วิธีการรักษาและแก้ไขปัญหา หัวล้าน แบบสากลๆ ^ ^

นี้ ขอนำเข้าสู่ปัญหาของหนุ่มๆกันบ้าง กับปัญหา "หัวล้าน" ที่แก้ได้ยากเย็นแสนเข็ญ

สำหรับหนุ่มๆที่มีปัญหาผมหลุดร่วงและศรีษะล้าน ย่อมจะมีความกังวลว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรดี และหาโน่นหานี่่มาใช้สารพัดสาระเพ
และ ... มันก็ดูจะไม่ได้ผลเอาเสียเลย (ใช่ม้า~~)
ครั้นออกไปหาข้อมูลปัญหาและแนวทางแก้ไขแล้ว ก็ยิ่งพบอีกว่า "ข้อมูลแต่ละที่ แทบจะไม่ตรงกันเลย" -*-
สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้ามากขึ้นไปอีก (ระวังหัวจะล้านมากขึ้นไปอีกนะเธอว์ -*-)

ดังนั้น ครั้งนี้จึงขอเอาแนวทางการรักษาแบบ "ได้รับการยอมรับในระดับสากล" มาบอกกันแล้วกันครับ เพื่อให้ไม่ไขว้เขวมากนัก
(จริงๆอาจจะมีแนวทางอื่นที่ดีกว่านี้ แต่ยังไม่ได้รับการยอมรับก็ได้นะครับ)

1. ยาใช้ภายนอก Minoxidil - ไมน็อกซิดิล
ยาใช้ภายนอกที่ได้รับการยอมรับว่าได้ผล มีแค่ตัวเดียวในโลกตอนนี้ ก็คือ Minoxidil ครับ (ตัวเดียวจริงๆครับ)
ดังนั้น ถ้าอยากจะชัวร์หน่อย ก็ควรใช้ยาตัวนี้ครับ ในท้องตลาดมีหลากหลายยี่ห้อ ไปถามหาซื้อตามร้านขายยาได้
มีทั้งเป็นน้ำแบบสเปร์พ่น หรือแบบทา ... เดินไปร้านขายยาก็ถามหาไมน็อกซิดิลได้เลยครับ
ยี่ห้อสากลโลกก็มี Rogaine นี่แหละครับ แต่ยี่ห้ออื่นๆก็ใช้ได้นะครับ
...
ข้อดีคือ เป็นยาใช้ภายนอก ผลข้างเคียงไม่ค่อยมีนัก
ข้อเสียคือ เหมาะกับหัวล้านกลางกระหม่อมเท่านั้น หัวล้านแบบหัวเถิกไม่ค่อยได้ผล (แต่ก็มีบางคนใช้ได้ผลเหมือนกัน)

2. ยากิน Finasteride - ฟินาสเตอร์ไรด์
อันนี้เป็นยากินครับ เค้าว่ากันว่า ตัวนี้แหละ ได้ผลชงัดที่สุด ดีสุด
ช่วยได้ทั้งหัวล้านทั้งแบบด้านหน้าและกลางกระหม่อม ... เพราะยาตั้งนี้เป็นตัวยับยั้งฮอร์โมน DHT ที่เป็นสาเหตุของหัวล้านครับ
ข้อดี คือ ได้ผลดี ได้กับหัวล้านทุกประเภท (แต่หัวล้านจากเชื้อรา หรือรับยาเคมีบำบัดอะไรแบบนั้นไม่เกี่ยวนะ -*-)
ข้อเสีย คือ เมื่อเป็นยากินก็อาจจะมีผลข้างเคียงในบางคนได้ ส่วนใหญ่คือสมรรถะภาพทางเพศลดลง และถ้าใช้ในหญิงตั้งครรภ์จะเป็นอันตรายต่อทารก
จากผลของข้อเสียนั้น ถ้าจะใช้ยานี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์จะดีกว่านะครับ ^ ^

3. การปลูกถ่ายเส้นผม (ทำศัลยกรรมนั่นเอง)
โดยจะเอาเส้นผมจากทางด้านหลังไปปลูกถ่ายด้านหน้านั่นเอง (สังเกตว่าคนหัวล้านๆนั้น ผมด้านหลังจะยังคงอยู่ ไม่ว่าจะล้านแบบใดก็ตาม)
ข้อดีคือ เห็นผลทันตาไม่ต้องรอลุ้น (ปลูกผมใหม่แล้ว ประมาณไม่กี่เดือนมันจะงอกออกมาให้ผู้ปลูกถ่ายดีใจกันเลยทีเดียว)
ข้อเสียคือ แพง + เจ็บ (ล้านไม่มากก็ปาเข้าไป 8-9 หมืนแล้วครับ ถ้าล้านเยอะๆนี่หลักแสน -*-)

... ตอนนี้ที่เป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับทางวิทยาศาสตร์จริงๆจังๆก็มีแค่นี้ครับ
ดังนั้น ถ้าไปดูโฆษณาแล้วเจอว่ายาตัวนั้นตัวนี้ดี ... ก็ดูก่อนว่ามีตัวยาอย่างที่แนะนำข้างต้นมาหรือเปล่า?
ถ้าไม่มี ก็ถือว่ายังไม่สากลครับ (ถ้านอกเหนือจากนี้ก็อาจจะได้ผลนะ เพียงแต่ยังไม่เป็นที่ยอมรับครับ ^ ^)

ตามอ่าน "สาเหตุของการเกิดหัวล้าน ผมร่วง" ได้ ที่นี่ ครับ