ถ่ายรูปเบลอ ถ่ายรูปหยุดการเคลื่อนไหวไม่ได้ ซื้อกล้องอะไรดี?

หลายๆคนอาจจะกำลังหัวเสีย ว่ากล้องตัวเองไม่ดีเอาซะเลย ถ่ายภาพออกมาเบลอบ้าง ถ่ายรูปคนกำลังเคลื่อนไหวแล้วหยุดการเคลื่อนไหวเช่นการเดินการวิ่งก็ไม่ได้ โดยเฉพาะภาพ "กระโดด" ที่ฮิตๆกันนั้น ก็่ถ่ายออกมาดีบ้างเบลอบ้าง ทำไมกันหนอ? ทำไม ทำไม และ ทำม้ายยยยยยยยย!!
...
บางคนอาจจะคิดด้วยว่า ถ้าเป็นแบบนี้ ซื้อกล้องใหม่(แม่ม)เลยดีมั้ย?

ก็ขอมาอธิบายหลักการคร่าวๆก่อนครับ ว่าส่วนใหญ่คนที่เผชิญปัญหารูปเบลอนั้น "กล้องไม่ได้ผิด"
แต่คนถ่ายไม่รู้หลักการถ่ายรูปเองครับ (พอบอกอย่างนี้แล้ว อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีครับ รับรองว่าจะอธิบายให้มือใหม่เข้าใจได้ง่ายทุกเพศทุกวัย ^ ^")
ดังนั้น ถ้าคุณใช้กล้องคอมแพคตัวละ 5,000 บาทอยู่ ... แล้วคุณคิดว่ากล้องคุณไม่ดีพอ เลยเลื่อนขั้น ไปซื้อ DSLR ราคา 20,000 บาทมาแทน ด้วยความหวังว่า "รูปจะหายเบลอ" ... ขอบอกว่า "คิดผิดถนัด!!" เผลอๆ เบลอกว่าเดิมด้วยซ้ำไป ^ ^"

รูปเบลอนั้น มีต้นเหตุมาจาก 3 ประการ

1. โฟกัสไม่ตรง รูปก็เลยเบลอ
บางคนเวลาถ่ายรูป เหมือนคนสมัย"โบราณ"มาใช้กล้องครับ กดชัตเตอร์เลยทีเดียวเน้นๆ!! -*-
ไม่รู้จักการโฟกัสครึ่งจังหวะ -*-
(ใครเป็นแบบนี้ หรือพูดง่ายๆว่าไม่รู้จักโฟกัสครึ่งจังหวะ รีบไปปรึกษาคนใกล้ตัวก่อนเลย ว่าโฟกัสภาพเค้าทำกันยังไง -*-)
คนกลุ่มนี้จะมีปัญหาเวลามาใช้กล้องระดับแพงขึ้น เช่น DSLR เพราะความชัดตื้นของภาพมันต่างกันมาก เบลอได้ง่ายมาก ดังนั้นถ้าเรื่อง(ง่ายๆ)แค่นี้ยังไม่เข้าใจล่ะก็ ยิ่งใช้กล้องแพงขึ้นยิ่งอนาถามากขึ้นครับ -*-

2. มือสั่น ภาพก็เลยเบลอ (จริงหรือ?)
ปัจจุบัน กล้องมีกันสั่นมากมายแทบทุกรุ่นครับ แต่ขอบอกตามตรงครับ ว่าปัญหาหลักจากการถ่ายรูปเบลอเพราะภาพสั่นไหวนั้นไม่ใช่ปัญหาจากมือสั่น!!
บางคนอาจจะงง ว่าไม่ใช่ มือสั่น ... มันยังไง?
ขอบอกว่าเรื่องมือสั่น มนุษย์ทุกคนเป็นอยู่แล้วครับ ^ ^ (ถ้าไม่ได้สั่นแบบเป็นโรคพาร์กินสันล่ะก็นะ)
แต่เมื่อใดกันหนอ? ที่มือสั่น มันจะส่งผลต่อการถ่ายรูป?????
...
ขอบอกว่าที่ทุกๆครั้งที่คุณถ่ายรูปน่ะ มือคุณสั่นเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลงหรอกครับ แต่บางภาพที่มันเบลอนั้น ไม่ใช่เพราะมือสั่นมากขึ้นกว่าปกติ
แต่เป็นเพราะ "ความเร็วชัตเตอร์ของกล้องต่ำกว่าปกติ" ต่างหาก!!
เวลาแห่งการเก็บภาพ ก็เสมือนกับเวลาที่กล้องลืมตาขึ้นมามองดูภาพครับ
ก่อนหน้านั้นให้จินตนาการว่ากล้องหลับตาเสมอๆ เมื่อใดที่มันจะเก็บภาพ มันจะลืมตาขึ้นมารับภาพ แล้วก็หลับตาต่อครับ
... ถ้าลืมตานานนนนนนนนน เช่น ลืมตา 2 วินาที แล้วค่อยหลับตาต่อ แปลว่า ความเร็วชัตเตอร์ "ต่ำ"
... ถ้าลืมตาเร็วมากๆ เช่น ลืมตา 1/1000 วินาที แล้วค่อยหลับตาต่อ แปลว่า ความเร็วชัตเตอร์ "สูง"
...
จากนั้นให้นึกภาพต่อครับ ว่าถ้าลืมตา 1/1000 วินาที ต่อให้คุณเขย่ากล้องแล้วถ่ายรูป ยังไงภาพก็ไม่เบลอครับ!! เพราะมันลืมตาไวมาก!! ภาพที่มองเห็นยังไม่ทันขยับไปไหน ก็หลับตาซะก่อนแล้ว ภาพก็เลยออกมาไม่เบลอนั่นเอง
แต่ถ้าลืมตานานถึง 2 วินาที แค่มือสั่นเบาๆ ภาพมันขยับจากจุดรับภาพเดิมนิดๆ แค่นี้ภาพก็ออกมาเบลอแล้วจ้า ^ ^
...
ถ้าอ่านตรงนี้เข้าใจแล้ว ให้อ่านต่อที่ข้อ 3 ครับ เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องกันชัดเจนครับ

3. แสงไม่พอ ภาพก็เลยเบลอ
ถ้าอ่านข้อสองมาเข้าใจแล้ว ก็ต่อกันเรื่องแสงเลยครับ
การรับภาพของกล้องนั้น ก็เหมือนกับการรับภาพในดวงตาของมนุษย์ครับ
แสงสะท้อนผ่านเลนส์ตาเข้าเรติน่า ก็เสมือน แสงสะท้อนผ่านเลนส์กล้องเข้าเซนเซอร์รับภาพ
ดังนั้น ถ้าแสงน้อยๆ ภาพก็ต้อง "มืด" กว่า แสงมากๆ ... แล้วมันไปเกี่ยวกับเรื่องเบลอยังไง???
...
ให้ย้อนกลับไปที่เรื่องการลืมตาครับ
กล้องนั้น ถ้าลืมตาเร็วๆ หรือความเร็วชัตเตอร์สูงๆนั้น แสงก็เข้ามายังเซนเซอร์แป๊บเดียวเอง!!
แต่ถ้าลืมตานานๆ หรือความเร็วชัตเตอร์ต่ำๆนั้น แสงก็จะเข้ามายังเซนเซอร์นานมากๆ!!
ดังนั้น การตั้งความเร็วชัตเตอร์ต่ำ ก็จะได้แสงเยอะกว่า ความเร็วชัตเตอร์สูง!!
และ การตั้งความเร็วชัตเตอร์สูง ก็จะได้แสงน้อยกว่า ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ!!
...
ดังนั้น ถ้าในสภาวะ "แสงน้อย" กล้องที่ตั้งระบบออโต้ มันจะคำนวนและตั้งให้ความเร็วชัตเตอร์ "ต่ำ" นั่นเองครับ!!
เพราะถ้าตั้งความเร็วชัตเตอร์สูงๆ แสงจะไม่พอเอา ภาพจะมืด!! เผลอๆออกมาดำทั้งภาพด้วยซ้ำไป!!
ซึ่งสภาวะแสงน้อยนั้น หลายๆคนก็น่าจะนึกออกว่าตอนไหนแสงน้อย นั่นก็คือตอนกลางคืนนั่นเอง
แต่แสงที่คนเข้าใจผิดและคิดว่าแสงเยอะคือ แสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์!! (คุณอาจจะคิดว่าแสงเยอะ เพราะตาคุณมองเห็นได้ชัด แต่กล้องไม่เก่งเท่าตามนุษย์จ้า อย่างนี้เรียกว่าแสงน้อย) ดังนั้น ถ่ายรูปในตัวอาคาร ความเร็วชัตเตอร์มักจะไม่ค่อยสูงมาก อาจจะอยู่ที่ 1/15 หรือ 1/10 วินาที เท่านั้น ภาพเบลอได้ครับ

...
...
...

จากข้อ 2-3 ก็สรุปได้ว่า ต่อให้คุณซื้อกล้อง DSLR หลัก 2-3 หมื่นมาใช้ หรือต่อให้เป็น DSLR หลักแสน!!
ถ้าคุณตั้งกล้องออโต้ แล้วไปถ่ายในที่แสงน้อยๆ กล้องมันก็จะตั้งความเร็วชัตเตอร์มาให้ "ต่ำๆ" ไม่ต่างจากกล้องคอมแพคตัวเล็กๆราคา 5 พันบาทเลย!! ^ ^"

...
...
...

แต่คุณอาจจะเถียงในใจว่า "อ้าว บางทีฉันก็ถ่ายไม่เบลอนะ คนกระโดด จับภาพค้างกลางอากาศได้เลย" "แล้วทำไมบางที ถ่ายเบลอล่ะ"
... แสดงว่าไม่เ้ข้าใจเรื่องที่ผมอธิบายในข้อ 2-3 ไปอ่านใหม่ครับ ^ ^" (ถ้าคุณถ่ายภาพคนกระโดดกลางแดดจ้า กล้องมันจะอ่านว่าแสงเยอะ ความเร็วชัตเตอร์ปาไป 1/1000 - 1/4000 ด้วยซ้ำ แต่ถ้าคุณถ่ายภาพคนกระโดดในตัวอาคาร กล้องมันจะตั้งความเร็วชัตเตอร์เหลือแค่ 1/30 ซึ่งหยุดภาพคนกระโดด หรือเดินไปเดินมาได้ไม่ทันครับ ^ ^ ... กล้องแพงก็ไม่ต่างกัน)
...
จากนี้ คุณก็อาจจะเถียงในใจอีกว่า "แล้วทำไมคนอื่นที่ใช้กล้องแพงๆ ถ่ายไม่เบลอล่ะ!!"
คำตอบก็คือ เค้ารู้หลักการถ่ายรูปนั่นเอง ซึ่งคุณก็ทำได้ ดังนี้!!

1. ใช้แฟลช
แสงไม่พอ ก็เติมแสงสิครับ!! "แฟลช" ไง แค่นี้ก็ภาพไม่เบลอแล้วครับ ^ ^
แต่ข้อเสียคือภาพจะแข็งๆ ขาวๆโพลนๆ ไม่สวยงาม ... ซึ่งประเด็นนี้คนถ่ายภาพเก่งๆ เค้ามีเทคนิคการใช้แฟลชให้ออกมาสวยได้ครับ อันนี้ต้องศึกษากันต่อไปจ้า

2. ใช้ขาตั้งกล้อง
กรณีนี้จะช่วยให้ถ่ายภาพไม่เบลอในที่กลางคืนได้ แม้ความเร็วชัตเตอร์จะต่ำเตี้ยเรี่ยเหวครับ เพราะยังไงๆ มันก็ไม่ใช่มือมนุษย์ ไม่สั่นแน่ๆ!! แต่กรณีนี้จะใช้จับภาพเคลื่อนไหว ให้หยุดอยู่กับที่ไม่ได้ครับ

3. ใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง
กรณีนี้ ขอเปรียบเทียบกับรูม่านตาของมนุษย์ครับ
สังเกตุไหม? ว่าเวลาคุณนั่งอยู่ในที่ที่มีแสงไฟสว่างๆในเวลากลางคืน แล้วอยู่ๆไฟดับ!! คุณจะไม่เห็นอะไรเลย!!
แต่เวลาผ่านไปพักหนึ่ง ตาคุณจะเริ่มปรับตัว เห็นอะไรต่อมิอะไรเพิ่มเติมขึ้นมาได้บ้าง
นั่นก็เพราะรูม่านตาของคุณปรับตัว ด้วยการขยายรูม่านตาให้กว้างขึ้นไงล่ะครับ
เลนส์เองก็เช่นกัน บางรุ่นรูรับแสงกลางๆ บางรุ่นแคบๆ บางรุ่นกว้างมากๆ
... ซึ่งกรณีนี้ การซื้อของแพงขึ้น ถือว่าได้ผลครับ ^ ^ (แต่กล้อง DSLR ปกตินั้น เลนส์ที่แถมมาไม่สว่างมากนะครับ ต้องซื้อเลนส์เพิ่มเอา)

4. ตั้งค่า ISO สูงๆ
ค่า ISO ก็คือความไวต่อแสงครับ ประมาณว่าถ้า ISO สูงๆยิ่งไวแสงมาก ถ้า ISO น้อยๆก็จะไม่ค่อยไวแสง
ซึ่งคำว่า ไวแสงสูงก็คือ แม้แสงจะน้อย ก็เพียงพอต่อการมองเห็นนั่นเองครับ
ดังนั้น การตั้ง ISO สูงๆจะช่วยให้ความเร็วชัตเตอร์สูงขึ้นได้โดยภาพไม่มืดครับ แต่จะแลกมาด้วยคุณภาพของภาพที่ "ต่ำลง" เป็นข้อแลกเปลี่ยน ^ ^"

5. ใช้กล้องแพงๆ เลนส์แพงๆ แฟลชแพงๆ
อ่านข้อ 5. แล้วคุณอาจจะอุทาน "อ้าว!!" คำโต และเคืองผมนิดๆ เพราะผมบอกมาตั้งแต่แรกว่าซื้อกล้องแพงไปก็เปล่าประโยชน์
แต่นั่นหมายความว่า "คุณซื้อกล้องแพงโดยไม่รู้อะไรเลย" สักแต่ว่าซื้อกล้องแพง แต่ไม่คิดจะศึกษานั่นเองครับ
ยกตัวอย่างเรื่อง ISO ในข้อ 4 ... ถ้ากล้องถูกๆ จะตั้ง ISO ได้ไม่สูงมาก แถมตั้งสูงๆไป ภาพก็ออกมาแย่ รับแทบไม่ได้
แต่กล้องแพงๆนั้น ตั้ง ISO ได้สูงกว่า แถมการถ่าย ISO ในค่าสูงๆนั้น ภาพก็ยังดูดีโอเคอยู่ด้วยล่ะครับ
... แต่ถ้าคุณซื้อกล้องแพง แต่ตั้ง ISO ไม่เป็น ไงๆก็ไม่มีประโยชน์นั่นเอง ^ ^"
อีกกรณีก็คือเลนส์แพงๆครับ พูดง่ายๆก็คือ เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง ตามที่ิอธิบายในข้อ 3 ครับ (กล้องคอมแพครุ่นแพงๆบางรุ่น ก็ติดเลนส์รูรับแสงกว้างๆมาด้วยนะครับ เช่น Olympus XZ-1 หรือ Samsung EX1)
ส่วนแฟลชแพงๆก็จะช่วยให้ถ่ายได้สวยกว่าแฟลชติดหัวกล้องกิ๊กก๊อก แต่ต้องมีเทคนิคนิดหน่อยครับ อันนี้ต้องไปศึกษาอีกเยอะ เพราะตากล้องหลายๆคน ยังต้องฝึกฝนและศึกษาเรื่องแฟลชกันอยู่เลย ^ ^"

...
...
ก็คิดว่า ผมคงไม่ต้องสรุปนะครับ
ถ้าเข้าใจกันแล้ว ก็จะเข้าใจเรื่องทำไมถ่ายมาภาพเบลอจัง!! (ถ่ายในที่แสงน้อย มักเป็นเรื่องที่เจอกันเป็นหลัก)
ถ้าจะถ่ายไม่ให้เบลอต้องทำยังไง ก็คงจะได้คำตอบแล้วนะครับ ^ ^

Narry Patong Phuket Hotel

Narry Patong Phuket Hotel - แนร์รี่ ป่าตอง ภูเก็ต เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในซอยดร.วัฒนา ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมกับถนนหน้าชายหาดป่าตองอย่างถนนทวีวงศ์ ซึ่งถือว่ามีทำเลที่ดี เพราะห่างจากชายหาดป่าตองชนิดเดินไปชายหาดได้สบายๆ ^ ^ นอกจากนั้นยังอยู่กลางๆหาดทำให้เดินไปย่านอื่นๆที่ดังๆในโซนหาดป่าตองได้ไม่ยาก เช่น เดินไปถนนบางลาได้ง่าย แต่ก็ไม่ติดกับย่านนั้น ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องหนวกหูในยามค่ำคืน แต่ก็สามารถเดินไปเที่ยวย่านนั้นได้ด้วย แถมบริเวณนั้น ก็มีร้านอาหาร แหล่งช้อป เพียบครับ เป็นทำเลที่ดีมากๆโรงแรมหนึ่ง

สำหรับ Narry Patong Phuket Hotel นั้น ก็ถือเป็นโรงแรมเปิดใหม่ ในช่วงปี 2012 ได้ละครับ แม้จะเปิดมานานแล้ว แต่ตอนนี้ก็ได้ปิดปรับปรุงดีไซน์ใหม่หมด!! กลายเป็นเหมือนอีกโรงแรมหนึ่งไปเลยครับ ^ ^ โดยจะเปิดให้บริการใหม่แบบ soft-opening ในช่วงเดือนก.พ. 2012 ครับผม
และนี่ก็คือภาพบางส่วนของ Narry Patong Phuket Hotel ที่อัพเดทผ่านทาง facebook ครับ
เป็นรูปบางส่วนที่อัพขึ้นมาเฉพาะห้องพักครับ คาดว่าหากโรงแรม Narry Patong เปิดเต็มตัวเมื่อไหร่ก็คงจะมีภาพเต็มๆให้ได้ชมกันอีกมากกว่านี้ครับ
สำหรับราคานั้น เดิมจัดว่าเป็นโรงแรมที่ราคาถูกมากๆครับ ทำเลดี (ช่วง Low Season ห้องราคาอยู่ที่หลักร้อยเองครับ จัดว่าถูกมากในย่านแหล่งท่องเที่ยวดังๆอย่างหาดป่าตอง) คาดว่าปรับปรุงใหม่ ราคาก็น่าจะไม่ต่างจากเดิมมาก ต่อให้อัพราคาขึ้นก็น่าจะรับได้อยู่ดี
ยังไงติดตามดูข้อมูลของ Narry Patong Phuket Hotel ได้ที่ facebook ที่ http://www.facebook.com/pages/Narry-Patong-Phuket/304346816246076 หรือทางเวบไซต์ http://www.narryhotelpatong.com ก็ได้ครับ

รีวิว The Smoke House - บ้านรมควัน เขาใหญ่

จากทริปที่เพิ่งไปพักผ่อนที่ ณดล วิลล่า มวกเหล็ก มานั้น ก็ได้ไปแวะเที่ยวที่ The Smoke House Khaoyai - บ้านรมควัน เขาใหญ่ มาด้วย
จริงๆจะบอกว่าแวะเที่ยวก็ไม่ถูกเนอะ เพราะจริงๆที่ The Smoke House นี้ เป็นร้านอาหาร มากกว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ถ้าจะแวะไปที่ The Smoke House ก็น่าจะมีจุดมุ่งหมายคือการไปทานอาหาร หรืออยากหาร้านอาหารดีๆมากกว่า ^ ^"
... ทว่า ... ไปเที่ยวจริงๆครับ 555+ ไม่ได้ไปกินอะไรของเค้าเลย (ซื้อมาแต่มาคารอนที่เพิ่งเอามาโพสต์ลงบล็อคเมื่อบทความก่อนหน้านี้เอง)
แต่ก็ไม่ใช่ผมคนเดียวนะ เท่าที่เห็น ประมาณ 50% หรือมากกว่านั้น ก็ไปถ่ายรูปกันซะมากกว่า เหอๆๆ แต่พอมองไปดูในร้านอาหารก็พบว่าร้านอาหารก็คนเยอะ เกือบเต็มเหมือนกัน แต่พอหันไปมองนอกร้านก็พบว่าคนนอกร้านเยอะกว่าอ่ะนะ ^ ^" ... แต่จนแล้วจนรอด ถ้าไปตอนกลางวัน ไงๆก็ต้องร้อนแล้วก็อุดหนุนกาแฟของเค้ากันบ้างล่ะ ^ ^
ตอนที่ผมไป เป็นตอนกลางวันครับ หน้าตาของ The Smoke House หรือ บ้านรมควัน ก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ
แบบว่าเลนส์กล้องมันไม่ไวด์พอ ขี้เกียจถอย ^ ^"
ถัดไปทางขวาจากรูปด้านบน ก็จะมีส่วนที่ทำเป็นเหมือนหอคอยแบบนี้ครับ
ด้านในอาคารก็จะเป็นห้องอาหารครับ เท่าที่มองๆโต๊ะอื่นๆที่ทานกัน ก็เป็นอาหารฝรั่ง/อิตาเลี่ยน/สเต๊ค อะไรประมาณนั้น(ดูผ่านๆ) แล้วก็มีพวกขนมและเค้กด้วย ถ่ายมาให้ดูครับว่ามีเค้กหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง ... แต่ไม่ได้ทานครับ เลยไม่รู้ว่าอร่อยหรือไม่ (ได้กินแต่มาคารอน)
พอเดินออกไปทางด้านหลัง ก็จะเป็นลานกว้างๆครับ มีโต๊ะเพียบเลย ตรงส่วนนี้ถ้านั่งทานตอนกลางวันคงไม่ไหวแน่ๆครับ เป็น outdoor ร้อนมากครับ แต่ถ้าเป็นช่วงเย็นๆ-ตกกลางคืน ตรงนี้แหละครับ ที่เป็นสีสันที่คนต้องมาจับจองที่นั่งกันที่ The Smoke House แห่งนี้
มีเวทีด้วยครับ น่าจะมีดนตรีมาเล่นที่นี่ครับ ตอนกลางคืนมาทานอาหารอร่อยๆเคล้าเสียงเพลง คงได้บรรยากาศดีพิลึกครับ เสียดายแวะมาตอนกลางวัน (บ่ายก็จะเดินทางกลับแล้ว ^ ^") ก็เลยได้วิวและบรรยากาศร้อนๆมาแทน ^ ^"
อีกมุมและวิวเล็กๆน้อยๆก่อนจาก และที่จะขาดเสียไม่ได้ก็คือป้ายร้านครับ (มีป้ายอันใหญ่ที่เด่นสุดอยู่อันหนึ่ง แต่คนเข้าคิวถ่ายรูปเยอะ ขี้เกียจคอย เลยถ่ายมาอันนี้แหละ -*-)
ส่วนใครที่กำลังมองหาแผนที่ หรืออยากจะรู้ว่าการเดินทางไปบ้านรมควันแห่งนี้ ต้องไปอย่างไรนั้น
ขอบอกว่าไม่ต้องหาแผนที่หรอกครับ จากถนนมิตรภาพ เลี้ยวเข้าถนนธนะรัชต์(เส้นไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่) ไปประมาณ 1-2 กิโลเมตร ก็จะเจอ Smoke House ตั้งอยู่ทางซ้ายมือเลยครับ ติดกับถนนเลย มองหาได้ไม่ยากครับผม ^ ^

มาคารอน - Macaron ขนมฝรั่งเศสที่น่ากิน ^ ^"

Macaron - มาคารอน ขนมสัญชาติฝรั่งเศสที่มีการถกเถียงกันมาตลอดว่าเป็นอันเดียวกับ Macaroon หรือเรียก Macaron ว่า Macaroon แห่งประเทศฝรั่งเศส ... บ้างก็บอกว่า Macaron กับ Macaroon น่ะ อันเดียวกัน
แต่สรุปแล้ว ก็คือว่า Macaroon นั้นเป็นขนมที่มีการทำในหลายๆประเทศ ... ส่วน Macaron (Macaroon ในภาษาฝรั่งเศส) จะมีลักษณะแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ทำให้ตอนนี้ บางทีหากพูดถึง Macaroon กับ Macaron หน้าตาอาจจะต่างกันโดยสิ้นเชิงก็ได้

และหน้าตาของมาคารอนที่ฝรั่งเศสจะเป็นแบบนี้ครับ ^ ^
หน้าตาของมาคารอนนั้น น่ากินมากๆครับ โดยเฉพาะเมื่อมาอยู่รวมกัน
เพราะสูตรการทำมาคารอนนั้น จะทำได้หลากหลายรสและหลากหลายสีสันครับ บางที่ก็ทำออกมาเป็นสีชมพู สีม่วงๆ สีฟ้า สีเขียว สดใสๆครับ พอเอามารวมๆกันก็เลยดูน่ากินมากๆ
และพอมาแยกดูเป็นชิ้นๆ ก็จะเห็นว่ามันเป็นแบบนี้ครับ ^ ^
มันมีลักษณะเหมือน Cookie สองอันมาประกบกันครับ ^ ^ แล้วตรงกลางก็ใส่ใส้เข้าไปเท่านั้นเอง
ซึ่งการทำมาคารอนนั้น จะเอาใส้อะไรมาใส่ก็ได้ สีอะไรก็ได้ กลิ่นอะไรก็ได้ ขอให้พื้นฐานหลักๆของพวกแป้งและส่วนประกอบ คือทำออกมาเป็นมาคารอนเท่านั้นเองครับ ตอนท้ายจะใส่สีอะไร รสอะไร ใส้อะไร ก็ได้ครับ ดังนั้น ถ้าวันใดวันหนึ่ง เกิดอุตริทำมาคารอนในรสชาติแบบไทยๆก็ทำได้เช่นกัน ^ ^
...
เนื้อของมาคารอน ตอนที่เห็นตอนแรกจะเหมือนกับขนมผิงครับ แต่จริงๆต่างกันสิ้นเชิง เพราะผิวภายนอกที่ดูเหมือนจะกรอบๆนั้น มันแค่เกือบจะกรอบแล้วก็บางๆครับ ข้างในเนื้อมาคารอนนั้น เหมือนกับเนื้อ "เค้ก" ดีๆนี่เองเลยล่ะครับ
พอกัดดูก็จะเห็นตามรูป ^ ^
... ก่อนจะจบรีวิวขนมชนิดนี้ ก็ขอบอกคร่าวๆเลยว่า เพิ่งได้กินนี่แหละครับ ^ ^" ... และที่ต้องเห่อถ่ายรูปตอนกินก็เพราะเพิ่งจะได้กินนั่นเอง 555+
ก่อนหน้านี้อยากกินมานานแล้ว เพราะหน้าตาของมันดูน่ากินครับ ^ ^
... ก็ได้กินสมใจ ...
ผลลัพธ์คือ อร่อยดีถ้าทำรสชาติออกมาดีครับ
อย่างมาคารอนทั้ง 4 สีนั้น ผมให้สีน้ำตาลอร่อย สีเขียวกลางๆพอกินได้(น่าจะรสมะพร้าว) ส่วนที่ส้มกับสีแดงหวานแสบใส้ อยากจะแหวะมากๆ ^ ^"
เลยทำให้ชมขนมชนิดนี้ได้ไม่เต็มปากว่าอร่อยเหาะ ... มันขึ้นกับรส และน่าจะขึ้นกับร้านด้วย
แต่ถ้าเห็นมีขายราคาถูกๆก็ยังอยากซื้อลองกินอีก เผื่อมีรสอื่นที่ถูกใจน่ะครับ แต่ถ้าขายแพงๆในไทยอย่างนี้ล่ะก็ ขอบายดีกว่าครับ ขนมชนิดนี้ไม่อร่อยและรสชาติไม่คุ้มค่ามากมาย หากจะขายแพงๆน่ะครับ ^ ^" (กินแล้วรู้สึกว่าขายอันละ 5-10 บาทก็พอครับ แต่ในไทยขายกันแพงเว่อร์อ่ะ -*-)

Coldplay & Rihanna - Princess Of China

Princess Of China เป็นเพลงใหม่จากวงดังอย่าง Coldplay ที่รอบนี้ไปคว้าเอา Rihanna มาร่วมงานด้วย ซึ่งเค้าใช้คำว่า Coldplay & Rihanna เลยครับ ไม่มีฟีทเจอรงฟีทเจอริ่งอะไรทั้งนั้น (คงเป็นเพราะ Rihanna มีส่วนร่วมในเพลงมากน่ะครับ)
...
ก็ขอบอกตรงๆว่า ตอนแรกได้ยินชื่อว่า Coldplay & Rihanna แล้วนั้น คำว่า "การตลาด" ผุดขึ้นมาในสมองแว่บขึ้นมาเลย
แล้วก็แอบเสียใจเล็กๆว่า Coldplay ก็เดินไปเส้นทางสายธุรกิจเต็มตัวแล้วหรือ ถึงต้องไปคว้า Rihanna มาร่วมงานด้วย เพราะ Rihanna นั้นเป็นป๊อปสายหลัก การตลาดเข้มข้นอยู่แล้ว ... นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าจะรวมกับ Coldplay ได้ยังไง ... ก็เลยคาดเดาไปว่า เพลงต้องกลายเป็นป๊อปน่าเบื่อๆแน่ๆ
...
แต่ ...

... ฟังแล้ว ...
เพลงยังคงเป็น Coldplay แบบเต็มๆครับ
ส่วน Rihanna เองก็ทำหน้าที่ได้ดี ตามอารมณ์ของเพลง สมกับเป็นป๊อปสตาร์มืออาชีพระดับแถวหน้าเช่นกัน

ตอนนี้ก็เพิ่งมีเพียงคลิปเพลงครับ ตัว Music Video ยังไม่ออกมา แต่ถ้าเพลงนี้ตัดเป็นซิงเกิ้ลก็น่าจะมี MV หลุดต่อมาในระยะเวลาไม่น่าจะนานนัก (แต่คิดว่าแนวเพลงไม่น่าจะตัดเป็นซิงเกิ้ลนะ แม้จะเอาป๊อปสตาร์มาร่วมงานด้วยก็เหอะ ^ ^")

EXO - What Is Love - Music Video

Music Video ตัวแรกของ EXO ออกมาแล้วครับ ชื่อเพลงว่า What Is Love หรือ "รักคืออะไร"
ตอนแรกคิดว่าเพลงเปิดตัวของ EXO จะเป็นเพลงแนวแด๊นซ์ๆเร็วๆซะอีก ที่ไหนได้ กลับเป็นเพลงช้าๆโชว์เสียงร้องซะงั้นครับ ผิดคาด แต่ก็ทำออกมาได้ดีกว่าคาดครับ เพราะตอนแรกไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ยินเสียงร้องคุณภาพเพราะๆ แต่ปรากฎว่าทำได้ดีมากครับ
นอกจากเรื่องเพลง What is love แล้ว ตอนนี้ก็คงรู้กันแล้ว ว่า EXO-M กับ EXO-K คืออะไร?
EXO-K คือ EXO เวอร์ชั่นร้องเกาหลี ส่วน EXO-M เป็นร้องจีนครับ พูดง่ายๆคือ SME เจาะตลาดของจีนหนักเต็มกำลังนั่นเอง

ชมคลิปกันเลยครับ ^ ^

EXO-K - What Is Love


EXO-M - What Is Love


ทำ MV เหมือนกันเปี๊ยบเลยครับ เพลงทำนองเดียวกันหมดอีกต่างหาก แต่คนร้อง ... เอ๊ะ คนละคนกันนี่!! ดูหน้าแล้วจำๆกันเอาเองนะครับ ^ ^ ว่าใครอยู่ EXO-K ใครอยู่ EXO-M

ปล. What is love? ... ผมบรรยาย นิยามความรัก เป็นการส่วนตัวเอาไว้ด้วยครับ ลองไปอ่านกันได้จ้า ^ ^

ณดล วิลล่า - Ndol Streamside Thai Villas ที่นี่มีดีอย่างไรหนอ? ^ ^

หลังจากได้รีิวว ณดล วิลล่า ในแต่ละหมวดหมู่ไปเรียบร้อยแล้ว (ตามดูรีิวิวได้ ที่นี่ ครับ ^ ^)
ก็ขอบรรยายเก็บตกนอกเหนือจากหัวข้อที่ได้รีวิวไปแล้ว 6 หัวข้อ เป็นหัวข้อที่ 7 เลยนะครับ จะเกี่ยวกับการบริการด้านอื่นๆน่ะครับล

สำหรับ Welcome Drink ก็จะได้เป็นน้ำกระเจี๊ยบครับ รสชาติเข้มข้นหวานแสบคอเลยทีเดียว คนไม่ชอบหวานอาจจะไม่ชอบมากนักครับ แต่สำหรับผมแล้วโอเคดี (กินหวานได้สบายมาก ^ ^) ซึ่งน้ำกรเจี๊ยบนี้ ระหว่างคอยช่วง Check Out ก็จะได้มาดื่มดับกระหายด้วยเช่นกัน

จากนั้นการบริการ การอธิบาย ต่างๆก็ทำได้ดีครับ พนักงานไม่มีการปล่อยให้แขกรอนานครับ แขกมาปุ๊บ มีการวอบอกกัน ส่งข่าวกันกระชับฉับไว (เวลาวอก็ไม่ได้ตะโกนว่ามีนั่นมีนี่ แต่พูดกระซิบกันในวอเบาๆไม่ให้รบกวนแขกด้วย ^o^)
ก็พาไปจนถึงห้องพักนั่นล่ะครับ ^ ^
ในห้องพักนั้น ขนมต่างๆ กาแฟ และน้ำอัดลมในตู้เย็น เป็น complimentary หมดเลย!! ^ ^ (มีขนมถุง 2 ถุง, กาแฟซองอีก 6-7 ซอง, น้ำอัดลม 2 ขวด) กาต้มน้ำก็มีให้พร้อม ตามอัธยาศัยเลยครับ ^ ^

สุดท้าย ที่ประทับใจสุดก็คือ น้ำเก๊กฮวยร้อนๆก่อนนอน ^ ^
อันนี้เค้าทำน้ำเก๊กฮวยมาได้อร่อยมากครับ เข้มข้น ไม่หวาน ได้กลิ่นเก๊กฮวยหอมๆกำลังดี
ตอนที่พนักงานเดินนำน้ำเก๊กฮวยมาเสิร์ฟที่ห้องนั้น เดินผ่านกับผมซึ่งกำลังเดินออกไปถ่ายรูปเล่นอยู่พอดีเลยครับ พนักงานก็จำได้แล้วก็ถามด้วยว่ามีแขกอีกท่านอยู่ที่ห้องหรือเปล่า เพราะจะนำน้ำเก๊กฮวยไปให้น่ะครับ ^ ^
โดยน้ำเก๊กฮวยจะอยู่ในเหยือกแล้วก็มีถ้วยแก้วเล็กๆสองถ้วยไว้ให้ครับ ^ ^
ตามในรูปครับ อันนี้อร่อยดี ^ ^

นอกจากนั้นการบริการ ก็ไม่มีแบบว่าำพนักงานจับกลุ่มเมาธ์เฮฮาปาจิงโกะรบกวนแขกให้ได้เห็นเลยครับ ^ ^
แล้วก็เวลาที่พนักงานจะเดินไปไหนมาไหนก็จะระวังตัว ไม่ให้แบบว่าโฉบหน้าแขกหรือลูกค้าฉุบฉับครับ พูดง่ายๆคือพนักงานไม่ได้วางตัวง่ายๆอยากเดินไปไหน อยากคุยอะไรก็คุย กันเลยครับ บริการแบบเป็นมืออาชีพดีครับ (เท่าที่เห็นก็แทบทุกคนล่ะครับ)
ขณะจะถอยรถกลับก็มาดูรถให้กันเต็มที่ ปฏิบัติงานดีตั้งแต่ยามหน้าประตูเลยครับ ^ ^

ก็ขอจบการรีวิว ณดล วิลล่า - Ndol Streamside Thai Villas ไว้เพียงเท่านี้ครับ
ไปตามอ่านหน้า sitemap รวมรีวิวของ ณดลได้ที่ ที่นี่ ครับ
หรือจะเข้าดูข้อมูลยัง official website ของณดลก็ได้ที่ http://ndolvillas.com ครับ ^ ^

ไลน์อาหารเช้า ณ ณดลวิลล่า รีสอร์ท - Ndol Streamside Thai Villas

ที่ณดลวิลล่า มวกเหล็ก สระบุรีนั้น แม้ห้องพักจะไม่เยอะมาก แต่อาหารเช้าเค้าก็เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ด้วยนะครับ ^ ^
แต่ก็เห็นว่าถ้าแขกไม่มากหรือแทบไม่มีเลย ก็จะเป็นอาหารให้เลือกครับ (ก็ถ้าแขกมีห้องเดียว 2 คน จะจัดบุฟเฟ่ต์ก็ยังไงอยู่ -*-)
โชคดีที่วันที่ผมไปพักมีแขกเยอะ (แต่ที่นี่ก็เห็นว่าจองเต็มหรือเกือบเต็มทุกวันหยุดนะครับ) ก็เลยได้สัมผัสกับไลน์บุฟเฟ่ต์ของที่นี่ด้วย ว่ามีอะไรกันบ้าง ^ ^
เริ่มประเดิมด้วยภาพคุ้นหูคุ้นตาอย่างเช่น American Breakfast ที่เป็นสากลสำหรับโรงแรมแทบจะทุกแห่งครับ

มีน้ำสัปปะรดไว้ให้ ซีเรียลถุงโกโก้ครันช์ กาแฟ โกโก้ต่างๆ นมสดก็มีไว้ให้

โซนอาหารเช้าสำหรับคนไทยที่ไม่อยากกินสไตล์อเมริกัน ก็มีให้เลือกอยู่ 4 เมนูคือ 1.ข้าวต้มไก่ 2.ข้าวต้มหมู 3.ข้าวผัดไข่ 4.ผัดซีอิ้ว
ขอบอกว่าหมูกับไก่ในข้าวต้มเป็นหมูก้อนไก่ก้อนครับ ชิ้นโตๆ ดูดีมากมาย อร่อยด้วยครับ ^ ^
ส่วนข้าวผัดกับผัดซีอิ้วไม่ได้ชิมน่ะครับ

ขนมปังมีให้ 3 แบบครับ คือ 1.ขนมปังแผ่น 2.ขนมปังแผ่นโฮลวีท และ 3. ขนมปังก้อน
แล้วก็มีเนยแล้วก็แยมให้อีก 2 แบบคือแยมส้มกับสตรอว์เบอร์รี่ ^ ^

ผลไม้มี 3 ชนิดคือ มะละกอ(อร่อยหวานมากๆ) แตงโม และกล้วยหอม (ให้เป็นลูกๆครับ)

แล้วก็มีสลัด ที่มีน้ำสลัดอยู่ 3 แบบ 3 สไตล์ (มีอะไรบ้างไม่รู้จักครับ ผมไม่สันทัดด้านสลัด ^ ^")

รวมๆแล้วไลน์อาหารเช้าจัดว่าโอเคเลยครับ อย่าลืมว่านี่คือที่พักที่มีห้องเพียงสิบกว่าก้องเท่านั้น
บางทีไปโรงแรมใหญ่ๆ ยังได้แค่ อเมริกันเบรคฟาสต์, ข้าวต้ม, ข้าวผัด แค่ 3 อย่างก็เป็นได้ครับ

นอกจากเรื่องอาหารแล้ว รีสอร์ทสวยๆอย่าง ณดล ก็ต้องจัดสถานที่ทานอาหารให้สวยสมกับชื่อของรีสอร์ทแน่นอนครับ
เริ่มด้วยโต๊ะทานอาหารเช้าที่จัดเป็นโซนโดยเฉพาะครับ
หรือจะมานั่งทานใกล้ๆสระว่ายน้ำหรือใกล้ๆลำธารน้ำชมวิวก็ได้นะครับ มีให้เลือกนั่งมากมีมิต้องห่วงว่าแขกจะล้นแย่งที่นั่งดีๆไปหมด ^ ^

สรุปแล้วไลน์อาหารไม่ได้เว่อร์หรือหวือหวา แต่จัดว่าได้เกินคาด สำหรับรีสอร์ทที่มีห้องพักไม่มากนักอย่างเช่น ณดลแห่งนี้น่ะครับ
เห็นพนักงานเติมนั่นนี่ที่หมดตลอด ไม่ต้องคอยให้หมดแล้วถามหานานนักครับ ทานเสร็จแล้วก็เก็บจานไวมากๆ พนักงานทุกคนดูมือเป็นระวิงมากครับช่วงนั้น แต่บริการก็ดีเสมอต้นเสมอปลายนะ สีหน้าไม่แสดงความเหนื่อยออกมาให้เห็นครับ ^ ^
อ่านเรื่องอาหารเช้าเสร็จแล้วก็อย่าลืมไปตามดูรีวิวโซนอื่นๆของณดลวิลล่ากันด้วยนะครับ ดูได้ ที่นี่ ครับ ^ ^
หากอยากดูข้อมูลจากทางรีสอร์ทเอง ก็ดูได้ที่เวบไซต์ http://ndolvillas.com ครับ

ลำธารน้ำไหลริน ณ ณดลวิลล่า มวกเหล็ก/เขาใหญ่ - Stream @ Ndol Villas

ณดลวิลล่า ที่มวกเหล็ก นั้น นอกจากเรื่องความสวยงามของอาคารห้องพักสไตล์ไทยๆแล้ว
จุดเด่นอีกเรื่องหนึ่งก็คือทำเลของที่พักแห่งนี้นั้น อยู่ติดกับลำธารน้ำไหลรินที่มาจากทางน้ำตกเจ็ดสาวน้อยน่ะครับ
ทำให้การพักผ่อนที่รีสอร์ทวิลล่าแห่งนี้นั้น บางทีการเอกเขนก ชมธรรมชาติที่สัมผัสได้ง่ายๆของทางรีสอร์ท ก็เป็นการท่องเที่ยวแนวพักผ่อนที่คุ้มเกินพอเลยเชียวครับ ^ ^
นอกจากนั้นการตกแต่งและก่อสร้างก็ทำให้สอดคล้องกับธรรมชาติตรงส่วนนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดขายสำคัญของที่ณดลแห่งนี้เลยครับ ^ ^
ชมภาพด้วยกันเลยจ้า ^ ^
(รูปแรกนี้ผมเองครับ แต่ใบหน้านั้นหล่อมากจนมิอาจเปิดเผยได้ ^ ^")

ทางณดลทำทางเดินแนบกับลำธารยาวตลอดทั้งช่วงของตัวรีสอร์ทเลยล่ะครับ เดินตามทางลัดเลาะไปตามริมน้ำได้เลยครับ ^ ^ (ส่วนลำธารที่นี่นั้น สวยไม่สวย ดูรูปแล้วตัดสินกันเองเลยจ้า)

เดินลัดเลาะไปมา เห็นเจ้าชิงช้าอยู่สองตัว อยู่บนผิวน้ำ ดูน่าสนใจมากๆ เลยต้องไปขอแกว่งไกวดูซะหน่อย (แม้จะอายุเยอะแล้ว แต่เห็นแล้วก็อยากเล่นแบบเด็กๆอ่ะนะ ^ ^")

น้ำตกของที่ลำธารจะเป็นแก่งเกาะที่ไม่สูงมากครับ ดูเพลินๆได้บรรยากาศดี ^ ^

นอกจากทางเดินแล้ว ก็มีโต๊ะเก้าอี้ ให้นั่งเล่นทั่วไปในบริเวณรอบๆริมลำธารครับ อยากมานั่งชิวๆ ฟังเสียงน้ำไหล ก็เลือกที่นั่งได้ตามใจชอบครับ มีหลายจุึดอยู่เหมือนกัน

หรือจะเป็นเดย์เบด ก็มีให้เลือกนอนกลิ้งตามที่ต้องการ

หรือจะมานั่งยังจุดพักผ่อนที่เป็นทางการหน่อย อย่างศาลาสินธุ ก็ได้ครับ ที่นี่ก็สวยดี มีม้านั่งโซฟา เก้าอี้ สวยๆให้นั่งเคล้าลำธารโดยเฉพาะ ^ ^

หรือจะมาพายเรือเล่นก็ได้ครับ
ที่เห็นในภาพเป็นเด็กกลุ่มหนึ่งที่มากับผู้ปกครองครับ เด็กๆลุยน้ำพายเรือกันสนุกเชียว ... เราเห็นแล้วก็อยากจะไปแย่งเด็กเล่นจริงๆเลย -*- แต่ด้วยอายุและวัย ทำให้ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เหอๆๆ ^ ^" (อีกอย่างคือผู้ปกครองเค้านั่งดูอยู่ครับ เป็นแขกครอบครัวหนึ่งที่ดูมีความสุขกันดีครับ)

สำหรับความใสของน้ำ วันแรกผมว่าไม่ค่อยใสมาก แต่พอมาเช้าวันกลับ รู้สึกว่าน้ำใสขึ้นมากเลยครับ มองเห็นพื้นโขดหินด้านล่างเลยครับ เห็นปลาเยอะแยะเลยด้วย ก็ ... น้ำจะใสไม่ใสก็คงขึ้นกับต้นน้ำจากน้ำตกเจ็ดสาวน้อยล่ะนะครับ ถ้าช่วงหน้าฝนน้ำอาจจะไม่ใส่มากก็ได้
ในรูปก็ให้ดูกันจะๆเลย ว่าน้ำใสดีครับ ^ ^

สรุปแล้ว นอกจากตัวรีสอร์ทสวยๆแล้ว ธรรมชาติของที่นี่ก็ผ่านครับ มีการปรุงแต่ง เสริมแต่งนิดหน่อยให้ดูมีสีสันบ้าง แต่ก็ยังดูสวยแบบธรรมชาติๆอยู่ครับ เข้าท่าดี ^ ^ บรรยากาศที่นี่เหมาะแก่การมาพักผ่อนทั้งจะมาคนเดียว เป็นคู่ หรือทั้งครอบครัวก็ได้ครับ ^ ^ (ประมาณว่าเรท ท.ทุกวัย ^ ^")
หากสนใจณดลและอยากดูรายละเอียดหรือจองที่พักก็ดูรายละเอียดได้ที่เวบ http://ndolvillas.com ได้โดยตรงครับ
แล้วก็ดูรีวิวโซนอื่นๆของณดลได้ ที่นี่ ครับ

พาชมบริเวณต่างๆของณดลวิลล่า มวกเหล็ก/เขาใหญ่ครับ - Ndol Thai Villas ^ ^

หลังจากรีวิวทุกซอกทุกมุมของณดล วิลล่า ที่มวกเหล็ก สระบุรีกันแล้ว ก็ขอพาชมวิวทิวทัศน์ต่างๆของที่ณดลวิลล่ากันด้วยเลยครับ
ที่นี่มีการตกแต่ง จัดโน่นนี่ ประดับประดามุมสวยๆหลายมุมครับ โดยการประดับประดานั้นจะเป็นแบบไทยๆครับ ตามชื่อ Ndol Streamside Thai Villas นั่นล่ะครับ ไทยวิลล่าก็ต้องตกแต่งแบบไทยๆกันหน่อย (แต่ภายในห้อง Deluxe จะมีการตกแต่งภายในเป็นแบบอื่นๆด้วยนะครับ เป็นสีสันของห้องพักอีกอย่างหนึ่งเลยครับ)
เริ่มต้นด้วยวิวของตัววิลล่าโซนรีเซปชั่นใกล้กับสระว่ายน้ำ
...
และที่เห็นต่อไปนี้ เป็นการตกแต่งโน่นนี่นั่นในโซนล็อบบี้/รีเซปชั่น ทั้งหมดเลยจ้า ^ ^
รูปเยอะอ่ะครับ ไล่ดูตามรูปไปเลยครับผม (จริงๆคือขี้เกียจบรรยายครับ เหอๆ มันเยอะแยะหลายอย่างจริงๆอ่ะครับ)
ตรงนี้เป็นเคาเตอร์รีเซปชั่นครับ ^ ^
จากนั้นก็เป็นบรรยากาศกลางคืนที่ริมสระว่ายน้ำพร้อมตัวอาคารรีเซปชั่นครับ
อันนี้เป็นส่วนของ Amber Bar ครับ ตรงนี้จะอยู่ติดกับลำธารน้ำไหลนะครับ มานั่งชมวิวสวยๆ มาดริงค์ มาถ่ายรูปเล่น ได้หมดครับโซนนี้ ^ ^ วิวกลางวันก็จะสวยอีกแบบครับ แต่ที่เอามาให้ชมนี้เป็นช่วงกลางคืนครับ
อันนี้เป็นพื้นที่ชั้นสอง หน้าห้องรัตตะพาวิลเลี่ยนครับ (เป็นห้องนั่งเล่น ทำกิจกรรม ดูทีวี อ่านหนังสือ พบปะพูดคุยกันได้ในห้องนี้ครับ ติดแอร์อย่างดีครับ ^ ^)

จากนั้นก็ไปชมสวน ชมของตกแต่ง Outdoor ต่างๆดูบ้างครับ
อย่างเช่นประตูบานนี้ ไม่รู้ไปเอามาจากไหนครับ(หรือทำขึ้นมาเองโดยเฉพาะก็ไม่รู้นะ ^ ^") เท่มากๆครับ

อันนี้เป็นทางเดินจากลานจอดรถไปยังรีเซปชั่นจ้า ก็ดูสวยดี

... แค่รูปสวยๆเอย มุมต่างๆเอยก็ทำเอาผมเดินถ่ายรูปเล่นจนได้เหงื่อนิดๆเลย 555+
(คนอื่นเค้ามารีสอร์ทพักผ่อน ส่วนกระผมเดินถ่ายรูปที่นี่เล่นเป็นหลักครับ มันส์มากๆ แม้รีสอร์ทจะไม่ได้ใหญ่โตมากมาย แต่มีมุมนั้นมุมนี้ให้ถ่ายเพียบเลยครับ)
ยังไงก็ดูรีวิวห้องพักและมุมอื่นๆเจาะลึกได้ ที่นี่ ครับ ^ ^
หรือจะเข้าไปชมข้อมูลโดยตรงจากทางเวบไซต์ของณดลรีสอร์ทได้ที่เวบ http://ndolvillas.com ขอรับกระผม ^ ^