์ แน่นอนว่าถ้าเกิดตรงนั้นจะไม่มีผลต่อไทยที่ใดเลย แม้แต่ฝั่งอ่าวไทยก็ตาม เพราะฟิลิปปินส์กำบังไว้ให้แล้ว และหากเกิดจริงๆก็จะโดนพื้นที่ฝั่งสีฟ้า
ท้ายสุด ถ้าจะเกิดสึนามิในไทยฝั่งอ่าวไทยได้ ต้องเกิดแผ่นดินไหวในกลางอ่าวไทยตรงๆไปเลยเท่านั้น!! หรือถัดไปนิดหน่อยตามรูปของคลื่นสีเขียว ก็จะมีผลกระทบต่อไทยภาคใต้ั่ฝั่งอ่าวไทยได้บ้าง ... ซึ่งโอกาสเกิดสึนามิในฝั่งอ่าวไทยหรือคลื่นสีเขียวนั้น จัดว่าแทบเป็นศูนย์เลยทีเดียว เพราะตรงนั้นไม่ตรงกับรอยต่อแผ่นเปลือกโลกอะไรเลย ซึ่งบริเวณแบบนั้นหากจะเกิดแผ่นดินไหวจริงๆก็ไม่รุนแรงจนเกิดสึนามิได้
ให้สังเกตสีน้ำนะครับ จะเห็นว่า Google Map ทำได้ดีมากๆ ... สีบริเวณอ่าวไทยเป็นสีฟ้าอ่อนๆไม่มีรอยต่อและจัดว่าน้ำตื้นมากๆครับ เมื่อเทียบกับโซน Ring of fire ที่จะเห็นว่าเป็นแถบคาดสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งจะแสดงความลึกที่ตัดตรงข้ามกับแผ่นดินที่พ้นน้ำชัดเจนและนั่นแหละ คือ Ring of fire ที่เมื่อใดก็ตามที่เกิดการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกที่มันซ้อนกันอยู่นี้ ก็จะทำให้เิิกิดแผ่นดินไหวครับ
ดังนั้น จากภูมิศาสตร์ที่เห็น
สรุปได้ว่า
1.) โซนที่มีโอกาสเกิดสึนามิแทบเรียกได้ว่า 0% ก็คือ
ภาคตะวันออก เช่น ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เกาะช้าง เกาะกูด
ภาคตะวันตก เช่น เพชรบุรี ประจวบฯ
ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เช่น สุราษฎ์ สงขลา เกาะสมุย เกาะเต่า ฯลฯ
เพราะโซนนี้อยู่ฝั่งอ่าวไทยนั่นเองครับ
2.) โซนที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้อีก คือโซนที่เกิดสึนามิเดิมครับ
คือภาคใต้ฝั่งอันดามัน เช่น ภูเก็ตฝั่งตะวันตก (ภูเก็ตฝั่งตะวันออกไม่โดนนะครับ) กระบี่ พังงา ตรัง เป็นต้นครับ
แต่!! ไม่ใช่อ่านแล้วกลัวไม่กล้าไปเที่ยวฝั่งอันดามันกันนะครับ -*-
เพราะจริงๆแล้ว มันวิเคราะห์ตามหลักความเป็นไปได้เท่านั้นเองว่ามันมีโอกาส แต่ในความเป็นจริงแล้ว น้อยมากๆครับ เพราะแผ่นเปลือกโลกตรงนั้น ไม่ใช่แผ่นที่เลื่อนและไหวกันบ่อยๆครับ เพราะประวัติที่เคยบันทึกมาตราบเท่าที่จะย้อนอดีตไปได้นั้น บริเวณนั้นไม่เคยเกิดมาก่อนด้วยซ้ำครับ
ส่วนใครที่อยู่ในฝั่งอ่าวไทยอย่าไปตื่นตระหนกครับ หรือใครที่กำลังจะไปเที่ยวฝั่งอ่าวไทยก็ไม่ต้องตระหนกเช่นกัน เพราะโอกาสเกิดแทบไม่มีเลย (เว้นแต่ว่าโลกใกล้จะแตกจริงๆ แผ่นดินใต้อ่าวไทยจึงจะเลื่อนได้ ซึ่งเวลานั้นอยู่ไหนก็คงหนีไม่พ้น)
ส่วนใครที่ไปฝั่งภูเก็ต ก็ขอบอกว่ามีโอกาสที่สึนามิมันดันทะลุช่องโหว่แบบครั้งนั้นอีกก็ได้ครับ แต่ก็น้อยมากๆๆๆ มันต้องพอดิบพอดีจริงๆ
และต่อให้โอกาสน้อยๆนั้นเกิดขึ้นจริงๆ ... ณ เวลานี้ ไทยเราก็มีระบบระวังสึนามิเตรียมพร้อมแล้วครับ ไม่ต้องกังวลครับ ^ ^
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)